Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 570

ตอนที่ 570

บทที่570 ความหวังอันน้อยนิด

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณเลี่ยวหยงจริงๆสินะ ช่วงนี้โจวเซินก็ผูกขาดกับตลาดทางต่างประเทศเอาไว้ไม่น้อย ความอดทนของเขานี่ฉันรู้สึกกลัวจริงๆ” ส้งวี่หรี่ตาลง

อย่างน้อยตอนนี้ เขายังหาช่องทางที่จะจัดการกับตระกูลโจวไม่เจอ

ตอนนี้กิจการของทั้งสองตระกูลดูแล้วมีความสามารถพอๆกัน

“แต่ว่านายแน่ใจหรือว่าเลี่ยวหยงจะช่วยพวกเรา?” ส้งวี่เอ่ยถามอย่างไม่วางใจ

“ชีวิตของโจวหย่านอยู่ในมือของฉัน นายว่ายังไงล่ะ? แต่ก็ยังจำเป็นต้องเตรียมรับมือเอาไว้นะ เธอส่งตัวมาแบบนี้ ฉันเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน” มู่วี่สิงเอ่ยขึ้น

เดิมทีแล้วเขาไม่ได้รีบร้อนเลย สามารถค่อยๆเล่นไปกับโจวเซินได้ แต่ตอนนี้เกมนี้เหมือนกับจะดูน่าตื่นเต้นขึ้นแล้ว

วันถัดมา เวินจิ้งได้มาเจอมู่วี่สิงในตอนบ่าย

“เมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”เวินจิ้งเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

มู่วี่สิงขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น “คุณนายโจวพาตัวโจวหย่านไปส่งที่โรงพยาบาลหนานเฉิงครับ สถานการณ์ของเธออยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย”

ได้ยินชื่อของโจวหย่าน เวินจิ้งจึงขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอไม่ได้รู้สึกชอบพออะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณต้องรับผิดชอบดูแลอาการของเธอด้วยอย่างนั้นหรือคะ?”

“อืม”

“โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นเวลาที่คุณจะมาที่มหาวิทยาลัยนี่ก็ต้องน้อยลงไปด้วยใช่ไหมคะ?” เวินจิ้งรู้สึกหดหู่

“ไม่หรอกครับ แต่ผมจะต้องวิ่งทั้งสองที่เลยทั้งมหาวิทยาลัยและทั้งโรงพยาบาล”

เวินจิ้งเม้มปาก อารมณ์อดที่จะแปรปรวนไม่ได้

มู่วี่สิงมองอาการของเธอแล้ว จึงยิ้มออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ไม่ดีใจหรือครับ?”

“เปล่าซะหน่อย”

ชีวิตคนสำคัญกว่าอะไร เธอไม่โมโหเพราะเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ในใจนั้นรู้สึกไม่สบายซักเท่าไรนัก

“คุณสามารถไปที่โรงพยาบาลกับผมได้นะครับ” มู่วี่สิงยิ้ม

เวินจิ้งเป็นนักศึกษาของขา คอยตามเรียนรู้อยู่ข้างๆเขาก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรอยู่แล้ว

ได้ยินดังนั้น ดวงตาของเวินจิ้งก็เป็นประกายขึ้นมา

“จริงหรือคะ?”

“จะโกหกคุณทำไมล่ะครับ?” มู่วี่สิงลูบผมของเธออย่างเอ็นดู

ใบหน้าที่เซอร์ไพรส์นี้ปรากฏออกมาได้ไม่นาน โจวหย่านไม่ชอบเธอ เธอเองก็ไม่ชอบโจวหย่านเช่นกัน

ถ้าหากเธอไป คาดว่าโจวหย่านคงจะเอะอะโวยวายขึ้นมาอีก

เธอไม่อยากจะทำให้ต้องส่งผลกระทบต่อการทำงานของมู่วี่สิง

“ช่างเถอะค่ะ” เวินจิ้งส่ายหน้า

ตอนนี้เธอไม่อยากได้ยินอะไรที่ไม่เข้าหู

มู่วี่สิงขมวดคิ้วขึ้น “นี่เป็นคำสั่งของผมนะ”

ปล่อยให้เวินจิ้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยเองแบบนี้ คาดว่าเธอคงจะไม่สบายใจเท่าไรนัก

เวินจิ้งทำหน้ามุ่ย “ตอนนี้สถานการณ์ของโจวหย่านเป็นอย่างไรคะ คุณแน่ใจไหมว่าฉันจะไม่ไปกระตุ้นเธอน่ะ?”

“มีผมอยู่ทั้งคน จิ้งจิ้ง” มู่วี่สิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ลึกซึ้ง

เวินจิ้งก้มหน้าลง แล้วค่อยๆพยักหน้าลง

ตอนบ่ายเรียนเสร็จแล้ว เวินจิ้งจึงตามมู่วี่สิงไปที่โรงพยาบาลด้วย

เวินจิ้งตามมู่วี่สิงเข้ามาในห้องผู้ป่วย สายตาของโจวหย่านมองเห็นเธอในทันที

“เธอมาได้อย่างไรน่ะ?” โจวหย่านเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ

เวินจิ้งไม่ได้สนใจเธอ เพียงแค่ช่วยมู่วี่สิงทำงานอยู่ข้างๆเขาอย่างเงียบๆ

“คุณโจวครับ คุณจะต้องรักษาอารมณ์ของตัวเองให้ร่าเริงเอาไว้นะครับ อย่าทำให้ผันผวนแปรปรวนบ่อย” มู่วี่สิงขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น

“อ่อ แต่ฉันไม่อยากเจอเวินจิ้ง” โจวหย่านเอ่ยขึ้นอย่างโมโห

เวินจิ้งอยู่ที่นี่ เธอไม่สามารถสงบนิ่งได้เลย……

“เธอเป็นนักศึกษาของผม ถ้าคุณไม่อยากเจอเธอ ผมก็จะได้ไม่ต้องมา” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นชา

ทันใดนั้นเองโจวหย่านจึงไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก เพียงแต่สายตาที่ไม่พอใจนั้นยังคงมองไปทางเวินจิ้งเหมือนเดิม

เวินจิ้งมีสีหน้าที่นิ่งเฉย ถึงอย่างไรเธอเพียงแค่ติดตามมู่วี่สิงเพื่อมาเรียนรู้เพียงเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่เธอต้องสนใจอยู่แล้ว

หลังจากที่ออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้วนั้น เลี่ยวหยงกำลังรอเขาอยู่ทางด้านนอก เมื่อเห็นมู่วี่สิงแล้วนั้น จึงเดินเข้ามาหา “ลูกสาวของฉันจะสามารถผ่าตัดได้เมื่อไหร่?”

“หลังจากนี้อีกสามเดือนครับ”

“ช่วงระยะเวลานี้เธอจะยังพอสามารถยืนหยัดต่อไปได้ไหม?”

“ตอนนี้ผมจะต้องให้ยาในการรักษาครับ เพียงแค่คุณโจวเชื่อฟังหมอ ก็จะไม่มีปัญหาใหญ่อะไรครับ” เห็นได้ชัดว่ามู่วี่สิงนั้นเข้าใจ โจวหย่านดี

เลี่ยวหยงกลับไม่ค่อยวางใจเท่าไรนัก แต่มู่วี่สิงอยู่ที่นี่ คาดว่าคงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับลูกสาวของเธอ

“คุณหมอมู่ หากมีเรื่องอะไร รบกวนคุณจะต้องบอกฉันด้วยนะคะ ฉันเพียงแค่ต้องการให้ชีวิตของลูกสาวฉันปลอดภัย”

ตอนนี้ที่ตระกูลโจวราวกับว่าไม่มีพื้นที่ให้เธอแล้ว หย่านหย่านเป็นบุคคลที่มีค่ามากที่สุดสำหรับเธอ

“วางใจเถอะครับคุณนายโจว”

เวินจิ้งที่ได้ยินการสนทนากันระหว่างทั้งสองคน แล้วรู้สึกราวกับว่าทั้งสองคนมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างต่อกัน แต่เวินจิ้งไม่ได้เอ่ยถามออกมา

ในใจเธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าอาชีพของการเป็นหมอจะไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ใดๆ

ทั้งวันมู่วี่สิงก็จะต้องประชุมกับหมอทางฝ่ายสมอง และจ่ายยาให้กับโจวหย่านอีกครั้งจนกระทั่งถึงช่วงกลางคืนถึงได้มีเวลาพัก

งานเยอะและยุ่งขนาดนี้เวินจิ้งเองก็ไม่ได้เจอมาเป็นเวลานานมากแล้ว

นอกจากห้องยา เธอถึงได้พบว่าโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นมีสายที่ไม่ได้รับอยู่ ล้วนแต่เป็นสายของเจียงฉีทั้งสิ้น

ช่วงนี้เป็นเพราะงานกลุ่มจึงทำให้ทั้งสองต้องติดต่อกันบ่อยขึ้น

“เจียงฉี?” เวินจิ้งโทรกลับไปอย่างรวดเร็ว

“เวินจิ้ง เธอยุ่งอยู่รึเปล่า?”

“ใช่แล้วล่ะ อยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ”

“ฉันไม่ได้รบกวนเธอใช่ไหม? ฉันอยากจะนัดเธอทำงานน่ะ”

“พรุ่งนี้หลังจากช่วงบ่ายฉันว่างนะ”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ตอนกลางวันเราไปกินข้าวด้วยกันไหม? แล้วค่อยไปที่ห้องปฏิบัติการ?”

กินข้าว……

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้นมา พรุ่งนี้เธอวางแผนเอาไว้ว่าจะไปกินข้าวด้วยกันกับมู่วี่สิงแล้ว…..

เวินจิ้งไม่ได้ตอบกลับไป เจียงฉีจึงเข้าใจความหมายนี้

“พวกเราเจอกันตอนบ่ายเลยก็ได้”

“โอเค”

วางสายไปแล้ว เวินจิ้งจึงเงยหน้าขึ้น กลับพบว่ามู่วี่สิงที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กำลังมองเธออยู่

“ใครโทรมาครับ?” เขาเอ่ยถาม

“เจียงฉีค่ะ” ไม่รู้ทำไม แววตาของมูวี่สิงนั้นแข็งกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย เวินจิ้งจึงรู้สึกใจฝ่ออยู่บ้าง

“อืม”

“เราจะไปกันแล้วใช่ไหมคะ?”

“อืม คุณกลับไปก่อนนะ คืนนี้ผมต้องอยู่ที่นี่”

“คุณคงจะไม่ต้องอยู่ตลอดทั้งคืนใช่ไหมคะ?” เวินจิ้งมีสีหน้าท่าทางความรู้สึกสงสารเขาจับใจ

มู่วี่สิงทำงานมาหลายชั่วโมงแล้ว……

“ยังไหวอยู่ครับ คืนนี้เดี๋ยวผมนอนที่นี่ซักพักแหล่ะ” มู่วี่สิงยิ้ม

เพียงแต่ใบหน้าที่ดูอ่อนเพลียของเขานั้นปกปิดไม่มิด

เวินจิ้งเดินเข้ามา แล้วกอดมู่วี่สิงเอาไว้ “คุณอยู่ที่นี่ ฉันก็จะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ”

“อย่างอแงสิครับ กลับไปนอนนะ” สีหน้าของมู่วี่สิงเคร่งขรึมขึ้น

เวินจิ้งทำปากมุ่ยอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือ

เธอดื้อขึ้นมา ใครก็เกลี้ยกล่อมเธอไม่ได้ทั้งนั้น

ในที่สุดมู่วี่สิงก็ต้องยอม เขาอุ้มเวินจิ้งขึ้นมา แล้ววางเธอลงบนโซฟา “จิ้งจิ้ง ผมทำอะไรคุณไม่ได้เลยจริงๆสินะ”

และก็มีเพียงแค่เธอที่กล้ามากำเริบเสิบสานแบบนี้กับเขา

เวินจิ้งหัวเราะออกมา “ที่ไหนกันคะ ฉันถูกคุณกินจนแทบตายแล้วต่างหากล่ะ”

เพียงแต่ทั้งสองคนที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลนั้น โจวหย่านกลับเกิดภาวะบางอย่างขึ้น มู่วี่สิงจึงต้องรีบกลับเข้าไป

แต่ก่อนหน้านี้ เขาได้พาเวินจิ้งขึ้นรถไปเรียบร้อยแล้ว “อย่าดื้อนะครับ กลับไปพักผ่อนนะ”

ใบหน้าของเวินจิ้งไม่พอใจเท่าไรนัก เธออยากจะลงจากรถ เพียงแต่มู่วี่สิงกลับปิดประตูรถลงอย่างรวดเร็ว แล้วออกคำสั่งให้คนขับรถกดล็อคเอาไว้

เวินจิ้งรู้สึกโมโหมาก แต่กลับทำได้เพียงแค่มองตามเบื้องหลังของมู่วี่สิงที่ยิ่งไกลออกไปเท่านั้น เซ็งจัง

เขาไม่กลับไปกับเธอ คืนนี้คาดว่าเธอคงจะไม่สบายใจเช่นกัน

กลับมาเข้าในโรงพยาบาล โจวหย่านเกิดภาวะหยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่หลังจากการช่วยชีวิตมาแล้วนั้น ในที่สุดเธอก็ฟื้นขึ้นมา

ทั้งหมอและพยาบาลในห้องฉุกเฉินต่างพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

แต่สถานการณ์ของโจวหย่าน มีความหวังอยู่เพียงแค่น้อยนิดจริงๆ

มู่วี่สิงนั่งอยู่ในออฟฟิศ การประชุมหารือเกี่ยวกับอาการป่วยนี้ได้ถูกจัดขึ้นอีกครั้งตอนกลางดึกยาวจนถึงรุ่งสาง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท