Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 375 อารมณ์โกรธของราชามังกร!

ตอนที่ 375 อารมณ์โกรธของราชามังกร!

แฟนตาซีInvincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะอ่านแล้ว
ตอนที่ 375 อารมณ์โกรธของราชามังกร!
ตอนที่ 375 อารมณ์โกรธของราชามังกร!

.

วิ้งงงงงง!

หวังเสียนนำผลึกแก้วมังกรแห่งธาตุไม้ออกมา หลังจากนั้นเขาก็นำมันไปวางไว้ในปากของเสี่ยวหยูและใช้พลังชักนำมันเข้าสู่ร่างกายของเธอ

ในทันทีที่พลังงานชีวิตแห่งธาตุไม้ได้ถูกส่งออกมาจากผลึกแก้วมังกรแห่งธาตุไม้ เข้าสู่ร่างกายของเสี่ยวหยู ใบหน้าที่มีสีซีดขาวก็เปลี่ยนกลายเป็นสีแดงเลือดของคนที่มีสุขภาพดีขึ้นมาอีกครั้ง

“เสี่ยวหยูตื่นเถอะ! นี่พี่เอง!” หวังเสียนปลุกเสี่ยวหยูให้ตื่นขึ้นด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เขายังคงใช้มือลูบหัวของเธอเบาๆ

“อืออ~~!” เสี่ยวหยูทำเสียงคล้ายกับคนที่ยังงัวเงียอยู่ ในขณะที่เธอลืมตาและจ้องมองไปยังใบหน้าของหวังเสียน

“พี่ชาย! พี่กลับมาแล้ว ฉันคิดว่าฉันคงจะไม่มีโอกาสได้เจอพี่อีกต่อไปแล้ว…ฮึกๆ..ฮือๆ..” เสี่ยวหยูยิ้มออกมาทั้งน้ำตาในขณะที่เธอโผเข้าไปกอดหวังเสียนเหมือนกับเด็กเล็กๆที่ถูกรังแก

“พี่ชายขอโทษด้วยนะเสี่ยวหยู! ที่พี่ไม่ได้ดูแลเธอให้ดี แต่น้องเชื่อพี่เถอะว่าน้องและผู้อาวุโสฟางจะไม่เป็นอะไร!” หวังเสียนปลอบใจเสี่ยวหยูในขณะที่เขาลูบหัวของเธอจากทางด้านหลังเบาๆ

“พี่ชายฉันกับท่านอาจารย์จะไม่ตายจริงๆอย่างงั้นเหรอ?” เสี่ยวหยูถามหวังเสียนทั้งๆที่ใบหน้ายังเปื้อนไปด้วยน้ำตา

“น้องไม่เชื่อพี่อย่างนั้นเหรอ! ตั้งแต่เล็กจนโตพี่เคยโกหกเธอหรือไม่?” หวังเสียนยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะที่เขาตอบเสี่ยวหยูออกมาด้วยความมั่นใจ

“ค่ะ! ฉันเชื่อพี่ค่ะ!” เสี่ยวหยูยิ้มก่อนที่เธอจะหันไปมองผู้อาวุโสฟางที่นอนอยู่ข้างๆ

“พี่ชายได้โปรดช่วยรักษาท่านอาจารย์ของฉันให้ฟื้นด้วยได้หรือไม่? เธอได้รับบาดเจ็บเพราะว่าเธอพยายามจะช่วยฉัน!” เสี่ยวหยูหันไปขอร้องหวังเสียน ด้วยท่าทางที่น่าสงสาร

“ไม่ต้องห่วง! อีกสักครู่พี่ก็จะช่วยเธอเช่นเดียวกัน!” หวังเสียนยิ้มให้กับน้องสาวของเขา ก่อนที่จะหันไปมองยังซุนหลิงซิ่ว

ซุนหลิงซิ่วพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่เธอจะนำไข่มุกเรืองแสง เข้าไปในปากพร้อมกับใช้พลังลมปราณขับเคลื่อนมันเข้าไปในร่างกายของผู้อาวุโสฟาง

เนื่องจากทั้งผลึกแก้วมังกรแห่งธาตุไม้และไข่มุกเรืองแสงมีพลังในการรักษาที่น่ากลัว พวกมันจึงสามารถช่วยให้ทั้งเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางฟื้นคืนสติได้

“อืออ?” ผู้อาวุโสฟางค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น เธอหันมองไปที่หวังเสียนและคนอื่นด้วยความสับสน ขณะเดียวกันใบหน้าที่สวยงามของเธอที่เคยซีดขาวก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมาอย่างช้าๆ

“หมอเทวะหวัง, ท่านเจ้าสำนัก, เสี่ยวหยูและพวกคุณทุกคน! ฉันยังไม่ตายอย่างนั้นหรอ?” ผู้อาวุโสฟางพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะอ่อนแรง

“พวกเจ้าไปช่วยจัดเตรียมอาหารให้กับเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางหน่อย!” เจ้าสำนักถังแห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจี หันไปพูดกับสาวกหญิง 4-5 คนที่อยู่ด้านข้าง

“ใช่! คุณและเสี่ยวหยูจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ผมรับรองได้!” หวังเสียนยิ้มให้ผู้อาวุโสฟางขณะที่เขาช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นนั่ง

“ค่ะ! ฉันชื่อในทักษะทางการแพทย์ของหมอเทวะหวัง!” ผู้อาวุโสฟางพูดออกมาด้วยความเชื่อมั่นในความสามารถของหวังเสียน

“อืม!” หวังเสียนพยักหน้าอย่างสบายใจ เมื่อเขาเห็นว่าทั้งเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟาง เชื่อมั่นในคำพูดของเขา

หลังจากที่หวังเสียนและเสี่ยวหยูพูดคุยกันได้ไม่นาน สาวกหญิงของสำนักกระบี่พฤกษาขจีก็เดินเข้ามาพร้อมกับโจ๊ก 2 ชาม

หวังเสียนยิ้มให้กับน้องสาวของเขาอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นก้าวเดินออกไปนอกห้องและปล่อยให้น้องสาวของเขาและผู้อาวุโสฟังได้ทานอาหารกันและทำธุระส่วนตัวของพวกเธอได้อย่างเต็มที่

หลังจากที่เดินออกมานอกห้องหวังเสียน ก็มีใบหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมาในทันที ในขณะเดียวกันเจ้าสำนักถังก็เดินตามเขามาอย่างใกล้ชิด

“เจ้าสำนักถังท่านช่วยอธิบายรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ข้าฟังหน่อยจะได้หรือไม่?” หวังเสียนหันไปถามเจ้าสำนักถังด้วยสีหน้าที่จริงจังขณะที่เขานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกชั้นล่าง

“เมื่อสี่วันที่แล้วเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางได้กลับไปที่สำนักเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับธุระต่างๆในสำนักของพวกเรา หลังจากนั้นช่วงเที่ยงของวันเดียวกันพวกเราได้รับข่าวว่ามีการค้นพบซากสุสานโบราณในสถานที่แห่งหนึ่ง พวกเราจึงจัดทีมเพื่อเข้าไปสำรวจในสุสานโบราณ เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางก็อยู่ในทีมนั้นด้วย แต่หลังจากนั้นเธอก็ถูกโจมตีโดยปรมาจารย์หนุ่มแห่งสำนัก 9 ดอกบัวซึ่งเป็นผู้ที่ใช้ยาพิษอันร้ายแรงชนิดนี้!” เจ้าสำนักถังอธิบาย

“ตามข้อมูลที่ข้าได้รับมานั้น บุคคลผู้นี้เป็นนายน้อยแห่งสำนัก 9 ดอกบัว เขาได้พูดจาลามกหยาบคายต่อเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟาง จึงทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น และในท้ายที่สุดพวกเธอก็ถูกพิษ…” เจ้าสำนักถังอธิบายเพิ่มเติม

“สำนัก 9 ดอกบัว?” หวังเสียนพูดออกมาเสียงต่ำๆ ในขณะที่แววตาของเขาแสดงเจตนาฆ่าฟันออกมาอย่างชัดเจน

“สำนักของพวกเขานั้นเป็นสำนักระดับชั้นที่ 1 พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ 5 คน ชื่อเสียงของสำนักพวกเขานั้นค่อนข้างโด่งดังมากพอสมควร… และส่วนหนึ่งต้องโทษข้าด้วย ที่ข้าไม่สามารถแก้แค้นให้กับเสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางได้ ข้าทำได้เพียงแต่รอให้หมอเทวะหวังกลับมาเพียงเท่านั้น!” เจ้าสำนักถังก้มหน้าลงพร้อมกับพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่อัปยศอดสู

นี่ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งของสำนักเล็กๆในโลกยุทธภพ ในบางครั้งกองกำลังที่ด้อยกว่าก็จะถูกข่มเหงรังแกจากกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่าเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ พวกเขาทําได้เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับเพียงเท่านั้น หากพวกเขาคิดจะต่อต้านกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่า สำนักของพวกเขาอาจจะถูกกวาดล้างทั้งสำนักก็เป็นได้

และสิ่งนี้นับว่าเป็นเหตุผลที่ทำไมเจ้าสำนักถังถึงตั้งความหวังให้สำนักกระบี่พฤกษาขจีของเขา เปลี่ยนระดับชั้นไปเป็นสำนักระดับชั้นที่ 1 หากสำนักของเขานั้นมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเป็นจำนวนมาก สถานการณ์ในสำนักกระบี่พฤกษาขจีก็ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

“สำนัก 9 ดอกบัวนั้นอยู่ที่ไหนอย่างนั้นรึ?” หวังเสียนถามเจ้าสำนักถังด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

“สำนักของพวกเขานั้นตั้งอยู่ในจังหวัดลิ่วหยุน แต่ในตอนนี้สาวกส่วนใหญ่ของสำนัก 9 ดอกบัวนั้นได้รวมตัวกันอยู่ที่สุสานโบราณในเมืองเทียนเฉิง สุสานโบราณแห่งนั้นเป็นที่ฝังศพของผู้เชี่ยวชาญระดับขอบเขตเม็ดยาเซียน!” เจ้าสำนักถังอธิบาย

“และในขณะนี้ก็มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากกองกำลังอื่นๆรวมตัวกันอยู่ที่นั่นอีกด้วย!” เจ้าสำนักถังพูดเพิ่มเติม

“อืม!” หวังเสียนพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนที่เขาจะหันมองไปยังโม่หยวนที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“นายท่านขอรับ! นี่คือข้อมูลที่กระผมได้รวบรวมเอาไว้ ในตลอด 2 วันที่ผ่านมา!” โม่หยวนเดินไปข้างหน้าพร้อมกับยื่นแฟ้มเอกสารให้กับหวังเสียนด้วยความเคารพ

“ในแฟ้มเอกสารนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับสำนัก 9 ดอกบัวรวมถึงชายหนุ่มคนที่ประมือกับคุณหนูเสี่ยวหยูด้วยขอรับ พวกกระผมยังไม่ได้ดำเนินการใดๆเพียงแค่รอการตัดสินใจของนายท่าน!” โม่หยวนพูดต่อ

แต่เดิมกลุ่มของนักรบมังกรทั้งหมดนั้นโกรธแค้นกันเป็นอย่างมากที่น้องสาวองค์ราชามังกรของพวกเขานั้นถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่พวกเขาก็รู้นิสัยของหวังเสียนดีว่า เขาคงต้องการลงมือจัดการคนกลุ่มนั้นด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

พวกเขาทั้งหมดจึงทำได้แต่รอการกลับมาของหวังเสียนเพียงเท่านั้น

หวังเสียนดูข้อมูลของสำนัก 9 ดอกบัวก่อนที่จะถามออกมาว่า “ในตอนนี้กลุ่มนักรบมังกรที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณมีกี่คน?”

“มีทั้งหมด 4 คนขอรับ! ไม่รวมกระผมและท่านอาจารย์โม่ชิงหลง ส่วนนักรบมังกรที่เหลือนั้นกระผมคาดว่าอีกไม่เกิน 1 เดือนทั้งหมดก็น่าจะสามารถบรรลุระดับขั้นก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างแน่นอนขอรับ!”

“นายท่านจะให้กระผมเรียกรวมพลเหล่านักรบมังกรทั้งหมดมาเลยหรือไม่ขอรับ!” โม่หยวนถามออกมาด้วยความเคารพ

“ไม่จำเป็นต้องให้นักรบมังกรที่เหลือไปด้วย! ข้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง!” หวังเสียนพูดปฏิเสธออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก เขาต้องการที่จะจัดการกลุ่มคนที่ทำร้ายน้องสาวของเขาด้วยมือของตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาเขานั้นไม่เคยคิดอยากจะสังหารใครมากเท่ากับคนกลุ่มนี้มาก่อน

หัวใจของโม่หยวนเต้นผิดจังหวะ ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของหวังเสียน

โดยส่วนมากแล้วองค์ราชาของพวกเขาจะไม่ค่อยลงมือทำเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง คนกลุ่มนี้นั้นได้สร้างความพิโรธให้กับองค์ราชามังกร โม่หยวนรู้สึกว่าคนกลุ่มนี้นั้นช่างเป็นกลุ่มคนที่โชคร้ายมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว

ตอนค่ำหวังเสียนเดินกลับไปที่ห้องของเสี่ยวหยู เพื่อตรวจดูอาการของเด็กสาวทั้งคู่

ถึงแม้ว่าพวกเธอนั้นจะฟื้นคืนสติขึ้นมาจากอาการสลบไสล แต่อาการของพวกเธอนั้นก็ไม่ดีขึ้นมากนัก พวกเธอทำได้เพียงแค่ลุกขึ้นนั่งและเคลื่อนไหวไปมาได้เล็กน้อยเพียงเท่านั้น

หัวใจของหวังเสียนเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นอาการน้องสาวของเขา

เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันใหม่หวังเสียนก็เดินเข้ามาในห้องของเสี่ยวหยูอีกครั้ง เขายิ้มให้กับเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับลูบหัวของเธอเบาๆ

“เสี่ยวหยูน้องอยากไปกับพี่ด้วยหรือไม่? วันนี้พี่จะไปแก้แค้นให้กับเธอ!” หวังเสียนถามออกมาด้วยรอยยิ้ม

“พี่ชาย! ในตอนที่ฉันได้ประลองฝีมือกับเขา เขาบอกว่าจะใช้เพียงมือข้างเดียวต่อสู้กับฉัน เพราะเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ แต่หลังจากที่ต่อสู้กันได้ไม่นานเขาก็ใช้มือทั้งสองข้างและยังใช้ยาพิษทำร้ายฉันอีกด้วย!” เสี่ยวหยูพูดออกมาด้วยความอาฆาตแค้น

“เจ้าเด็กโง่!” หวังเสียนพูดออกมาเบาๆขณะที่เขายังลูบหัวน้องสาวของเขาอยู่

“พี่ชายจะแก้แค้นให้เธอเอง ฉะนั้นเธอก็ต้องไปกับพี่ด้วย!” หวังเสียนพูดในขณะที่ก้มลงอุ้มเสี่ยวหยูขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับผู้อาวุโสฟางว่า “คุณจะตามผมไปด้วยหรือไม่?”

“คุณพาเสี่ยวหยูไปเถอะ! ฉันจะรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่!” ผู้อาวุโสฟางปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม

“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว! คุณรอฟังข่าวดีอยู่ที่นี่ได้เลย!” หวังเสียนพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่เขาจะอุ้มเสี่ยวหยูเดินลงไปข้างล่าง

ที่ด้านล่างโม่ชิงหลงได้นำรถเข็นมา รออยู่ที่เชิงบันไดแล้ว

“น้องจะต้องนั่งรถเข็นคันนี้ไปก่อนสัก 2-3 วัน หลังจากนั้นพี่จะกำจัดพิษในร่างกายของเธอและผู้อาวุโสฟางให้เอง!” หวังเสียนยิ้มขณะพูดปลอบใจเสี่ยวหยู

“ค่ะพี่ชาย! ในตอนนี้ฉันก็ดีขึ้นมากแล้วไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่ตรงไหนเหมือนตอนแรกๆเลย!” เสี่ยวหยูตอบหวังเสียนด้วยรอยยิ้ม เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสภาพจิตใจของเธอในตอนนี้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก

“ดีมากน้องสาวคนเก่งของพี่!” หวังเสียนยิ้มขณะที่เขาผลักรถเข็นเดินไปข้างหน้าพร้อมๆกับ กวนชูชิงและหลานชิงเยว่

ในครั้งนี้ซุนหลิงซิ่วไม่ได้ติดตามไปด้วย เธอรออยู่ที่วิลล่าเพื่อช่วยดูแลผู้อาวุโสฟาง ในขณะที่โม่ชิงหลงและโม่หยวนก็ตามหวังเสียนไปด้วย

และในเวลาเดียวกันเห่าฟ้า สุนัขอสูรจิตวิญญาณก็วิ่งตามหลานชิงเยว่ไปติดๆ

หลังจากที่หวังเสียนอุ้มเสี่ยวอยู่เข้าไปในรถ RV แล้วและทุกคนได้ขึ้นรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว โม่หยวนก็ขับรถไปตามเส้นทางของเมืองเทียนเฉิงในทันที

……….

จบบท

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท