.
[“หมอเทวะแห่งเมืองเจียงเฉิงเจ้ากล้าที่จะสังหารศิษย์พี่ของข้า ฉะนั้นข้าขอประกาศให้คนทั้งโลกยุทธภพได้รู้เอาไว้เลยว่าข้าจะสังหารเจ้าด้วยมือของข้าเอง!”]
[จากโอรสสวรรค์แห่งสำนักเซิ่งเหมินถู!]
“ตูม!”
เมื่อมีข้อความนี้ปรากฏขึ้นมาบนเว็บไซต์ในโลกยุทธภพ มันเป็นเหมือนกับการจุดระเบิด ทำให้บรรยากาศในโลกยุทธภพนั้นเดือดพล่านขึ้นมาในทันที!
นี่คือข้อความของโอรสสวรรค์และเหล่าผู้คุมกฎจากหอผู้พิพากษาแห่งสำนักเซิ่งเหมินถู
ในแต่ละสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งจะมีต้องมีกฎเกณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะของพวกเขาเอง และหนึ่งในฝ่ายที่มีอำนาจสูงที่สุดของแต่ละสำนักนั่นก็คือเหล่าผู้คุมกฎ เพราะผู้คุมกฎเหล่านี้นั้นจะมีความแข็งแกร่งในด้านการรบที่สูงเป็นอย่างมาก
หน้าที่หลักของเหล่าผู้คุมกฎเหล่านี้นั้นจะเป็นผู้ที่ลงโทษสาวกในสำนักที่ละเมิดกฎเกณฑ์ และบางครั้งพวกเขาก็จะออกปฏิบัติหน้าที่ด้านนอกสำนักอีกด้วย
ส่วนมากผู้คุมกฎภายในสำนักจะลงโทษเหล่าสาวกในสำนักของตนตามกฎระเบียบของสำนักเพียงเท่านั้น แต่หากผู้คุมกฎจะต้องจัดการกับศัตรูภายนอกพวกเขาจะโหดร้ายเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่สังหารเป้าหมายที่เป็นศัตรูของสำนักเท่านั้นพวกเขายังจะสังหารญาติและคนใกล้ชิดของเป้าหมายอีกด้วย โดยไม่สนใจว่าคนเหล่านั้นจะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่
ในบรรดาผู้คุมกฎที่มาในครั้งนี้มีโอรสสวรรค์แห่งสำนักเซิ่งเหมินถูติดตามมาด้วย
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของกลุ่มคนเหล่านี้นั่นก็คือกลุ่มชาวยุทธที่ทรงพลังหลายคนที่เคยได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์จากสำนักเซิ่งเหมินถู ก็ถูกเชิญให้เข้ามาร่วมทำงานในครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ
กลุ่มผู้ผู้คุมกฎจากหอพิพากษาของสำนักเซิ่งเหมินถูนับได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นไม่ต่ำกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูง มิหนำซ้ำการต่อสู้ของพวกเขายังสอดผสานกันได้อย่างน่ากลัว
สำนักเซิ่งเหมินถูเป็นสำนักที่เป็นการรวมตัวของเหล่าอัจฉริยะทางการแพทย์ ระดับความแข็งแกร่งของสำนักพวกเขานั้น ถือได้ว่าเป็นอันดับที่ 6 จากสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 และความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือภูมิหลังบางประการของพวกเขา
แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็คือสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัว
คำสั่งฆ่าของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่สามารถหนีพ้นไปได้
แม้แต่องค์กรนักฆ่าที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับองค์กรมือสังหารมนต์ดำ พวกเขาก็ทำได้แค่ต้องซ่อนตัวอยู่ในองค์กรของพวกเขาเพียงเท่านั้น
และนั่นคือกลุ่มคนที่อยู่ในระดับองค์กร แต่หมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิงนั้นเป็นหมอเทวะที่ไร้สังกัดไม่มีคนหนุนหลัง ต่อให้เขาเป็นอัจฉริยะและความแข็งแกร่งมากเพียงใดเขาก็แค่คนตัวคนเดียวฉะนั้นจึงไม่มีทางหนีรอดจากกลุ่มกองกำลังระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ไปได้อย่างแน่นอน
เมื่อกลุ่มคนในโลกยุทธภพกดเข้าไปดูที่โพสต์ล่าสุดในเว็บไซต์ของโลกยุทธภพ พวกเขาก็เห็นข้อความสั้นๆปรากฏออกมาซึ่งเป็นข้อความคล้ายกับข้อความโพสภารกิจ
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในโลกยุทธภพต่างตื่นตัวและตกใจขึ้นมากันในทันที
[ดูเหมือนว่าในครั้งนี้เหล่าผู้อาวุโสของสำนักเซิ่งเหมินถูจะรู้สึกเสียหน้าและขุ่นเคืองกันเป็นอย่างมาก พวกเขาถึงกับโพสต์ลงในเว็บไซต์ของโลกยุทธภพต่อหน้าสาธารณชนว่าพวกเขาจะสังหารหมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิงโดยเร็วที่สุด!]
[กลุ่มผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถูได้ดำเนินการด้วยตัวเองแล้ว คาดว่าอีกไม่นานพวกเขาก็คงจะไปถึงเมืองเจียงเฉิง อย่างแน่นอน และในครั้งนี้พวกเขาคงส่งผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงไม่น้อยกว่า 7-8 คนเลยทีเดียว และอาจจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสมบูรณ์แบบรวมอยู่ในนั้นด้วยก็ได้!]
[มันจบแล้วล่ะ! ข้าเคยได้ยินมาว่าตั้งแต่มีคำสั่งฆ่าของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์มา คนที่เคยหนีรอดจากคำสั่งฆ่านี้ได้นั้นนับมีเพียงแค่ไม่กี่คน และหากในคืนนี้หมอเทวะหวังไม่รีบหนีหรือรีบซ่อนตัว เขาก็คงจะไม่สามารถรอดพ้นชะตากรรมไปได้อย่างแน่นอน]
[เป็นไปได้ไหมว่ายอดอัจฉริยะที่มีความสามารถหลากหลายด้านเช่นนี้ จะต้องถูกสังหารโดยผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถู]
[มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ! เมื่อเขากล้าที่จะสังหารผู้อาวุโสและสาวกคนสำคัญของสำนักเซิ่งเหมินถู เขาก็ต้องเตรียมใจให้พร้อมสำหรับรับการแก้แค้นของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ให้ได้]
บนเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพ ต่างมีข้อความที่ถูกโพสต์ออกมาหลากหลายข้อความ แต่ข้อความส่วนมากนั้นมองคำสั่งฆ่าของสำนักเซิ่งเหมินถูเป็นเรื่องปกติ เพราะกลุ่มคนที่หวังเสียนได้สังหารไปนั้น มันมากมายเกินกว่าจะเรียกว่าเป็นการแก้แค้นให้กับน้องสาวของเขา
แม้ว่าน้องสาวของหวังเสียนจะถูกรังแกก่อนก็ตามที แต่ตามเหตุและผลของชาวยุทธส่วนใหญ่นั้นก็เอนเอียงไปทางด้านสำนักเซิ่งเหมินถู
และยังมีกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่เห็นความโชคร้ายของผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องน่าสนุก
[คำสั่งฆ่าของสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ออกมาแล้ว! ในคราวนี้หมอบ้าแห่งเมืองเจียงเฉิงผู้หยิ่งผยอง ไม่รอดชีวิตอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า! ]
[ฮ่าๆๆ! ข้าเห็นด้วยกับคำสั่งฆ่าที่ออกโดยสำนักเซิ่งเหมินถูเป็นอย่างยิ่ง คนอย่างหวังเสียนสมควรที่จะตายแล้วจริงๆ เป็นเพียงแค่หมอเทวะที่ไร้สังกัดเหมือนกบก้นบ่อแต่กล้า ยโสโอหังเข้าไปท้าทายสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ คราวนี้ไปเตะแผ่นเหล็กเข้าอย่างจัง! ข้าสะใจจริงๆ]
[เป็นอัจฉริยะที่ยังไม่ทันได้เติบโตก็บ้าคลั่งสังหารคนได้มากถึงเพียงนี้แล้ว ต่อไปภายภาคหน้า หากเขาแข็งแกร่งมากกว่านี้เขาคงจะต้องกลายเป็นปีศาจร้ายที่สังหารคนในโลกยุทธภพโดยไม่เลือกหน้าอย่างแน่นอน สมควรเป็นอย่างยิ่งแล้วที่จะต้องรีบฆ่าเขาให้ตายเพื่อขจัดภัยพิบัติให้แก่โลกยุทธภพของพวกเรา]
[ข้าเคยค้นประวัติของหมอเทวะหวังคนนี้มาแล้ว เขานั้นเป็นคนเลวที่ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง เขาเที่ยวสังหารคนไปทั่ว ล่าสุดเขายังเคยเข้าไปฉุดคร่าว่าที่เจ้าสาวของตระกูลระดับชั้น 1 ในงานพิธีหมั้นของพวกเขาและยังเหี้ยมโหดถึงกับสังหารคนในตระกูลหลิวจนไม่มีใครเหลือรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว คนเช่นนี้ไม่สมควรปล่อยให้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นเขาต้องสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่นๆอีกมากมายอย่างแน่นอน!]
ชาวยุทธหลายคนต่างสนับสนุนให้มีการสังหารหวังเสียนโดยเร็ว เพราะการดำรงอยู่ของหวังเสียนนั้นเปรียบดังขยะที่น่ารังเกียจของโลกยุทธภพ
หลายคนก็รู้สึกอิจฉาในพรสวรรค์และความสามารถของหวังเสียน พวกเขารู้สึกตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากที่จะได้เห็นคนที่เหนือกว่าพวกเขานั้นถูกสังหารลงไป
เมื่อมีคำสั่งฆ่าที่ออกมาโดยผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถู ชาวยุทธหลายคนจึงรีบเดินทางไปที่เมืองเจียงเฉิงในทันที
มันคงจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อสามารถได้เห็นอัจฉริยะเช่นนี้ต้องถูกสังหารด้วยตาของตัวเอง
นี่เป็นอีกคืนหนึ่งในโลกยุทธภพที่เหล่าชาวยุทธหลายๆคนไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้
บางคนถึงกับชักชวนกันออกมาตั้งวงดื่มสุราและเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ออนไลน์เอาไว้ตลอดเวลาเพื่อรอดูฉากอันน่าตื่นเต้นที่กำลังจะเกิดขึ้น
……..
คลืนนนนน!
เปรี้ยงงง!
บนท้องฟ้าในยามนี้เกิดสายฟ้าแลบพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังสนั่นไปทั่วบริเวณ สภาพอากาศในวันนี้นั้นค่อนข้างจะทำขมุกขมัว
พยากรณ์อากาศได้แจ้งเตือนเอาไว้แล้วว่าจะเกิดฝนตกค่อนข้างมากในเมืองเจียงเฉิง
“นายท่านขอรับ! มีข้อความเกี่ยวกับนายท่านเกิดขึ้นในเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพขอรับ!
ในตอนเช้าหลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวหยูและผู้อาวุโสฟางได้ถูกพาไปพักผ่อนยังห้องพักที่ชั้นสอง โม่ชิงหลงได้เดินมาหาหวังเสียนที่โซฟาพร้อมกับกล่าวรายงานกับเขา
“ข้อความอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
หวังเสียนถามออกด้วยน้ำเสียงที่สงบ ในขณะที่เขายกน้ำชาขึ้นมาจิบพร้อมกับมองไปที่เสี่ยวหรันที่กำลังฝึกซ้อมวิชายุทธอยู่ที่ลานหน้าบ้าน
“เหล่าผู้คุมกฎแห่งสำนักเซิ่งเหมินถูได้ออกคำสั่งสังหารนายท่านขอรับ! และในข้อความเหล่านั้นยังมีคำท้าทายของโอรสสวรรค์แห่งสำนักเซิ่งเหมินถูอยู่ด้วย เขาประกาศว่าจะสังหารนายท่านด้วยมือของเขาเองขอรับ!” โม่ชิงหลงอธิบายโดยสรุป
“หือ?” หวังเสียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปมองยังโม่ชิงหลง และทวนคำออกมา “พวกเขาออกคำสั่งสังหารข้าอย่างนั้นรึ?”
“ขอรับนายท่าน! นี่คือข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาทางเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพโดยเหล่าผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถูขอรับ!”
โม่ชิงหลงกล่าวพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้กับหวังเสียน
“เหล่าผู้คุมกฎแห่งหอพิพากษาของสำนักเซิ่งเหมินถู นั้นถือได้ว่าเป็นตัวแทนทั้งหมดในสำนักของพวกเขา และเหล่าผู้คุมกฎเหล่านี้นั้นยังมีสัมพันธ์อันดีกับเหล่าผู้คุมกฎในสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ อยู่อีกด้วย!” โม่ชิงหลงอธิบายเพิ่มเติม
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หวังเสียนหัวเราะออกมาเสียงดังขณะที่เขามองไปยังข้อความในเว็บไซต์แห่งโลกยุทธภพ “ในตอนแรกข้าตั้งใจจะรออีก 5 วันตามคำสัญญาที่ข้าได้ให้ไว้กับตาเฒ่าซุย แล้วหลังจากนั้นข้าก็ตั้งใจจะไปเหยียบสำนักเซิ่งเหมินถูด้วยตัวเอง แต่ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าพวกเขานั้นจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง ฮ่าๆๆ!”
“ในตอนนี้เหล่านักรบมังกรที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณทั้ง 4 คนก็อยู่ในวิลล่าหลังถัดไป รวมถึงกลุ่มองค์กรมือสังหารอเวจีทมิฬก็อยู่ที่นั่นด้วยขอรับนายท่าน!”
แววตาของโม่ชิงหลงนั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันอันรุนแรง ในขณะที่เขากล่าวรายงานกับหวังเสียน
“ดีมาก! ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากพวกมันกล้าเหยียบเข้ามาที่นี่ ก็อย่าปล่อยให้พวกมันมีชีวิตรอดกลับออกไปได้แม้แต่คนเดียว!”
หวังเสียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาขณะที่ยื่นโทรศัพท์มือถือส่งคืนให้กับโม่ชิงหลง
หลังจากนั้นหวังเสียนก็หันกลับไปจ้องมองการฝึกซ้อมของเสี่ยวหรัน
ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเสี่ยวหรัน ได้มาถึงระดับนักรบขั้นที่ 9 แล้ว ระดับความเร็วในการบ่มเพาะของเขานั้นเริ่มชะลอตัวลงจนเห็นได้ชัด เพราะการที่จะก้าวเข้าสู่ระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณในระดับอายุเพียงแค่นี้นั้นค่อนข้างที่จะยากพอสมควร
และอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีสำหรับการก้าวเข้าสู่ระดับขอบเขตก่อกำเนิดลมปราณขั้นต้น
แน่นอนว่านี่เป็นกรณีที่ไม่ได้รับการเสริมด้วยเม็ดยาจิตวิญญาณ แต่หากว่ามีเม็ดยาจิตวิญญาณที่เพียงพอ ก็จะไม่มีปัญหาในการบุกเข้าไปสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณอย่างแน่นอน
หวังเสียนไม่ได้สนใจคำสั่งฆ่าของเหล่าสาวกแห่งสำนักเซิ่งเหมินถูมากนัก เขายังคงนอนเล่นอยู่บนโซฟาอย่างผ่อนคลาย
แต่ภายในเขตเมืองเจียงเฉิงในตอนนี้นั้นได้มีกลุ่มคนแปลกหน้าเริ่มทยอยหลั่งไหลเข้ามากันอย่างต่อเนื่อง
รถยนต์ออดี้สีดำหรูหราเจ็ดหรือแปดคันที่ป้ายทะเบียนเป็นของต่างจังหวัดได้ขับเข้ามาในเขตเมืองเจียงเฉิงอย่างรวดเร็ว
ภายในรถยนต์เหล่านั้นประกอบไปด้วยกลุ่มชายวัยกลางคนและกลุ่มชายชรา พวกเขาทุกคนต่างถืออาวุธกันอยู่อย่างครบมือ
ในรถสองคันแรกทั้งหมดเป็นชายชรา
ชายชราทุกคนเปล่งออร่าของผู้ที่แข็งแกร่งออกมาอย่างชัดเจน
รถทั้ง 8 คันขับเคลื่อนเข้าไปทางชายหาดอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายอยู่ที่เขตโซนวิลล่าริมชายหาดหลังใหญ่ที่สุด
นอกเหนือจากรถยนต์ออดี้แปดคันที่ขับเข้ามาพร้อมๆกันแล้ว ยังมีรถยนตร์หรูอีกหลายสิบคันที่มาจอดรออยู่บริเวณใกล้เคียงอย่างเนืองแน่น
ในขณะเดียวกันก็มีรถสปอร์ตสุดหรูคันหนึ่งขับเข้ามาด้วยความเร็ว
เจ้าของรถสปอร์ตหรูคันนี้นั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง
บรืนนนนน!
เสียงคำรามของเครื่องยนต์รถสปอร์ตดังสนั่นไปทั่ว ก่อนที่มันจะมาหยุดอยู่ตรงที่ประตูของวิลล่าริมชายหาดหลังใหญ่
นอกจากรถสปอร์ตแล้วยังมีรถออฟโรดบางรุ่นและมีรถหรูอีกมากกว่า 30 คัน
กลุ่มวัยรุ่นคนหนุ่มสาวที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง ค่อยๆเดินออกมาจากรถกันทีละคน
เด็กหนุ่มวัยรุ่นบางคนโอบกอดสาวสวยเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม และวัยรุ่นหลายคนก็จับกลุ่มพูดคุยหัวเราะกันออกมาอย่างคึกคะนอง
พวกเขาชำเลืองมองไปยังวิลล่าหรูหลังใหญ่ที่ติดริมชายหาดด้วยความตื่นเต้นกันเต็มที่!
………