Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 244

ตอนที่ 244

บทที่ 244 คุณชอบฉันเข้าแล้ว

หลินเวยรออยู่ที่ห้องอาหารตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูสดชื่นขึ้น

“เสี่ยวจิ้ง เธอมาแล้ว”

เวินจิ้งส่งยิ้มให้ นั่งลงด้านข้างหลินเวย

“คุณนายฉี” เธอทักทายออกไปอย่างมีมารยาท

สีหน้าของหลินเวยเปลี่ยนไป กลับไม่รู้ว่าควรจะออกปากอย่างไร

“ลองดูกับข้าวคืนนี้ถูกปากเธอมั้ย?” หลินเวยมองดูเวินจิ้งด้วยความหวัง

เวินจิ้งยังคงรักษาระยะห่าง “ดิฉันชอบค่ะ”

กับข้าวเป็นแบบเรียบๆ รสชาติกำลังดี แต่…..ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่รสชาติของคำว่าบ้านในใจของเวินจิ้ง

บรรยากาศของอาหารหนึ่งมื้อนี้ยังถือว่าเป็นไปด้วยดี ฉีเซินแสดงความอบอุ่น และเอาใส่ใจเวินจิ้งเป็นอย่างมาก

แต่กลับมีท่าทีเย็นชากับหลินเวยไปหน่อย

เวินจิ้งทานอาหารอย่างเงียบๆ ตอบคำถามกลับไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงความสนิทสนมอะไรมากนัก

หลังจากทานอาหารเสร็จ เวินจิ้งเดินเล่นเป็นเพื่อนหลินเวยที่สวนดอกไม้

และแล้วบรรยากาศอันสงบก็ถูกทำลายลง

“เสี่ยวจิ้ง ฉันติดค้างคำว่าขอโทษกับเธอ” หลินเวยตอบอย่างเสียงเข้ม

เวินจิ้งเม้มปาก มองดูหลินเวย บางทีเพราะว่าไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแต่เด็ก ความรู้สึกที่เธอมีต่อหลินเวย ยังคงจืดจาง

“คุณนายฉี เรื่องก็ผ่านไปแล้ว บางทีคุณก็มีความลำบากใจของคุณ คุณส่งฉันให้กับเจี่ยนอี จริงๆแล้วก็ไม่ได้ทอดทิ้งดิฉัน” เวินจิ้งยิ้มออกมา

อย่างน้อย แม่บังเกิดเกล้าของเธอก็คิดเพื่อเธอดีแล้ว

แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเธอไว้ในสถานที่ใดที่หนึ่ง

“เสี่ยวจิ้ง ถ้าหากว่าตอนนี้ฉันอยากจะให้เธอกลับมาอยู่ข้างกายฉัน เธอจะยอมรับไหม?” สายตาของหลินเวยที่เจ็บปวดและรู้สึกสับสนแผ่กระจายออกไป เธอต้องการจะชดเชยให้เวินจิ้ง

เวินจิ้งหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ถึงจะตอบออกมา “ตอนนี้ชีวิตดิฉันเองก็ดีมากอยู่แล้วค่ะ”

ในตาของหลินเวยเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ไหล่เริ่มสั่นเทา ความอ่อนแอของเธอแสดงให้เวินจิ้งเห็นต่อหน้า

เธอสูดลมหายใจเข้า “ฉันรู้แล้ว แต่ฉันก็เป็นห่วงเธอ กังวลว่าคนของตระกูลมู่จะทำร้ายเธอ”

สำหรับตระกูลมู่แล้ว ท่าทีของหลินเวยและฉีเซินนั้นเหมือนกัน

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “คุณนายฉี คุณวางใจได้ ไม่มีคนทำร้ายฉันหรอกค่ะ”

“ฉันคงจะคิดมากไปเอง ความรู้สึกของเธอกับมู่วี่สิงนั้นก็ดีมาตลอด” หลินเวยยิ้มอย่างขมขื่น

เวินจิ้งมองอารมณ์ของเธอไม่ออก

เจี่ยนอีตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ ฉันอยากจะดูแลเธอ อยากให้เธอมีบ้าน” หลินเวยมองดูเวินจิ้ง แต่เธอกลับดูสงบนิ่งมาก

เด็กคนนี้ เก็บความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดไว้

เขามองดูแล้ว ไม่ใช่เรื่องดีแน่

“คุณนายฉี เรื่องบางเรื่อง ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ค่ะ ดิฉันจะลองยอมรับคุณดู” เวินจิ้งพูดตรงไปตรงมา

สิ่งนี้คือความประสงค์ของเจี่ยนอี ดังนั้นเธอจะรับฟัง

“ก็ได้ เธอคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว”

“ดิฉันควรกลับแล้ว คุณนายฉี คุณพักผ่อนนะคะ ระวังสุขภาพด้วย” เวินจิ้งกำชับ

“เพื่อเธอแล้ว ฉันจะระวังสุขภาพให้ดี”

ก่อนจะออกไป หลินเวยให้ฉีเซินไปส่งเวินจิ้ง

เมื่อจะออกจากประตู รถของมู่วี่สิงก็จอดรออยู่

เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เขาลงมาจากรถ มู่วี่สิงก็จับมือของเวินจิ้ง

“กลับไปกับผม อืม?” ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงของการถาม แต่ก็ฟังแล้วกึ่งเป็นการบังคับ

เวินจิ้งสับสนไม่ออก รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

“หรือไม่ก็จะอยู่ต่อไหม คุณแม่ผมก็อยากจะพูดคุยกับคุณเรื่องในใจอยู่” ฉีเซินเดินเข้ามา

แล้วก็จับที่ข้อมืออีกด้านหนึ่งของเวินจิ้งอย่างแข็งขัน

เวินจิ้งยืนอยู่ตรงกลาง รู้สึกลำบากใจ

เธอไม่อยากจะอยู่กับมู่วี่สิง แต่กับตระกูลฉี เธอก็ไม่อยากอยู่ต่อในตอนนี้

แต่ว่าตอนนี้ คงต้องกลับไปก่อน

“ฉีเซิน ฉันควรกลับแล้วหล่ะ” เธอตอบกลับฉีเซิน

“คุณต้องการแบบนี้จริงหรือ?” ฉีเซินมองที่เธอ เขาหรี่ตาลงอย่างเย็นชา

เวินจิ้งพยักหน้า

ถึงอย่างไร เธอก็จะไม่กลับไปที่การ์เด้นมู่เจียวานกับมู่วี่สิง

ฉีเซินมองดูเงาด้านหลังของเวินจิ้ง อารมณ์ในตาถูกเขาเก็บกดมันเอาไว้

เขาขึ้นไปที่ห้องของหลินเวย

“คุณจะให้ตระกูลหลินรู้เรื่องนี้ไหม?” ฉีเซินถามด้วยน้ำเสียงเข้ม

ตั้งแต่เล็กจนโต ความสนิทสนมระหว่างเขากับหลินเวยก็ไม่ใช่ว่าจะดีมากนัก

เธอก็ไม่ได้เข้มงวดต่อเขา และก็ไม่ได้โอบอุ้มตามใจเขานัก

“อืม ฉันจะพาเวินจิ้งกลับไปตระกูลหลิน” หลินเวยได้ตัดสินใจแล้ว

อีกทั้ง เกรงว่าหลินเจิ้นได้สืบหาว่าเวินจิ้งมีตัวตนขึ้นแล้ว

……

รถเก๋งไม่ได้ขับกลับไปยังถนนอันหนิง แต่กลับไปที่การ์เด้นมู่เจียวาน

เวินจิ้งหน้าบึ้งตึง “มู่วี่สิง ฉันไม่อยากกลับไป”

“ช่วงเวลานี้เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการสอบของคุณ ผมจึงยอมให้คุณหรอก” เสียงของชายหนุ่มเย็นลง

“ดังนั้น ฉันต้องขอบคุณคุณสิน่ะ?” เวินจิ้งมองที่เขา

“คุณนายมู่ ผมจะไม่ทะเลาะกับคุณ” เสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนลง

“คุณมองว่าฉันกำลังโวยวายไม่มีเหตุผลใช่ไหม?”

มือเธอถูกมู่วี่สิงจับไว้ เขาล็อคมือเธอไว้ฝั่งที่นั่งข้างคนขับ “คุณไม่ได้โวยวายไร้เหตุผล เพียงแต่ผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผมผิดไปตลอด ผมกับฉินเฟยไม่มีความเกี่ยวพันอะไรกัน เขาพ้นจากความผิด คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่ผม”

“หล่อนเป็นคนที่จะทำร้ายฉันใช่ไหม?” เวินจิ้งมองตาของมู่วี่สิง

เธอรู้สึกมาตลอดว่าเขาจะไม่หลอกเธอ

แต่ตอนนี้ เธอเมื่อไหร่จะสามารถมองทะลุเขาได้สักที?

“เรื่องเมื่อสามปีก่อน ฉินเฟยและฉืออี้เหิงเขาร่วมมือกัน ถ้าคุณต้องการให้ฉินเฟยได้รับการลงโทษ ผมจะช่วยคุณเอง”

เวินจิ้งอึ้งไป ในสมองกลับนึกถึงคำพูดของผอ.โรงเรียน ว่าเรื่องนี้อย่าได้ตามสืบต่อไปอีก

ให้จบแค่นี้เป็นพอ

เธอเดิมทีก็แค่ต้องการจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวพันกับเรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้ไปได้

เธอต้องการให้คนที่ทำร้ายเธอนั้นได้รับการลงโทษ แต่เบื้องหลังดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพลที่ใหญ่กว่าคอยขัดขวางอยู่

“คุณทำได้หรือ?” เวินจิ้งถามด้วยเสียงต่ำ

“ผมไม่แน่ใจ แต่หากว่าเป็นเรื่องที่คุณอยากจะทำ ผมก็จะช่วยคุณทำเอง”

“ทำไมหล่ะ?” เวินจิ้งมองที่เขา

ความเป็นจริงแล้ว เขาเองก็ไม่จำเป็น

“เพราะคุณคือคุณนายมู่ เป็นสิ่งที่ผมควรจะทำ”

เวินจิ้งส่ายหน้า “เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องสืบแล้ว ฉันไม่ต้องการจะตามเรื่องนี้แล้ว เพียงแต่ ฉันเองก็จะไม่เชื่อใจคุณ”

เธอเชื่อแค่สิ่งที่เธอเห็น

“ดังนั้น คุณก็ยังต้องการจะตีรวนกับผม หืม?” ดวงตาของมู่วี่สิงยิ่งดูอันตราย

สายตาอันน่ากลัวเริ่มแผ่กระจาย เวินจิ้งหลบสายตาเขา

แต่กลับถูกเขาดึงใบหน้าไป เธอจึงต้องสบตากับเขา

เธอกัดริมฝีปากตัวเอง เวลานี้ อยากจะหนี

ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะถูกเขาควบคุมอยู่ตลอด เธอเองก็ควรมีอิสระของตัวเอง!

“มู่วี่สิง ความสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นแค่ทะเบียนสมรสใบเดียว ระหว่างเรา—–ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน!” เธอโพล่งเสียงดังออกไป

หลังพูดจบ ในใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวนัก

นานแล้วที่ไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนี้ ที่ไหนได้เธอยังคงรู้สึกเจ็บปวด

ยังคงเจ็บปวดเพราะผู้ชายคนเดียว

“จริงหรือ?” มู่วี่สิงหรี่ตาลงอย่างเย็นเฉียบ สายตาอันครุ่นคิดในใจมองตรงมา

เวินจิ้งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอยู่ในคุก ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว

หนาวมาก

“ใช่สิ หรือว่า คุณชอบฉันเข้าแล้ว?” เวินจิ้งกล่าวออกไป

เธอมองดูหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิง ชายหนุ่มผู้ที่ดูอ่อนโยนแต่เย็นชาคนนี้ เขานั้น กลับไม่มีความรู้สึกหรือ?

เธออยากรู้ยิ่งนัก

เพียงแต่ เธอดูไม่ออก

สีหน้าของมู่วี่สิงดูเรียบเฉย ที่พอจะดูออก ก็เป็นเพียงอารมณ์โกรธอันเล็กน้อยตอนนี้

นอกจากนี้แล้ว ก็ไม่มีสิ่งอื่นใด

ใจของเธอค่อยๆลึกลงไป สุดท้ายแล้วก็ยังคงสิ้นหวัง

ทำไมเธอถึงได้ ชอบเขาได้ขนาดนี้

ดวงตาของเธอเริ่มแดงขึ้น

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก แรงในมือเริ่มคลายลง มองดูเวินจิ้ง ในตาลึกซึ้ง รู้สึกร้อนขึ้น และสับสน

เขาปล่อยเธอ

“ผมเคยพูดแล้ว ผมจะไม่ชอบคุณ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท