บนเกาะกลางทะเลแห่งหนึ่ง เหล่านกทะเลหลากหลายชนิดกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าอย่างอิสระ ต้นไม้ขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านเขียวชะอุ่มไปทั่วทั้งผืนป่า ดอกไม้สีสันสดใสนานาชนิดเติบโตบานสะพรั่งกระจายไปทั่วทั้งเกาะดูแล้วสวยงามตาเป็นอย่างยิ่ง
ด้านหลังของชายหาดที่มีพื้นทรายอันขาวละเอียด มีอาคารย้อนยุคตั้งอยู่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ
ทั้งเกาะเหมือนกับแดนแห่งสวรรค์!
ในเวลานี้บนชายหาดกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวกลุ่มใหญ่นอนพักผ่อนกันอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่หน้าบ้านพักไม้ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายหาด
“หือ? มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นในเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพ?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งมองไปที่โทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“มีอะไรที่น่าตื่นเต้นอย่างนั้นรึเจียงหู่? ปกติเจ้าไม่ได้สนใจข่าวในโลกยุทธภพมากนักนี่นา?”
ชายหนุ่มในชุดว่ายน้ำสีดำที่กำลังนอนกอดหญิงสาวที่สวยงามบนเก้าอี้ชายหาด ถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
“อันดับเทียนเจียวของพี่ชายไห่หลงตกลงมาอยู่อันดับที่สองแล้ว! คนที่ขึ้นไปอันดับหนึ่งคือชายหนุ่มอายุ 20 ปีจากเมืองเจียงเฉิง จากที่ข้าอ่านข่าวจากเว็บไซต์ดูคร่าวๆ ชายหนุ่มคนนี้นั้นใช้ดาบเพียงเล่มเดียวกวาดล้างสังหารเหล่าผู้อาวุโสและผู้นำแห่งสำนัก 9 ดอกบัวจนไม่มีใครรอดชีวิตรวมถึงปรมาจารย์หนุ่มแห่งสำนัก 9 ดอกบัวด้วย!”
ชายหนุ่มคนนั้นมองไปที่กระทู้ข่าวจากเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพด้วยความตกตะลึง
“อะไรนะอันดับเทียนเจียวมีการเปลี่ยนแปลง? ชายหนุ่มอายุ 20 ปีบีบให้พี่ใหญ่ไห่หลงตกลงมาอยู่อันดับที่ 2 !” กลุ่มชายหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่รอบๆ ต่างลุกขึ้นนั่งแสดงสีหน้าตกใจและมองไปยังชายหนุ่มคนที่กำลังอ่านข่าวจากเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพเป็นตาเดียว
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่สวมชุดลำลองสีเหลืองไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามากนัก เพียงแต่เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยเหมือนกำลังคิดใคร่ครวญอะไรบางอย่าง
“ยอดยุทธรุ่นเยาว์ที่สามารถต่อสู้กับผู้อาวุโสที่มีความแข็งแกร่งระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงได้พร้อมกันถึงสี่คน มิหนำซ้ำยังฆ่าพวกเขาได้อย่างไม่ยากเย็น นี่แสดงให้เห็นว่าระดับการบ่มเพาะของเขานั้นต้องสูงกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงอย่างแน่นอน!”
“ชายหนุ่มที่มีอายุเพียง 20 ปีเช่นนี้เขาจะมีระดับความแข็งแกร่งที่ทรงพลังในระดับนี้ได้อย่างไร? เขาฝึกยุทธตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาอย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เชื่อเด็ดขาด!”
คนหนุ่มสาวหลายคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ ชายหนุ่มที่มีอายุเพียง 20 ปีที่อยู่ในรุ่นเดียวกับพวกเขานั้นสามารถสังหารผู้แข็งแกร่งระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างมากมายโดยใช้แค่ดาบเล่มเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากเกินไปสำหรับพวกเขา
“ให้ข้าดูหน่อย!”
ชายหนุ่มในชุดลำลองสีเหลืองยื่นมือออกมาและพูดกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขา
“ครับพี่ไห่หลง!”
ชายหนุ่มคนนั้นนำโทรศัพท์ไปยื่นให้กับไห่หลง
“ใช้ดาบระดับก่อกำเนิดจิตวิญญาณเพียงเล่มเดียวสังหารผู้แข็งแกร่งระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงได้ถึงสี่คน!”
ไห่หลงมองไปที่กระทู้ข่าวในโทรศัพท์มือถือที่มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ฮึ! คงเป็นเพราะว่าในช่วงนี้ข้านั้นอยู่อย่างเงียบๆมากเกินไปสินะ!”
ไห่หลงพูดออกมาเบาๆขณะที่ยื่นโทรศัพท์คืนให้กับชายหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนที่เขาจะนอนลงบนเก้าอี้ชายหาดโดยไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป
“ พี่ใหญ่ไห่หลงแล้วเรื่องอันดับเทียนเจียวล่ะพี่?” บรรดาชายหนุ่มรุ่นน้องที่อยู่รอบข้างไห่หลงต่างถามเขาออกมาด้วยความเป็นกังวล
“ข้าสามารถรับมือพ่อของข้าได้มากกว่า 12 กระบวนท่า ถึงแม้ว่าพ่อของข้านั้นจะลดระดับความแข็งแกร่งของเขาลงมาอยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงก็ตาม!”
ไห่หลงพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“อะไรนะ?”
กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับมีสีหน้าตกใจ
มันน่ากลัวมากที่สามารถรับมือพ่อของเขาได้มากกว่า 12 กระบวนท่า
พ่อของไห่หลงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเป็นอันดับ 2 แห่งโลกยุทธภพ ในการจัดอันดับกลุ่มชาวยุทธที่แข็งแกร่งมากที่สุดในประเทศจีน
ครั้งหนึ่งพ่อของไห่หลงเคยฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงคนหนึ่งโดยใช้เพียงแค่นิ้วเดียว การกระทำของเขานั้นนับได้ว่าเป็นตำนานแห่งโลกยุทธภพเลยทีเดียว
“ในความคิดของข้าพี่ชายไห่หลงนั้นยอดเยี่ยมมากที่สุดแล้ว ส่วนเจ้าคนที่ชื่อหวังเสียนอะไรนั้นมันคงจะต้องใช้กลอุบายอะไรบางอย่างในการต่อสู้อย่างแน่นอน!”
“ใช่พี่ชายไห่หลงเปรียบเสมือนพระจันทร์อันส่องสว่าง เจ้าหนุ่มคนนั้นมันก็แค่แสงหิ่งห้อยที่เข้ามารบกวนสายตาชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นเอง!”
คนหนุ่มสาวทั้งหมดในที่นี้ล้วนแล้วแต่เชื่อในความแข็งแกร่งของไห่หลงกันมาก พวกเขารีบพูดจาประจบเอาใจไห่หลงกันอย่างเต็มที่
“ฮึๆ! การประลองของยอดยุทธรุ่นเยาว์ที่กำลังจะเริ่มขึ้นอีกในไม่ช้านี้ ข้าหวังว่าในปีนี้คงจะทำให้ข้าหายเบื่อขึ้นมาได้บ้าง!”
ไห่หลงพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่เขาจะมองออกไปยังทะเลไกลๆด้วยท่าทางที่มั่นใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
………
“ฮึๆ! หมอเทวะหวังและไห่หลง เทียนเจียวอันดับหนึ่งและอับดับสองอย่างงั้นรึ ฮึๆ! การจัดอันดับยอดยุทธรุ่นเยาว์ในปีนี้ท่าทางจะสนุกดีไม่น้อย!”
ท่ามกลางยอดเขาสูงตระหง่านในหมูตึกรูปทรงโบราณชายหนุ่มคนหนึ่งแสดงรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยในขณะที่เขาอ่านข่าวในเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพ
……..
“อามิตตาพุทธ! ข้าได้ฝึกฝนและบำเพ็ญตบะมานานกว่า 30 ปี อยู่แต่ในวัดแห่งนี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก ในที่สุดคราวนี้ข้าก็มีโอกาสได้ออกไปข้างนอกเสียที ฮึๆๆ!”
ในวัดโบราณแห่งหนึ่ง พระหนุ่มร่างกายบึกบึนแสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา เมื่อเขาได้รับคำสั่งจากอาจารย์ให้ลงจากวัดในภูเขาลึกที่ซ่อนเร้นแห่งนี้ออกไปยังโลกภายนอกได้
เขาแตะศีรษะโล้นเกลี้ยงเกลาของเขาพร้อมกับพูดออกมา “ข้าจะได้เจอสาวๆที่สวยงามภายในเมืองใหญ่กับเขาบ้างแล้ว ฮิๆๆ! โอ้วไม่ๆ! ข้าต้องสร้างชื่อเสียงและเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของข้าให้มากๆเสียก่อน ไม่เช่นนั้นท่านอาจารย์คงจะตีข้าตายอย่างแน่นอน ฮ่าๆๆๆ!”
พระหนุ่มแสดงสีหน้าพิลึกพิลั่นของเขาออกมา ลักษณะภายนอกของเขานั้นดูไม่คล้ายกับพระที่เคร่งครัดวินัยเลยแม้แต่น้อย
……
โลกยุทธภพกำลังเดือดพล่าน เหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์จากหลากหลายกองกำลังต่างแสดงความกระตือรือร้นของตนออกมากันอย่างเต็มที่ พวกเขามุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงของตนนั้นให้เหนือยิ่งกว่าคนอื่นในโลกยุทธภพให้ได้
ในรายชื่อเทียนเจียวทั้งห้าอันดับแรกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งในระดับก่อกำเนิดลมปราณกันทั้งสิ้น
แต่ในโลกยุทธภพแห่งนี้นั้นยังมีกองกำลังที่ซ่อนเร้นที่ยังไม่ได้แสดงตัวออกมาอยู่อีกหลายกองกำลัง
ภายใต้ผืนฟ้าย่อมมีอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ตกสำรวจอยู่อย่างมากมายซ่อนอยู่
ท้ายที่สุดด้วยประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคนในประเทศจีนย่อมจะต้องมีอัจฉริยะที่เหนืออัจฉริยะอยู่อย่างแน่นอน
ในขณะนี้ในส่วนหนึ่งของป่าไผ่หนาทึบล้อมรอบพื้นที่ขนาดใหญ่
ภายในป่าไผ่มีพระราชวังตั้งอยู่ใจกลางของสวนป่า
พระราชวังมีขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่หลายหมื่นตารางเมตรและพื้นที่ทั้งหมดมีกลิ่นหอมของยาสมุนไพรฟุ้งกระจายไปทั่ว
ถ้าคนธรรมดาอาศัยอยู่ที่นี่ก็จะสามารถมีชีวิตยืนยาวได้มากกว่าปกติเกือบอีก 1 เท่าตัวเลยทีเดียว
รอบ ๆ พระราชวังมีการปลูกพืชสมุนไพรอย่างหนาแน่นศาลาภายในเขตพระราชวังนั้นนับได้ว่าเป็นศิลปะที่สวยสดงดงามเป็นอย่างมาก
ในอาคารหลักใจกลางพระราชวังมีแผ่นป้ายของเหล่าสาวกและศิษย์หลักตั้งตระหง่านอยู่ด้านบน
“เหตุการณ์นี้เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสเฟิง ได้ใช้ยาพิษทำให้น้องสาวของหมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิงได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสจนถึงขั้นพิการ ด้วยสาเหตุนี้หมอเทวะหวังจึงทำการแก้แค้นผู้อาวุโสเฟิงและเหล่าลูกศิษย์ของเขา ฉะนั้นเราต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ว่าเราสมควรจะทำอย่างไรกันต่อไป!”
“แต่ท่านผู้อาวุโสเยี่ยเฉิง หวังเสียนแห่งเมืองเจียงเฉิงได้สังหารผู้อาวุโสและสาวกในสำนักของพวกเราเช่นนี้มันเท่ากับเป็นการหยามเกียรติสำนักเราโดยซึ่งหน้า พวกเรายังต้องจะพิจารณาอยู่อีกอย่างนั้นหรือ?”
“อันที่จริงเรื่องเช่นนี้สมควรต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วนที่สุด หาไม่แล้วคนในโลกยุทธภพคงจะเข้าใจว่า สำนักเซิ่งเหมินถูที่เป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานนั้นง่ายต่อการถูกรังแก!”
” เมื่อมันกล้าสังหารผู้อาวุโสและสาวกในสำนักของเรา ตัวของมันและกลุ่มญาติๆรวมถึงคนสนิทของมันทุกคนก็จะต้องตายเช่นเดียวกัน นี่คือศักดิ์ศรีของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่มีมาอย่างยาวนานของสำนักเรา!”
ในห้องโถงโหญ่ของสำนักเซิ่งเหมินถูมีผู้อาวุโสจำนวนมากนั่งอยู่เป็นจำนวนมาก และในจำนวนนั้นก็มีมากกว่า 30 คนที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสมบูรณ์แบบ
กลุ่มผู้อาวุโสเหล่านี้กำลังปรึกษากันด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
แต่ในที่นั่งตำแหน่งกึ่งกลางนั้นกลับว่างเปล่า เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าที่นั่งในตำแหน่งนี้นั้นย่อมต้องเป็นผู้นำของสำนักเซิ่งเหมินถูอย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสเยี่ยเฉิงกวาดสายตามองไปยังเหล่าผู้อาวุโสทุกๆคนที่นั่งอยู่ในที่ประชุมพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย “ความตั้งใจเดิมของท่านบรรพบุรุษในการก่อตั้งสำนักเซิ่งเหมินถูของเรานั้นก็เพื่อสร้างความสามัคคีและความปลอดภัยให้แก่เหล่าผู้ที่ฝึกฝนทักษะทางการแพทย์ สำนักของพวกเรานั้นพยายามจะไม่สร้างปัญหากับผู้อื่นมาโดยตลอด ฉะนั้นหากในครั้งนี้เราทำการแก้แค้นให้กับผู้อาวุโสเฟิงที่เป็นผู้กระทำความผิดก่อน สำนักของพวกเราอาจจะสูญเสียความตั้งใจเดิมของท่านบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งไปก็ได้ และหลังจากนี้สำนักของพวกเรานั้นก็อาจจะเกิดปัญหาต่างๆเข้ามาไม่รู้จักจบสิ้น! พวกท่านต้องการจะล้างแค้นจริงๆอย่างนั้นหรือ?”
” ฮึ่ม! ผู้อาวุโสเยี่ยเฉิงท่านมันก็เหมือนกับเต่าหดหัว สาวกและผู้อาวุโสระดับสูงในสำนักของพวกเราถูกรังแกเช่นนี้แต่ท่านกลับต้องการให้พวกเรานิ่งเฉยอย่างนั้นรึ? แล้วต่อไปเหล่าสาวกของพวกเราจะสามารถมั่นใจได้อย่างไรว่าพวกเราจะสามารถปกป้องพวกเขาได้ สำนักเซิ่งเหมินถูของเราก็คงจะถูกเย้ยหยันจากเหล่าชาวยุทธทั่วทั้งโลกยุทธภพอย่างแน่นอน ว่าเป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนแอและขี้ขลาดตาขาวดังเช่นลูกเต่า แม้แต่เด็กหนุ่มรุ่นเยาว์ที่ไร้ผู้สนับสนุนก็ยังสามารถรังแกคนของพวกเราได้!”
……
