Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 590

ตอนที่ 590

บทที่ 590 เวินจิ้งหายตัวไป

เมื่อเห็นประตูห้องทดลองได้เปิดแล้วก็ปิดลงไป ท้ายที่สุดภายในห้องทดลอง ก็เหลือแค่เวินจิ้งเพียงคนเดียว

เธอพยุงตัวเองอยู่บนโต๊ะทดลอง การมองเห็นของเธอค่อยๆ พร่ามัว และเพียงไม่นาน เธอก็เซล้มลงไป

เวลาผ่านไปสักพัก เธออยู่ในอาการสะลึมสะลือ เธอก็ถูกกอดอยู่ในอ้อมกอดของคนแปลกหน้า

โดยไม่ทันตั้งตัว เวินจิ้งพยายามที่จะผลัก ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าให้ออกไป แต่ก็พบว่าเธอไม่มีแรงเลย

“คุณ……”

เธอพึมพำ ลำคอของเธอแห้งมาก

โจวเซินมองไปที่เธออย่างเคร่งขรึม ไม่มีความลังเลในสายตา เขาอุ้มเธอออกมาจากห้องทดลอง เวินจิ้งตกอยู่ในอาการโคม่า

ในขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลหนานเฉิง

มู่วี่สิงออกจากห้องผ่าตัด ก็ดึกมากแล้ว พยาบาลที่รอเขาอยู่ตลอด ก็รีบเข้าไปรายงานอาการของโจวหย่าน

เขาเดินเข้าไปในวอร์ด สีหน้าของโจวหย่านซีดมาก แววตาที่มีชีวิตชีวาก่อนหน้านี้ ได้หายไปหมด เหลือเพียงความมืดมน

“วี่สิง”เมื่อเห็นมู่วี่สิง น้ำตาของเธอก็ไหลลงมา แทบจะทันที

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แล้วตรวจร่างกายของเธอ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”เขาถามพยาบาล

ร่างกายของโจวหย่าน ทรุดลงอย่างรุนแรง

“ช่วงบ่ายที่คุณอยู่ในห้องผ่าตัด ฉันได้แจ้งให้คุณหมอเวินเข้ามา คุณหมอเวินได้สั่งให้คุณโจว ทานยาและฉีดยาค่ะ”พยาบาลตอบอย่างสั่นๆ สีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว

สีหน้าของมู่วี่สิงมืดมน

เมื่อได้รับประวัติผู้ป่วยที่อยู่ข้างๆ เขาก็อ่านมันอย่างละเอียด แล้วมองไปที่ขวดยาที่อยู่ข้างๆ

พยาบาลไม่ได้พูดอะไรอีก และได้ออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ

วินาทีต่อมา มู่วี่สิงก็รู้สึกเย็นที่หลังคอ หลังจากนั้นสติของเขาก็ค่อยๆ พร่าเลือน……

เพียงไม่นาน ก็มีบอดี้การ์ดสวมชุดสูทสีดำเข้ามา และก็นำมู่วี่สิงมาวางไว้บนเตียงผู้ป่วย โจวหย่านอยู่ข้างๆ เขา น้ำตาไหลพราก เธอกัดริมฝีปาก แล้วปลดเสื้อของมู่วี่สิง

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็จัดแจงเสื้อผ้าของมู่วี่สิง แล้วโทรหาเบอร์พี่ชาย

“ฉันส่งรูปให้พี่แล้ว”โจวหย่านพูดเบาๆ

ในความเป็นจริง เธอรู้ว่าเธอกำลังจะตายในไม่ช้า และไม่ต้องการใช้ประโยชน์จากมู่วี่สิงอีกแล้ว

แต่ไม่สามารถหลุดพ้นจากโจวเซินได้ จนถึงวันนี้ก็ยังถูกเขาคุกคาม

“วี่สิง ขอโทษนะคะ”

โจวหย่านหายใจเข้าลึกๆ มีแค่เพียงตอนนี้เท่านั้น ที่เธอสามารถจะกอดมู่วี่สิงได้ โดยที่เขาไม่ผลักเธอออก

เมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลา ที่เธอหลงใหลมาตลอดเวลาห้าปี น้ำตาที่ร้อนผ่าวก็หยดลงทีละหยด หัวใจของโจวหย่านรู้สึกเจ็บปวด ราวกับเหมือนถูกขุดออกมา

มู่วี่สิงตื่นขึ้นมา ก็เป็นวันที่สองแล้ว เห็นได้ชัดว่า เสื้อของเขาถูกปลดกระดุมออก และร่างกายของเขาถูกห่มด้วยผ้านวม ซึ่งมีกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ

เขาลืมตาแทบจะทันที ความทรงจำของเมื่อคืนปรากฏขึ้นในหัวของเขา เมื่อเขาหันหัวไปมอง กลับเห็นโจวหย่านนั่งอยู่บนโซฟาที่อยู่ไม่ไกลนัก ที่กำลังมองเขาอยู่อย่างเงียบๆ

“คุณฟื้นแล้ว”เธอยิ้มด้วยสีหน้าราบเรียบ

ในขณะนี้ เธอไม่ได้สวมชุดของโรงพยาบาล แต่กลับเปลี่ยนเป็นชุดลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ และบนใบหน้าของเธอ ก็ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางๆ

ดวงตาของมู่วี่สิงมืดมนลง แต่เมื่อกำลังจะพูด ประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก

คนที่เข้ามาไม่ใช่พยาบาล แต่เป็นนักข่าวจำนวนหนึ่ง

“คุณโจว พวกเรามาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์คุณค่ะ”

โจวหย่านพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมพร้อมมาอย่างดี

มู่วี่สิงหรี่ตาแสดงถึงอันตราย ที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ทีละก้าว แต่นักข่าวพวกนั้น ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเขา

กล้องที่อยู่ด้านนอก กำลังถ่ายภาพสถานการณ์ตอนนี้

“โจวหย่าน”น้ำเสียงของมู่วี่สิงเยือกเย็น ราวกับอยู่ในนรก

โจวหย่านอาจจะเคยกลัวมาก่อน แต่ตอนนี้ เธอนิ่งมาก และยังมีรอยยิ้มจางๆ บนริมฝีปากของเธอ

“วี่สิง ฉันต้องให้สัมภาษณ์ แล้วฉันจะมาอยู่กับคุณทีหลัง ดีไหมคะ?”

เมื่อประโยคนี้จบลง เกือบทุกคนคิดว่าทั้งสองคน มีความสัมพันธ์แบบคู่รักกัน

“ออกไปให้พ้น”มู่วี่สิงตะโกนใส่นักข่าว อย่างเย็นชา

หลายๆ คนรู้จักความมีชื่อเสียงของมู่วี่สิง เขาไม่เพียงแต่เป็นศาสตราจารย์ทางด้านประสาทวิทยา แต่ยังเป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอีกด้วย ตัวตนของเขาทั้งร่ำรวยและสูงส่ง

นักข่าวไม่กล้าที่จะรุกรานมู่วี่สิง แต่มันก็เป็นผลดีที่ได้รับข่าวร้อนแบบนี้ แค่นี้ก็ทำเงินได้แล้ว

“มู่วี่สิง คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ว่าเวินจิ้งต้องการจะฆ่าฉัน?”น้ำเสียงของโจวหย่านเรียบนิ่ง ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้

มู่วี่สิงกำหมัดแน่น ด้านมืดในดวงตาค่อยๆ แผ่กว้างออกมา

“คุณคิดงั้นเหรอ?”น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชา

“ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อ แต่มันเป็นเรื่องจริง และเรื่องที่เมื่อคืนคุณอยู่ในห้องพักฉัน ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้กันหมดแล้ว ว่าพวกเรานอนด้วยกัน”

พวกเรานอนด้วยกัน

ในวินาทีต่อมา ขายาวของมู่วี่สิงก็เตะไปที่โต๊ะชา ที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างแรง นั่นทำให้เศษแก้วกระเด็นไปโดนมือของโจวหย่าน แล้วเลือดสีแดงสดก็ไหลออกมาทันที

แต่ว่ามู่วี่สิงไม่ได้มองเธอเลย และออกจากโรงพยาบาล โดยไม่หันกลับมามอง

เธอยิ้มอย่างสดใส

เมื่อกลับมาที่ห้องทำงาน มู่วี่สิงก็กดโทรศัพท์ เพื่อโทรหาเวินจิ้ง แต่ก็พบว่าไม่สามารถติดต่อได้เลย

เขาแจ้งให้กับเกาเชียน และเปิดเบราว์เซอร์ในเวลาเดียวกัน เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาและโจวหย่าน “ภาพบนเตียง”ก็ได้ถูกเผยแพร่ภาพไปทั่วอินเทอร์เน็ต โจวหย่านที่พิงหน้าอกอยู่ใกล้ๆ เขาอย่างเซ็กซี่ หลับตาลงเล็กน้อย เป็นมุมที่ดูพอดี สีหน้าของโจวหย่านเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ และหัวของมู่วี่สิงก็ถูกกดต่ำลง เขาไม่มีสติ แต่ในภาพนั้น กลับกลายเป็นเขาจูบที่หน้าผากของโจวหย่าน

เขายิ้มอย่างเยือกเย็น

เกาเชียนก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว และเมื่อภาพแบบนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ประชาสัมพันธ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็จะจัดการเรื่องนี้ทันที

ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่า คนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำนี้ ได้เตรียมการมาอย่างดี การเคลื่อนไหวของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ได้ช้า แต่ก็ไม่สามารถหยุดการแพร่กระจาย บนเครือข่ายทั้งหมดได้

ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวแจ้งว่าโจวหย่านกำลังป่วยหนัก ดังนั้นบนอินเทอร์เน็ต จึงมีข่าวเกี่ยวกับมู่วี่สิง ที่คอยดูแลแฟนสาวที่ป่วยหนักของเขา

เกาเชียนลังเล ไม่กล้าที่จะพูด

แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้,เวินจิ้งหายตัวไป

“โจวเซินล่ะ?”มู่วี่สิงถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“เขาไปทำธุระที่เมืองเป่ยเฉิงครับ”

“เขาไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยเหรอ?”

“ยังไม่เจอตอนนี้ครับ”หัวของเกาเชียนก้มลงต่ำเรื่อยๆ

มู่วี่สิงถึงกับยกโต๊ะขึ้นมาได้ครึ่งหนึ่ง เกาเชียนไม่เคยเห็นมู่วี่สิงโกรธมานานแล้ว ทุกครั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเวินจิ้ง การควบคุมตัวเองที่มู่วี่สิงภูมิใจมาโดยตลอด ก็พังทลายลงทันที

“ตามหาคน ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันอยากรู้ที่อยู่สุดท้ายของเวินจิ้ง!”

เกาเชียนลดสายตาลง และพยักหน้าอย่างหนัก

ถ้าหากตามหาคนไม่เจอ เขาคงจะให้ทุกคนเก็บข้าวของ แล้วออกไปให้หมดแน่นอน

ทันทีที่เกาเชียนออกไป พยาบาลก็รีบเข้ามาทันที“คุณหมอมู่คะ คุณโจวเป็นลมแล้วค่ะ”

มู่วี่สิงกลับสีหน้า แล้วเดินผ่านไปอย่างเย็นชา โจวหย่านอยู่ในห้องฉุกเฉินแล้ว และสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต

เขาขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด แล้วก็เริ่มช่วยชีวิต

สิบนาทีต่อมา การเต้นของหัวในของโจวหย่าน ก็กลับมาเต้นเป็นปกติ เขาหลับตาแน่น แล้วสั่งให้พยาบาลดูคนป่วยให้ดี และก็ได้แจ้งแพทย์คนหนึ่งให้มาปฏิบัติหน้าที่แทน แล้วเขาก็ออกจากโรงพยาบาล

เกาเชียนและมู่วี่สิง กลับไปที่การ์เด้นมูเจียวานด้วยกัน ได้มีการดึงภาพวิดีโอจากโรงพยาบาลออกมา โจวหย่านพูดอยู่เสมอว่า เวินจิ้งต้องการที่จะฆ่าเธอ และตอนนี้หลักฐาน ก็ได้ถูกส่งไปที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว

มู่วี่สิงได้รับหลักฐานมา จากความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจ มันเป็นวิดีโอจากวอร์ดของโจวหย่าน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท