Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 222

ตอนที่ 222

บทที่ 222 หนีไม่ทัน

เฉิยหยีหน้าซีดแล้วซีดอีก “ฉันก็ถูกคนอื่นสั่งมาอีกที”

“แต่ว่า คุณทำแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างหนักแน่น

เฉิยหยีถอยไปไม่กี่ก้าว เธอเห็นความเกลียดชังในสายตาของเวินจิ้ง

“เวินจิ้ง คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ……” เฉิยหยีวิ่งเข้ามา ต้องการคว้าแขนของเวินจิ้งไว้

มู่วี่สิงกอดเวินจิ้งไว้ในอ้อมแขน หลีกเลี่ยงเฉิยหยี

“พาคนไปสถานีตำรวจ” สั่งเกาเชียนที่อยู่ข้างหลังด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก แล้วมู่วี่สิงก็พาเวินจิ้งออกจามที่นั่น

“บาดเจ็บหรือเปล่า” นั่งในรถ มู่วี่สิงมองเธอด้วยความหว่งใย จับข้อมือของเธอไว้

เวินจิ้งส่ายหัว “เธอไม่ได้ทำร้ายฉัน เธอแค่อยากให้ฉันเป็นพยานชี้ตัวฉินเฟย”

“เขากับฉินเฟย ใครก็หนีไม่พ้น” มู่วี่สิงแสดงดวงตาที่ดุร้ายออกมา

มู่วี่สิงพูดเช่นนี้ ทำให้เวินจิ้งไม่สามารถไว้ใจได้

“ครั้งนี้หลายคนมีส่วนร่วม ฉันไม่เคยคิดว่าเรื่องมันจะใหญ่ขนาดนี้” เวินจิ้งก้มลง

เรื่องนี้ ในท้ายที่สุดก็ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยหนานเฉิง

“มหาวิทยาลัยต้องการตรวจสอบการติดสินบนที่เพิ่มขึ้นอย่างถี่ถ้วนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรื่องของคุณในครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสอีกทางหนึ่ง”

กลับไปที่การ์เด้นมูเจียวาน ตอนเวินจิ้งอาบน้ำสังเกตเห็นว่าหลังส่วนล่างได้รับบาดเจ็บ น่าจะเป็นเพราะเมื่อกี้โดนเฉิยหยีชน

ใส่ชุดนอนออกมา เวินจิ้งหายามาทา ยืนอยู่หน้ากระจก มือของเธอดูเหมือนจะเอื้อมไม่ถึงตำแหน่งนั้น

ประตูถูกเปิดออก ตอนที่มู่วี่สิงเข้ามา สิ่งที่สะดุดตาคือร่างที่สวมเสื้อยาวครึ่งน่องของเวินจิ้ง

สายรัดชุดนอนของเธอถูกดึงลงมา ไหล่สีขาวสว่างสะท้อนด้วยแสง มือถูด้านหลัง ลงไปเรื่อย ๆ

เขาเห็นว่าเอวของเธอฟกช้ำ

ดวงตาจมลง เขาเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ในกระจกเห็นชายคนนั้นเดินเข้ามา เวินจิ้งตัวสั่นตกใจ ยาเกือบจะหก

มู่วี่สิงกอดเธอจากด้านหลัง ดวงตาอ่อนโยนลง วางคางบนไหล่ของเธอ พูดด้วยเสียงเบา “คุณนายมู่ ยั่วยวนฉัน อืม”

เวินจิ้งแก้มแดง มองตัวเองในกระจก พบว่ามีการยั่วยวนพอสมควร

ผิวของเธอขาว หุ่นเพรียว ครึ่งหนึ่งของชุดนอนถูกดึงลงมา สายตาของมู่วี่สิงจ้องมองเธออย่างไม่สะทกสะท้าน

ดวงตาที่ร้อนดั่งไฟ

เธอผลักเขาออกไปทันที แต่มู่วี่สิงแรงเยอะ เธอจึงผลักไม่ออก

กลับถูกเขาผลักไปที่กำแพงแทน คางถูกยกขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขายิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามา

“มู่วี่สิง…..”

เวินจิ้งยกมือขึ้น ขวดยากั้นอยู่ระหว่างของสองคน

“ฉันเจ็บ” เวินจิ้งย่นหน้า

มู่วี่สิงทำตาหยี แย่งขวดยาของเธอมา ริมฝีปากบาง ๆ ถูกกดลง จูบเธออย่างป่าเถื่อน

เวินจิ้งตาโต ลมหายใจตรงจมูกล้วนเป็นลมหายใจของมู่วี่สิง เป็นเวลานาน

และฝ่ามือของเขาอ้อมไปข้างหลังเธอ กดเอวของเธอเบา ๆ เวินจิ้งรู้สึกสดชื่นและนุ่มนวลไปหมด จนไม่รู้สึกปวดหลังเลย

ในใจและสายตาเต็มไปด้วยมู่วี่สิง และต้องการมากขึ้น

ถูกเขาอุ้มไปบนเตียง มู่วี่สิงพลิกตัวขึ้นมา จากนั้นก็เทยาแล้วนวดให้เวินจิ้ง

ความรู้สึกเย็นชาทำให้เวินจิ้งตัวสั่น เสียงแหบเบาของมู่วี่สิงดังขึ้นที่ข้างหู “อย่าขยับ”

เวินจิ้งกัดริมฝีปากขิงเธออย่างแน่น แรงของมู่วี่สิงอ่อนโยนมาก เพียงว่าอุณหภูมิในฝ่ามือของเขาร้อนมาก ผ่านไปแขนขาทั้งหมดของเวินจิ้ง ราวกับว่าจะเผาไหม้

เป็นเวลานาน ในที่สุดลมหายใจของเขาก็ห่างออกไป

เวินจิ้งหลับตาลง ชุดนอนถูกมู่วี่สิงดึงขึ้นมา เวินจิ้งหันหลังกลับ จูบของมู่วี่สิงถูกกดลงอีกครั้ง

“ไม่…”

หนีไม่ทัน…….

……

ตระกูลฉี

หลินเวยดูข่าวล่าสุด มีความกังวลจึงเรียกลูกชายของเขากลับมา

“เรื่องติดสินบนของมหาวิทยาลัยหนานเฉิง ฉินเฟยก็มีส่วนเกี่ยวข้อง”

ฉีเซินขมวดคิ้ว ในเวลานี้ฉินเฟยเพียงแค่ให้ความร่วมมือกับการสอบสวน แต่เขาได้ตรวจสอบแล้วว่า ในห้าที่ก่อนเธอเป็นผู้ส่งสารหลักจริงๆ

“อืม” เขาพูดอย่างไม่แยแส

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณบอกฉัน”

มีข่าวไม่มากในออนไลน์ คงเป็นเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการการศึกษา สื่อจึงไม่กล้าเปิดเผย

แต่มันเป็นเรื่องของฉินเฟย เธอเป็นลูกสะใภ้ในอนาคตของตระกูลฉี เธอไม่สามารถทำเป็นไม่สนใจไม่ได้

“ห้าปีก่อน ฉินเฟยและคณบดีสมรู้ร่วมคิดสับเปลี่ยนวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา ทำให้เธอไม่สามารถจบการศึกษาได้ จากนั้นก็เชื่อมโยงกับเหตุการณ์การติดสินบนในมหาวิทยาลัย ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน”

ฉีเซินนั่งลงที่โซฟา ดวงตาสีดำหรี่ลงอย่างเย็นชา

“เป็นฉินเฟยจริงๆหรือ” ดวงตาของหลินเวยแสดงถึงจิตตก

เธอยังคงชอบเด็กคนนี้มาก และกำลังจะแต่งเข้าตระกูลฉี เรื่องนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อตระกูลฉีด้วย

“ใช่ แต่เรื่องนี้อาจไม่ถูกสอบสวนมาถึงตัวเธอก็ได้”

ฉินเฟยเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ตอนนี้เธอปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่เฉิยหยีเว้นแต่จะมีหลักฐานเพียงพอ มิฉะนั้นฉินเฟยก็จะหลุดพ้นโทษนี้ได้

“คุณช่วยเธอแล้ว” หลินเวยมองลูกชาย

เธอดูออกว่าฉีเซินไม่ค่อยชอบฉินเฟยเท่าไหร่ แต่เพราะว่าเธอเป็นคู่หมั้นของเขา

“ฉันได้เสนอให้ตระกูลฉินยกเลิกการแต่งงานแล้ว” ฉีเซินพูดอย่างไม่แยแส

“ทำไมเธอไม่ปรึกษากับฉันก่อน” หลินเวยโกรธเล็กน้อย ถ้าเธอไม่ถามถึงเรื่องนี้ ฉีเซินก็จะไม่บอกเธอ

“ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับเธอ”

“แล้วตอนนั้นเธอตอบตกลงทำไม” หลินเวยตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งมองลูกชายคนนี้ไม่ออก

“สนุก” ฉีเซินยกคิ้ว มองเป็นเรื่องตลกในสายตา

“ยกเลิกงานแต่งงาน เธอคิดว่าตระกูลฉินจะยอมหรือ” หลินเวยพูดอย่างจนปัญญา

“ตระกูลฉินไม่ยอม ถ้าเช่นนั้นฉันจะยุบบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ผู้หญิงอย่างฉินเฟย ฉันเล่นจนเบื่อแล้ว” ฉีเซินน้ำเสียงเย็นชา

แต่เดิมอยู่กับฉินเฟย วัตถุประสงค์ของการกอดส่วนใหญ่เพื่อให้เวินจิ้งรู้สึกเจ็บ ถ้าฉินเฟยเป็นคนซื่อสัตย์ เขาจะไม่รังเกียจที่เธอจะอยู่ใกล้ ๆ

แต่เรื่องของเธอกับฉืออี้เหิง ไม่สามารถปิดบังเขาได้

เขาโทรหาผู้ช่วย “ข่าวของฉินเฟยกับฉืออี้เหิง สามารถปล่อยออกไปได้แล้ว”

“ช่วงนี้เวินจิ้งเป็นอย่างไรบ้าง” พูดถึงเวินจิ้ง น้ำเสียงของหลินเวยดูเป็นห่วงอย่างมาก

ฉีเซินยกคิ้ว ขาเรียวยาวนั่งไขว่ห้าง พูดด้วยเสียงเบาแหบ “คุณหนูเวินช่วงนี้อารมณ์ดีมาก เธอกำลังเตรียมตัวสอบปริญญาโท ช่วงนี้ราบรื่นดี”

“เช่นนั้นก็ดี คุณคอยช่วยเธอด้วยนะ”

“เธอคงไม่ต้องการความช่วยเหลือของฉัน”

หลินเวยขมวดคิ้ว คิดถึงมู่วี่สิง สีหน้าดูไม่ค่อยดี

ทำไม เธอแต่งงานกับมู่วี่สิง

“แม่ แม่เป็นห่วงเวินจิ้งมากใช่ไหม ไม่เคยเห็นแม่เป็นห่วงฉันแบบนี้เลย” ฉีเซินน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อย

“เธอโตขนาดนี้แล้ว สามารถดูแลตัวเองได้ แม่ก็ไม่สามารถควบคุมเธอได้แล้ว”

“เวินจิ้งยังไม่โตหรือ”

“เธอเป็นลูกบุญธรรมของฉัน ฉันก็ต้องเป็นห่วงแน่นอน”

“เธอยังไม่ได้รับปาก”

หลินเวยหน้าเศร้า ความโศกเศร้าแสดงออกในดวงตา

“เธอเชื่อฟังมากกว่าเธออีก ส่วนเธอมักจะทำให้ฉันโกรธ เรื่องของฉินเฟย ฉันไม่สนใจ อย่างไรก็ตามการแต่งงานของเธอฉันจะไม่ยุ่ง” หลินเวยขมวดคิ้ว

“จริงหรือ” ฉีเซินหรี่ตามอง

“อืม อีกอย่าง ห้ามคิดอุบายอะไรกับเวินจิ้งนะ” หลินเวยเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีก

“ฉันแค่ต้องการแต่งงานกับเธอ”

หลินเวยเครียด จ้องลูกชาย “นอกจากเธอ ใครก็ได้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท