Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 484

ตอนที่ 484

บทที่ 484 เป็นความรักข้ามประเทศ

เวินจิ้งก้มหน้ามองแหวนในมือของเธอ ฝ่ามือใหญ่ของมู่วี่สิงห่อมือเล็กๆของเธออยู่ และนิ้วกลางของเขาก็ใส่แหวนอยู่

“มู่วี่สิง ฉันยังไม่ได้รับปากเลย” หลังจากสติกลับมา เวินจิ้งก็จ้องมองเขาอย่างโกรธ

แต่ในสายตาของมู่วี่สิง มันเป็นอ้อนชัดๆเลย

ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน จูบของมู่วี่สิงก็จูบลงมา จูบลงถึงหูของเธอ และกระซิบว่า “จิ้งๆ คุณไม่อยากแต่งงาน ฉันรอได้ แต่คุณต้องเป็นของฉันเท่านั้น”

คำพูดของผู้ชาย แข็งแกร่งและจริงจัง แต่เวินจิ้งก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

เธอถูกกดลงบนโซฟาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ดวงตาที่สดใสของเวินจิ้งมองมู่วี่สิง นับเวลาดู ตั้งแต่วันที่เธอกับมู่วีสิงเป็นแฟนกันถึงวันนี้ ผ่านไปสองเดือนแล้ว

แม้ว่าการหมั้นจะเร็วไปหน่อย แต่ก็ดูเหมือนว่า …ปฏิเสธไม่ได้ งั้นก็ยอมรับแล้วกัน

เธอกอดคอของมู่วี่สิง “เอาล่ะ ถูกคุณหลอกอีกครั้ง”

“หลอกเหรอ ฉันหลอกเธอเมื่อไหร่ “มู่วี่สิงบีบคางของเธออย่างไม่พอใจ

“นี่ไม่ใช่เหรอ ฉันยังไม่ได้รับปากเลย ใส่แหวนไปก่อนแล้ว”

“อืม หลอกได้ก็เป็นความสามารถไม่ใช่เหรอ” รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่วี่สิงเยอะไปเรื่อยๆ

เวินจิ้งตบหน้าอกของเขา “ใช่ๆ ศาสตราจารย์มู่เก่งที่สุดเลย”

มู่วี่สิงจูบลงมา ทำเรื่องรักอีกครั้ง ท้องฟ้านอกหน้าต่างก็ค่อยๆมืดลง

หลังจากสองคนออกจากห้อง ก็ไปทานข้าวที่ร้านอาหารจีน มันเป็นเวลาอาหารเย็นพอดี

พอสั่งอาหารเสร็จ มู่ซือซือก็โทรมาเลย

“พี่ชาย พี่จะกลับมาเมื่อไหร่” มู่ซือซือถามอย่างระมัดระวัง

เธอไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ได้ไปงานเลี้ยง

แต่ว่าคุณปู่อารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เขากลับมา และพี่ชายก็ไม่ได้กลับมาทั้งคืน เธอสังเกตว่าอาจเกิดอะไรขึ้น

เมื่อกี้นี้ คุณปู่ได้สั่งว่าให้บอกมู่วี่สิงกลับมาทานข้าวด้วยกัน มู่ซือซือเลยโทรหาพี่ชาย

“ตอนกลางคืน”

“ตอนนี้ได้ไหม”

“อีกสองชั่วโมง คุณปู่เป็นอะไร” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“ไม่มีอะไร แค่บอกว่ารอพี่กลับมาถึงจะกินข้าว”

“งั้นก็ให้เขารอไป น้องกินไปก่อน”

มู่ซือซือ …

วางสายอย่างกังวล มู่ซือซือมองคุณปู่ที่นั่งอยู่บนที่นั่งหลักและปวดหัวขึ้นมาทันที

ถึงแม้ว่าปกติคุณปู่ก็รักเธอมาก แต่มู่วี่สิงก็เป็นหลานชายที่คุณปู่รักที่สุด เธอเกลี้ยกล่อมเขาไม่ได้

“คุณปู่ เดี๋ยวพี่ชายก็กลับมา เรากินข้าวกันก่อนนะ”

“รอให้เขากลับมาก่อนค่อยกิน” มู่เฉิงทำหน้าโกรธ

สองชั่วโมงผ่านไป มู่วี่สิงกลับถึงบ้านตรงเวลา

เมื่อพ่อบ้านเห็นมู่วี่สิงกลับมา ก็โล่งใจอย่างมากและอดพูดไม่ได้ว่า “คุณวี่สิง คุณกลับมาสักทีครับ”

มู่วี่สิงนิ่งเฉยและเดินตรงไปที่ห้องอาหาร

มู่ซือซือหิวจนหมดอารมณ์ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าก็คิดว่าเป็นคนรับใช้ เลยสั่งโดยที่ไม่ได้ทันดูว่า “เอากับข้าวไปอุ่นใหม่”

เงยหน้าขึ้นเห็นว่าเป็นพี่ชาย…

เธอรีบผลักรถเข็นเข้าไปอย่างดีใจทันที “พี่ชาย พี่กลับมาแล้ว”

สีหน้ามู่เฉิงยังเข้มงวดอยู่ ไม่ได้มองหลานชายเลย

มู่วี่สิงตอบเบาๆ เขากินอิ่มแล้ว ก็ไม่คิดจะกินอยู่แล้ว

“รีบไปกินข้าว พี่บอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอ” มู่วี่สิงพูดอย่างเคร่งขรึม

มู่ซือซือเม้มปากอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม คุณปู่เป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ยังไม่ได้กินเลย หลานอย่างเธอไม่กล้ากินหรอก…

เมื่อเห็นว่าพี่ชายจะกลับห้อง มู่ซือซือรีบดึงเขาไว้ “พี่ชาย นั่งลงกินข้าวกับคุณปู่หน่อยนะ”

มู่วี่สิงมองมู่เฉิง เขายังไม่ได้กินข้าว

มู่วี่สิงเดินไปที่โต๊ะอาหาร

แต่นั่งลงที่ข้างๆมู่ซือซือ และตักกับข้าวให้เธอ

มู่ซือซือหิวแล้วจริง ๆ แต่คุณปู่ยังไม่กิน เธอก็ไม่รู้ทำยังไงดี

แต่วินาทีต่อมา มู่เฉิงก็ยืนขึ้นด้วยไม้เท้า และกลับไปที่ห้องโดยไม่ได้กินข้าวสักคำเลย

มู่วี่สิงสั่งด้วยเสียงต่ำ “ซือซือ รีบกิน”

มู่ซือซือก้มหัวลง ไม่สนแล้ว กินข้าวก่อน

เธอถามอย่างกังวลว่ า”พี่กับคุณปู่เป็นอะไรเหรอ”

“เขาล็อคฉันกับโจวหย่านอยู่ด้วยกัน”

“แค่กๆ – “มู่ซือซือข้าวพุ่งออกมาทันที

มองพี่ชายอย่างประหลาดใจ เขาไม่เคยพูดเล่นอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น …นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ

“โจวหย่านเหรอ คุณปู่ทำแบบนี้ทำไมล่ะ เขาไม่ชอบโจวหย่านไม่ใช่เหรอ”

เพราะตอนที่พี่ชายจะแต่งงานกับโจวหย่านก่อนหน้านี้ คุณปู่แม้แต่งานแต่งก็ไม่มาเลย โกรธจนเขาอยู่ในประเทศ Cตลอด

มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าของเขามืดมนมาก

“พี่ไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม” มู่ซือซือถามอย่างประหม่า

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่ได้สนใจโจวหย่าน”

พูดเสร็จ เขาก็ขึ้นไปชั้นสอง มู่เฉิงอยู่ในห้องหนังสือ มู่วี่สิงผลักประตูเข้ามา

ต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไร นั่งอยู่ตรงหน้ากัน

“คุณปู่ ผมจะหมั้นกับเวินจิ้งในสัปดาห์หน้า ผมขอแจ้งให้คุณปู่ทราบครับ”

“ฉันไม่อนุญาต” มู่เฉิงปฏิเสธโดยตรง

มู่วี่สิงคิดไว้อยู่แล้ว พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากคุณปู่”

พูดเสร็จก็หันตัวออกไป

แต่มู่เฉิงเรียกเขา “หยุด”

เขาเดินไปที่มู่วี่สิงด้วยไม้เท้า “แกเป็นประธานของบริษัทมู่ซือกรุ๊ปอยู่แล้ว ยังรับตำแหน่งของโรงพยาบาลเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง และไปเปิดคอร์สรักษาทุกสัปดาห์ด้วย มันใช่เรื่องไหม”

“ผมไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร” สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชามาก

“ฉันคิดว่ามีปัญหา ในเมื่อเวินจิ้งมีอิทธิพลต่อแกมาก งั้นฉันจะจัดผู้หญิงคนอื่นให้แก ตระกูลมู่ของเราต้องการหลานสะใภ้ที่เชื่อฟัง” มู่เฉิงพูดอย่างจริงจังมาก

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ มู่วี่สิงยิ้มอย่างเย็นชา “คุณปู่ นั่นคือผู้หญิงที่ตระกูลมู่ต้องการ แต่ไม่ใช่ผม การแต่ง

งานของผม คนอื่นตัดสินแทนผมไม่ได้เด็ดขาด”

พูดเสร็จ เขาก็กระแทกประตูอย่างเยือกเย็นแล้วเดินออกไป

มู่เฉิงโกรธมาก ยืนด้วยไม้เท้า สักพักค่อยจับกำแพงยืนขึ้น

ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาต้องทำให้มู่วี่สิงออกจากโรงพยาบาลให้ได้

เมื่อมู่วี่สิงออกมา มู่ซือซืออยู่ข้างนอก

เมื่อกี้สองคนทะเลาะกัน เธอได้ยินเล็กน้อย

เธออยู่ข้างพี่ชายแน่นอน ถ้าเป็นเธอ ก็ไม่อยากให้การแต่งงานของตัวเองต้องถูกควบคุม

“มากับพี่” เมื่อเห็นมู่ซือซือ มู่วี่สิงก็พาเธอเข้าห้อง

มู่วี่สิงยื่นเอกสารชุดหนึ่งมา” นี่คือมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของต่างประเทศ ลองดูสิว่าน้องชอบมหาลัยไหน”

“พี่ พี่หมายความว่ายังไง พี่จะให้ฉันไปต่างประเทศเหรอ” มู่ซือซือถามอย่างตกใจ

มู่วี่สิงพยักหน้า “อืม พี่อยากให้น้องไปเรียนที่ต่างประเทศ”

“แต่ฉันไม่ได้วางแผนแบบนี้ … ฉันวางแผนจะสมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่ … ”

หลิงเหยาอยู่ในมหาวิทยาลัยหลินไห่ ถ้าเธอสอบเข้าไปได้ สองคนจะเจอกันบ่อยๆแล้ว

“ซือซือ ฟังพี่นะ”

มู่ซือซือเงียบไป ลังเลเล็กน้อย

นึกถึงว่าถ้าเธอไปต่างประเทศ งั้นเธอกับส้งวี่… ก็เป็นคู่รักทางไกลแล้ว

ไม่ใช่ มันทางไกลต่างประเทศด้วย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของมู่ซือซือก็เต็มไปด้วยการปฏิเสธ “พี่ชาย ฉันไม่ไปต่างประเทศ ฉันอยู่หนานเฉิงก็พอค่ะ”

“น้องคิดอย่างนั้นจริงๆหรือ”

“ใช่” มู่ซือซือพยักหน้าอย่างจริงจัง

มู่วี่สิงก็ไม่ได้พูดอะไร นี่ก็แค่คำแนะนำเอง

มู่ซือซือยากอยู่ในหนานเฉิง เขากับส้งวี่ก็จะพยายามปกป้องเธอให้ดีสุด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท