Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 44

ตอนที่ 44

บทที่ 44: ไม่ละอายแก่ใจตัวเอง

ตอนเลิกงานช่วงค่ำ เวินจิ้งเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอต้องบอกมู่วี่สิงว่าจะไม่กลับไปกินข้าวตอนกลางคืน

ในมือถือเธอเซฟเบอร์เขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมยังเป็นชื่อว่า “สามี” อีกด้วย

มุมปากเวินจิ้งกระตุก เปลี่ยนชื่อเป็น “คุณหมอมู่” แล้วถึงจะโทรหาเขา

“เลิกงานแล้วหรอ” มู่วี่สิงรับสายโดยเร็ว

“ยัง คืนนี้ฉันมีธุระนะ จะกลับไปดึกหน่อย”

“โอเค ถ้าเลิกแล้วโทรมาหาผมนะ เดี๋ยวผมไปรับ”

“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะไปกินข้าวกับเถียนเถียน สถานที่ยังไม่ได้คิดเลย” เวินจิ้งพูดขึ้น แต่ไม่ได้พูดถึงฉินเฟย

“ถ้าได้ที่แล้วบอกผมนะเด็กดี”

เวินจิ้งชะงัก น้ำเสียงอ่อนหวานนี้ทำให้เธอหัวใจละลาย

เธอวางสายไปแล้วเงยหน้ามองตัวเองในกระจก ทำไมหน้าแดงอีกแล้วหละ…

……

ณ โรงแรมซิงหาว

เสี้ยวหงจองห้องวีไอพีไว้ อั้ยเถียนและเวินจิ้งนั่งอยู่ในนั้น แต่ผ่านเวลานัดไปครึ่งชั่วโมงแล้วฉินเฟยยังไม่ถึงอีก

เสี้ยวหงขมวดคิ้ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเครียด ไม่มีใครกล้าทำตัวแบบนี้กับเขามาก่อน

ขณะที่กำลังลุกขึ้นยืนแล้วจะเดินออกไป ฉินเฟยมาถึงอย่างเอ้อระเหย

“ขอโทษค่ะประธานเสี้ยว รถติดหนะค่ะ” ฉินเฟยในชุดสูทสีดำ ผมลอนปล่อยลงมา หน้าตาแลดูน่าหลงไหลเป็นอย่างยิ่ง

“คุณฉินเชิญนั่งครับ แต่ผมหวังว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ทุกนาทีของผมมีค่ามาก” เสี้ยวหงพูดด้วยเสียงทุ้มและแฝงไปด้วยความดุดัน

ฉินเฟยยิ้มๆ สายตาหันไปทางเวินจิ้งที่อยู่ข้างๆ สีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันที

ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงมาด้วย?

“ประธานเสี้ยวคะ ฉันอยากรู้ว่าทีมงานรับผิดชอบโครงการนี้ของเทียนอีพวกคุณ” ฉินเฟยเปิดประเด็น

เสี้ยวหงสั่งให้อั้ยเถียนส่งเอกสารไปให้ ชื่อของเวินจิ้งอยู่บนนั้นจริงๆ ด้วย

“คนที่ผมจัดเตรียมไว้ล้วนเป็นคนที่มีประสบการณ์มากพอในเทียนอี คุณฉีไม่พอใจตรงไหนหรือเปล่าครับ?”

ฉินเฟยชะงักไป “ก็ไม่เชิงไม่พอใจหรอก แต่ก็มีบางคนแหละ ฉันจำได้ว่าเธอเคยมีประวัติที่ไม่ดีอะค่ะ”

อั้ยเถียนมองหน้าฉินเฟย อดไม่ได้ที่จะเถียงกลับ แต่เวินจิ้งดึงเธอเอาไว้

“ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณฉิงก็ไม่ควรโยงเข้าเรื่องงานนะครับ” เสี้ยวหงขมวดคิ้ว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ตอนนั้นฉันเรียนที่เดียวกันกับเวินจิ้ง ประธานเสี้ยวคงจะไม่รู้สินะ วิทยานิพนธ์กับการทดลองตอนนั้นของเวินจิ้งลอกมาทั้งนั้น โดนสถาบันลงโทษ ในเมื่อจริยธรรมเธอมีปัญหา แล้วในรายชื่อทีมงานมีชื่อเธอหละก็ ฉันคงตอบตกลงไม่ได้หรอกค่ะ” ฉินเฟยพูดด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง สายตาเวินจิ้งตกอยู่บนอย่างเรียบเนียน

สายตาเฉียบคมของเสี้ยวหงหันไปทางเวินจิ้ง “เรื่องจริงเหรอ?”

สีหน้าเวินจิ้งขาวซีดทันที เรื่องนี้โดนฉินเฟยขุดออกมา ทำเอาเธอทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

เธอมองไปทางฉินเฟยที่สายตาเต็มไปด้วยความเหี้ยม แน่นอนว่าตั้งใจจะให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่แก้ตัวไม่ได้

ตอนนั้นเป็นอย่างงั้น ตอนนี้ก็ใช่

“ประธานเสี้ยวคะ ตอนนั้นฉันบริสุทธิ์ละไม่ละอายกับตัวเองด้วย” เวินจิ้งตอบไปอย่างมุ่งมั่น

ฉินเฟยหัวเราะอย่างเย็นยะเยือก ใครจะไปเชื่อ?

“คุณฉินครับ เวินจิ้งทำงานในบริษัทการผลิตยาเทียนอีมา 3 ปีแล้ว ส่วนเรื่องคุณธรรมจริยธรรมของเธอเดี๋ยวทางบริษัทจะตรวจสอบเอง ถ้าเธอไม่เหมาะสมจริงๆ ผมก็ไม่เก็บเธอไว้อยู่แล้ว”

เสี้ยวหงคงจะไม่สงสัยพนักงานในบริษัทตัวเองเพราะไม่กี่ประโยคของฉินเฟย

“งั้นรอให้พวกคุณจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อนแล้วกัน แล้วพวกเราค่อยว่ากันอีกที” พูดจบ ฉินเฟยไม่ได้จะคุยต่อไป หันหลังแล้วจะเดินจากไป

เสี้ยวหงพิงเบาะหลัง เสียงเย็นชาดังขึ้น “ช่วงนี้บริษัทที่เทียนอีร่วมมือด้วยก็ไม่น้อยเหมือนกัน คุณฉินครับ ถ้าคุณไม่มีใจร่วมงาน ผมก็ไม่อยากเสียเวลาแล้ว”

ฉินเฟยไม่คิดว่าเสี้ยวหงจะมีท่าทางแบบนี้ เธอรู้สึกไม่พอใจ เธอคิดว่าก่อนหน้านั้นที่บริษัทการผลิตยาเทียนอีเกือบล้มละลาย แน่นอนว่าต้องกอดบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเอาไว้แน่นอนอยู่แล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท