Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ – ตอนที่ 407 สามคุณชายแห่งหลี่เฉิง!

ตอนที่ 407 สามคุณชายแห่งหลี่เฉิง!

กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวมากมายที่มาในงานเลี้ยงคืนนี้ ล้วนแล้วแต่แต่งตัวกันอย่างปราณีต พวกเขาแต่ละคนนั้นดูดีกันเป็นอย่างมาก ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงหัวเราะของพวกเขานั้นแสดงออกถึงความสนุกสนานกันอย่างเต็มที่

“เชี่ยยย! ที่นี่มันสุดยอดไปเลยว้อยยเฒ่าหวัง! สาวๆทุกคนล้วนแล้วแต่สวยงามในระดับดาวมหาลัยกันทั้งนั้นเลย!”

หวังต้าไห่จับไหล่ของหวังเสียนพร้อมกับโยกตัวเขาไปมาในขณะที่มองสาวงามรอบๆตัวด้วยความตื่นเต้น

“ถ้าหากฉันได้ควงสาวๆเหล่านี้สักกลุ่มหนึ่ง ฉันยอมลดอายุขัยลงเหลือสัก 20 ปีหรือ 30 ปีเลยทีเดียว!”

“นายมีซูเฉียนที่เป็นรักแท้ของนายอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงต้องหาที่ปักธงอีกหลายหลุมด้วยล่ะ!”

หวังเสียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะหันไปพูดกับหวังต้าไห่

“เฮอะ! เมื่อพูดถึงสถานที่ปักธง นายนั่นแหละที่มันเป็นเหมือนกับมารร้ายในมหาวิทยาลัยของเรา เทพธิดาทั้งสองคนของพวกเราเหล่าชายหนุ่มแห่งมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงถูกนายหิ้วเอาไปเขมือบเสียทั้งคู่แล้ว ในหอพักชายบางห้องฉันยังเคยเห็นพวกเขาเอารูปของนายไว้ใช้เป็นเป้าซ้อมสำหรับปาลูกดอกเลย ฉะนั้นนายไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีสั่งสอนฉันเลยเฒ่าหวัง ไอ้คนมือถือสากปากถือศีล!”

หวังต้าไห่มองไปที่หวังเสียนด้วยความอิจฉาในขณะที่เขาพูด

“แต่ฉันก็อยากจะรู้จริงๆว่านายสามารถพิชิตเทพธิดาทั้งสองคนพร้อมๆกันได้อย่างไรนายช่วยสอนเทคนิคระดับเทพเจ้าให้แก่ฉันสักหน่อยจะได้มั้ย?” หวังต้าไห่แสดงท่าทางคล้ายกับลูกศิษย์ตัวน้อยที่ต้องการร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์

“ได้สิ! แต่ก่อนอื่นนายมองมาที่มือของฉันและพยายามตีความหมายจากลักษณะมือและนิ้วของฉันให้ออกให้ได้เสียก่อน!” หวังเสียนยกมือขวาของเขาขึ้นพร้อมกับค่อยๆชูนิ้วกลางให้กับหวังต้าไห่ พร้อมกับแสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา

“เชี่ยยยย! เฒ่าหวังนายนี่มันเลวมากจริงๆ ถึงกับกล้ายกนิ้วกลางและหลอกให้ฉันจ้องมองมันอยู่ตั้งนาน ไอ้คนชั่วร้าย!”

หวังต้าไห่จ้องมองไปที่หวังเสียนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง พร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความขุ่นเคือง

“ถ้าอย่างนั้นนายก็รับของฉันไป 2 อันเลยก็แล้วกัน!” เมื่อหวังต้าไห่พูดจบเขาก็ยกมือทั้งสองข้างของเขาออกมาพร้อมกับชูนิ้วกลางไปทางหวังเสียนเพื่อเป็นการแก้แค้น

ทั้งสองคนต่างหยอกล้อและเล่นกันอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเด็กสาวๆที่อยู่ในงานเลี้ยงทีละคน

เมื่อเด็กหนุ่มสองคนที่สนิทกันอยู่ด้วยกัน มันคงจะไม่มีอะไรพูดคุยสนุกไปมากกว่าเรื่องเกี่ยวกับสาวๆ

เมื่อเสี่ยวโหว่ยลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา เห็นท่าทางและการแสดงออกของชายหนุ่มทั้งสองคน ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความรังเกียจและดูถูก

“หือ? นั่นมันเสี่ยวเซี่ยงนี่นา!”

ในขณะที่หวังเสียนมองไปรอบ ๆ เขาก็เห็นร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่คุ้นเคยเดินเข้ามาในงานเลี้ยง

เด็กหนุ่มแต่งตัวด้วยชุดนักเรียน ม.ปลาย เดินเข้ามาและมองดูฝูงชนในห้องโถงด้วยความเขินอาย เห็นได้ชัดเลยว่าเขารู้สึกไม่ค่อนสบายใจกับงานเลี้ยงที่มีคนมากมายแบบนี้มากนัก

“เสี่ยวเซี่ยงที่นี่!” หวังเสียนยิ้มลุกขึ้นยืนและกวักมือเรียกเด็กหนุ่ม

เมื่อจีเซี่ยงเห็นหวังเสียนเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรีบเดินตรงเข้าไปหาหวังเสียนด้วยใบหน้าที่มีความสุข

“พี่ใหญ่หวังเสียน!”

การแสดงออกของจีเซี่ยงเต็มไปด้วยความดีใจและเขาก็เดินมายืนอยู่ข้างๆ หวังเสียนด้วยรอยยิ้ม

“ทำไมนายถึงมาคนเดียวล่ะ? พ่อของนายไปไหน?”

หวังเสียนทักทายและถามจีเซี่ยงอย่างเป็นกันเอง

“ผมบอกพ่อว่าอยากมางานเลี้ยงอย่างอิสระเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ ส่วนพ่อของผมท่านออกมาตั้งแต่เช้าแล้วและตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเขานั้นอยู่ที่ไหน!”

จีเซี่ยงตอบออกมาเสียงเบา ในขณะที่เขาใช้มือลูบที่ด้านหลังหัวของตัวเองไปมาอย่างอายๆ

“มานี่ มานั่งที่ตรงนี่!” หวังเสียนยิ้มและตบที่นั่งข้างๆเขา เมื่อเห็นแววตาที่งุนงงของหวังต้าไห่ เขาจึงอธิบายว่า “ลูกชายของเพื่อนฉัน!”

จีหยวนคุนหรือดาบคลั่งโลหิตจีที่จงรักภักดีต่อเขา เขาจึงถือว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อเขาคนนึงเลยทีเดียว

ในก่อนหน้านี้เมื่อเหล่าผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถูบุกมาที่วิลล่าริมชายหาดของเขาในเมืองเจียงเฉิง หวังเสียนไม่ได้บอกเรื่องนี้กับดาบคลั่งโลหิตจี แต่ดาบคลั่งโลหิตจีผู้นี้กลับเร่งรีบมาช่วยเขาและเผชิญหน้ากับคนของสำนักเซิ่งเหมินถูที่เป็นสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์โดยไม่มีความหวาดกลัวต่อความตายเลยแม้แต่น้อย

ในเวลานั้นดาบคลั่งโลหิตจีได้ตัดหัวสาวกผู้คุมกฎของสำนักเซิ่งเหมินถูไปหลายคน

ในตอนแรกหวังเสียนรู้สึกค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นดาบคลั่งโลหิตจีมาช่วยเขา เพราะคำสัญญาที่ดาบคลั่งโลหิตจีได้เคยให้กับเขาไว้ ทำให้อีกฝ่ายถึงกลับกล้าเผชิญหน้ากับสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้งๆที่เขาไม่ได้เชิญมาด้วยซ้ำ

สิ่งนี้มันเกินกว่าคำสัญญาการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมไปมากแล้ว ฉะนั้นในใจของหวังเสียนจึงถือว่าดาบคลั่งโลหิตจีเป็นเพื่อนแท้ ไม่ใช่คนที่เป็นหนี้บุญคุณต่อกันอีกต่อไป

ในชีวิตถือได้ว่าเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบสหายเช่นนี้

“ขอบคุณครับพี่ใหญ่!” จีเซี่ยงยิ้มและกล่าวคำขอบคุณขณะที่เขานั่งลงข้างๆหวังเสียน

“ฉันไม่ได้เจอนายเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ดูนายโตและหล่อเหลาขึ้นเยอะเลยทีเดียว!”

หวังเสียนยิ้มและตบไหล่เขาเบาๆอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณครับพี่ใหญ่หวังเสียน!” จีเซี่ยงตอบพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอายๆ

“ฮึ! มีเด็กหนุ่มอีกคนที่ไร้มารยาททางสังคมเข้ามาร่วมวงด้วย! สมควรแล้วล่ะที่คนพวกนี้จะนั่งอยู่ด้วยกัน!”

ในเวลานี้ ลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่และคนหนุ่มสาวอีกหลายคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆกับโต๊ะของหวังเสียนและหวังต้าไห่ เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมเดินเข้ามานั่งโต๊ะเดียวกัน กลุ่มคนหนุ่มสาวก็ทำสีหน้าเยาะเย้ยและดูถูกออกมาในทันที

เด็กหนุ่มที่แต่งตัวด้วยชุดนักเรียนธรรมดาๆ และมีท่าทางขี้อายซึ่งทำให้เขาดูตลกมากยิ่งขึ้น

เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่ใช่ลูกหลานของคนในตระกูลใหญ่ๆอย่างแน่นอน

ลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่รู้สึกขัดเคืองลูกนัยน์ตามากยิ่งขึ้น เธอจ้องมองไปยังพวกเขาทั้งสามคนด้วยความรังเกียจ

“นั่น!… นั่นคือกลุ่มสามคุณชาย คุณชายหนาน,คุณชายหลวนและคุณชายเฟิง!”

“พวกเขาคือทายาทสายตรงของคนตระกูลใหญ่ในเมืองหลี่เฉิงของพวกเรา ฉายาของพวกเขาก็คือสามคุณชาย!”

ในขณะนั้นสาวงามหลายคนข้างๆ ลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่เห็นใบหน้าของกลุ่มคนที่เดินเข้ามา ดวงตาของเธอเบิกกว้างและพูดออกมาเสียงดังด้วยความตื่นตะลึง

“สามคุณชาย? พวกเขาเป็นใครยังงั้นเหรอ?”

เสี่ยวโหย่วลูกพี่ลูกน้องหวังต้าไห่รีบหันไปถามเพื่อนสาวสองสามคนที่อยู่ข้างๆ เธอ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“สามคุณชาย คือฉายาที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ในเมืองหลี่เฉิงตั้งให้แก่พวกเขา พวกเขาทั้งสามคนเป็นทายาทสายตรงของคนตระกูลเฉา, ตระกูลลี่และตระกูหวู่ การดำรงอยู่ของทั้งสามตระกูลนี้ในเมืองหลี่เฉิง ไม่สามารถยั่วยุได้อย่างเด็ดขาด!”

เด็กสาวที่อยู่รอบๆไม่ทันได้ตอบ ชายหนุ่มซึ่งเป็นแฟนของเสี่ยวโหย่ว รีบหันไปอธิบายกับเธอด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและจริงจัง

กลุ่มของสามคุณชายแห่งเมืองหลี่เฉิงกำลังเดินตรงมาทางพวกเขาพร้อมกับเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวอีกจำนวนหนึ่ง

เมื่อชายหนุ่มคนที่เป็นแฟนของเสี่ยวโหย่วเห็นเช่นนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นยืนและตะโกนทักทายออกไปด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีครับคุณชายเฟิง คุณชายหลวน คุณชายหนาน !”

“อืมม!” คุณชายทั้งสามพยักหน้าเบาๆก่อนที่จะหันมองไปรอบ “ยังมีที่นั่งเหลืออยู่อีกหรือไม่?”

“มีครับคุณชาย! กรุณารอสักครู่ผมจะจัดที่นั่งให้ครับ!” ชายหนุ่มและลูกพี่ลูกน้องรวมถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวอีกหลายคนรีบยืนขึ้นและสละที่นั่งให้แก่สามคุณชายอย่างรวดเร็ว

“คุณชายทั้งสามครับ เชิญนั่งได้แล้วครับ!”

“อืม! ขอบใจ!”

ชายหนุ่มสาวสามคนเดินไปนั่งลงด้วยท่าทางที่ทะนงตน เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่อยู่ในที่นี้นั้นไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย

หลังจากนั้นชายหนุ่มที่เป็นแฟนของเสี่ยวโหย่วลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ ก็เดินมายังโต๊ะของกลุ่มหวังเสียนที่อยู่ข้างๆ

“พวกนายสามคนลุกออกไปจากที่นี่แล้วไปหาที่นั่งที่อื่นซะ!”

ชายหนุ่มคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากับกลุ่มของหวังเสียนเพื่อไล่ให้พวกเขานั้นลุกออกจากที่นั่ง

หวางต้าไห่ผงะไปครู่หนึ่งก่อนที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา “ทำไมพวกเราต้องไปด้วย! พวกเราจะนั่งอยู่ที่ตรงนี้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกนาย!”

“ต้าไห่! นายอย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากมากไปกว่านี้ นายและเพื่อนๆของนายลุกออกไปหาที่นั่งที่อื่นเถอะ หากว่าพวกนายสร้างความขุ่นเคืองให้กับคุณชายทั้งสามคน พวกนายจะเดือดร้อนเอาเสียเปล่าๆ!”

เสี่ยวโหย่วที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่ จ้องมองไปที่พวกเขาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“เสี่ยวโหย่ว! อย่าให้มันมากเกินไปนัก พวกเรานั่งที่ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเธอเลย ทำไมพวกเราจะต้องสละที่นั่งให้พวกเธอด้วยล่ะ!”

การแสดงออกของหวังต้าไห่ดูเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่เขาจ้องมองไปยังลูกพี่ลูกน้องของเขา

“แต่สิ่งที่พวกนายทำอาจจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับคุณชายทั้งสามคนและอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่คุณปู่ก็ได้นายต้องการจะทำให้ตระกูลของเรานั้นมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ? ต้าไห่!”

ใบหน้าของหวังต้าไห่กระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆพร้อมกับพยักหน้าชวนหวังเสียนให้ลุกออกไปที่อื่น

“ต้าไห่! พวกเราไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นและอย่าไปสนใจพวกเขาเลย! ปล่อยให้พวกเขาไปหาที่นั่งของพวกเขาเอง มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา!”

หวังเสียนไม่ได้สนใจลูกพี่ลูกน้องของหวังต้าไห่และกลุ่มวัยรุ่นคนอื่นๆ เขาเพียงแค่หันไปพูดกับหวังต้าไห่ด้วยน้ำเสียงที่สงบ

“ฮึ่ม! ช่างอวดดีเสียจริงๆ แค่ติดตามผู้อื่นเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ได้ แล้วคิดว่าตัวนายมีความสำคัญมากอย่างงั้นเหรอ ฉันจะบอกให้เอาบุญว่าตระกูลของพวกเราแต่ละคนที่อยู่ในที่นี่สามารถบดขยี้นายได้อย่างสบายเลยทีเดียว!”

ชายหนุ่มจ้องไปที่หวังเสียนอย่างเย็นชาเมื่อเห็นท่าทีที่หยิ่งผยองของหวังเสียน

“เร็วเข้า! รีบลุกออกไปเสียตอนนี้ หากยังสร้างปัญหามากไปกว่านี้ ฉันคิดว่าต่อให้คนที่พานายเข้ามาที่นี่ก็ไม่สามารถจ่ายราคาได้อย่างแน่นอน!”

กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวคนอื่นๆก็จ้องมองไปยังกลุ่มของหวังเสียนทั้งสามคนด้วยสายตาที่ดูถูก

หวังเสียนกวาดสายตามองไปยังกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดและยิ้มออกมาเล็กน้อย “ฮึๆ! พวกนายคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของพวกนายอย่างงั้นเหรอ? ถึงได้ทำตัวอวดเบ่งกันเช่นนี้!”

“พวกนายมันก็แค่คนบ้านนอกที่ไร้การศึกษา ที่นั่งบริเวณนี้ไม่ใช่ที่สำหรับพวกนาย รีบไปหาที่นั่งหลบมุมใกล้ๆเสียจะดีกว่าถ้าไม่อยากจะสร้างปัญหาให้กับคนในครอบครัวของพวกนาย!”

ชายหนุ่มคนที่เป็นแฟนของเสี่ยวโหย่วพูดขึ้นมาอีกครั้ง ขณะที่จ้องมองไปยังหวังเสียนและจีเซี่ยง

“นี่คือที่นั่งของพวกเรา มันไม่ถูกต้องที่พวกคุณจะไล่พวกเราออกไป!”

จีเซี่ยงเห็นคนหนุ่มสาวหลายคนจ้องมองมาที่เขาและหวังเสียนด้วยความรังเกียจ ดวงตาของเขามีสีแดงเล็กน้อยด้วยความตื่นตกใจและประหม่า แต่เขาก็ยังกัดฟันยืนหยัดพูดออกมา

“ฮึ่มม! ไอ้เด็กนักเรียนหัวโปก! อย่าปากดีให้มันมากนักรีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับเพื่อนของแกซะ! ฉันไม่รู้ว่าขยะอย่างพวกแกทำไมถึงได้เข้ามาในงานเลี้ยงของชนชั้นสูงนี้ได้? พวกแกทั้งสองคนอาจจะแอบเข้ามาก็เป็นได้”

ชายหนุ่มที่เป็นแฟนของเสี่ยวโหย่วตะคอกเสียงใส่จีเซี่ยงอย่างดูถูก

………….

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ

Status: Ongoing

แปลงร่างเป็น มังกรศักดิ์สิทธิ์ และครองโลก! ด้วยระบบมังกร เขาจะเป็นมังกรศักดิ์สิทธิ์ผู้เดียวในมหาสมุทรที่ก่อตั้งวังมังกรใต้มหาสมุทร ด้วยทหารฝูงปลาและเหล่าขุนพลสัตว์ทะเลในฐานะผู้ติดตามของเขา รวมทั้งสัตว์ทะเลขนาดมหึมาในฐานะลูกน้องคนสนิทของเขา เขาคือจักพรรดิ์มังกรผู้ปกครองวังมังกรศักดิ์สิทธิ์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท