Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 546

ตอนที่ 546

บทที่ 546 สภาพจิตใจเธอทรมานมาก

หลังจากโครงการวิจัยและพัฒนาได้บทสรุป เวินจิ้นได้รับสายจากศาสตราจารย์ว่าเธอจำเป็นต้องไปประชุมที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับโจวเซินในนามของมหาวิทยาลัยF

เวินจิ้งเพิ่งออกจากหอพัก รถของโจวเซินก็ได้รออยู่ใต้ตึก

เธอทำหน้าสงสัย แต่โจวเซินเปิดประตูรถให้เธอแล้ว

“โจวเซิน เดี๋ยวฉันไปเอง” เวินจิ้งเดินอ้อมไป

“เวลาประชุมเลื่อนเข้ามาแล้วนะ อีกครึ่งชั่วโมง คุณคิดว่านั่งรถประจำทางไปจะทันเหรอ?” เสียงของโจวเซินตะโกนจากด้านหลัง

เวินจิ้งหยุดเดินแล้วหันไปมองโจวเซินด้วยสายตาเย็นชา

เป็นเรื่องจริง ถ้าเธอนั่งรถประจำทางไปคงไม่ทันเวลาประชุมอย่างแน่นอน

“ฉันนั่งแท็กซี่ไปเอง”

“โครงการวิจัยและพัฒนานี้อย่างน้อยต้องใช้เวลาหนึ่งปีเลยนะ คุณแน่ใจเหรอว่าทั้งปีนี้คุณจะมีความสัมพันธ์กับผมแบบนี้” โจวเซินขมวดคิ้ว

เวินจิ้งเม้มริมฝีปากไว้ แล้วมองโจวเซินด้วยสายตาที่เย็นชา

“งั้นก็รบกวนคุณแล้วล่ะ” เธอขึ้นไปนั่งบนรถ

โจวเซินแสดงสีหน้าได้ใจ

“คุณรู้ไหมว่าทำไมโครงการนี้ถึงต้องกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง” โจวเซินแกล้งถามเหมือนไม่ได้ตั้งใจ

“คุณต้องการบอกว่าคือความช่วยเหลือจากคุณเหรอ?” เวินจิ้งตอบตามน้ำ

“ตระกูลโจวร่วมลงทุนด้วย”

เวินจิ้งถึงกับตกใจ แล้วมองโจวเซินอย่างไม่คาดคิด

ถึงว่า ทำไมโจวเซินได้เป็นผู้รับผิดชอบหลัก

แล้วมู่วี่สิง……

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยังยืนยันจะเข้าร่วมต่อไปเหรอ?

“ไม่ต้องกังวลหรอก บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ยอมปล่อยโครงการนี้ไปง่าย ๆ หรอกนะ งบประมาณการลงทุนของตระกูลโจวในโครงการก็ไม่ได้เยอะมาก ตอนนี้อำนาจหลัก ๆ ก็ยังเป็นของทางมหาวิทยาลัยF”

เวินจิ้งแปลกใจ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว แต่ว่า อำนาจการตัดสินใจทุกอย่างตกอยู่ที่โจวเซิน

ทั้งสองเดินทางไปถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเวลาบ่ายสองครึ่ง และส้งวี่เป็นคนลงไปต้อนรับเขา

โครงการวิจัยและพัฒนาในปัจจุบันได้ตัดการประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ออกไปและตอนนี้ให้ความสำคัญกับทางด้านการพัฒนาของโครงการมากขึ้น และตัวของโจวเซินมีประสบการณ์ทางด้านนี้ บวกกับทีมงานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวลาในการดำเนินโครงการคาดว่าจะใช้เวลาสองปี และทางบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะเป็นผู้ประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าตามความเป็นจริงของโครงการนี้

หลังจากสรุปแผนงานทั้งหมดนี้เวลาก็ค่ำแล้ว เวินจิ้งรับผิดชอบในการบันทึกการประชุมเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ส้งยี่ก็มีเรื่องที่จะคุยกัยโจวเซินต่อ เวินจิ้งจึงออกไปก่อน

วันนี้เป็นวันศุกร์ มู่วี่สิงคงใกล้เลิกงานแล้ว เธอจึงไปหาเขาที่โรงพยาบาล

ณ ขณะนี้ในโรงพยาบาล

มู่วี่สิงกำลังประชุมเกี่ยวกับอาการของคุณนายหลิงกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยาสามคน การประชุมนั้นยืดยาวมาจนเวลาดึก

หลิงเหยาที่รออยู่ข้างนอก เมื่อเห็นมู่วี่สิงเดินออกมาจึงรีบเข้าไปถาม “คุณแม่หนูต้องเข้าผ่าตัดใช่ไหมคะ?”

“ณ ตอนนี้ เข้าผ่าตัดถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับอาการท่าน” มู่วี่สิงพยักหน้าพูด

“งั้น……มีความเสี่ยงสูงไหม”

“ห้าสิบเปอร์เซ็นต์”

เมื่อได้ยินคำนี้ หลิงเหยาแทบจะล้มทั้งยืน เมื่อเห็นอาการเธอ มู่วี่สิงจึงรีบประคองเธอไว้ แต่เธอไม่รู้สึกดีขึ้นในชั่วขณะ จึงพิงอยู่ที่อ้อมแขนของเขา

เวินจิ้งเพิ่งก้าวออกจากลิฟต์ก็ได้เห็นภาพตรงหน้า

มู่วี่สิง……กอดหลิงเหยาไว้ ผู้หญิงในอ้อมแขนเขากำลังร้องไห้อย่างอ่อนแอ

เท้าของเวินจิ้งแข็งทื่อเหมือนจะเดินต่อไปไม่ได้

มู่วี่งสิงกำลังจะเดินกลับไปห้องผู้ป่วย แต่หลิงเหยากอดเขาไว้แน่น ๆ “มู่วี่สิง ขอร้องแล้ว……ช่วยแม่หนูที……”

“ผมรับปากได้ว่า จะทำสุดความสามารถ” มู่วี่สิงผลักเธอออกไปเบา ๆ

แต่หลิงเหยาเหมือนจะคาดสติ เธอเกาะมู่วี่สิงไว้แน่น ๆ “คุณอย่าไปไหน……อย่า”

มู่วี่สิงสีหน้าเคร่งขรึม เขาตบไหล่หลิงเหยาเบา ๆ “หลิงเหยา ปล่อยมือได้แล้ว ที่นี่คือโรงพยาบาลนะ”

หลิงเหยาร้องไห้จนตาแดงไปหมด เธอได้แต่มองหน้ามู่วี่สิงไว้ แล้วสั่นไปทั้งตัว

เธอนั่งอยู่บนโซฟาด้วยน้ำตาที่ไหลพราก

ด้านนอกนั้น เวินจิ้งทำตัวไม่ถูก ในสมองมีแต่ภาพของหลิงเหยาที่กอดมู่วี่สิงไว้

เธอรู้สึกเจ็บปวดใจมาก

เธอควรจะเดินเข้าไปถาม เพราะเธอเป็นแฟนของมู่วี่สิง

แต่ขาของเธอได้แต่เดินถอยหลัง

เธอกลัว

เพราะว่าหลิงเหยารู้จักมู่วี่สิงก่อนเธออีก ความสัมพันธ์ของเขาก็ดีไม่แพ้เธอ

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ

น้ำตาค่อย ๆ ไหลลงทั่วใบหน้า เวินจิ้งรู้สึกเพียงว่าเธอถูกบีบคอไว้ หายใจไม่ออก

เธอนั่งลงช้า ๆ ด้วยความรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก และในวินาทีต่อมา เธอตัดสินใจว่าจะเดินเข้าไปถามให้ชัดเจนไปเลย!

เธอเชื่อว่ามู่วี่สิงจะไม่มีความสัมพันธ์พิเศษกับหลิงเหยาแน่นอน

ไม่มีทางหรอก

ทันทีที่ยืนขึ้น เวินจิ้งเหมือนเข้าสู่อ้อมแขนที่คุ้นเคย เธอขมวดคิ้ว แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง

โจวเซินแต่งชุดสีดำทั้งตัวจนแทบจะกลมกลืนกับยามค่ำคืนอันมืดมิด

โจวเซินเห็นเธอตั้งแต่เพิ่งเดินออกจากโรงพยาบาลแล้ว

เขาเดินตามเธอมา แล้วเห็นเธอร้องไห้ และร้องไห้อย่างช้ำใจ

คนที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ก็คงมีแต่มู่วี่สิงคนเดียวเท่านั้น

โจวเซินหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า เขาพยายามเช็ดน้ำตาของเธอ แต่เวินจิ้งกลับเดินถอยหลังไป

“ฉันไม่เป็นไร” เธอหันหลังแล้วเดินจากไป

แต่โจวเซินดึงแขนเธอไว้ แล้วลากเธอเข้าไปในรถเก๋งที่จอดอยู่ด้านข้าง

“คุณร้องไห้ขนาดนี้แล้วยังบอกไม่เป็นไรได้ไง?” น้ำเสียงของโจวเซินเต็มไปด้วยความโมโห

เวินจิ้งกัดริมฝีปากแล้วหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ “งั้นรบกวนคุณส่งฉันกลับไปที่มหาลัยที”

“อื้ม” โจวเซินบอกคนขับเขา

ระหว่างทางทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันเลย จนกว่ามู่วี่สิงโทรเข้ามา แล้วเวินจิ้งรับสาย

“คืนนี้คงกลับไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ โอเคไหม?” เสียงของมู่วี่สิงไม่สามารถซ่อนความเหนื่อยล้าของเขาได้

“โอเค”

“คุณมาโรงพยาบาลเหรอ?”

“เปล่า ฉันมีธุระ ขอวางก่อนแล้วนะ” เวินจิ้งรีบกดวางสายไป

ได้แต่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างรถ

จนกว่ารถจะหยุดที่มหาวิทยาลัยF

“ขอบคุณนะ” เวินจิ้งลงจากรถ โจวเซินก็เดินตาม จนส่งเธอกลับไปถึงหอพักแล้วค่อยกลับไป

เขายืนสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกรถสักพัก คนขับอดไม่ได้ที่จะถามเขา “คุณนายครับ จะกลับแล้วยังครับ?”

“อื้ม ไปตระกูลโจว”

คืนนั้น เวินจิ้งนอนไม่หลับทั้งคืน จนตื่นขึ้นมาด้วยขอบตาที่ดำไปทั้งสองข้าง

ในขณะนั้น มู่วี่สิงโทรหาเธอ ซึ่งเขารู้เวลาตื่นนอนของเธอและไม่เคยจำพลาดมาตลอด

“เมื่อคืนไม่ได้กลับการ์เด้นมูเจียวานเหรอ?”

“อื้ม มีธุระในมหาลัยหน่อย เลยไม่ได้กลับไป” เวินจิ้งพูดเบา ๆ

“เดี๋ยวผมไปรับที่มหาลัยนะ”

“ไม่ต้อง วันนี้ฉันต้องทำการบ้าน……” เวินจิ้งพยายามหาข้ออ้าง

“จิ้ง ๆ เราไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์แล้วนะ คุณไม่อยากเจอผมเหรอ? หืม?” น้ำเสียงมู่วี่สิงค่อนข้างไม่พอใจ

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก แล้วเงียบไปสักพัก

จริงเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว

สัปดาห์นี้มู่วี่สิงยุ่งอยู่แต่ในโรงพยาบาล แล้วเขายุ่งกับเรื่องอะไรล่ะ?

มัวยุ่งกับการกอดกับหลิงเหยาเหรอ?

เธอรู้สึกหึงหวง หึงจนจะเป็นบ้าแล้ว

เธอบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเธอเชื่อในตัวเขา แต่……เธอลืมภาพของเมื่อวานไม่ได้จริง ๆ

อีกอย่าง เธอไม่อยากรับฟังคำอธิบายจากมู่วี่สิงเลย เธอจึงพยายามปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว

“ฉัน……”

ทันทีที่เธอกำลังจะพูด มู่วี่สิงก็รีบขัดจังหวะเธอ “รอผมอยู่ที่ห้อง เชื่อฟังนะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท