“ข้าต้องขอขอบคุณพี่ชายทั้งสองมาก ที่มาช่วยเป็นกำลังให้แก่ข้าในครั้งนี้ ข้าสัญญาว่าสิ่งที่พี่ชายทั้งสองคนตัดสินใจในครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อพวกท่านอย่างแน่นอน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! น้องชายซุนอย่าพูดเช่นนั้น พวกเราเป็นคนกันเองทั้งนั้น การที่น้องชายซุนต้องการจะเริ่มก่อตั้งสำนักตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ พวกข้าทั้งสองคนต่างก็รู้สึกชื่นชมกันจากใจจริง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พี่ชายทั้งสองคนยกย่องข้าเกินไปแล้ว ในทีแรกข้านั้นก็ต้องการที่จะเข้าร่วมกับสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ด้วยความที่ข้าค่อนข้างรักอิสระข้าจึงคิดว่าสมควรจะก่อตั้งสำนักขึ้นมาเองจะดีกว่า บางทีหลังจากนี้ไม่นานสำนักของข้าอาจจะกลายเป็นสำนักระดับชั้นที่ 1 ก็ได้ และหากว่าโชคดีอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าสำนักของข้านั้นก็อาจจะได้เป็นถึงสำนักระดับชั้นศักดิ์สิทธิ์กับเขาบ้างก็ได้ ฮ่าฮ่า!”
ชายหนุ่มลูกครึ่งลูกชายของผู้นำตระกูลซุนพูดคุยกับชายหนุ่มทั้งสองคนด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงกล้า
ชายหนุ่มทั้งสองคนยิ้มบาง ๆ และไม่พูดอะไร
ถึงแม้ว่าระดับความแข็งแกร่งของซุนหลงเซวียนจะอยู่เพียงแค่ระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ หากคิดจะก่อตั้งสำนักถือได้ว่าความสามารถในระดับนี้ค่อนข้างแย่ แต่ใครใช้ให้เขาร่ำรวยและมีอำนาจทางการเงินอย่างมากมายมหาศาลกันล่ะ?
ถึงแม้ว่าบางครั้งระดับความแข็งแกร่งส่วนตัวของผู้นำจะไม่มากก็ตามที แต่ด้วยจำนวนเม็ดเงินนับแสนล้าน มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะสามารถสร้างสำนักที่มีความแข็งแกร่งขึ้นมาได้
“น้องชายซุน! หากว่าน้องชายซุนต้องการจะก่อตั้งสำนักจริงๆ อันดับแรกก็ควรจะต้องรับสมัครกลุ่มสาวกจำนวนหนึ่งซะก่อน และระดับความสามารถและพรสวรรค์นั้นก็จะต้องค่อนข้างดี ส่วนที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือกลุ่มผู้อาวุโสและกลุ่มผู้บริหารงานระดับสูงของสำนัก หากไม่มีปัจจัยเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องยากที่จะก่อตั้งสำนักมาได้!”
ชายหนุ่มสองคนเตือนซุนหลงเซวียน ชายหนุ่มลูกครึ่งที่เป็นบุตรชายของผู้นำตระกูลซุน
“ข้าเองก็มีความตั้งใจอย่างนั้นเช่นเดียวกัน การที่ข้าเข้ามาร่วมในงานเลี้ยงที่ท่านพ่อได้จัดขึ้นในวันนี้ จุดประสงค์ของข้านั้นก็คือต้องการรับสมัครผู้ที่ต้องการจะเข้าร่วมกับสำนักของข้า และในครั้งนี้ข้าคงต้องขอรบกวนพี่ชายทั้งสองคนให้ความร่วมมือกับข้าด้วย!”
สายตาของซุนหลงเซวียนจ้องมองไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น “ทั่วทั้งเขตมณฑลทางตอนใต้ของเรามีกลุ่มกองกำลังที่แข็งแกร่งเพียงไม่มีกี่กลุ่มเท่านั้น หากว่าข้าสามารถจัดตั้งสำนักของตัวเองขึ้นมาได้อย่างน้อยๆ ข้าคิดว่าความแข็งแกร่งของสำนักที่ข้าตั้งขึ้นมานี้จะต้องอยู่ไม่ต่ำกว่าอันดับ 3 ในมณฑลทางตอนใต้นี้อย่างแน่นอน!”
“นอกจากนี้ด้วยอิทธิพลของท่านพ่อของข้า รวมถึงสมบัติจิตวิญญาณและทักษะวิชาที่ข้าได้สะสมเอาไว้ ข้าเชื่อว่าจะผู้มีความสามารถหลายคนอยากเข้าร่วมกับพวกเรา!”
ซุนหลงเซวียนกวาดสายตามองคนทั้งหมดที่อยู่ในงานเลี้ยงและยิ้มออกมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาจึงเดินตรงไปที่กลางงานเลี้ยงแล้วก้าวเดินขึ้นไปที่บนเวทีอย่างช้าๆ
ฝูงชนในห้องจัดเลี้ยงมองไปที่ลูกชายของผู้นำตระกูลซุน ที่กำลังยืนอยู่บนเวทีกลางห้องจัดเลี้ยงด้วยความสงสัย
“สวัสดีทุกๆท่าน! ก่อนอื่นเลยข้าคงต้องขออภัยด้วยที่ต้องรบกวนเวลาอันมีค่าของพวกท่าน!”
ซุนหลงเซวียนยกมือคาราวะคนในงานเลี้ยง แต่กระนั้นเขาก็ยังคงแสดงความเป็นผู้สูงศักดิ์ออกมาด้วยการเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยและเหลือบมองไปยังคนทั้งหมดที่อยู่ในงานเลี้ยงด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ข้าซุนหลงเซวียน ทายาทแห่งตระกูลซุน รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พบทุกๆท่านในที่นี้!”
ซุนหลงเซวียนยืดอกขึ้นและพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ หลังจากนั้นเขาก็แสดงรอยยิ้มที่มุมปากพร้อมกับก้าวเดินไปข้างหน้าเวทีอีกเล็กน้อย พลังระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณแผ่ออกมาจากตัวเขา ประกายแสงสีทองจางๆส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง
“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าได้แสดงตัวของข้าต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ หากมีสิ่งผิดพลาดประการใดโปรดให้อภัยและให้คำชี้แนะแก่ข้าด้วย!”
บรึบบบ!
หลังจากที่ซุนหลวเซวียนพูดจบเสื้อผ้าและเส้นผมของเขาก็โบกสะบัดปลิวไสวคล้ายกับว่ามีลมหมุนอยู่รอบๆตัวเขา มิหนำซ้ำยังมีแรงบีบบังคับอันทรงพลังส่งกระจายออกไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยงอีกด้วย
“อาา! แรงกดดันนี้ช่างทรงพลังจริงๆ!
“นี่คือบุตรชายของผู้นำตระกูลชนอย่างนั้นหรือ? ช่างหล่อเหลายิ่งนัก มิหนำซ้ำเขายังเป็นผู้ฝึกตนที่น่าเกรงขามมากอีกด้วย!”
“ดูแล้วความแข็งแกร่งของเขาน่าจะอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณอย่างแน่นอน!”
“ชายหนุ่มคนนี้นั่นคือซุนหลงเซวียน อย่างนั้นรึ? ข้าไม่ได้เห็นเขามาตั้งหลายปีแล้ว ในตอนนี้เขาคงจะมีอายุประมาณ 23 – 24 ปี นี่เขาโตแล้วช่างดูหล่อเหลามากจริงๆ และด้วยวัยเพียงเท่านี้แต่กลับมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณเชียวรึ ในหมู่ยอดยุทธรุ่นเยาว์ทั้งหมดของมณฑลทางตอนใต้เขาคงจะอยู่ในอันดับต้นๆอย่างแน่นอน!”
ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงต่างรู้สึกได้ถึงออร่าอันแข็งแกร่งของซุนหลงเซวียนที่แสดงออกมา ทุกคนต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึง
พ่อของเขาเป็นมหาเศรษฐีในเขตมณฑลทางตอนใต้ และตัวเขาเองที่มีอายุ 23 – 24 ปี แต่มีระดับการบ่มเพาะที่สูงล้ำ นี่นับว่าเป็นบุตรชายแห่งสวรรค์ที่น่าภาคภูมิใจจริงๆ
ซุนหลงเซวียนมองทุกคนที่อยู่ด้านล่างด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขานั้นแสดงถึงความพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“วันนี้ข้ามีสิ่งหนึ่งที่อยากจะประกาศให้ทุกคนได้ทราบ!”
หลังจากที่ซุนหลงเซวียนได้แสดงระดับการบ่มเพาะของเขาให้ทุกคนได้ทราบถึงความแข็งแกร่งของเขาแล้ว เขาก็พูดออกมาด้วยท่าทางที่สง่างามเหมือนกับปรมาจารย์
“ด้วยระดับความแข็งแกร่งครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณของข้า ข้าขอประกาศว่าในวันนี้ข้าจะเปิดสำนักและสร้างโรงยุทธภัณฑ์ขึ้นมา!”
“และผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆข้าทั้งสองคนนี่คือทายาทแห่งตระกูลโบราณที่ซ่อนเร้น ตระกูลของพวกเขานั้นมีความสามารถในการหลอมสร้างยุทธภัณฑ์หลากหลายชนิด และพวกเขาจะกลายเป็นผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสำนักในอนาคต!”
“นี่คือตัวอย่างของอาวุธ!”
ซุนหลงเซวียนพูดจบ เขาก็พลิกฝ่ามือของเขาขึ้นมา ดอกบัวโลหะที่อยู่ในมือของเขาก็บินตรงไปยังโต๊ะที่ว่างเปล่าทางด้านหน้า
ปังงง!
กลีบดอกบัวหมุนตกไปที่โต๊ะตรงหน้า หลังจากนั้นโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ก็ถูกตัดขาดออกจากกันจนเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดาย
ฟ้าววว!
หลังจากนั้นดอกบัวโลหะก็บินกลับเข้ามาอยู่ในมือของซุนหลงเซวียนตามเดิม
“และนี่คือตัวอย่างหนึ่งในชุดเกราะของพวกเรา!”
ในขณะที่เขาพูด โลหะที่อยู่ตรงแขนทั้งสองข้างของเขาก็ขยายตัวรวมกันกลายเป็นชุดเกราะอย่างรวดเร็ว
ชุดเกราะโลหะห่อหุ้มตัวของเขาจนดูคล้ายกับไอรอนแมน
แคร่กกๆๆๆๆ!
หลังจากนั้นปีกโลหะสีดำคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นทางด้านหลังของซุนหลงเซวียน
เขากระพือปีกเบา ๆ และตัวเขาก็ลอยขึ้นสูงจนเกือบจรดถึงเพดานของห้องโถง หลังจากนั้นตัวของเขาก็ลอยค้างหยุดอยู่นิ่งกลางอากาศ ไม่ต่างจากยืนอยู่บนผืน
“นี่คือตัวอย่างยุทธภัณฑ์ที่ข้าได้นำมาเสนอให้แก่ทุกๆท่านได้รับชม อุปกรณ์เหล่านี้นั้นใช้พลังลมปราณในการขับเคลื่อนในจำนวนที่น้อยมาก ฉะนั้นทุกๆท่านไม่ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะของพวกท่าน ถึงแม้ว่าระดับชุดเกราะชุดนี้นั้นจะยังไม่แข็งแกร่งมากนักแต่ข้าสามารถรับประกันได้เลยว่า ผู้ที่มีความแข็งแกร่งไม่เกินกว่าระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณไม่สามารถโจมตีผู้ที่สวมชุดเกราะนี้ให้ได้รับบาดเจ็บได้!”
“และต่อไปในอนาคตข้ามีความคิดจะเสริมสร้างยุทธภัณฑ์เหล่านี้ให้พัฒนาจนกลายเป็นยุทธภัณฑ์ระดับก่อกำเนิดจิตวิญญาณ เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้ตัวของพวกท่านเป็นเพียงแค่นักรบระดับ 7 หรือระดับ 8 เมื่อต้องต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณพวกท่านจะไม่พ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”
“และในวันนี้เป็นโอกาสอันดีแล้วสำนักของเราเพิ่งจะถูกก่อตั้งขึ้น ฉะนั้นข้าจึงต้องการจะรับสมัครสาวกรุ่นแรกของสำนัก เพื่อที่จะสร้างชื่อเสียงให้แก่สำนักของพวกเราให้โด่งดังไปทั่วทั้งยุทธภพไปพร้อมๆกัน ฮ่าฮ่า!”
ซุนหลงเซวียนพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ดวงตาของเขากวาดมองไปยังทุกๆคนในงานเลี้ยง
“ข้าไม่รู้ว่ามีใครประสงค์จะเข้าร่วมสำนักของข้าหรือไม่ ข้าขอรับประกันตรงนี้เลยว่าสำนักของข้านั้นไม่ขาดแคลนทรัพยากรในการบ่มเพาะและทรัพย์สินทางด้านการเงินเลยแม้แต่น้อย นอกจากทรัพยากรที่ใช้สำหรับการฝึกฝนและบ่มเพาะแล้วผู้ที่เข้าร่วมสำนักของข้า ทุกๆคนจะมีเงินเดือนตามความสามารถไว้ให้ใช้จ่ายอีกด้วย!”
“โอ้พระเจ้า! นี่คือสุดยอดสำนักอย่างแท้จริง ไม่มีเพียงแต่มีทรัพยากรในการฝึกฝนให้เท่านั้น ยังมีเงินเดือนเอาไว้ให้ใช้จ่ายอีกต่างหาก!”
“ข้าต้องเข้าร่วมสำนักของคุณชายซุนให้ได้ ต่อให้ไม่มีเงินเดือนหรือทรัพยากรในการบ่มเพาะ เพียงแค่ยุทธภัณฑ์เหล่านั้นก็น่าดึงดูดใจมากเกินพอแล้ว!”
“ช่างน่าสนใจอย่างแท้จริง เป็นถึงบุตรชายของมหาเศรษฐีอันดับ 1 แห่งมณฑลทางตอนใต้ มิหนำซ้ำยังมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ข้าคิดว่าต่อไปในอนาคตสำนักที่ก่อตั้งโดยนายน้อยซุน จะต้องกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งแห่งมณฑลทางตอนใต้อย่างแน่นอน!”
“ชายหนุ่มทั้งสองนั้นก็ดูทรงพลังเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เขาเป็นถึงทายาทของตระกูลโบราณที่ซ่อนเร้น และข้าคิดว่าระดับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นจะต้องไม่ต่ำกว่าระดับก่อกำเนิดลมปราณแน่ๆ!”
“นี่มันสุดยอดมากจริงๆ! เพิ่งเริ่มก่อตั้งสำนักก็มีผู้แข็งแกร่งระดับก่อกำเนิดลมปราณถึงสองคนมาเป็นผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ มิหนำซ้ำพวกเขาทั้งคู่ยังเป็นทายาทของตระกูลโบราณที่ซ่อนเร้นอีกด้วย นี่ก็เท่ากับว่าสำนักของนายน้อยซุนนั้นมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งคอยหนุนหลังอยู่อีก 1 ตระกูล!”
“หากว่าพวกเราได้เข้าร่วมกับสำนักตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ข้าคิดว่านายน้อยซุนคงจะต้องดูแลกลุ่มสาวกรุ่นแรกๆอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว และไม่แน่ในอนาคตพวกเราอาจจะกลายเป็นกลุ่มผู้อาวุโสของสำนักก็เป็นได้!”
ใบหน้าของผู้คนในห้องจัดเลี้ยงนั้นล้วนแล้วแสดงออกกันถึงความตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก ด้วยระดับความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและความสามารถของซุนหลงเซวียน พวกเขาทุกคนสามารถจินตนาการได้เลยว่าสำนักที่กำลังจะก่อตั้งขึ้นมานี้จะต้องรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งมณฑลทางตอนใต้แน่นอน
ซุนหลงเซวียนมองดูฝูงชนด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจ หลังจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาเสียงดังอีกว่า
“การเข้าร่วมกับสำนักของข้านั้นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดสำหรับพวกท่านแล้ว ข้าขอสัญญาว่าข้าจะดูแลพวกท่านทุกคนเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรทางด้านการฝึกฝนรวมถึงสวัสดิการทางด้านการเงิน และที่สำคัญที่สุดข้าสามารถดูแลความปลอดภัยของคนในครอบครัวของพวกท่านรวมถึงตัวของพวกท่านได้ ถึงแม้จะจำกัดขอบเขตอยู่แค่ในมณฑลทางตอนใต้เท่านั้น แต่ข้าก็เชื่อว่านี่ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นหลักประกันให้แก่พวกท่านได้!”
……….
