Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 452

ตอนที่ 452

บทที่ 452 วันทำงานยุ่ง

เวินจิ้งยังคงเงียบ เธอ…พูดไม่ออกจริงๆ

“รอฉันมา”

เมื่อไม่ได้ยินเวินจิ้งตอบ มู่วี่สิงก็พูดไว้ตรงนี้

เวินจิ้งร้อนรน จึงรีบเอ่ยปาก “อย่า…ก็คือ ก็คือพรุ่งนี้ฉันไปกับคุณไม่ได้แล้ว”

“เหตุผล”

“พรุ่งนี้แม่ต้องไปโรงพยาบาล ฉันต้องเข้าร่วมการประมูลแทนเธอ…” เสียงของเวินจิ้งเบาลงเรื่อยๆ

มู่วี่สิงต้องรู้แน่นอน ว่าเธอรู้ราคาขั้นต่ำของทั้งสองบริษัทแล้ว

“อืม เธอเป็นคนของตระกูลหลิน เป็นเรื่องปกติ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเป็นปกติ

เวินจิ้งถามอย่างตื่นตระหนก “มู่วี่สิง คุณไม่โกรธเหรอ?”

“มีอะไรให้ฉันต้องโกรธ?” มู่วี่สิงถามดีๆ

“ฉันรู้ข่าวสารของบริษัทมู่ซื่อของพวกคุณแล้ว และตอนนี้แม่ก็บอกของบริษัทหลินซื่อให้ฉัน…”

“เวินจิ้ง ฉันเต็มใจที่จะให้เธอได้รับรู้เรื่องราวของบริษัทมู่ซื่อ เพราะเธอคือผู้หญิงของฉัน ไม่เกี่ยวกับคนอื่น เดิมทีฐานะของเธอก็คือคนของตระกูลหลิน ควรทำอะไร ตัวเธอเองชัดเจนดี”

“แต่ว่า ฉัน…”

“ไม่ต้องคิดมาก พรุ่งนี้คู่แข่งของเธอไม่ได้มีแค่ฉัน” มู่วี่สิงเตือน ดี ในเมื่อมู่วี่สิงพูดแบบนี้ เธอก็เข้าใจแล้ว

พรุ่งนี้ฐานะของเธอคือคนของตระกูลหลิน เป็นตัวแทนของบริษัทหลินซื่อ ไม่ว่าจะรู้ราคาขั้นต่ำของบริษัทมู่ซื่อ แต่นอกเหนือจากบริษัทมู่ซื่อก็มีคู่แข่งอื่นๆ บางทีความมุ่งเน้นของเธอ ไม่ควรวางไว้ที่บริษัทมู่ซื่อ

เมื่อคิดเช่นนี้ เวินจิ้งรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย

“รีบพักผ่อน ไม่ต้องกดดัน” น้ำเสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยน

อารมณ์ไม่ดีของเวินจิ้งก็ดีขึ้นไม่น้อย เสียงของมู่วี่สิงราวกับมีมายากล

“คุณก็เช่นกัน กลับถึงบ้านแล้วใช่ไหม?”

“เพิ่งถึง”

“งั้นก็ฝันดีค่ะ คุณแฟน” เวินจิ้งยิ้มจนตาหยี

วันถัดไป หลังจากส่งหลินเวยไปโรงพยาบาลแล้ว เวินจิ้งมาถึงเป่ยเจียวาน ผู้อำนวยการระดับสูงหซู่หนานของบริษัทหลินซื่อก็ได้มาถึงแล้ว เขาอยู่เคียงข้างหลินเวยมาหลายปี เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อ ทั้งสองคนเดินไปด้วยพูดคุยเรื่องการประมูลไปด้วย

“บริษัทมู่ซื่อและตระกูลโจว เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ทั้งสองบริษัทนี้มีเงินทุนและความสามารถเพียงพอ…”

เมื่อเวินจิ้งได้ฟัง คิ้วก็ขมวดเป็นปม

เมื่อเดินมาถึงในห้องการประมูล ที่ไม่ไกล ร่างของมู่วี่สิงก็กำลังเดินมาทางนี้

เวินจิ้งรีบหลบสายตาอย่างรวดเร็ว และนั่งอยู่ที่ของตัวเอง

หซู่หนานยังคงพูดคุยกับเธอ ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลโจวเป็นสิ่งเดียวที่เขาตรวจเช็คไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

เวินจิ้ง—จดไว้ เพียงแต่การประมูลก็ยังต้องมอบให้หซู่หนานเวินจิ้งได้ถ่ายทอดคำพูดของหลินเวย—ว่าจำเป็นต้องได้มันมา

“ผมจะพยายาม” หซู่หนานถอนหายใจ

เขาดูออกว่าเวินจิ้งเป็นคนนอก แต่ก็เข้าใจ

การประมูลใกล้จะเริ่ม คนของตระกูลโจวมาช้า

ที่นั่งข้างๆ ของเวินจิ้งยังคงว่างตลอด ไม่คิดว่าจะเป็น…โจวเซิน?”

และมู่วี่สิง นั่งอยู่สองแถวหน้าของเธอ

เวินจิ้งถูกเขาดึงดูดความสนใจโดยไม่ได้ตั้งใจ

จนกระทั่งมู่วี่สิงนั่งลงข้างๆ เธอ เวินจิ้งขมวดคิ้ว นึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นพี่ชายของโจวหย่าน

ตอนนี้เขาเป็นผู้ดูแลตระกูลโจว?

ความหมายในคำพูดเมื่อครู่ของหซู่หนานกำลังสื่อว่าตระกูลโจวลึกลับมาก แต่อำนาจไม่สามารถละเลยได้

“คุณเวิน” โจวเซินทักทายตามมารยาท

เวินจิ้งพยักหน้าช้าๆ

หซู่หนานมองเวินจิ้งอย่างประหลาดใจ “คุณเวิน เขาคือ?”

“โจวเซิน ประธานของตระกูลโจว”

“คุณรู้จักเขา?” หซู่หนานประหลาดใจมาก

ตั้งแต่ได้พูดคุยกับเวินจิ้งเมื่อครู่ เขาคิดว่าเวินจิ้งเป็นเพียงนักเรียนที่ยังเรียนไม่จบ คงไม่รู้จักตัวละครที่เหี้ยมโหดของห้างสรรพสินค้า

“เคยเจอสองสามครั้ง” เวินจิ้งไม่อยากพูดถึงโจวเซินมากนัก

แม้ว่าจะเคยเจอ เธอก็ไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยสักนิด และไม่อยากที่จะเข้าใจ

การประมูลจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า โจวเซินยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่หซู่หนานตัวแทนบริษัทหลินซื่อได้ยกป้ายขึ้นสองสามครั้งแล้ว

ทันใดนั้นโจวเซินที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยปาก “คุณเวินเข้าร่วมเกี่ยวกับบริษัทหลินซื่อตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“คุณโจวโปรดให้ความสนใจกับงานประมูลด้วย” เวินจิ้งพูดเรียบๆ ไม่ต้องการพูดคุยกับเขามากนัก

“ที่ดินผืนนี้ บริษัทหลินซื่อต้องการมากเลยเหรอ?” ราวกับว่าโจวเซินไม่ได้ยินในสิ่งที่เวินจิ้งได้พูดเมื่อครู่

“บริษัทที่มาที่นี่ ใครไม่ต้องการกัน?” เวินจิ้งมองเขา

ผู้ชายตรงหน้าดวงตามืดและลึก ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน

เวินจิ้งยังคงให้ความสนใจกับงานประมูลอย่างต่อเนื่อง

มู่วี่สิงยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ราคาในตอนนี้ สูงมาก

เวินจิ้งหยุดไม่ให้หซู่หนานยกป้ายต่อ

โจวเซินมองเวินจิ้ง ริมฝีปากบางค่อยๆ ยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย

ตอนที่ไม่มีคนเสนอราคา ทันใดนั้นโจวเซินก็ยกป้ายขึ้น เสนอราคาเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว!

ราคานี้…

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หากเธอจำไม่ผิด บริษัทมู่ซื่อไม่มีทางเข้าร่วมแน่นอน

และราคานี้ บริษัทหลินซื่อก็ให้ไม่ได้

หซู่หนานรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย พูดด้วยความโกรธ “บ้าไปแล้ว”

ซึ่งมันสูงกว่าราคาประเมินเป็นสิบเท่า

ตระกูลโจวได้ที่ดินผืนนี้ไป อย่างไม่ต้องสงสัย

การประมูลสิ้นสุดลง เวินจิ้งกำลังจะออกไป

ในสายตา มู่วี่สิงก็กำลังเดินมาทางนี้ เวินจิ้งเดินช้าลง มู่วี่สิงเดินมา ก็ไม่ได้สนใจว่ารอบตัวยังมีคนอื่นๆ ก็กุมมือของเวินจิ้งไว้

ใบหน้าของเขาไม่มีความผิดหวังแต่อย่างใด ราวกับว่า…เป็นไปตามสิ่งที่คาด

“บริษัทมู่ซื่อยอมแพ้แบบนี้เลยเหรอ?” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ไม่อย่างนั้น ฉันจะเสนอราคาไปหนึ่งเท่าเหรอ?” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว

“แน่นอนว่าไม่ใช่ แต่ว่าราคาของตระกูลโจว…สูงมาก” เวินจิ้งรู้สึกสงสัย

แม้ว่าที่ดินผืนนี้จะมีมูลค่ามาก แต่เมื่อประมูลมูลค่าของมันแล้ว ราคาของตระกูลโจวเวินจิ้งคิดว่า สูงเกินไป

“อืม นั่นเป็นเรื่องของตระกูลโจว ในเมื่อโจวเซินต้องการ สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับ”

คำพูดของมู่วี่สิง เวินจิ้งรู้สึกว่าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ

แต่เมื่อคืนเธอคิดว่า บริษัทมู่ซื่อสาบานว่าจะเอามันมาให้ได้

ดังนั้นตอนที่หลินเวยต้องการให้เธอไปเป็นตัวแทนบริษัทหลินซื่อในการประมูล เธอไม่อยากเป็นศัตรูกับมู่วี่สิง โดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้ตระกูลโจวได้ที่ดินผืนนี้ไปแล้ว เธอค่อนข้างคาดไม่ถึง

“คุณเวิน ผมกลับบริษัทหลินซื่อก่อน เรื่องนี้ ต้องรบกวนคุณช่วยรายงานให้ประธานหลินด้วย” หซู่หนานเดินมา สายตามองไปที่มู่วี่สิงและเวินจิ้ง สำหรับตำนานของมู่วี่สิงคนนี้ เขาได้ยินมานานแล้ว

ตอนที่ได้เจอเขา สายตาก็เผยความนับถือออกมาอย่างอดไม่ได้

“วันนี้ลำบากคุณแล้ว” เวินจิ้งพยักหน้า

“ฉันต้องไปรับคุณแม่ คุณกลับไปยุ่งบริษัทมู่ซื่อเถอะ” ออกจากประตู เวินจิ้งไม่ได้ขึ้นรถของมู่วี่สิง

“ฉันไปกับเธอ” มู่วี่สิงพูด

“ประธานมู่ผู้ทำงานยุ่งทุกวันคุณมีเวลาว่างด้วยเหรอ?” เวินจิ้งมองอย่างเขาสงสัย

ความจริงแล้วเธอไม่อยากใช้เวลาทำงานของมู่วี่สิงต้องมาอยู่กับเธอ

“เวลาที่อยู่กับเธอ ไม่ว่าเวลาไหนก็ว่าง” สิ้นเสียง ก็ได้พาเวินจิ้งเข้ามาในรถ

รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินจิ้งปรากฏขึ้น โอบแขนของมู่วี่สิงไว้ เขาก็ได้ก้มจูบลงไป คนขับก็รีบสตาร์ทรถทันที ยกแผ่นกั้นขึ้น เพื่อให้พื้นที่ส่วนตัวเพียงพอกับบอส

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท