Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 597

ตอนที่ 597

บทที่ 597 อนุญาตให้คุณเอาแต่ใจได้ขนาดนี้

“หือ มู่วี่สิงไปประเทศFเหรอ?”

“อืม ฉันเจอเขาที่งานแต่งแม่ฉัน”

“เขาแต่งงานไปแล้ว ตอนนี้แกก็มีชีวิตใหม่แล้ว เพราะงั้นก็อย่าไปคิดอะไรเลย” อั้ยเถียนถอนหายใจ พูดขึ้นมาอย่างสื่อความหมาย

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงเชียร์ให้เวินจิ้งไปตามจีบคนที่ตัวเองรักแล้ว แต่ว่าตอนนี้ ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว

“ฉันรู้ ฉันก็ไม่อยากคิดถึงเขาเหมือนกันนั่นแหละ แต่ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้”

เธอเองก็เกลียดที่ตัวเองเป็นแบบนี้…..

“เวินจิ้ง อย่าทำอะไรโง่ๆนะ อยู่ให้ห่างจากมู่วี่สิงด้วย แกต้องฟังที่ฉันพูดนะ”

เมื่อวางสาย เวินจิ้งก็ซบหน้าลงบนขอบอ่าง รู้สึกแค่ว่าเปลือกตาเริ่มหนักอึ้ง หนักขึ้นเรื่อยๆ

ผ่านไปพักใหญ่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงของโจวเซิน “เวินจิ้ง……”

“อื้อ……” เธอพูดงึมงำ จากนั้นถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองเกือบจะหลับไปแล้ว

“ฉันไม่เป็นอะไร” เวินจิ้งตอบกลับไป จากนั้นก็รีบเช็ดตัวแล้วใส่เสื้อผ้า

โจวเซินยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นเวินจิ้งเดินออกมาก็หอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“เวินจิ้ง ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่” โจวเซินมุ่นคิ้ว

ใบหน้าของเวินจิ้งไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ แต่หน้ากลับขาวซีด

เพราะไข้เธอยังไม่หายดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ร่างกายเลยยังอ่อนแออยู่

“ถ้าหิวก็กินโจ๊กสักหน่อยนะ” โจวเซินสั่งคนใช้ให้ยกโจ๊กขึ้นมาให้แล้ว

เวินจิ้งพยักหน้า โจวเซินนั่งลงข้างๆเธอ มองดูเธอกินโจ๊กทีละคำๆ

เพราะผมของเธอเปียก จึงมีหยดน้ำหยดลงติ๋งๆอยู่ตลอด โจวเซินจึงหยิบผ้าขนหนูมาเตรียมที่จะเช็ดผมให้เวินจิ้ง แต่เธอกลับหดตัวหลบในทันที

“ผมเช็ดเองก็ได้” เธอวางชามลง จากนั้นก็รับผ้าขนหนูมาอย่างรวดเร็ว

โจวเซินพยายามมองข้ามแววตาต่อต้านในดวงตาของเธอ นัยน์ตาดำขลับเริ่มขุ่นมัวขึ้นมา

“เวินจิ้ง เมื่อไหร่คุณจะคุ้นเคยกับผมสักที”

เวินจิ้งหลุบตาลง พูดเสียงเรียบเย็นว่า “ตอนนี้เราสองกันเป็นพี่น้องกัน ไม่ใช่เหรอ?”

วินาทีถัดมา โจวเซินก็ถีบเก้าอี้ข้างๆอย่างแรง เก้าอี้ตัวนั้นแทบจะถูกเขาทำพังภายในแค่ชั่วพริบตา…….

อารมณ์ของเวินจิ้งยังคงเรียบนิ่ง

ราวกับว่าตอนนี้ ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ไม่สามารถทำให้อารมณ์เธอสั่นไหวได้

“คุณไม่ใช่น้องสาวของผม เวินจิ้ง ผมจะบอกคุณให้นะ คุณคือคนที่ผมอยากแต่งงานด้วย!” เสียงของโจวเซินมีแต่โทสะ

เวินจิ้งยังคงนิ่ง เมื่อกินโจ๊กเสร็จ ก็เดินถือชามลงไปเก็บข้างล่าง ไม่ได้มองมาที่โจวเซินแม้แต่นิด

เพียงแต่ว่าความสัมพันธ์นี้ สุดท้ายก็แตกหักลง

เธอรู้ ว่าเธอต้องแต่งงานกับคนอื่น ไม่อย่างนั้นถ้าต้องอยู่กับโจวเซินในตระกูลโจวไปตลอด เธอก็จะถูกเขาควบคุม มือของเธอสั่นเล็กน้อย กว่าจะคุมอารมณ์ได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ

ด้านหลัง โจวเซินกำลังเดินเข้ามาใกล้ เมื่อเวินจิ้งหันกลับไป เขาก็มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

“โจวเซิน ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้หรอก” เวินจิ้งพูดกระทบกระทั่งออกไป

โจวเซินแสยะยิ้ม “เรื่องของเรา พ่อกับแม่ไม่เก็บมาถือสาหรอก พวกเขารู้หมดแล้วว่าในใจผมคิดยังไง”

“แม่ไม่มีทางเห็นด้วยกับคุณหรอก!”

“ใครจะไปรู้ล่ะ เวินจิ้ง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ แล้วทำไมคุณต้องเอาแต่หนีอยู่อีก” โจวเซินขยับเข้าใกล้อีก

เวินจิ้งไร้ทางถอย จึงยกมือขึ้นสะบัดใส่หน้าหล่อเหลาของเขา โจวเซินถูกฝ่ามือเธอตบโดยไม่คิดที่จะหลบ

“เพราะคุณคือคนของผมหรอกนะ ผมถึงอนุญาตให้คุณเอาแต่ใจได้ขนาดนี้” พูดจบ เขาก็หันหลังกลับ ไม่มีท่าทีคุกคามอีกแล้ว แต่เวินจิ้งกลับไม่วางใจ

ตอนดึก เวินจิ้งนอนพลิกตัวไปมา ถึงแม้จะล็อกประตูแล้ว แต่เธอก็เอาแต่ฝันถึงภาพที่โจวเซินพังประตูเข้ามา เธอรู้สึกตื่นกลัวจนเหงื่อออกไปทั้งตัว ไม่มีกระจิตกระใจจะนอนแล้ว

เธอลุกขึ้นนั่ง แล้วมองออกไปยังท้องฟ้าสีดำมืดนอกหน้าต่าง จากนั้นก็เดินออกไปตรงระเบียง ผ่านไปพักใหญ่ ก็เริ่มจามออกมาหลายครั้ง ดูเหมือนจะเป็นหวัดซะแล้ว

เธอเดินคลำทางลงมายังห้องโถงรับแขก เมื่อเปิดไฟขึ้นมา ก็เจอเข้ากับร่างกายของใครคนหนึ่งกำลังนั่งเงียบๆอยู่บนโซฟา เธอตกใจจนหน้าขาวซีด

พอเห็นเป็นโจวเซิน ก็ไม่ได้รู้สึกเบาใจลงเลย

“เป็นอะไรไป?” ในระหว่างที่สติหลุด โจวเซินก็เดินเข้ามาใกล้แล้ว เวินจิ้งจึงจามออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“ผมจะไปเอายาแก้หวัดมาให้” เขาพูดเสียงหนัก

เวินจิ้งตอบรับ รู้ดีว่าปฏิเสธไปยังไงก็คงไม่ได้ผล เขาก็คงทำแบบนี้อยู่ดี

เมื่อนั่งลงบนโซฟา ผ่านไปไม่นานโจวเซินก็เดินถือน้ำอุ่นกับยามาให้

เวินจิ้งกินยาเงียบๆ จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะกลับขึ้นไปนอนข้างบน

ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้หันไปมองโจวเซินเลยสักครั้ง

แต่เขากลับเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเธอ

“พรุ่งนี้พ่อกับแม่ก็กลับมาแล้ว วางใจเถอะ” น้ำเสียงของเขามีความถากถางอยู่นิดๆ

เวินจิ้งไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็รีบกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็ว

เมื่อกินยา ความง่วงก็เข้าจู่โจมอย่างหนัก จนในที่สุดเธอก็หลับไป เพียงแต่ว่าคนในความฝันในครั้งนี้เปลี่ยนเป็นมู่วี่สิงแล้ว

วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งไปโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า จากนั้นก็ถือเอกสารเข้าไปในห้องทำงานของผอ.โรงพยาบาล

“ผอ.คะ เมื่อวานศาสตราจารย์มู่ไม่ได้เซ็นตกลง แต่มาร์คบางจุดมาให้คุณแทนค่ะ” เวินจิ้งส่งเอกสารไปให้ ผอ.ลูบคางไปพลางอ่านเอกสารให้ละเอียดไปพลาง

“ผอ.คะ ฉัน….ตอนบ่ายฉันมีผ่าตัด” เวินจิ้งหาข้ออ้าง อันที่จริงวันนี้เธอไม่มีผ่าตัด แต่แค่ไม่อยากเจอมู่วี่สิงอีก

ได้ยินดังนั้น ผอ.ก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วขมวดคิ้วน้อยๆ “งั้นคุณผ่าตัดเสร็จแล้วค่อยไปก็ได้”

ความดึงดันของผอ.ทำให้เวินจิ้งสงสัยมาก

อีกอย่าง แต่ไหนแต่ไรเวินจิ้งก็ไม่ใช่คนควบคุมสีหน้าได้ ตอนนี้บนใบหน้าของเธอจึงแสดงออกอย่างชัดเจนว่า เธอไม่อยากไปส่งเอกสาร

“หมอเวินศาสตราจารย์มู่บอกว่าเพราะคุณเคยเป็นลูกศิษย์ของเขา ก็เลยอยากให้คุณรับผิดชอบเรื่องนี้ให้ แล้วคุณว่าผมต้องทำยังไงล่ะ?” ผอ.โรงพยาบาลพูดออกมาอย่างจนใจ

เวินจิ้ง “………”

ที่แท้ก็เป็นแผนของมู่วี่สิงนี่เอง

“ครั้งนี้ศาสตราจารย์มู่อุตส่าห์จะลงทุนให้โรงพยาบาลของเราเลยนะ โอกาสสำคัญๆขนาดนี้ จะปล่อยให้หลุดหายไปไม่ได้นะ หมอเวิน คงต้องรบกวนคุณด้วย” เมื่อผอ.พูดมาถึงขนาดนี้ เวินจิ้งก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

“งั้นเดี๋ยวอีกสักพักฉันไปเอาเอกสารกับทนายเองก็ได้ค่ะ”

“อืม ถ้าครั้งนี้เซ็นข้อตกลงกันได้แล้ว คุณงามความดีอันใหญ่หลวงของคุณในครั้งนี้ผมจะจดจำมันเอาไว้ให้ดี”

เวินจิ้งไม่ได้มองว่ามันจะอะไรมาก เธอก็แค่อยากทำให้มันสมกับหน้าที่ของตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องอื่นเธอไม่ได้คิดอะไรเยอะแยะเท่าไหร่

ตอนบ่ายหลังจากตรวจคนไข้เสร็จ อานเวยก็เอาเอกสารข้อตกลงมาให้ เวินจิ้งต้องติดต่อกับมู่วี่สิงให้ได้ก่อนถึงจะไปหาเขาได้

ผ่านไปพักใหญ่ เธอถึงได้กดปุ่มโทรออก

แต่ว่าปลายสายกลับไม่มีคนรับเลย เวินจิ้งจึงต้องโอนสายไปที่เบอร์ของเกาเชียนแทน

“คุณเวิน ประธานมู่กำลังประชุมอยู่ที่บริษัท คาดว่าวันนี้น่าจะไม่ว่างทั้งวัน ถ้าไม่งั้นคุณมาพรุ่งนี้ตอนค่ำๆได้ไหมครับ?”

“ไปเร็วกว่านั้นได้ไหมคะ? หรือไม่ก็ให้ฉันไปหาที่บริษัทก็ได้” เวินจิ้งก็แค่อยากจะจัดการเรื่องนี้ให้มันเสร็จเร็วที่สุด

เกาเชียนค่อนข้างจะลำบากใจ “คุณเวิน งั้นเดี๋ยวผมถามท่านประธานก่อนนะครับ”

ไม่นาน ในตอนที่ปลายสายเงียบไปจนเวินจิ้งคิดว่าอีกฝ่ายวางสายไปแล้ว เกาเชียนถึงได้พูดตอบกลับมาว่า “ประธานมู่บอกมาว่า คืนนี้สี่ทุ่ม เจอกันที่ห้อง2203โรงแรมซียี่นะครับ”

พูดจบ เพื่อเป็นการไม่ให้เวินจิ้งถามอะไรต่ออีก เกาเชียนก็รีบวางสายในทันที

เวินจิ้งเคืองสุดๆ ไปโรงแรมอีกแล้วเหรอ?

เรื่องเมื่อวานยังติดตาอยู่เลย เธอเกือบจะถูกมู่วี่สิงขังเอาไว้ในห้อง แล้วคิดว่าเธอจะยังกล้าไปหาเขาที่ห้องอีกเหรอ

แต่พอนึกไปถึงคำฝากฝังของผอ. เธอก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก

“หมอเวิน เป็นอะไรไปคะ?” อานเวยที่กำลังเรียบเรียงประวัติคนไข้ถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

“เปล่าค่ะ” เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เรื่องนี้ เห็นกันอยู่ทนโท่ว่ามู่วี่สิงกำลังปั่นประสาทเธอ แต่เธอกลับทำได้แค่อดทนเอาไว้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท