“รีบฆ่าตัวตายซะเถอะ! อย่างน้อยๆเมื่อเจ้าตายไปแล้ว ก็ยังมีซากศพเหลือเอาไว้ให้ได้ฝัง!”
“ใช่! หากให้ผู้อาวุโสผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถูลงมือร่างกายของเจ้าคงจะเละไม่เหลือซากอย่างแน่นอน มิหนำซ้ำคนใกล้ชิดของเจ้าทั้งหมดก็จะต้องถูกสังหารไปด้วย ฉะนั้นรีบคุกเข่ายอมรับผิดและสำเร็จโทษตัวเองเสียเถอะ!”
“เจ้ามารร้าย! ถึงเจ้าจะเป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์ แต่นิสัยของเจ้านั้นกลับโหดเหี้ยมอำมหิตมากเกินไป ข้าเคยสืบประวัติของเจ้ามาแล้วเจ้าเคยพากลุ่มคนไปสังหารคนในตระกูลหยานแห่งเมืองเจียงเฉิง (จากตอนที่ 133-140) และยังเคยพากลุ่มคนไปฉุดคร่าคู่หมั้นของเทพกระบี่น้อยหลิวเฟยหยุนของตระกูลหลิวและยังสังหารคนในตระกูลหลิวยกตระกูลอีกด้วย (จากตอนที่ 187-192) นอกจากนี้เจ้ายังสังหารคนที่มีความขัดแย้งกับเจ้าโดยตรงอย่างมากมาย คนชั่วร้ายเช่นเจ้าสมควรที่จะตายเป็นอย่างยิ่ง!”
เมื่อกลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คนที่ตามเข้ามาดูเหตุการณ์ได้เห็นความแข็งแกร่งของเหล่าผู้อาวุโสแห่งสำนักเซิ่งเหมินถู พวกเขาก็ตะโกนใส่หวังเสียน กันอย่างเมามัน
ชายหนุ่มบางคนที่พอมีอิทธิพลและได้เคยสืบค้นประวัติของหวังเสียนมาก่อนแล้ว ได้พูดประณามการกระทำของหวังเสียนออกมาในทันที
ด้วยประสิทธิภาพหน่วยข่าวกรองของคนในโลกยุทธภพที่มีมากพอๆกับหน่วยข่าวกรองขององค์กรระดับโลกอย่างเช่น FBI หรือ CIA ขอเพียงแค่คุณจ่ายมากพอคุณก็สามารถได้รับข่าวที่เป็นความลับเกือบจะทุกประเภท
โดยเฉพาะการกระทำที่ผ่านมาของหวังเสียนนั้นก็ไม่ได้เป็นความลับมากมายอะไรนัก เพราะมันอยู่ภายใต้สายตาของคนเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ที่ข่าวเกี่ยวกับตัวเขาบางเรื่องจะหลุดรอดออกไป
“ฮึ! พวกเจ้ามีปัญหาที่สมองกันหรืออย่างไร? ถึงบอกให้ข้าคุกเข่ายอมรับผิดแล้วฆ่าตัวตาย!”
หวังเสียนลุกยืนขึ้นอย่างช้าๆ และจ้องมองไปยังเหล่าผู้อาวุโสของสำนักเซิ่งเหมินถูด้วยสายตาที่เย็นชา “เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากคนในสำนักของพวกเจ้าที่วางยาพิษทำร้ายน้องสาวของข้า ในก่อนหน้านี้ข้าได้เคยให้สัญญากับผู้อาวุโสคนหนึ่งเอาไว้ว่าจะให้เวลาพวกเจ้า 5 วันเพื่อจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าข้าจะมองพวกเจ้าผิดไปเล็กน้อย!”
“ในวันนี้เมื่อพวกเจ้ามาถึงที่นี่กันแล้ว พวกเจ้าทั้งหมดก็จงอยู่ที่นี่ไปตลอดกาลเสียเถอะ!”
เมื่อหวังเสียนพูดจบ นิ้วมือทั้งห้าของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นกรงเล็บมังกรในทันที
“ฮ่าฮ่า! ช่างเป็นคนที่บ้าคลั่งสมกับฉายาของเจ้าจริงๆ ถ้าเช่นนั้นทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าและอยู่ในวิลล่าหลังนี้ก็จะได้รับการลงโทษจากสำนักเซิ่งเหมินถูของพวกเรา!”
เมื่อเห็นการกระทำและคำพูดของหวังเสียนที่แสดงออกมา ผู้อาวุโสร่างกายกำยำก็หัวเราะออกมาเสียงดัง เขาก็แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะชักดาบยาวออกมาจากเอวของเขา “ข้า หูฝู่ ผู้อาวุโสคุมกฎแห่งสำนักเซิ่งเหมินถู จะเป็นผู้ที่ตัดหัวของเจ้าเพื่อล้างแค้นและเซ่นสรวงดวงวิญญาณให้กับคนในสำนักเซิ่งเหมินถูที่ถูกเจ้าสังหาร!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ตัดหัวข้างั้นรึ? ก็เอาสิถ้าเจ้าสามารถทำได้นะ!” หวังเสียนพูดพร้อมกับเดินตรงเข้าไปหาผู้อาวุโสร่างกำยำอย่างช้าๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ความเย่อหยิ่งของเจ้ามันมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก!”
ผู้อาวุโสร่างกำยำหัวเราะยาวออกมา แต่แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันที่รุนแรง “ข้าจะดับชีวิตสุนัขอันบัดซบของเจ้าเอง!”
“ตายยยยย!”
ชายชราร่างกำยำตะโกนออกมาพร้อมกับควงดาบในมือ
และในทันใดนั้นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณระดับสูงทั้ง 7 คน รวมทั้งเหล่าสาวกที่เหลืออีก 20 คนต่างพุ่งทะยานเข้าไปโจมตีกลุ่มของหวังเสียน กันทันที
ด้วยคลื่นพลังอันรุนแรงและเจตนาสังหารอันหนาแน่น ทำให้กลุ่มของเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาดูเหตุการณ์อยู่ทางเบื้องหลังถึงกับตกใจจนหน้าถอดสี แต่ในขณะเดียวกันก็มีความตื่นเต้นอยู่ในแววตาของพวกเขา
“จบสิ้นแล้ว! ในที่สุดอัจฉริยะในรอบ 1,000 ปี ก็กำลังจะจบชีวิตลงเพราะความอวดดีของตัวเอง!”
“การแสดงดีๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ข้าจะต้องถ่ายคลิปนี้เอาไว้!”
“ฮ่าฮ่า! หมอเทวะหวังอัจฉริยะหนุ่มแห่งเมืองเจียงเฉิง! ข้าอยากจะรู้นักว่าเขานั้นจะเย่อหยิ่งและอวดดีไปได้อีกนานสักเท่าใด หวังว่าเขาจะไม่ร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตนะ ฮ่าๆๆ!”
กลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่รอบ ๆ ถอยหลังไปสองสามก้าว และจ้องมองไปยังฉากที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยความตื่นเต้น พวกเขาต่างรอให้ชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะในรอบพันปีนั้นถูกตัดหัวลงมาต่อหน้าพวกเขาด้วยความลุ้นระทึก
“ฆ่า!”
ในขณะเดียวกันเสียงอันทรงพลังของโม่ชิงหลงก็ดังขึ้นมา เขาจ้องมองไปยังกลุ่มคนทั้งหมดของสำนักเซิ่งเหมินถูที่กำลังพุ่งทะยานเข้ามาด้วยสายตาที่เย็นชา
ตูมมมม!
ทันใดนั้นคลื่นสนามพลังอันน่ากลัวก็ระเบิดออกมาจากคนทั้งเจ็ด
พลังงานออร่าปีศาจสีดำทมิฬพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของคนทั้งหก และชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งนั้นก็มีกลิ่นอายสังหารที่น่าหวาดกลัวไม่แพ้กัน
“ฆ่าพวกมันให้หมด!”
เสียงของโม่ชิงหลงดังขึ้นอีกครั้ง และร่างของคนทั้งเจ็ดคนก็เคลื่อนตัวเข้าไปยังกลุ่มคนของสำนักเซิ่งเหมินถูอย่างรวดเร็ว
“นี่มัน?”
แรงกดดันอันทรงพลังของบุคคลทั้งเจ็ดนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก จนสามารถสลายคลื่นพลังงานที่เกิดจากกลุ่มคนของสำนักเซิ่งเหมินถูได้ในทันที
เหล่าสาวกของสำนักเซิ่งเหมินถูต่างหยุดชะงักกันในทันที ดวงตาของพวกเขานั้นเบิกกว้างและจ้องมองไปยังบุคคลทั้งเจ็ด อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
“ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเจ็ดคน!”
ดวงตาของผู้อาวุโสร่างกำยำหดตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขานั้นแสดงออกถึงความตกใจจนเห็นได้ชัด
“อะไรกัน? พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณกันทุกคนเลยอย่างนั้นรึ?”
ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างๆเขาก็ผงะเล็กน้อยเมื่อมองไปที่คนทั้งเจ็ดด้วยท่าทางที่เคร่งเครียด
ชายหนุ่มทั้งสี่คนในกลุ่มคนทั้งเจ็ด มีอายุราวๆ 30 ปี กลุ่มคนจากสำนักเซิ่งเหมินถูต่างนึกไม่ถึงว่าระดับความแข็งแกร่งของชายหนุ่มทั้งสี่คนที่แสดงออกมานั้นไม่ควรต่ำกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นกลางอย่างแน่นอน
ระดับความแข็งแกร่งของชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้น่าจะสามารถอยู่ใน 5 อันดับแรกของกลุ่มยอดยุทธรุ่นเยาว์ได้อย่างไม่ยากเย็น
ต่อให้เป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ในโลกยุทธภพ ก็ยากเป็นอย่างมากที่จะมีอัจฉริยะที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีและอยู่ในระดับก่อกำเนิดลมปราณเช่นนี้
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะเป็นใคร! แต่หากคิดจะต่อต้านสำนักเซิ่งเหมินถู พวกเจ้าและคนในครอบครัวของพวกเจ้าจะต้องถูกไล่ล่าสังหาร!”
ผู้อาวุโสร่างกำยำตะโกนออกมา
ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเจ็ดคนนั้นเกินความคาดหมายของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง และที่สำคัญระดับความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่มีใครต่ำกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นกลางเลยแม้แต่คนเดียว
ในมุมมองของพวกเขาแม้ว่าหมอเทวะหวังแห่งเมืองเจียงเฉิง จะมีอิทธิพลและเครือข่ายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่น่าจะสามารถเชิญผู้แข็งแกร่งมาได้มากถึงขนาดนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวของหมอเทวะหวังนั้นมีเรื่องบาดหมางที่ร้ายแรงจนถึงขั้นต้องตายกันข้างหนึ่งกับสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ไม่น่าจะมีกลุ่มชาวยุทธในโลกยุทธภพกลุ่มใดกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา
และสำหรับสำนักเซิ่งเหมินถูที่เป็นสำนักทางด้านวิชาการแพทย์โดยเฉพาะและยังมีประวัติอยู่ในโลกยุทธภพมาอย่างยาวนาน ย่อมจะต้องมีกลุ่มชาวยุทธมากมายที่ต้องการจะช่วยเหลือพวกเขามากกว่าอยู่แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้มีผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณมากถึงเจ็ดคน ที่อยู่เคียงข้างกับหมอเทวะหวัง สิ่งนี้ทำให้พวกเขานั้นรู้สึกค่อนข้างจะตื่นตระหนกกันเป็นอย่างมาก
“ฆ่าให้หมดอย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
ดวงตาของหวังเสียนนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะที่ตัวเขาเองก็ค่อยๆเดินตรงเข้าไปหาผู้อาวุโสร่างกายกำยำ
นิ้วทั้งห้านิ้วของเขาเปลี่ยนกลายเป็นกรงเล็บมังกรและดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“อ๊ากกกกก!”
อย่างไรก็ตามก่อนที่หวังเสียนจะลงมือโจมตี เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมาจากกลุ่มคนของสำนักเซิ่งเหมินถู
แม้ว่านักรบมังกรทั้งสี่คนจะเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นต้น แต่ระดับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นสามารถเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นกลางโดยทั่วไปเลยทีเดียว ระดับความแข็งแกร่งนี้ไม่รวมถึงเวลาที่พวกเขานั้นกลายร่างเป็นนักรบมังกร
นักรบมังกรหนุ่มทั้งสี่คนทะยานเข้าไปโจมตีเหล่าสาวกของสำนักเซิ่งเหมินถูอย่างรุนแรง
ระดับความแข็งแกร่งของเหล่าสาวกแห่งสำนักเซิ่งเหมินถูทั้ง 20 คนนั้นไม่เกินระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นต้น และพวกเขาส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณเท่านั้นเอง
“อะไรกัน? ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเจ็ดคน … เป็นไปได้ยังไง?”
“ความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้นสามารถบดขยี้สาวกของสำนักเซิ่งเหมินถูลงได้อย่างง่ายดาย!”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? หมอเทวะหวังสามารถเชิญผู้แข็งแกร่งระดับก่อกำเนิดลมปราณได้มากถึงเจ็ดคนเลยเชียวหรือ? เมื่อพวกเขาช่วยหมอเทวะหวังแล้วหลังจากนี้พวกเขาก็จะต้องเป็นศัตรูกับสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ คนพวกนี้นั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ข้าไม่เข้าใจเลยจริง?!”
กลุ่มชายหนุ่มโดยรอบที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่นั้นรู้สึกตกตะลึงจนใบหน้าเปลี่ยนสี
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าคนเจ็ดคนที่ยืนอยู่รอบๆหมอเทวะหวังนั้นจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณ
“ทั้งสี่คนมีอายุไม่เกิน 30 ปีพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างไรกัน? และที่สำคัญข้าไม่เคยเห็นหน้าหรือเคยได้ยินชื่อเสียงของพวกเขาทั้งสี่คนมาก่อนเลย?”
เจียงหยวนจ้องมองไปยังนักรบมังกรหนุ่มทั้งสี่คนด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
“ที่หมอเทวะหวังไม่ได้หลบหนีไปก็เพราะว่าเขานั้นมีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองและกลุ่มคนของเขา เขานั้นมีไพ่เด็ดอยู่ในมือเช่นนี้นี่เองไม่น่าแปลกใจเลยที่เขากล้าเป็นศัตรูกับสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์!”
ชายหนุ่มในชุดสูทพูดพึมพำออกมาด้วยความตกใจ
กลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่รอบๆก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดกันเป็นอย่างมาก
เพราะในตอนนี้พวกเขาต่างคิดขึ้นมาได้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณเพียงแค่เจ็ดคนเท่านั้น ยังมีหมอเทวะหวังเทียนเจียวอันดับหนึ่งแห่งโลกยุทธภพที่สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณขั้นสูงได้ถึงสี่คนอยู่อีกด้วย….
อึก!
“เหล่าผู้อาวุโสผู้คุมกฎและสาวกแห่งสำนักเซิ่งเหมินถูที่มาในครั้งนี้ คงจะไม่สามารถสังหารหมอเทวะหวังได้เสียแล้วล่ะ!”
“เอื๊อกก! ใครที่ก้าว…เข้ามา… จะต้องตายย!!” ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างสุดๆและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ใบหน้าของเขาในตอนนี้นั้นซีดราวกับกระดาษ เหงื่อเม็ดโตๆผุดออกมาจนเต็มใบหน้าของเขา
อ๊อกก! พร๊วดดด!
“เฮ้ยยย!
“ตาเฒ่าหู!”
“ผู้อาวุโสหู!”
ในทันใดนั้นเสียงแปลกๆก็ดังมาจากทางด้านผู้อาวุโสร่างกายกำยำ
เสียงคนของสำนักเซิ่งเหมินถูต่างตะโกนกันออกมาด้วยความตกใจ
กลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นทั้งหมดต่างรู้สึกตกใจและรีบหันมองไปทางผู้อาวุโสร่างกายกำยำในทันที
“นั่น!…เกิดอะไรขึ้น?”
พวกเขาจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสร่างกายกำยำด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
ในเวลานี้ร่างกายของผู้อาวุโสร่างกายกำยำนั้นมีบาดแผลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หน้าอกของเขา ในขณะเดียวกันเขาก็กระอักเลือดสดๆออกมาอย่างมากมาย
ในตอนนี้ใบหน้าของผู้อาวุโสร่างกายกำยำนั้นหมองคล้ำเป็นอย่างมาก ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
ตูมมมม!