Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 596

ตอนที่ 596

บทที่ 596 โจวเซินเป็นแฟนคุณเหรอ

“นี่คือเอกสารที่ผอ.โรงพยาบาลเหรินหมินอยากให้คุณเซ็น”

เวินจิ้งยืนห่างจากมู่วี่สิงหนึ่งเมตรกว่าๆ จากนั้นก็ส่งเอกสารไปให้อย่างนอบน้อม ด้วยท่าทีนิ่งๆ

มู่วี่สิงช้อนตามองผ่านๆ ริมฝีปากบางกระตุกขึ้นนิดๆจนแทบจะไม่เห็นเป็นรอยยิ้ม “คุณนั่งรออยู่ที่นี่ก่อนแล้วกัน ตอนนี้ผมต้องเข้าประชุม”

พูดจบ มู่วี่สิงก็เปิดกล้อง จากนั้นเสียงพูดภาษาที่เวินจิ้งฟังไม่รู้เรื่องก็ดังขึ้นมา

เธอมุ่นคิ้ว จากนั้นก็มองดูเวลา อยากถามมู่วี่สิงว่าการประชุมนี้ใช้เวลานานเท่าไหร่ เธออยากกลับแล้ว

แต่มู่วี่สิงกลับไม่มองมาที่เธอเลย กำลังจดจ่ออยู่กับการประชุมเป็นภาษาอังกฤษ

เวินจิ้งจึงทำได้เพียงนั่งรอไปก่อน จากนั้นก็ส่งข้อความบอกโจวเซินว่าให้เขากลับไปก่อน

เพียงแต่ว่าวินาทีถัดมาโจวเซินก็โทรมา เวินจิ้งจึงเดินมารับอยู่บริเวณหน้าต่าง

“เวินจิ้ง ประชุมยังไม่เสร็จอีกเหรอ?” เสียงเป็นห่วงของโจวเซินดังขึ้นมา

“ฉันมีธุระนิดหน่อยน่ะ คุณกลับไปก่อนเถอะ”

“ธุระอะไร?” โจวเซินจี้ถาม

“ธุระส่วนตัว” เพราะไม่อยากพูดอะไรมาก เวินจิ้งจึงวางสายอย่างรวดเร็ว

เมื่อหันกลับมาก็เห็นว่า มู่วี่สิงกำลังมองมาที่เธอ และดูเหมือนตอนนี้ประชุมจะอยู่ในช่วงพักเบรก

“โจวเซิน?” เขาเลิกคิ้วขึ้น

เวินจิ้งพยักหน้าโดยอัตโนมัติ แต่จากนั้นก็รีบพูดเสียงเย็นชาว่า “ไม่เกี่ยวกับคุณ”

มู่วี่สิงแสยะยิ้ม ไม่นานก็เข้าร่วมประชุมต่อ

ตอนแรกเวินจิ้งก็ว่าจะเร่งให้เขาเซ็นเอกสารให้ก่อน แต่คำพูดจำต้องถูกกลืนลงไป

หน้าประตูทางเข้าโรงแรม เมื่อโจวเซินได้ยินสายโทรศัพท์ถูกตัด ความดุร้ายในดวงตาก็แพร่กระจายไปทั่ว

เขารู้ ว่ามู่วี่สิงก็เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพักอยู่ที่โรงแรมนี้ด้วย

เขาเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สั่งผู้จัดการให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด

ภายในห้อง เวลาเดินผ่านไปทุกๆวินาที

เวินจิ้งเริ่มง่วงนอนแล้ว ท้องฟ้านอกหน้าต่างก็ยิ่งมืดเข้าเรื่อยๆ แต่มู่วี่สิงก็ยังคงประชุมอยู่

เธอหาวออกมา เปลือกตาก็ยิ่งหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ

จริงๆแล้วอุณหภูมิในห้องนี้กำลังพอดีเลย ยิ่งมีโซฟานุ่มๆก็ยิ่งสบายตัว และผู้ชายที่อยู่ข้างๆก็เป็นมู่วี่สิง จึงทำให้อารมณ์เกร็งๆของเธอที่มีมาตลอดค่อยๆผ่อนคลายลง

เมื่อมู่วี่สิงประชุมเสร็จ สิ่งที่เข้ามาในสายตาก็คือภาพเวินจิ้งหลับปุ๋ยอยู่บนโซฟา

ผิวของเธอขาวใสยิ่งกว่าเมื่อสามปีที่แล้ว โครงหน้าก็หมดจรดลงตัว แต่ใต้ตาก็ยังมีรอยคล้ำจางๆอยู่บ้าง คิดว่าเธอคงอดหลับอดนอนบ่อยๆ แต่ว่าเมื่อก่อนเวินจิ้งจัดการชีวิตตัวเองได้ดีกว่านี้มาก

จริงๆแล้วเวินจิ้งรู้สึกได้ถึงกลิ่นกายของชายหนุ่มที่จู่โจมเข้ามา เธอไม่ได้หลับสนิท ดังนั้นเมื่อมีคนเข้ามาใกล้สัญชาตญาณระวังภัยจึงตื่นขึ้นมา

แต่เมื่อรู้ว่าเป็นมู่วี่สิง กลับรู้สึกเบาใจลง

“ผมประชุมเสร็จแล้ว”

ในตอนที่เวินจิ้งลืมตาขึ้นมา มู่วี่สิงก็กลับไปนั่งที่โซฟาแล้ว ใบหน้าหล่อเหลากลับไปเรียบนิ่งตามเคย

“อืม”

เมื่อมองดูเวลา ก็เห็นว่าเป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

เธอจึงรีบส่งเอกสารไปให้เขา มู่วี่รับมาอ่านอย่างจริงจัง ถึงขนาดที่มาร์คความคิดเห็นลงบนเอกสารอยู่สองสามที่ จากนั้นผ่านไปครึ่งชั่วโมงถึงได้ส่งคืนให้เวินจิ้ง

“ผมเขียนความคิดเห็นลงบนนั้นหมดแล้ว คุณเอาไปส่งให้ผอ. แล้วหลังจากเขายืนยันค่อยมาหาผมอีกที”

เวินจิ้งนิ่งอึ้ง เธอนึกว่าแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเสร็จแล้ว

แต่ว่าครั้งหน้าเธอคงไม่ได้มาส่งเอกสารแล้วล่ะ ครั้งนี้แค่บังเอิญประชุมอยู่ที่เดียวกันกับมู่วี่สิงพอดีเท่านั้น

“ฉันรู้แล้ว”

เธอเก็บเอกสารไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะรีบเดินออกไป

แต่สายตาของมู่วี่สิงกลับเอาแต่จดจ้องมาที่เธอ เมื่อเวินจิ้งแตะลูกบิดประตู ก็พบว่ามันเปิดไม่ออก! เธอหันหน้ากลับไปถลึงตาใส่มู่วี่สิง เขาต้องจงใจแน่ๆ!

มุมปากของชายหนุ่มกระตุกเป็นรอยยิ้ม หัวใจของเวินจิ้งเต้นระรัว ขยับเข้าใกล้ประตู สีหน้าของเธอค่อยๆซีดลงเรื่อยๆ

เขาค่อนข้างที่จะกลัวมู่วี่สิงในตอนนี้มาก รังสีที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาเต็มไปด้วยความขมุกขมัวและความเย็นยะเยือก จนทำให้เธอรู้สึกขนลุกซู่

“กลัวเหรอ?” มู่วี่สิงไม่ได้เข้าไปใกล้ ความรู้สึกในแววตาถูกเขาปกปิดเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนกลับมาเป็นเรียบนิ่งเหมือนอย่างเคย

“เปล่า รบกวนคุณเปิดประตูฉันด้วยค่ะศาสตราจารย์มู่” เวินจิ้งพูดขึ้นมาอย่างมีมารยาท

เธอเริ่มใจเย็นแล้ว จากนั้นก็เผชิญกับใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงอย่างนิ่งๆ

“แล้วถ้าผมยังไม่อยากปล่อยคุณไปล่ะ?”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ใบหน้าซีดลงยิ่งกว่าเดิม

ปลายนิ้วสั่นระริก จริงๆแล้วเธอไม่รู้เลยว่าควรใช้อารมณ์ไหนมาเผชิญหน้ากับมู่วี่สิงดี

“ศาสตราจารย์มู่ คุณแต่งงานแล้วนะ” เวินจิ้งพูดอย่างจริงจัง

“อืม ผมแต่งงานแล้วจริงๆนั่นแหละ” มู่วี่สิงพยักหน้า

แต่เวินจิ้งเพิ่งนึกได้ ว่าผู้หญิงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องไม่ใช่โจวหย่าน แต่เป็นหลิงเหยา

แล้วหลิงเหยาเป็นอะไรกับมู่วี่สิง?

ตอนนี้ชีวิตส่วนตัวของเขามันยุ่งเหยิงขนาดนี้เลยเหรอ?

เวินจิ้งไม่อยากจะคิดเลย

ในตอนนี้เอง ที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา หัวใจที่เหมือนถูกแขวนอยู่บนอากาศของเวินจิ้งก็ผ่อนคลายในทันที

มีคนมาก็ดี เธอค่อยๆถอยจากประตู แต่มู่วี่สิงกลับไม่คิดที่จะเปิดประตู

จนกระทั่งเสียงของโจวเซินดังขึ้นมาจากข้างนอก “เวินจิ้ง ผมมารับคุณกลับบ้าน”

มารับคุณกลับบ้าน

ประโยคนี้ดังเข้ามาในหูของมู่วี่สิง ช่างเป็นอะไรที่บาดหูเอาเสียจริง

ความหนาวเหน็บบนใบหน้าของเขายิ่งทอแววลุ่มลึก

“โจวเซินเป็นแฟนคุณเหรอ?” มู่วี่สิงถามขึ้นมาในทันที

“ใช่” เวินจิ้งหลุดปากพูดออกไป

จริงๆแล้วตอนนี้เธอคิดแค่อยากจะออกไปจากที่นี่ ถ้าหากยอมรับออกไปอย่างนั้นแล้วมู่วี่สิงจะปล่อยเธอไป เธอก็ไม่คิดอะไรมากถ้าจะโกหก

เธอมองเขาอย่างเย็นชา “ฉันไปได้หรือยัง? ศาสตราจารย์มู่”

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็ทำมืออนุญาต วินาทีต่อมา ประตูก็เปิดออกอยู่ต่อหน้าของเวินจิ้ง

เธอวิ่งออกไปในทันที โจวเซินเซินยืนอยู่ข้างนอกพอดี เวินจิ้งจึงวิ่งชนเขา แต่โจวเซินประคองเธอเอาไว้ได้ทัน

“เวินจิ้ง”

“เรากลับกันเถอะ” เวินจิ้งไม่หยุดฝีเท้า

โจวเซินเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นว่ามู่วี่สิงกำลังมองมาที่เขาอยู่พอดี

ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาตลอดสามปี ในดวงตาของทั้งคู่ต่างเต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่กัดกร่อนถึงกระดูก

“มู่วี่สิง อย่าแตะต้องเวินจิ้ง” พูดทิ้งท้ายเอาไว้ โจวเซินก็หมุนตัวเดินตามเวินจิ้งไป

สายตาของมู่วี่สิงยังคงทอดมองแผ่นหลังของเวินจิ้ง ที่ทั้งอรชรอ้อนแอ้น และบอบบาง ทั้งๆที่สวมใส่เสื้อกับกางเกงยีนแบบธรรมดา แต่ภาพของเธอในหัวของเขา ก็ยังคงเป็นภาพใบหน้ามุ่ยๆของเธอที่ทอดกายอยู่ใต้ร่างกายของเขาเมื่อสามปีก่อน

เขาลูบปากจากนั้นก็สืบบุหรี่เข้าไปอย่างหนัก จนกระทั่งสูบแล้วเริ่มไอออกมาไม่หยุด เขาถึงได้โยนบุหรี่ทิ้ง

เมื่อกลับมาถึงตระกูลโจวก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว

บนรถ เวินจิ้งนั่งเงียบมาตลอด แต่กระนั้นความลนลานของเธอก็ยังคงอยู่ในสายตาของโจวเซินตลอด

“มู่วี่สิงทำอะไรคุณหรือเปล่า?” เสียงของโจวเซินพกพาความน่ากลัวมาด้วยหลายส่วน

ถ้าหากรู้ตั้งแต่แรกว่ามู่วี่สิงก็อยู่ที่โรงแรมด้วย เขาคงไม่ให้เวินจิ้งไปหรอก

“เปล่า ผอ.แค่ให้ฉันเอาเอกสารไปให้เขาเซ็น” เวินจิ้งพูดออกมานิ่งๆ

“แค่นี้?” โจวเซินไม่ค่อยปักใจเชื่อเท่าไหร่

“แล้วต้องแค่ไหนล่ะ?” พูดจบ เวินจิ้งก็เป็นฝ่ายลงรถไปก่อน กลับมาถึงคฤหาสน์ก็ไม่กินข้าว ตรงเข้าห้องนอนไปเลย ทั้งยังล็อกประตูอีกด้วย

ตอนนั่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ ในหัวของเวินจิ้งก็เต็มไปด้วยมู่วี่สิง เธอหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมา แล้วต่อสายหาอั้ยเถียน

สองปีก่อนอั้ยเถียนกับเสี้ยงหงเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเป่ยเฉิง ตอนนี้แต่งงานกันแล้ว พวกเธอทั้งสองคนติดต่อกันมาตลอด

“เถียนเถียน ฉันเจอมู่วี่สิง ฉันไม่รู้ว่าต้องเชิญหน้ากับเขายังไง…..ฉันอึดอัดจัง……”

เธอพูดเสียงเบา คำพูดเหล่านี้ เธอทำได้แค่ระบายกับเพื่อนสนิท พออยู่ต่อหน้าโจวเซิน ก็ทำราวกับสวมหน้ากากเอาไว้หลายชั้น มีบางครั้งเธอก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักแม้แต่ตัวเอง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท