Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 314

ตอนที่ 314

บทที่ 314 คำถาม

เมื่อตู้ลี่เฉิงเหม่อเล็กน้อย เวินจิ้งรีบวิ่งไปที่ประตู แต่เมื่อเห็นว่าจับลูกบิดประตูได้ ตู้ลี่เฉิงดึงเธอกละบมาอย่างรุนแรง เวินจิ้งเกือบล้มลง

เธอยืนพิงกำแพง มองคนบ้าตรงหน้าเธอ

“เหอะ หากไม่มีเธอ คนที่ศาสตาราจารย์รับก็จะเป็นฉัน เวินจิ้ง พรุ่งนี้เป็นพิธีเปิด ฉันจำได้ว่าเธอต้องพูดในตัวแทนน้องใหม่ เธอว่าหากขาดเธอไป อาจารย์จะมองเธอยังไง…”

ตู้ลี่เฉิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น เชือกในมือมัดข้อมือของเวินจิ้งไว้อย่างรวดเร็ว เธอรีบยกเท้าเตะตู้ลี่เฉิง เขาป้องกันไว้ก่อนแล้ว รีบผลักออก

มัดเวินจิ้งไว้กับเก้าอี้ เขามองด้วยความไม่พอใจ “เธอก็อย่าโทษฉัน ใครให้เธอถูกศาสตราจารย์รับไว้ พรุ่งนี้ฉันจะพูดแทนเธอในฐานะน้องใหม่”

“นายจะปล่อยฉันออกไปเมื่อไหร่?” เวินจิ้งถามอย่างเย็นชา และมองรอบๆ ตอนนี้ดูเหมือนเธอก็หนีออกไปไม่ได้

“ดูอารมณ์ของฉัน”

“หากฉันออกไปได้ เรื่องนี้ต้องถูกร้องเรียนไปถึงอาจารย์แน่นอน” สีหน้าของเวินจิ้งค่อยๆขรึม

เมื่อได้ยินที่พูด ตู้ลี่เฉิงไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลยสักนิด กลับหัวเราะ “งั้นเธอก็คอยดู ใครจะมาเชื่อเรื่องไร้สาระของเธอ”

สิ้นเสียงตู้ลี่เฉิงนำกระเป๋าของเวินจิ้งวางไว้ที่มุม ออกไปแล้วล็อคประตู

ห้องอุปกรณ์แสงน้อยมาก รอบๆเต็มไปด้วยฝุ่น เห็นได้ชัดว่าที่นี่ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน

เวินจิ้งแกะเชือกออกมาอย่างคล่องและรวดเร็ว ได้ความอิสระแล้ว เธอรีบหามือถือในกระเป๋า แต่ตำแหน่งนี้…ไม่มีสัญญาณ

ใบหน้าเธอท้อแท้

ที่นี่ถูกปิดสนิท ปกติก็ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน เธอควรสังเกตถึงความผิดปกติของตู้ลี่เฉิงก่อนหน้านี้

ลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ เวินจิ้งเดินมาถึงประตูแล้วทุบประตู “ข้างนอกมีคนไหม…มีคนไหม…”

แต่เสียงที่ย้อนกลับมาก็มีแต่เสียงของเธอเอง

ตอนที่หลิงเหยากลับมาก็ใกล้จะเช้าของวันถัดไปแล้ว เมื่อเห็นว่าเวินจิ้งยังไม่กลับมา เธอจึงขมวดคิ้ว

ต่อมาพวกเขาไปร้องเพลงกันเป็นฝูง เหมือนว่าเวินจิ้งจะอยู่กับนักศึกษาอีกคนฝั่งโรงอาหารทางด้านนั้น

ทำไมเธอยังไม่กลับมา?

แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยชอบเวินจิ้ง แต่เมื่อคิดได้ว่าเธออาจต้องมาเป็นพี่สะใภ้ในอนาคตของเธอ ก็มีความกังวลขึ้นมา

แต่เธอไม่มีเบอร์ของเวินจิ้ง ทำได้เพียงโทรหาพี่ชาย

“เรื่องของคืนนี้เธอพูดมาให้ละเอียด ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” หลิงอี้ยังทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท ตอนนี้รีบวางงานในมือแล้วมาอย่างรวดเร็ว

ดึกขนาดนี้ หลิงเหยาก็ไม่กล้าออกไปคนเดียว ทำได้เพียงรอพี่ชายอยู่ชั้นล่าง

ตลอดทางหลิงอี้โทรหาเวินจิ้งตลอด แต่โทรไม่ติด

ความอึมขรึมในดวงตากระจายไปทั่ว เดิมเวลาครึ่งชั่วโมงเขาใช้เวลาแค่สิบนาทีก็มาถึงมหาวิทยาลัยหลิงไห่แล้ว

“พวกเธอกินข้าวกันที่ไหน?” หลิงเฉิงเพิ่งลงจากรถ สีหน้าความกังวลปิดไม่มิด

“อยู่ประตูทางเหนือของร้านอาหารจีน”

ทั้งสองคนเดินไป ตอนนี้ก็ใกล้รุ่งเช้าแล้ว ร้านอาหารไม่ได้เปิดตั้งนานแล้ว

“ไปที่อื่นดูก่อน”

เดินวนรอบมหาลัยหลายรอบแล้ว ยังคงไม่พบเวินจิ้ง

หลิงเหยาส่งข้อความถึงเพื่อนร่วมชั้นแต่ละคนที่ไปสังสรรค์เมื่อวาน ไม่นานก็มีคนตอบกลับ

“เมื่อวานตู้ลี่เฉิงอยู่เป็นคนสุดท้ายกับเวินจิ้ง ฉันให้เพื่อนที่อยู่หอชายถามเขาแล้ว”

หลิงอี้พยักหน้า และไม่ได้หาต่อ ให้หลิงเหยากลับไปที่หอเพื่อรอดูว่าเวินจิ้งกลับไปรึยัง

และเขาไปที่อาคารสำนักงาน ใช้ความสัมพันธ์ในการตรวจดูกล้องวงจรของมหาลัยทุกตัวตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้า

แต่ว่าเมื่อคืน กล้องวงจรของมหาลัยเกิดปัญหาเกือบครึ่ง ภาพเบลอไม่ชัดเจน

“โอ้ ลมอะไรพัดคุณหลิงมาถึงที่นี่?”

ประตูเย่เฉียวเดินเข้ามา

“มีนักศึกษาหายตัวไป ผมกำลังตรวจสอบ” หลิงอี้พูดเงียบๆ

“คุณไม่มีสิทธิ์นี้ ให้ผมดูเถอะ” เย่เฉียวพูด

หลิงอี้ได้ลงทุนและสร้างอาคารที่มหาวิทยาลัยหลิงไห่ในปีแรกๆ เย่เฉียวไม่ได้เจอเขากลับมานานแล้ว

“นักศึกษาชื่ออะไร?” เย่เฉียวถาม

“เวินจิ้ง”

เมื่อได้ยินที่พูด เย่เฉียวหยุดการเคลื่อนไหว และปิดจอทันที

“ไม่ต้องตรวจแล้ว”

หลิงอี้หน้าขรึม “หมายความว่ายังไง?”

“เธอกำลังจะถูกไล่ออก เรื่องของเธอไม่เกี่ยวกับมหาลัยของเรา”

หลิวอี้ขมวดคิ้ว ยังคงไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเย่เฉียว

“เธอเป็นนักศึกษาใหม่ของปีนี้”

“แน่นอนฉันรู้ ความประพฤติของเธอไม่ถูกต้อง มหาวิทยาลัยหลิงไห่ของเราไม่ต้องการนักศึกษาแบบนี้!” เย่เฉียวพูดขรึมๆ

“สาเหตุคืออะไร?” หลิงอี้ถามอย่างตื่นตระหนก

“นี่เป็นเรื่องของทางมหาลัย คุณหลิง มันไม่เกี่ยวกับคุณ” เย่เฉียวไม่พูดมาก ตอนนี้เขารีบไปหาผู้อำนวยการทันที

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มู่วี่สิงกำลังดูคอม

ในปัจจุบันบนอินเทอร์เน็ตของทางมหาวิทยาลัยหลิงไห่ได้ออกประกาศว่า เวินจิ้งและนักศึกษาคณะเดียวกันหลี่หมิงผลสอบระดับบัณฑิตวิทยามีความคล้ายคลึงกันมากกว่า80% เพราะเรื่องนี้ เวินจิ้งกำลังถูกตรวจสอบ

เขาสั่งเกาเชียน ”นำเรื่องนี้ไปตรวจสอบให้ชัดเจน รายการวันนี้แคนเซิลให้หมด”

สิ้นเสียง คนก็เดินออกจากห้องทำงานแล้ว

มาถึงมหาวิทยาลัยหลิงไห่ มู่วี่สิงตรงไปที่อาคารสำนักงาน

ประตูทางเข้า เย่เฉียวเพิ่งเดินออกมา

เมื่อเจอมู่วี่สิง สีหน้าก็เย็นชาชั่วขณะ “คุณมาที่นี่ทำไม!”

มู่วี่สิงไม่ได้สนใจเขา รีบเดินตรงขึ้นไปห้องผู้อำนวยการ

แต่เย่เฉียวรีบตามขึ้นมาขวางเขาไว้ “เรื่องเกี่ยวกับการทุจริตของเวินจิ้ง คุณยังต้องการพูดแทนเธอ?”

เมื่อได้ยินที่พูด ดวงตาที่ลึกซึ้งของมู่วี่สิงแคบลงอย่างอันตราย “ฉันดูว่าคุณกำลังทุจริต เธอไม่ได้ทุจริต และไม่มีทางทุจริต!”

เย่เฉียวยิ้ม “มู่วี่สิง คำพูดไม่ควรพูดช้าเกินไป ครั้งนี้มีหลักฐานมั่นคง”

ภายในห้องทำงาน ไป๋สือนั่งอยู่บนโซฟา ตรงหน้าเป็นกระดาษสอบของเวินจิ้งและหลี่หมิง

เมื่อเห็นมู่วี่สิงเข้ามา เขาไม่แปลกใจเลย

“ศาสตราจารย์”

“นั่งลงเถอะ เมื่อครู่เย่เฉียวนำกระดาษสอบมาให้แล้วบอกฉันเรื่องที่เวินจิ้งทำการทุจริต เป็นความจริง ที่คำตอบของทั้งสองคนมีความคล้ายคลึงกัน”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และหยิบกระดาษสอบขึ้นมา สีหน้าค่อยๆขรึม

ในเวลาเดียวกัน ไป๋สือก็บอกมู่วี่สิง มีอาจารย์ผู้คุมสอบบอก ในวันสอบเวินจิ้งดูแปลกๆ

ตอนใกล้หมดเวลาก่อนหนึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นเธอก็หัวเราะออกมา

ในการสอบที่จริงจังนี้ พฤติกรรมแบบนี้ของเธอค่อนข้างแปลก ไม่ทำให้คนสงสัยไม่ได้

“ถ้าหากเรื่องนี้เป็นความจริง ผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้” ไป๋สือพูดเงียบๆ

“ศาสตราจารย์ ผมเชื่อคนอย่างเวินจิ้ง เธอไม่มีทางทำเรื่องทุจริต”

“ฉันก็เชื่อเด็กคนนั้น แต่เมื่อครู่ผู้อำนวยการก็ได้ประชุมแล้ว ยกเลิกสิทธิ์ของเวินจิ้งให้ได้มาเข้าเรียนชั่วคราว จนกว่าเรื่องนี้จะถูกตรวจสอบอย่างชัดเจน ใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์”

เมื่อออกจากอาคารสำนักงาน มู่วี่สิงโทรหาเวินจิ้ง แต่กลับไม่สามารถติดต่อได้

ขณะนี้ ได้เดินผ่านนักศึกษาข้างกายไป แล้วได้ยินเสียงพูดคุยกัน

“เมื่อกี้ตรงสนามหญ้าดูแปลกๆ ห้องอุปกรณ์นั้นจะถูกรื้อแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันกลับได้ยินเสียงแปลกๆ…”

“ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของผู้หญิง แต่ที่นั่นไม่มีใครเข้าไป เธอว่าเราไปบอกให้อาจารย์ใหญดีไหม?”

“เธอพูดจนทำให้ฉันกลัวมาก…”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท