Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 406 กลุ่มหนุ่มสาวรุ่นเยาว์จากตระกูลใหญ่!

ตอนที่ 406 กลุ่มหนุ่มสาวรุ่นเยาว์จากตระกูลใหญ่!

“ลูกพี่ลูกน้องยังพอมีเวลา นายควรจะพาเพื่อนของนายไปเปลี่ยนเป็นชุดที่เป็นทางการมากกว่านี้จะดีกว่า การแต่งตัวด้วยชุดลำลองแบบนี้ในงานเลี้ยงที่มีผู้หลักผู้ใหญ่มาอย่างมากมายเช่นนี้มันดูเหมือนว่าเป็นการไม่ให้เกียรติและไม่เคารพผู้อื่นสักเท่าไหร่ มันดูไม่มีมารยาทและดูไม่ดีเลยจริงๆ!”

เด็กสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ ถอนหายใจออกมาและพยายามพูดไปทางเดียวกันกับแฟนหนุ่มของเธอเพื่อให้แฟนของเธอนั้นหายโกรธเคือง

“การให้เกียรติผู้อื่นในสถานที่ของพวกเขานั้นเป็นการสะท้อนถึงการศึกษาและมารยาททางสังคม ภาษาและการแต่งกายให้ถูกต้องกับกาละเทศะก็สะท้อนให้เห็นถึงสถานะความมั่งคั่งแทนตัวตนของคนผู้นั้นได้ ยิ่งติดตามผู้อื่นเข้ามาที่นี่ก็ยิ่งจะต้องสมควรรักษามารยาทเอาไว้ให้ดี!”

ชายหนุ่มกอดเด็กสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ ในขณะที่จ้องมองหวังเสียนและพูดจาเหน็บแนมเขาด้วยความดูถูก

กลุ่มเด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้เคียงก็มองหวังเสียนด้วยรอยยิ้มและแสดงสายตาที่เยาะเย้ยถากถาง

ส่วนกลุ่มเด็กสาวที่ที่เหลือล้วนถอนหายใจและส่ายหัวกันเบาๆ ด้วยความรู้สึกเสียดาย ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าพวกเธอจะหล่อเหลาและดูดีเป็นอย่างมาก แต่พวกเธอก็ไม่อยากเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกลับเด็กหนุ่มที่ไร้อนาคตเช่นนี้ คนในตระกูลของพวกเธอคงจะไม่ยินยอมอย่างแน่นอน

เหล่าพ่อค้าและเศรษฐีนั้นดูหมิ่นคนจน ในขณะที่ราชวงศ์และขุนนางนั้นดูหมิ่นกลุ่มเศรษฐีและพ่อค้า นี่ถือว่าเป็นระดับชั้นของสังคมมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันนี้

หากกลุ่มพ่อค้าและเหล่าเศรษฐีต้องการเปลี่ยนเป็นผู้มีอำนาจเทียบชั้นกับระดับขุนนาง อย่างน้อยๆพวกเขาจะต้องครองอันดับเศรษฐีในเขตพื้นที่ของตัวเองและสืบทอดตระกูลมากกว่า 3 รุ่น

รุ่นแรกให้สร้างศักยภาพทางด้านการเงินการลงทุน เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และสะสมความรู้สร้างฐานอำนาจและบารมี

รุ่นที่สองสืบทอดและต่อยอดความแข็งแกร่งของตระกูลติดต่อผู้มีอำนาจสร้างเครือข่ายและผู้หนุนหลังให้มากขึ้น

รุ่นที่สามสร้างคุณค่าทางจิตวิญญาณให้แก่คนในพื้นที่เพื่อเพิ่มความเคารพนับถือและชื่อเสียงของตระกูลให้มากขึ้น

ตามความเห็นของพวกเขา ชายหนุ่มวัยรุ่นคนนี้ที่มาร่วมงานเลี้ยงของชนชั้นสูง แต่กลับแต่งตัวตามสบายเช่นนี้ ย่อมไร้การศึกษาทางด้านสังคมและไร้ศักยภาพอย่างแท้จริง อย่างมากเขาก็เป็นเด็กหนุ่มของตระกูลร่ำรวยรุ่นที่สองที่ไม่มีอนาคต

เมื่อเปรียบเทียบกับทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นอาวุโสหรือกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว จากตระกูลที่ร่ำรวยและตระกูลของผู้ฝึกตน ทุกคนในที่แห่งนี้นั้นไม่มีใครแต่งกายไร้มารยาทเช่นชายหนุ่มคนนี้

ในตอนแรกกลุ่มเด็กสาวเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ตกตะลึงในความหล่อเหลาและออร่าของหวังเสียน จนไม่มีใครได้ทันสังเกตเห็นถึงสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อพวกเธอคิดใคร่ครวญและพิจารณาตามคำพูดของชายหนุ่มที่เป็นแฟนของเสี่ยวโหย่วลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ พวกเธอต่างก็แสดงความรังเกียจและดูถูกหวังเสียนออกมากันในทันที

เมื่อหวังเสียนได้ยินสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่พูด เขาก็ตกตะลึงเล็กน้อยและก้มมองดูเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ

ฉันเข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่สองครั้ง และทั้งสองครั้งจะต้องมีคนพูดถึงเสื้อผ้าและการแต่งตัวของเขา

แต่สิ่งที่พวกเขาพูดก็ใกล้เคียงกับความคิดและการกระทำของหวังเสียนเป็นอย่างมาก เขานั้นไม่ใช่ไม่ให้เกียรติเจ้าของงานเลี้ยง แต่เขาไม่สนใจมันเลยต่างหาก ที่เขามาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ก็เป็นเพราะทำตามคำขอของผู้อาวุโสฉินและผู้อาวุโสซูที่ได้ชักชวนกึ่งขอร้องเขาให้มาด้วยเพราะว่าผู้นำตระกูลซุนนั้นต้องการที่จะพบกับเขา

และเนื่องด้วยงานเลี้ยงในครั้งนี้ไม่มีผลใดๆกับเขาฉะนั้นเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องแคร์ใครทั้งสิ้น และเขาจะใส่อะไรก็ได้ตามแต่ที่เขานั้นชอบ

สิ่งที่เรียกว่าชนชั้นสูงในปากของกลุ่มคนเหล่านี้นั้นไม่มีอะไรนอกจากฝูงมดปลวกในสายตาของเขา

มารยาทและสถานะทางสังคมที่ไร้สาระ! มันไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรเลยแม้แต่น้อย!

มันขึ้นอยู่กับว่าใครนั้นมีหมัดที่ใหญ่กว่ากันเพียงเท่านั้น ใครที่มีหมัดใหญ่กว่าย่อมเป็นผู้ที่กำหนดกฎเกณฑ์เสมอ!

และสิ่งที่ดำรงอยู่ได้ในจักวาลนี้อย่างมั่นคงมากที่สุดนั่นก็คืออำนาจและความแข็งแกร่ง!

ผู้แข็งแกร่งจะไม่มีวันถูกบีบบังคับจากผู้อื่น มีแต่ผู้ที่อ่อนแอกว่าจะต้องเงยหน้าขึ้นมามองผู้ที่แข็งแกร่งด้วยความหวาดกลัว

หวังเสียนเหลือบมองไปยังกลุ่มเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวเหล่านั้น ก่อนที่จะนิ่งเฉยอย่างไม่ใส่ใจและหยิบไวน์แดงที่หวังต้าไห่นำติดมือมายกขึ้นจิบอย่างช้าๆโดยไม่ได้ให้ความสนใจกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อยู่รอบๆอีกต่อไป

หวังต้าไห่ยิ้มแห้งๆออกมาอย่างขมขื่นเมื่อเห็นการแสดงออกของหวังเสียน ก่อนที่จะกระซิบที่ข้างหูของเขาเบาๆ “เฒ่าหวัง! นายต้องการจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดสูทก่อนหรือไม่?”

“อย่าใส่ใจมากนักเลยต้าไห่ ฉันรับรองว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!” หวังเสียนส่ายหัวและพูดอย่างเฉยเมย

“นี่! …. นายแน่ใจนะเฒ่าหวัง!” หวังต้าไห่มีท่าทางลังเลใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นในคำพูดของหวังเสียนที่เป็นดั่งพี่น้องและเพื่อนตายของเขา

พี่น้องของเขาคนนี้นับวันยิ่งลึกลับและมีอำนาจมากขึ้นทุกที

ชายหนุ่มอายุเพียง 20 ปีที่สร้างธุรกิจด้วยตัวเองแต่สามารถบริจาคเงินหลายสิบล้านให้กับมหาวิทยาลัยได้ตามต้องการ มิหนำซ้ำยังดูเหมือนว่ากลุ่มผู้มีอำนาจในเมืองเจียงเฉิงยังคงให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก เพราะเหตุการณ์ที่หวังเสียปราบปรามกลุ่มนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มาจากเมืองหลวงเหล่านั้นหวังต้าไห่ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย (จากตอนที่ 226-232)

แต่ที่หวังต้าไห่เกิดลังเลใจเล็กน้อยนั่นก็เพราะว่างานเลี้ยงในครั้งนี้ไม่ได้จัดอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง ผู้จัดงานในครั้งนี้เป็นชายที่ร่ำรวยมากที่สุดของมณฑลทางตอนใต้ หากพี่น้องของเขาเกิดมีปัญหาขึ้นที่นี่มันจะต้องลำบากอย่างแน่นอน

ฉะนั้นหวังต้าไห่จึงเกิดความลังเลใจและนึกเป็นห่วงกลัวว่าหวังเสียนนั้นจะเกิดความเดือดร้อนขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็พร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างพี่น้องของเขา

หวังเสียนยิ้มออกมาบางๆ พร้อมกับเอามือตบไหล่ของหวังต้าไห่เบาๆ 2-3 ครั้งเพื่อให้หวังต้าไห่คลายกังวล

เขานั้นรู้ถึงความคิดของหวังต้าไห่เป็นอย่างดีว่าพี่น้องตัวอวบอ้วนของเขาคนนี้กำลังนึกเป็นห่วงเขา

หลังจากนั้นหวังเสียนก็ชำเลืองมองไปเห็นชายชราสองคน สวมเสื้อคลุมแบบจีนเดินเข้ามาภายในห้องโถงของงานเลี้ยง “คนพวกนั้นก็ใส่เสื้อผ้าธรรมดาไม่ใช่หรอกหรือ?”

“อุ๊บบบ!”

“วะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ช่างเป็นคำพูดที่ไร้เดียงสาและน่าขบขันเสียจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ฮ่าๆๆ! เขาถึงกับกล้านำตัวเองไปเปรียบกับท่านผู้อาวุโสอู๋เหลาและผู้อาวุโสหลี่เหลา ชายคนนี้ช่างโง่งมยิ่งกว่ากบก้นบ่อเสียอีก ท่านผู้อาวุโสทั้งสองคนนั้นเป็นถึงปรมาจารย์ผู้อาวุโสของตระกูลที่เป็นกองกำลังระดับชั้น 2 เชียวนะ ฮ่าๆๆ!”

เมื่อหวังเสียนเพิ่งจะพูดจบประโยค กลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่อยู่ใกล้เคียงก็อดที่จะหัวเราะกันออกมาไม่ได้ พวกเขาต่างส่ายหัวและมองดูหวังเสียนเหมือนว่ากำลังมองไปยังคนโง่เง่า

กลุ่มเด็กสาวรวมถึงลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ก็ตกตะลึงกันอยู่ครู่ใหญ่ๆ พวกเธอถึงกับพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว

เดิมทีกลุ่มเด็กสาวทั้งหมดต่างคิดว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นจะต้องเป็นรุ่นที่ 2 ของตระกูลที่ร่ำรวยหรือลูกหลานในตระกูลผู้ฝึกตนที่พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่พวกเธอกลับไม่คิดว่าชายหนุ่มรูปงามคนนี้จะโง่เง่าได้มากถึงขนาดนี้

เพียงแค่การแต่งตัวของเขาที่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงระดับสูงเช่นนี้ก็ทำให้พวกเธอนั้นนึกดูถูกมากพออยู่แล้ว แต่หลังจากที่เขาแสดงความโง่เง่าออกมาพวกเธอก็นึกรังเกียจเขากันขึ้นมาในทันที

“เพื่อนร่วมชั้นคนนี้ คุณมีจดหมายเชิญมาด้วยหรือไม่?” เสี่ยวโหย่วลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่มองไปที่หวังเสียนและถามออกมาอย่างเย็นชา

“ผมมากับเพื่อน! ไม่ได้มีจดหมายเชิญใดๆทั้งนั้น!” หวังเสียนยิ้มออกมาอย่างเฉยเมยในขณะที่เขาตอบคำถาม

“นั่นสินะ! ดูแล้วก็น่าจะต้องเป็นอย่างนั้น!” ลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่มองไปที่หวังเสียนอย่างดูถูกอีกครั้ง

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเธอนั้นได้คาดเดาเอาไว้แล้วว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นคงจะไม่มีสิทธิ์ได้รับจดหมายเชิญจากผู้นำตระกูลซุนที่ขึ้นชื่อได้ว่าร่ำรวยมากที่สุดในมณฑลทางตอนใต้อย่างแน่นอน

“ต้าไห่! รักษาระยะห่างจากเพื่อนร่วมชั้นของนายจะดีกว่า มิฉะนั้นอาจจะทำให้ชื่อเสียงของคุณปู่เสียหายได้!”

(เสี่ยวโหย่วเรียกคุณตาของหวังต้าไห่ว่าคุณปู่)

ลูกพี่ลูกน้องหวังต้าไห่กระซิบบอกกับเขาเบาๆ

“ลูกพี่ลูกน้อง! เฒ่าหวัง….เพื่อนของฉันไม่ใช่คนอย่างนั้นอย่างแน่นอน!”

หวังต้าไห่ผงะไปครู่หนึ่ง สีหน้าเขาดูเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาไม่ได้คาดหวังว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะพูดจาดูถูกเพื่อนของเขาโดยตรงเช่นนี้

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

“ต้าไห่! ฟังคำพูดของพี่สาวนายเถอะ! อย่าได้สร้างปัญหาโดยไม่จำเป็นให้กับคุณตาของนายเลย!”

ชายหนุ่มคนที่เป็นแฟนของเสี่ยวโหย่วพูดสนับสนุนออกมาเบาๆ

“ฮึ! ลูกพี่ลูกน้องนี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน! เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไป แต่ฉันขอรับรองว่าสิ่งที่ฉันทำจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่คุณตาอย่างแน่นอน!” หวังต้าไห่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว

“นาย!…ฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งเรื่องส่วนตัวของนายหรอกนะ! แต่หากว่านายนั้นสร้างความเดือดร้อนให้แก่คุณปู่ ฉันจะไม่ให้อภัยนายอย่างแน่นอน!”

ลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่จ้องมองเขาด้วยความโกรธเคือง

“เฒ่าหวัง! พวกเราไปนั่งคุยกันที่ตรงนู้นเถอะ!”

หวังต้าไห่ชวนหวังเสียนออกไปนั่งยังโต๊ะอีกตัวนึงที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก

หวังเสียนยิ้มออกมาบางๆและไม่ได้พูดอะไรออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินไปนั่งยังโต๊ะเดียวกันกับหวังต้าไห่

“เฒ่าหวังนายอย่าได้ถือสาลูกพี่ลูกน้องของฉันเลย! เธอค่อนข้างที่จะถูกตามใจมาตั้งแต่เล็ก ฉะนั้นนิสัยของเธอจึงค่อนข้างจะผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย!”

หวังต้าไห่พูดกับหวังเสียนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก

“ต้าไห่! อย่าคิดมากฉันไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย! พวกเขาก็เป็นแค่เด็กวัยรุ่นเช่นเดียวกับพวกเราย่อมจะมีคำพูดที่คึกคะนองและฟังไม่ลื่นหูอยู่บ้าง นายสบายใจเถอะ!”

หวังเสียนยิ้ม ก่อนที่จะเดินไปหยิบไวน์แดงมาสองแก้วจากบริกรและส่งให้กับหวังต้าไห่หนึ่งแก้ว “ดูเหมือนว่าสถานะของนายในตระกูลจะไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่นะ ฮึๆๆ!”

“เฮ้ๆๆ! เฒ่าหวังอย่าเพิ่งคิดจะดูถูกฉันมากเกินไป ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของตระกูลที่คุณตาอยู่โดยตรง แต่ฉันก็ยังมีสิทธิ์ค่อนข้างสูงที่จะสามารถเป็นผู้สืบทอดหลักของตระกูลได้อยู่นะ!”

หลังจากนั้นหวังต้าไห่ก็แสดงความตื่นเต้นออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดเสริมออกมาอีกว่า “คุณตาของฉันมีลูกทั้งหมด 3 คนรวมถึงแม่ของฉันด้วย แต่น้าของฉันเหล่านั้นไม่มีลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว คุณตาของฉันเลี้ยงดูฉันมาในฐานะหลานชายสุดรักของเขา ถึงแม้ว่าคุณตาของฉันจะไม่ค่อยชอบหน้าพ่อของฉันมากสักเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นหลานชายคนโปรดของเขาอย่างแน่นอน!”

“โอ้วว! นี่นายเป็นถึงว่าที่ผู้นำตระกูลผู้รำรวยอันดับต้นๆของมณฑลทางตอนใต้เชี่ยวรึเนี่ย!”

หวังเสียนมองไปที่หวังต้าไห่ด้วยความประหลาดใจ

“มันก็ยังไม่แน่เสมอไปหรอกเฒ่าหวัง! ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณตาของฉันจะต้องพิจารณาก่อนที่จะส่งมอบตระกูลต่อให้แก่ฉัน!” หวังต้าไห่ยิ้มและไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ในความคิดของเขาถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปเขาก็คงจะไม่เสียใจอย่างแน่นอน

“และที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันไม่กล้าที่จะขึ้นเสียงกับฉันมากนักก็คงจะเนื่องมาจากสาเหตุนี้ด้วยเช่นเดียวกัน!”

ในครั้งนี้คุณตาของเขานั้นไม่ได้พาลูกหลานคนอื่นมาด้วย คุณตาของเขานั้นพาเขามาเพียงแค่คนเดียว ส่วนเสี่ยวโหย่วเด็กสาวคนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่เธอมาในงานเลี้ยงครั้งนี้พร้อมกับแฟนของเธอ

เมื่อเด็กสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่เห็นว่าหวังต้าไห่ชวนชายหนุ่มหน้าหล่อเพื่อนของเขาไปนั่งที่โต๊ะอื่น เธอก็เบะปากลงเล็กน้อยพร้อมกับส่ายหัวอย่างดูถูกที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอนั้นคบเพื่อนที่โง่เขลาและไร้อนาคตเช่นนี้

“ฮึ! สมควรแล้วล่ะที่มีพ่อเป็นชาวชนบทบ้านนอก ในตอนแรกคุณปู่ของฉันก็คัดค้านไม่ให้คุณป้าและพ่อของเขาแต่งงานกัน แต่คุณป้าก็ยังแอบหนีตามพ่อของเขาไป ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากที่สุดในตระกูลเลยทีเดียว!”

เสี่ยวโหย่วลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ยังคงพูดพึมพำออกมาอย่างดูถูก กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่อยู่รอบๆแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเรื่องที่เธอพูดออกมา เพราะพวกเขารู้ดีว่าคุณตาของหวังต้าไห่หรือคุณปู่ของเสี่ยวโหย่วนั้นมีอำนาจและอิทธิพลเหนือกว่าตระกูลของพวกเขา ฉะนั้นพวกเขาจึงรีบปิดหัวข้อและชวนกันคุยเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ

หวังต้าไห่และหวังเสียนยังคงพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องในมหาวิทยาลัยและเรื่องอื่นๆอย่างสนุกสนาน เวลาไม่นานหลังจากนั้นก็ค่อยๆมีคนเพิ่มเข้ามาในห้องโถงมากขึ้นเรื่อยๆ

การจัดงานเลี้ยงในห้องโถงนั้นได้แบ่งระดับเอาไว้เป็นส่วนๆ กลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลต่างๆนั้นจะนั่งอยู่ทางด้านหน้า กลุ่มคนวัยกลางคนจะนั่งอยู่ที่ตรงกลาง ส่วนทางด้านรอบนอกและทางด้านหลังนั้นจะเป็นส่วนของกลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวรุ่นเยาว์ของแต่ละตระกูล

ทางด้านรอบนอกและทางด้านหลังนั้นเป็นโซนพิเศษของกลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวโดยเฉพาะ พื้นที่ในการพูดคุยกันของพวกเขานั้นค่อนข้างกว้างขวาง เนื่องจากผู้จัดงานรู้ดีว่ากลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวเหล่านี้นั้นชอบเล่นสนุกและพูดคุยกันเสียงดัง ฉะนั้นโซนพิเศษเหล่านี้จึงไม่ได้มีความเข้มงวดอะไรมากนัก

หลังจากนั้นไม่นานพื้นที่ในโซนพิเศษก็มีคนหนุ่มสาวจากตระกูลใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงของมณฑลทางตอนใต้จำนวนมากมารวมกันอยู่ในบริเวณนี้

…………

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท