Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 311

ตอนที่ 311

บทที่ 311 ไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยเหรอ

มู่วี่สิงเปิดไฟ พยุงเวินจิ้งให้ลุกขึ้นนั่ง

“ฉันไปซื้อของกินมาให้เธอ”

เวินจิ้งรู้ว่าหากตัวเองปฏิเสธ เขาก็ต้องไปซื้ออยู่ดี และก็ไม่พูดอะไร

มู่วี่สิงออกไปแล้ว ไม่นานหลิวอี้ก็เดินเข้ามา

เวินจิ้งรู้สึกหงุดหงิด ไม่อยากเผชิญหน้ากับมู่วี่สิงและไม่อยากเผชิญหน้ากับหลิงอี้

“ขอโทษ”

หลิงอี้เอ่ยปาก เป็นการขอโทษจากใจ

เมื่อครู่อยู่ข้างนอกห้องผู้ป่วย เขาไม่กล้าเข้ามา

ความทุกข์ครั้งนี้ของเวินจิ้ง ไม่สามารถกำจัดความสัมพันธ์กับเขาได้

เป็นเขาที่ดิ้นรนที่จะพาเธอไปเขาเทียนเฉิง

เดิมอยากให้เธอผ่อนคลายจิตใจ แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้

“ถ้าหากคุณอยากจะขอโทษจริงๆ งั้นคุณก็ช่วยอยู่ให้พ้นสายตาของฉัน” เวินจิ้งพูดเรียบๆ

เธอไม่อยากเจอเขา

“อืม เวินจิ้ง จำคำพูดของฉันไว้ อย่าเข้าใกล้มู่วี่สิงมากเกินไป” หลิงอี้เตือน

สิ้นเสียง ไม่รอเวินจิ้งตอบ เขาก็เดินจากไปแล้ว

เขาไม่อยากได้ยินคำปฏิเสธของเวินจิ้ง

ตรงหน้าของเธอ เขามีความรู้สึกอยากหลบหนี หงุดหงิดและตำหนิตัวเอง

คำพูดของเขา เวินจิ้งหม่เก็บมาใส่ใจ

เธอก็ไม่อยากเข้าใกล้มู่วี่สิง แต่เขาก็ยังดั้นด้นที่จะปรากฏต่อหน้าเธอ

แม้ว่า ทั้งสองจะหย่ากันแล้ว

ไม่นานอั้ยเถียนก็เข้ามา เมื่อเห็นมือและขาของเวินจิ้งถูกพันทั้งตัว จึงร้องไห้อยากอนาถ

เวินจิ้งหัวเราะ “ฉันยังไม่ตาย แค่บาดเจ็บเล็กน้อย”

“บาดเจ็บเล็กน้อยก็ร้ายแรง ไหนลองพูดสิว่าปีนแค่เขาทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ถอยหลังเข้าคลองน้ำ!” อั้ยเถียนนั่งลงข้างเธอ

ดูอาการของเวินจิ้ง เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงถึงจะโล่งใจ

“หลิงอี้อยู่ข้างกาย ก็ไม่เคยมีเรื่องดี” เวินจิ้งใบหน้าเล็กขมวด เมื่อนึกถึงหลิงอี้พาเธอมากักไว้อยู่ที่บ้านหลิง ทั้งหงุดหงิดทั้งโกรธ

“หลิวอี้? ทำไมเธอถึงไปอยู่กับเขาได้?” อั้ยเถียนสงสัย

“เขา…ช่างเถอะ ไม่อยากพูดถึงเขา” เวินจิ้งส่ายหน้า และไม่อยากเอ่ยถึงอีก

เพียงแค่หวังว่ากลับไปหนานเฉิง จะไม่เจอเขาอีก

ขณะนี้ ฝีก้าวดังเข้ามา มู่วี่สิงซื้อโจ๊กกลับมา

อัเยเถียนเจอเขา ก็อึ้งไปชั่วขณะ

สองคนนี้หย่ากันแล้วไม่ใช่เหรอ…

อีกอย่างที่นี่คือประเทศบี ไม่ใช่หนานเฉิง

มองดูมู่วี่สิง และมองเวินจิ้ง อั้ยเถียนอุทาน “พวกเธอคืนนี้กันแล้วเหรอ?”

เมื่อได้ยินที่พูด เวินจิ้งอึ้ง อยากจะปิดปากของอั้ยเถียนจริงๆ

“ไม่ใช่แน่นอน เขาแค่ผ่านมา” เวินจิ้งพูดส่งๆ

มู่วี่สิงยกริมฝีปาก และไม่ได้โกรธ

“หากไม่ใช้เพราะฉันผ่านเขาเทียนเฉิงพอดี ตอนนี้เธอก็คงถูกโยนทิ้งกลางป่าไปแล้ว”

เวินจิ้ง: …

เธอไม่มีทาง!

แต่เมื่อได้ยินเสียงฝนฟ้าคะนองจากข้างนอก เวินจิ้งตกใจ

สายตาของอั้นเถียนมองทั้งสองคน บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอย่างมีความหมาย “ที่แท้เป็นคุณหมอมู่ที่ช่วยจิ้งจิ้งของเราไว้”

“มิน่าเธอถึงบอกให้ฉันค่อยมาพรุ่งนี้ ที่แท้อยากมีไฟ” อั้ยเถียนขมวดคิ้วใส่เธอ

เวินจิ้งถลึงตาใส่เธอ

ตอนนี้หากเธอขออยู่คุยกับอั้ยเถียน มู่วี่สิงก็รีบออกไปอย่างรวดเร็ว

ช่วยเธอวางโต๊ะให้เรียบร้อย มู่วี่สิงแกะโจ๊กออกให้เธอ

“เดี๋ยวค่อยกิน ตอนนี้ยังร้อนมาก” เขาพูดอย่างเอาใจใส่

“ออ คุณมู่ ตอนนี้คุณก็ออกไปได้แล้วใช่ไหม?” เวินจิ้งมองเขา

“คุณอั้ย คืนนี้ไม่รบกวนคุณแล้ว พรุ่งนี้ผมจะส่งเธอกลับไปเอง” มู่วี่สิงพูดกับอั้ยเถียน

อั้ยเถียนมองเวินจิ้งแล้วมองมู่วี่สิง เธอเลือกที่จะฟังมู่วี่สิง!

เพื่อความสุขของเวินจิ้ง

อั้ยเถียนลุกขึ้นยืน เวินจิ้งย่นใบหน้าเล็กของเธอด้วยความไม่พอใจ ทั้งที่ใบหน้าเขียนไว้ว่า “อย่าไป”แต่อั้ยเถียนกลับปลอบใจเธอ “พอแล้ว ฉันก็ง่วงแล้ว เธอก็อย่าทรมานฉันเลย ในเมื่อคุณหมอมู่ก็อยู่ ฉันก็วางใจมอบให้เขา”

“อั้ยเถียน เธอกำลังพูดอะไร…”

“โอเค บ๊าบบาย ที่รัก…พรุ่งนี้ฉันค่อยมาเยี่ยมเธอใหม่”

มองแผ่นหลังของอั้ยเถียน เวินจิ้งก้มหน้าลงอย่างขมขื่น

ดังนั้นตอนนี้…ก็กลายเป็นว่าเธอกับมู่วี่สิงอยู่กันสองต่อสอง

เมื่อเห็นเวินจิ้งก้มหน้าลง สายตาของมู่วี่สิงไม่พอใจ

“ไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นมาก

เวินจิ้งตกใจหมด และเงยหน้าขึ้น สายตาของใครบางคนทำให้คนกลัว

เธอกลืนน้ำลาย เป็นเวลานานที่ไม่ได้พูด

เธอแค่ไม่รู้ว่าจะคุยยังไงกับมู่วี่สิง

ทั้งๆที่เป็นความสัมพันธ์ที่หย่ากันแล้ว

ก้มลง เวินจิ้งกินโจ๊กเงียบๆ แต่ความรู้สึกที่อึดอัดนี้ก็ทำให้เธอไม่สบายใจ

โดยเฉพาะสายตาของมู่วี่สิง

ที่เฝ้ามองดูเธอเหมือนหมาป่าเสมอ…

“อะ!” ทันใดนั้น เวินจิ้งที่เหม่อลอย กัดลิ้นตัวเองอย่างไม่ทันระวัง

มู่วี่สิงรีบลุกขึ้นอย่างเป็นห่วง มองใบหน้าเล็กที่แดงของเธอ และถามอย่างตื่นตระหนก “เป็นอะไร?”

เวินจิ้งขยับปาก ถึงนึกขึ้นได้

“กัดโดนลิ้นเหรอ?”

“ยัยโง่” เห็นว่าเธอไม่เป็นไร มู่วี่สิงถึงโล่งอก

เวินจิ้งมุ่ยปาก ก็เพราะผู้ชายคนนี้อยู่ ไม่งั้นจะโง่ออกมาได้ยังไง…

วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าค่อยๆสว่าง แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง

ตอนที่เวินจิ้งตื่นขึ้นมาก็สายแล้ว

ลืมตาขึ้นมา ในห้องผู้ป่วยกลับไม่มีใคร

เมื่อคืน…เธอนอนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทั้งๆที่จำได้ว่าตัวเองกินโจ๊กเสร็จแล้ว มีมู่วี่สิงอยู่ เธอก็ไม่กล้านอน

ต่อมา เหมือนว่าเขาจะนั่งลงข้างเธอ และดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน

เธอดิ้นไม่ออก ต่อมา…

เธอเคาะหัวตัวเองเบาๆอย่างหงุดหงิด นอนหลับลงไปได้อย่างไร…

เวลานี้ มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก มู่วี่สิงเดินเข้ามา

เขายื่นมือถือให้เวินจิ้ง “ซิมการ์ดของเธอฉันช่วยเธอใส่เข้าไปให้แล้ว”

“ขอบคุณ” เวินจิ้งรับมันมา แปลกใจเล็กน้อย

เธอคิดว่าจะหามือถือไม่เจอแล้ว ไม่คิดว่าแค่คืนเดียว มู่วี่สิงก็ช่วยเธอหามันกลับมาได้

นี่ถือว่า เธอติดค้างเขาอีกแล้ว

แต่เรื่องราวระหว่างเธอกับเขานั้นไม่ชัดเจนในตอนแรก

“จะกลับไปหนานเฉิงตั้งแต่เมื่อไหร่?” เวินจิ้งถาม

“อีกหนึ่งชั่วโมง เมื่อกี้ไปช่วยเธอทำเรื่องออกโรงพยาบาล”

เวินจิ้งไม่คาดคิดว่า มู่วี่สิงจะให้เธอนั่งเครื่องบินส่วนตัว

“มู่วี่สิง ฉันนั่งเครื่องบินกลับคนเดียวก็ได้” เวินจิ้งถอยหลังอีกครั้ง

มู่วี่สิงจับข้อมือของเธอไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว พาตัวเธอเข้าไปห้องโดยสาร

“มู่วี่สิง!” เวินจิ้งจ้องเขาด้วยความโกรธ

“รังเกียจเครื่องบินของฉันขนาดนั้น?” ใบหน้าของผู้ชายนิ่งเงียบ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ไม่ใช่รังเกียจ เพียงแค่ตอนนี้ไม่เหมาะสมกับสถานะของเธอในตอนนี้

“ใช่ ไม่อยาก” เวินจิ้งพูดอย่างดื้อๆ

แต่ประตูห้องโดยสารตรงหน้าค่อยๆปิดลง มู่วี่สิงดั้นด้นกดเธอไว้ตรงที่นั่ง รีบรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ

“ภรรยามู่ อย่าปากไม่ตรงกับใจ”

“คุณมู่ ฉันไม่ใช่ภรรยามู่แล้ว” เวินจิ้งพูดด้วยความโกรธ

คำเรียกนี้ มักทำให้เธอหวนนึกถึงความทรงจำของพวกเขาสองคน คอยย้ำเตือนว่าพวกเขาทั้งสองหวานกันขนาดไหน

แม้ว่าครั้งแรกที่หมั้นหมายจะเป็นการแต่งงานกระทันหัน แต่ต่อมา ความรู้สึกก็ก่อเกิดเกินการควบคุม

ในเมื่อหย่ากันแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากเครียร์ความสัมพันธ์ให้หมด และ ไม่พบเจอกันอีก

“งั้นก็ อดีตภรรยา?” มู่วี่สิงยกริมฝีปาก

“มู่วี่สิง ระหว่างเราสองคนไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว” เวินจิ้งพูดชัดเจนอีกครั้ง

เขาเป็นคนเริ่มหย่าก่อน คนที่ตอบรับการหย่า ก็เป็นเขา

เธอไม่มีสิทธิ์แม้จะปฏิเสธ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท