Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 56

ตอนที่ 56

บทที่ 56 ฉันเป็นผู้ชายของเธอ

ณ ร้านอาหารหยูนติ่ง

โต๊ะยาวถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นคนจากบริษัทการผลิตยาเทียนอี ส่วนอีกฝั่งเป็นคนจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป และตรงกลางนั่นเป็นที่นั่งของฉืออี้เหิง

เวินจิ้งนั่งลงยังด้านหนึ่งของโต๊ะ เธอพึ่งจะโทรบอกมู่วี่สิงว่าเย็นนี้เธอไม่ได้กลับไปทานข้าวด้วย

พอวางสายปุ๊บฉืออี้เหิงก็เดินเข้ามาพอดี แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าที่นั่งของเขานั้นอยู่ตรงกลาง

พอเห็นอย่างนั้น เขาก็สลับที่นั่งมานั่งข้างเวินจิ้งแทน!

“ตามสบายเถอะทุกคน ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากหรอก ยังไงต่อจากนี้พวกเราก็ยังจะต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน สนิทกันไว้เถอะ” พอฉืออี้เหิงพูดอย่างนั้น ทุกคนก็ผ่อนคลายกันมากขึ้น

เวินจิ้งเองก็คุยกับอั้ยเถียนอยู่ตลอด เธอไม่มีท่าทีสนใจฉืออี้เหิงที่นั่งอยู่ข้างๆเธอเลยแม้แต่น้อย

“การที่ได้ทำงานกับมู่วี่สิงเป็นอะไรที่ฉันใฝ่ฝันมาทั้งชีวิตเลยนะแก” หนึ่งในพนักงานของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“มันเกินกว่าที่ฉันฝันเอาไว้อีกกกก!” อีกคนพูดขึ้น

“เขาเป็นทั้งคนที่มีชื่อเสียง เป็นทั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาล เขาจะมีเวลามาทำตรงนี้อย่างนั้นจริงๆหรอ” เสียงที่เป็นกังวลลอยขึ้นมา

“เขาจัดการได้อยู่แล้วแหละ เมื่อก่อนตอนที่ฉันไปฝึกงานที่โรงพยาบาลของเขานะ เขาทำงานทั้งที่ห้องทำงาน ทั้งเข้าไปตรวจคนไข้ ทั้งทำงานวิจัย ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนแน่ะ”

“โห เหนื่อยแย่เลย น่าเป็นห่วงจัง ถ้าฉันได้เป็นคนดูแลเขาก็คงจะดีสินะ!”

“หยุดคิดเลยนะยะ! เขาเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงทุกคนในเมืองหนานเฉิง แกน่ะ หยุดฝันหวานไปได้เลย!”

มือของเวินจิ้งที่ถือส้อมกับมีดอยู่นั้นสั่น ไม่คิดว่าจะมีคนพูดถึงมู่วี่สิงมากมายขนาดนี้

แฟนคลับของเขามีอยู่ทุกที่จริงๆ ไม่เว้นแม้แต่ที่ทำงาน หรือไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ล้วนก็ชอบมู่วี่สิงกันไปหมด

“จิ้ง เป็นแบบที่เขาพูดกันจริงๆรึเปล่า” ฉืออี้เหิงถาม

ถึงเขาสองคนจะนั่งข้างกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นจุดสนใจของใคร

“เขาก็ยุ่งแบบนี้แหละค่ะ” จริงๆแล้วเวินจิ้งไม่อยากตอบ ที่เธอตอบก็เพราะเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยและเขาก็มีสถานะเป็นหัวหน้าของเธอ

“อย่างงั้นก็ไม่มีเวลามาดูแลเธอเลยอย่างงั้นสิ” ฉืออี้เหิงขมวดคิ้ว

“ฉันดูแลตัวเองได้”

“แต่เธอเคยเกือบจะทำห้องครัวไหม้มาแล้วนะ” ฉืออี้เหิงพูดยิ้มๆเหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่

เวินจิ้งขมวดคิ้ว นั้นมันเมื่อก่อน หลังจากที่เธอเลิกกับฉืออี้เหิงไป เธอก็ทำอาหารเก่งขึ้นมากแล้ว

“คนเรามันเปลี่ยนกันได้” เวินจิ้งตอบเสียงเรียบ

“หรอ แต่มีอย่างนึงที่เปลี่ยนไม่ได้นะ” ฉืออี้เหิงพูดด้วยกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

เวินจิ้งไม่พอใจ พยายามขยับตัวออกห่างจากเขา

อั้ยเถียนที่สังเกตเห็นเลยถามขึ้น : “อยากเปลี่ยนที่กันไหม”

เวินจิ้งส่ายหน้า เพราะเธอไม่อยากจะเป็นจุดสนใจของใคร

แต่อยู่ดีๆสายจากมู่วี่สิงก็โทรเข้ามา

“ยังทานอยู่หรือเปล่า” เขาที่พึ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลถาม

“อืม”

“อีกนานไหม ฉันกำลังไปรับ”

“อืมมม… น่าจะใกล้เสร็จแล้วล่ะ”

“งั้นรอนิดนึงนะที่รัก”

เวินจิ้งยิ้ม อารมณ์ที่คุกรุ่นเมื่อสักครู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง

กลับกันกับที่ฉืออี้เหิงนั่งหน้าเครียดอยู่

หัวข้อบทสนทนาของทุกคนในค่ำคืนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมู่วี่สิง อั้ยเถียนก็มีพูดแทรกไปบ้างว่าเธอก็เป็นแฟนคลับของมู่วี่สิงเหมือนกัน แล้วถึงตอนนี้กลุ่มแฟนคลับจะถูกยุบไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงเก็บข้อมูลข่าวสารของเขาอยู่

“อั้ยเถียน ถ้าคุณรู้จักหมอมู่ คุณช่วยพาเขามาเจอกับพวกเราหน่อยได้ไหม พวกเรามีเรื่องจะปรึกษาเขาน่ะ” มีคนพูดขึ้น

“ฉันรู้จักเขาก็จริง แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาตัวเป็นๆมาก่อนเลย ได้ข่าวว่าเขาหล่อมาก! พระเจ้า! เขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจริงๆ”

“อย่าได้คิดเชียวนะ เขายุ่งจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนมาคุยกับพวกเรา”

อั้ยเถียนมองเวินจิ้งอย่างซุกซนและรอให้มู่วี่สิงมารับเธอ

ทุกคนต้องอึ้งแน่ที่เห็นเขามา

ฉืออี้เหิงรู้สึกเซง ทั้งที่เขาเป็นหัวหน้าระดับสูงของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมาหลายปีแล้วแท้ๆ

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจในความสามารถของเขาเลยสักนิด คิดแต่ว่าที่เขาได้อยู่ตำแหน่งนี้คงเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเขากับฉินเฟย

พอคิดอย่างนั้น เขาก็เดินออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่มู่วี่สิงมาถึงพอดี

เขาสองคนสบตากันโดยบังเอิญ

“หมอมู่… มารับเวินจิ้งอย่างนั้นเหรอ” ฉืออี้เหิงดับบุหรี่ทิ้ง แล้วมองมู่วี่สิงตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ครับ”

“ที่เธอแต่งงานกับคุณ ก็เพราะผมกลับมาก็เท่านั้นแหละ เธอแค่อยากจะประชดผม” ฉืออี้เหิงพูด ตั้งแต่กลับมาเขาก็คิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด

เวินจิ้งเป็นคนที่ไม่รีบร้อนอะไรกับเรื่องแบบนี้ เขาใช้เวลาจีบเธอเป็นปีกว่าเธอจะตกลงคบกับเขาได้ แล้วหลังจากที่คบกันก็ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมากด้วย นอกจากแค่ได้จับมือและได้จูบก็เท่านั้นเอง

แต่นี่เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ ที่จริงเขาคิดว่าเธอจะแต่งหลังสามสิบซะด้วยซ้ำ แต่เธอกลับแต่งก่อนเขาซะอีก

เพราะงั้นการที่เธอใช้เวลาแค่ 1 เดือนในการตัดสินใจที่จะแต่งงานกับมู่วี่สิงนั้น ต้องเป็นเพราะการกลับมาของเขาแน่ๆ

มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก

“นี่คือคุณกำลังโอ้อวดผมอยู่อย่างงั้นเหรอ คุณสำคัญกับใจของจิ้งจิ้งมากขนาดนั้นเลยเหรอ” มู่วี่สิงถามและไม่แสดงสีหน้าใดๆ

“แน่นอนว่าไม่ แต่แค่อยากให้คิดถึงเรื่องที่แต่งงานกับเธอดีๆ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง”

ประโยคนี้เหมือนเป็นประโยคที่กำลังสั่งสอนเขาอยู่เลย

สีหน้าของมู่วี่สิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา ไม่เคยมีใครกล้าสั่งสอนเขามาก่อน

“ดูเหมือนว่าคนที่ตัดสินใจผิดน่าจะเป็นหัวหน้าฉือในตอนนั้นมากกว่านะครับ เพราะงั้นไม่ต้องสนใจเรื่องของผมกับเวินจิ้งหรอก”

พูดจบ เขาก็เดินไป

“นี่! นั่นใช่หมอมู่หรือเปล่าน่ะ!

“แกตาฝาดหรือเปล่า หมอมู่จะมาที่นี่ได้ยังไง”

“อั้ยเถียน มาดูเร็ว นั่นใช่หมอมู่หรือเปล่า”

“พระเจ้า! นั่นคือหมอมู่ เขาไม่ได้อยู่ในชุดกาวน์แบบพวกนักบำเพ็ญตบะนั่นด้วย!”

เวินจิ้งที่กำลังทานซุปอยู่แทบจะสำลักออกมา

นักบำเพ็ญตบะอย่างนั้นเหรอ

หึ เขาเป็นหมาป่าชัดๆ!

“จะกลับกันแล้วยัง” มู่วี่สิงเดินตรงเข้ามาถามเธอโดยไม่สนใจคนอื่น

เวินจิ้งตกใจ ทำไมเขาไม่รอข้างนอก!

พอเขาถาม ทุกคนบนโต๊ะก็พากันมองมาที่เวินจิ้ง

เธอเงยหน้ามองเขาอย่างประหม่าพลางพูด : “กลับกันเถอะ”

แม้แต่วินาทีเดียวเธอก็ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้แล้ว

เธอแทบจะวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที โดยที่มีมู่วี่สิงเดินตามเธอออกมา

พอขึ้นไปบนรถ อั้ยเถียนก็ส่งข้อความมาหาเธอ บอกว่าทุกคนเอาแต่ถามว่าเธอกับมู่วี่สิงเป็นอะไรกัน

เธอขมวดคิ้วมองมู่วี่สิง แล้วนี่เธอจะอธิบายกับทุกคนว่ายังไงดีเนี่ย!

แล้วเธอก็คิดออก เธอตอบข้อความกลับไปหาอั้ยเถียน ให้อั้ยเถียนบอกทุกคนว่าหมอมู่คือพี่ชายของเธอ!

แต่ด้วยความที่มู่วี่สิงสูงกว่าเธอ เขาเลยมองเห็นข้อความที่เธอตอบกลับไปหาอั้ยเถียน และพอเขาเห็นเท่านั้นแหละ เขาก็หน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที

“ฉันไม่เห็นรู้เลยว่าฉันมีน้องสาวกับเขาด้วยน่ะ” มู่วี่สิงพูดเสียงเย็น

“ไม่งั้นจะให้บอกว่านายเป็นสามีฉันรึไง ก็บอกแล้วไงว่าเราจะแต่งงานกันแบบลับๆน่ะ!” เวินจิ้งโมโห

เขาพึ่งจะทำให้เธอลำบากไปเองนะ!

“ฉันเป็นผู้ชายของเธอ”

เวินจิ้งตะลึง นั่นมันก็ความหมายเดียวกันไม่ใช่เหรอ!

“ต่อไปถ้าใครถาม ให้บอกไปว่านายเป็นพี่ชายของฉันนะ” เวินจิ้งพูด

“ฉันไม่ยอมมีน้องสาวที่ซื่อบื้อแบบนี้หรอก” มู่วี่สิงพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“แต่ดูเหมือนว่านายจะมีภรรยาที่ซื่อบื้อแบบนี้ไปซะแล้วนะ!” เวินจิ้งพูด และมองหน้าเขาอย่างโมโห

เธอทนกับคำพูดของเขาไม่ไหวเลยพูดไปอย่างนั้น!

แต่เขากลับตอบกลับมายิ้มๆว่า : ถ้าอันนั้นอ่ะ ฉันยอม”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท