Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 40

ตอนที่ 40

บทที่ 40 ไม่เกี่ยวกันสักนิด

กระทั่งคนรับใช้เคาะประตูเข้า เวินจิ้งถึงได้สติกลับมา ยกเท้าถีบมู่วี่สิงลงไปจากตัว

ชายหนุ่มย่นคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ ร่างก้าวถอยหลัง

เวินจิ้งมองเท้าตัวเอง เมื่อกี้เหมือนกับว่าเธอเตะไปโดนบางส่วนที่ไม่ปกติ…

หนังหัวเธอชาวาบ รีบดึงผ้าห่มเข้ามา “ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจ! คุณรีบไปเปิดประตูเร็วเข้า”

มู่วี่สิงหรี่ตาขึ้น “คุณนายมู่ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับความสุขในอีกครึ่งชีวิตที่เหลือของคุณนะ อ่อนโยนหน่อย เข้าใจรึเปล่า?”

เวินจิ้งนิ่งอึ้ง มู่วี่สิงพูดอะไร…

คนรับใช้ขึ้นมาส่งนมให้เวินจิ้ง เธอมีนิสัยชอบดื่มนมก่อนนอน

เห็นสีหน้ามืดครึ้มของมู่วี่สิง คนรับใช้ก็รีบวางแก้วลงแล้วจากไปทันที

ปกติเวลาอยู่บ้านนิสัยของมู่วี่สิงนับได้ว่าอบอุ่น น้อยมากที่จะเห็นเขาโกรธแบบนี้

“ดื่มซะ” เสียงของมู่วี่สิงมีความเยือกเย็นอยู่หลายส่วน

สิ้นคำเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ

เวินจิ้งมองเงาหลังมืดครึ้มของเขา จากนั้นก็กลับมานึกถึงคำพูดที่มู่วี่สิงเอ่ยไว้ก่อนหน้านี้ ต่อมาก็เข้าใจแจ่มแจ้งในทันทีจนเกือบเผลอพ่นนมออกมาจากปากคำหนึ่ง

ความสุข? ความสุขของเธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมู่วี่สิงสักนิดเดียว!

……

วันต่อมา บริษัทการผลิตยาเทียนอี

มู่วี่สิงมาส่งเวินจิ้งก่อน จากนั้นจึงค่อยไปทำงานที่โรงพยาบาล

ระยะทางจากตึกใหญ่เหลืออีกสองฟากถนน เวินจิ้งก็ให้มู่วี่สิงจอดรถ

“เลิกงานแล้วเดี๋ยวผมมารับ”

“หืม?” เวินจิ้งสงสัย ช่วงนี้มู่วี่สิงไม่ต้องเข้าเวรหรือไงกัน?

“อืม ฟังที่บอก” มู่วี่สิงลูบหัวเวินจิ้งอย่างรักใคร่

เส้นผมของเธอนุ่มราวกับขนสุนัข

เห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของมู่วี่สิง เวินจิ้งก็ไม่ได้ปฏิเสธ ยังไงเสียเขาก็ต้องมารับเธออยู่ดี

พอมาถึงห้องทำงานเวินจิ้งก็ถูกเรียกเข้าประชุม รายการแรกหลังจากบริษัทการผลิตยาเทียนอีถูกซื้อต่อไปก็คือร่วมมือกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปคิดค้นยาสูตรใหม่

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเพิ่งเข้ามาตั้งหลักปักฐานในเมืองหนาน จำเป็นต้องร่วมมือกับองค์กรใหญ่ดั้งเดิม แต่เทียนเพิ่งจะกลับมาทำการใหม่อีกครั้ง แต่ว่าความสามารถที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่นั้นก็เป็นจุดหนึ่งที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปใช้พิจารณาในการยอมร่วมมือด้วย

อั้ยเถียนเดิมเป็นกระดูกสันหลังของแผนกการค้า แต่เพราะความสามารถที่โดดเด่นออกมาจากผู้คนก็เลยถูกเลือกให้รับผิดชอบรายการนี้ไป และเพราะเป็นผู้นำ เวินจิ้งจึงรับผิดชอบเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของอั้ยเถียน ทั้งคู่ช่วยกันดูแลรายการนี้

แต่ว่า ฉินเฟย…

เวินจิ้งมองเอกสารก็รู้สึกชาวาบที่หนังหัว นี่แปลว่าเธอต้องเจอหน้าฉืออี้เหิงด้วย

อั้ยเถียนดูออกว่าเวินจิ้งกำลังกังวลก็ตบไหล่เธอเบาๆ “อย่าคิดมาก แค่ทำงานน่า”

“ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ไม่อย่างนั้นจะไม่ดึงเธอเข้ามาร่วมด้วย” อั้ยเถียนถอนหายใจ

เธอเห็นว่าคะแนนการทำงานของเวินจิ้งหลายปีมานี้นิ่งมากก็คิดจะช่วยดันเธอ กลับคิดไม่ถึงว่าพอรับไม้มาก็กลายเป็นต้องร่วมมือกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

“ไม่เป็นไร อย่าคิดมาก” เวินจิ้งยิ้ม มองโลกในแง่ดี

ตกบ่าย เวินจิ้งกับอั้ยเถียนไปร่วมประชุมที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

คนที่ติดต่อกับพวกเธอก็คือรองผู้จัดการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปชื่ออวี๋เว่ย ตอนนี้การพัฒนาดำเนินไปอย่างราบรื่น ทั้งสองบริษัทมีเจตนาที่จะร่วมมือกันอย่างแข็งกล้า ขอแค่ประธานลงนามก็เป็นอันได้เริ่มต้นการพัฒนาการวิจัยอย่างเป็นทางการ

ตอนที่ออกมาจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป อวี๋เว่ยก็มาส่งพวกเขาด้วยตัวเอง

ตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออก ฉินเฟยก็ยืนอยู่ข้างใน

พอเห็นเวินจิ้งสีหน้าเย็นชาก็เผยออกมา

“เวินจิ้ง เธอมาทำอะไรที่นี่?” ฉินเฟยถามเสียงเย็น

อวี๋เว่ยตั้งใจจะทักทายฉินเฟย พอได้ยินประโยคนั้นหน้าก็เปลี่ยนสี

ใครก็ดูออกว่าฉินเฟยมีเจตนาเป็นอริกับเวินจิ้ง

เวินจิ้งสูดหายใจลึก น้ำเสียงปกติ “ฉันมาเรื่องงาน”

“เรื่องงาน?” ฉินเฟยมองอวี๋เว่ย

ทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าเวินจิ้งเกี่ยวข้องกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท