Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 510

ตอนที่ 510

บทที่ 510 ด้านที่ลึกลับ

พลบค่ำ ขณะที่มู่วี่สิงกำลังเตรียมตัวจะออกไปด้านนอกนั้น มู่ซือซือก็มาหาเขาด้วยตนเอง

เขาขอร้องให้พี่ชายตนเองกลับไปที่บ้านหลายครั้ง แต่ทว่าพี่ชายก็ไม่ยอมกลับ เธอจึงทำได้เพียงมาหาเขาแบบนี้

“พี่คะ พี่กลับบ้านกับฉันดีไหมคะ พี่ไม่คิดจะสนใจงานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้วใช่ไหมคะ?” มู่ซือซือขมวดคิ้ว

ช่วงนี้ผลประกอบการของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปตกต่ำลงเรื่อยๆ แต่มู่วี่สิงกลับไม่สนใจ คุณปู่เองก็ไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ เอาแต่อยู่บ้านแล้วโมโห

ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปคงจบแน่ๆ…..

เธอไม่อยากเห็นบริษัทของครอบครัวตนเองต้องจบลงเพราะความสัมพันธ์ของปู่กับหลาน…..

“เรื่องบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เธอควรจะไปบอกกับคุณปู่” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“แต่คุณปู่ยกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปให้กับพี่แล้วหนิคะ” มู่ซือซือเองก็ขมวดคิ้ว

“ซือซือ เรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเธอไม่ต้องมาพูดกับพี่แล้ว”

“ไม่ได้ค่ะ พี่กลับบ้านกับฉันสักหน่อยเถอะ!พี่ไม่ได้กลับบ้านมานานแค่ไหนแล้ว……” มู่ซือซือบ่นพึมพำ

แต่เธอที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ ไม่สามารถที่จะห้ามมู่วี่สิงได้จึงทำได้เพียงให้ส้งวี่มาเกลี้ยกล่อม

ส้งวี่เป็นคนที่เข้าใจความคิดของมู่วี่สิง เขาไม่คิดที่จะยึดเอาอำนาจของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป การที่มู่เฉิงบีบบังคับมู่วี่สิงแบบนี้ มีเพียงแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งเท่านั้น

มู่วี่สิงไม่ใช่คนที่จะยอมคนง่ายๆ

การที่เขายอมรับปากยอมรับช่วงต่อบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนั้น ถือว่าเป็นการยอมอย่างมากที่สุดแล้ว

“ซือซือ เรากลับกันเถอะ วี่สิงไม่มีวันยอมทนเห็นบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปล้มละลายหรอก”

“แต่คุณดูสิว่าวันนี้ราคาหุ้นตกไปมากแค่ไหนแล้ว คนข้างนอกเอาแต่พูดเรื่องไม่ดีของตระกูลมู่ของเรา บอกว่าบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะล้มละลายแล้ว…..” ช่วงนี้มู่ซือซือได้ยินข่าวลือไม่น้อย ที่พูดกันโครมๆ

“ตอนนี้ตกไปถึงจุดต่ำสุดแล้ว อีกไม่นานก็จะค่อยๆขึ้น เรากลับกันเถอะ” ส้งวี่เข็นวีลแชร์ของเธอ

มู่ซือซือหลบตาลง เธอร้อนใจมากกว่าเจ้าตัวเสียอีก

“คุณจะเป็นผู้บริหารระดับสูงจริงๆหรอคะ?” มู่ซือซือเอ่ยถาม

เรื่องนี้เธอพึ่งรู้ไม่นาน ที่แท้พี่ชายก็วางแผนมานานแล้ว ส่วนส้งวี่เองก็ไม่คิดจะดูแลกิจการของตระกูลส้งแล้วด้วย ดังนั้นการที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมีเขามารับช่วงต่อ จึงเป็นสิ่งที่มีเหตุมีผล

แต่เธอรู้ดี ตำแหน่งนี้คุณปู่เก็บเอาไว้ให้พี่มู่วี่สิงมาโดยตลอด

เหตุเพราะเรื่องนี้ ตอนนี้คุณปู่จึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“อื้ม หรือว่าคุณรู้สึกว่าผมทำไม่ได้?” ส้งวี่เลิกคิ้วขึ้น

ในสายตาของคนอื่นนั้น ส้งวี่เป็นคนสุภาพสง่างาม ทว่าในด้านธุรกิจ เขาเป็นคนที่ทำทุกอย่างเด็ดขาดมาก

“แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” มู่ซือซือเม้มปาก

วินาทีนี้เธอรู้สึกว่าตนเองอ่านความคิดผู้ชายตรงหน้าไม่ออกจริงๆ

เหมือนกับตอนนี้ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีความคิดที่จะรับช่วงต่อของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป อีกทั้งเพราะเรื่องนี้ เขาอาจจะมีการวางแผนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

มู่ซือซือรู้สึกหงุดหงิด เธอเข้าใจมาตลอด ส้งวี่เป็นเพียงแค่จิตแพทย์ท่านหนึ่งเท่านั้น

แต่หลังจากที่รู้จักเขามากขึ้นเรื่อยๆ ด้านที่ลึกลับของเขาค่อยๆเปิดออก

…….

การ์เด้นมูเจียวาน

เวินจิ้งกลับมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ตอนแรกคิดอยากจะเข้าครัวด้วยตนเอง แต่เพราะฝีมือการทำอาหารของตนเองไม่ได้เรื่องจริงๆ จึงล้มเลิกความคิดนี้

เธอซื้ออาหารทะเลและเนื้อสัตว์มาจำนวนไม่น้อย คิดว่าคืนนี้จะทำชาบูให้มู่วี่สิงกิน

หลังจากที่ล้างวัตถุดิบทั้งหมดแล้วนั้น เธอก็บอกให้คนรับใช้ออกไป ส่วนตนก็วางของทุกอย่างเอาไว้บนโต๊ะ

แต่รอจนถึงกลางดึกมู่วี่สิงก็ยังไม่กลับมา เวินจิ้งรู้สึกเป็นห่วง จึงโทรศัพท์ไปหาเขาแต่กลับไม่มีคนรับสาย

เวินจิ้งจึงโทรหาเกาเชียน คำตอบของเขาคือมู่วี่สิงน่าจะยังอยู่ที่โรงพยาบาล เขาเองก็ติดต่อบอสไม่ได้

เมื่อได้ยินแบบนั้น เวินจิ้งจึงเปลี่ยนชุดแล้วรีบไปที่โรงพยาบาล

เวลานี้ มู่วี่สิงพึ่งออกมาจากห้องผ่าตัด เมื่อสองชั่วโมงก่อนมีคนประสบอุบัติเหตุรถยนต์ถูกส่งตัวมา คนที่โรงพยาบาลไม่เพียงพอ มู่วี่สิงจึงถูกตามให้มาช่วย

เมื่อเห็นเวินจิ้งมองดูรอบๆด้วยความกังวล เขาจึงหยุดเดิน

ในที่สุด เขาก็ดึงตัวเวินจิ้งเข้ามากอด

กลิ่นที่คุ้นเคยนั้นให้เวินจิ้งนิ่งค้าง เงยหน้าขึ้น ขยับเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงใหล

เมื่อรู้ตัว เธอก็เงยหน้าขึ้นอยากจะโอบกอดมู่วี่สิง

แต่เมื่อคิดขึ้นได้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล จึงรีบคลายมือ

มองดูมู่วี่สิงที่สวมชุดกาวน์สีขาว เนื้อตัวมีกลิ่นคาวเลือด เธอก็ขมวดคิ้วเป็นปม

“พึ่งผ่าตัดเสร็จหรอคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เคสที่สอง” มู่วี่สิงโอบกอดเธอเอาไว้ โดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างจากนั้นก็พาเวินจิ้งเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของตน

“ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าวันนี้คุณมีผ่าตัดสองเคส”

ตอนที่มู่วี่สิงไม่รับสาย เธอกังวลมากจริงๆว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา

“เป็นเคสกระทันหัน มาหาผมแบบนี้ เป็นห่วงผมมากใช่ไหมครับ?” มู่วี่สิงกระตุกยิ้มมุมปาก อ่านใจเวินจิ้งออก

หน้าของเธอแดงระเรื่อ หันหน้าหนีจากสายตาของมู่วี่สิง

“คุณไม่รับโทรศัพท์……” เวินจิ้งพูดพึมพำ

“เรื่องนี้เกิดขึ้นเร็วมาก ผมจึงไม่ทันได้บอกคุณ” มู่วี่สิงพูดเสียงอ้อน

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเองก็ทำงาน แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะกลับบ้านได้คะ?”

“ต้องรอคนป่วยฟื้น” มู่วี่สิงมองดูเวลา “นี่ก็ใกล้แล้ว”

เวินจิ้งนั่งรอมู่วี่สิงในห้องทำงาน เพียงแต่ใช้เวลาไม่นาน ก็มีร่างบางเปิดประตูเข้ามา

โจวหย่านมองดูเวินจิ้งที่นั่งอยู่บนโซฟา ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“ประโยคนี้ฉันควรจะถามคุณโจวมากกว่านะคะ?” เวินจิ้งไม่ได้ตอบคำถามเธอ

“ฉันมาหามู่วี่สิง!”โจวหย่านพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เขาไปดูคนป่วยคนอื่นๆ คุณรอเขาก่อนแล้วกัน” เวินจิ้งพูดเสียงเรียบ ไม่ได้มองดูเธอ

โจวหย่านเม้มปากแน่นด้วยความโมโห นั่งลงตรงอีกด้านหนึ่งของโซฟา ถลึงตามองดูเวินจิ้ง

เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างเหลืออด จากนั้นก็หันหลังให้กับโจวหย่าน

เสียงหวานของเธอดังขึ้นจากด้านหลัง “ได้ข่าวว่าเธอถูกไล่ออก?”

“มั้ง”

ตอนนี้ไม่มีโรงเรียนไหนรับเธอ

“ตอนนี้มีแค่ฉันเพียงคนเดียวที่ตระกูลมู่ยอมรับเป็นสะใภ้ คุณปู่ต้องคิดหาทางไล่เธอออกไปจากเมืองหนาน ฉันขอเตือนเธอละกัน รีบออกไปด้วยตัวเองดีกว่า” คำพูดของโจวหย่านดูหยิ่งทระนง

สีหน้าของเวินจิ้งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

สีหน้าของเวินจิ้งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่หมัดของเธอที่กำเอาไว้นั้นแสดงความโกรธออกมาเล็กน้อย

“ฉันไม่มีวันไปจากชีวิตของมู่วี่สิงอย่างแน่นอน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

โจวหย่านกลับหัวเราะ “หึหึ” “นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอตัดสินใจ การที่เธออยู่ต่อนั้นเป็นจุดจบที่แย่ที่สุด อีกไม่นานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็จะล้มละลายแล้ว ความสัมพันธ์ของวี่สิงและคุณปู่ก็จะยิ่งเลวร้ายมากกว่าเดิม เธออยากจะให้วี่สิงจมอยู่กับเรื่องเครียดๆไปทั้งชีวิตหรอ?”

นี่เป็นเรื่องที่เธอพึ่งรู้ มู่วี่สิงน่าจะมีปัญหากับมู่เฉิง ทิ้งงานไม่สนใจบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป สำหรับโจวหย่านคงไม่ดีเท่าไหร่

“คุณโจวคะ ฉันเชื่อว่าคุณมู่วี่สิงจะจัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดี คุณเป็นแค่คนนอก คำพูดพวกนี้ คุณมีสิทธิพูดด้วยหรอคะ?” เวินจิ้งเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา

ถึงแม้จะรู้ว่าโจวหย่านแค่กร่าง แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดี

“ฉันมีสิทธิสิ ฉันเองก็คือว่าเป็นคนตระกูลมู่ครึ่งหนึ่ง ฉันไม่อยากให้วี่สิงหลงผู้หญิงอย่างเธอจนโงหัวไม่ขึ้น บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่างหากที่เขาควรจะอยู่”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เวินจิ้งคลายยิ้ม “คุณไม่เคยรู้ว่ามู่วี่สิงคิดอะไร เขาเป็นผู้ชายที่ทำทุกอย่างชัดเจน สิ่งที่เขาทำนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฉันและคุณจะเข้าไปข้องเกี่ยวได้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท