Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 656

ตอนที่ 656

บทที่ 656 ลุ่มหลงเกินไปจึงทำผิดพลาด

ขณะที่เวินจิ้งลืมตาขึ้นอีกครั้ง คนที่เข้ามาในสายตาก็คือชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา เสี้ยวนาทีนั้น ริมฝีปากสีแดงเข้มของเธอก็ซีดลง

เธอมองเขานิ่งเงียบ ไม่พูดใดๆเนิ่นนาน

เดิมทีสายตายังมีความรู้สึกอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็จางลงจนกระทั่งหายไป

“คุณมาได้ยังไง” เธอกล่าวน้ำเสียงเย็นชาเหลือเกิน

สีหน้าของมู่วี่สิงก็ขาวซีดเช่นกัน เพียงแต่มองเวินจิ้งเงียบๆ

มุมปากของเวินจิ้งยังเหยียดยิ้ม เธอหุบยิ้ม แล้วออกแรงยกมือสัมผัสใบหน้าคมคายของเขา พูดเสียงต่ำ “ไม่มีก็ดี ฉันไม่อยากให้เขาเป็นลูกนอกสมรส เขาไม่ควรเกิดมาอยู่แล้ว”

มู่วี่สิงใช้เวลาที่ห้องคนไข้ไม่นาน เวินจิ้งเองก็ไม่อยากจะคาดเดาอารมณ์และความคิดของเขา เธอรู้สึกเหนื่อย

เธอหลับตาลง รอบกายเงียบสงบ ห้องคนไข้ที่ไม่มีมู่วี่สิง เป็นสถานที่ผ่อนคลายที่สุด

กระทั่งถึงช่วงค่ำ เวินจิ้งรู้สึกตัวตื่นอีกครั้ง คนที่นั่งข้างๆ เธอคือหยูจิ่งห้วน

เมื่อเห็นเธอตื่น เขาก็รีบหยิบหมอนมา เพื่อให้เวินจิ้งหนุนหมอนจะได้รู้สึกสบายขึ้น

“หิวมั้ยครับ” เขาถาม

เวินจิ้งยังจำได้ดีตอนที่เธอถูกผลักล้ม หยูจิ่งห้วนกังวลและหวาดกลัว เธอขยับริมฝีปาก พยักหน้าช้าๆ

เขาช่วยเธอกางโต๊ะคร่อมเตียง และยังช่วยเป่าโจ๊กร้อนๆ อย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งมองท่าทางของเขา ใบหน้าของเขาราวกับค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิง เธอจิกมือแน่น จนรู้สึกเจ็บ ถึงจะลืมตาอีกครั้ง

“ยังรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า ผมเรียกหมอให้”

พอเห็นเวินจิ้งขมวดคิ้ว เขากุลีกุจอลุกขึ้นกดกริ่ง

เวินจิ้งรีบห้ามเขาทันที “ฉันสบายดีค่ะ”

เธอหลับมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว กำลังกายค่อยๆ ฟื้นคืน แม้ว่าร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก

“ผมช่วยป้อน” หยูจิ่งห้วนพูด ส่งช้อนมาถึงริมฝีปากของเธอแล้ว

เวินจิ้งไม่ปฏิเสธ จนกระทั่งกินโจ๊กหมดชาม จึงถามขึ้น “แม่ไม่รู้เรื่องนี้ใช่มั้ย”

“ผมบอกคุณน้าแล้ว ช่วงนี้คุณอยู่กับผม ไม่ต้องห่วง”

“ขอบใจนะ”

“เมื่อไหร่กัน” เขาถาม

เวินจิ้งมองเขา สายตาตะลึงขึ้นมาแวบหนึ่ง

“สองเดือนแล้ว”

เธอเอง ลืมกินยา

ลุ่มหลงเกินไป จึงทำผิดพลาด

“คุณคิดจะทำยังไงต่อ” หยูจิ่งห้วนเวลานี้ปราศจากรอยยิ้มร่าเริงเช่นที่เคยเป็นมา มีแต่ความสงสารเท่านั้น

“ไม่ทำยังไง ควรทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น”

“ผมคิดว่า คุณเหมาะทำงานที่โรงพยาบาลต่อไปมากกว่า”

อารมณ์ของเวินจิ้ง ไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ

“ฉันเป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลหลิน คุณคิดว่าฉันยังกลับไปได้อีกหรือ” เวินจิ้งพูดความจริงเรื่องนี้กับเขา

เมื่อก่อนเธออาจจะลองต่อต้าน แต่สุขภาพของหลินเวยแย่ลงเรื่อยๆ เธอรู้ดีว่าตัวเองต้องรับภาระความรับผิดชอบนี้

“บางที ผมช่วยคุณหาผู้รับอำนาจที่เหมาะสมได้”

“ฉันไม่วางใจ แม่เองก็ไม่มีทางวางใจ” เวินจิ้งพูดขัดเขา

“เวินจิ้ง ผมหวังว่าคุณจะมีความสุข” ความจริงใจของ หยูจิ่งห้วนฉายในแววตาของเขา

“จิ่งห้วน คุณกลับไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” เวินจิ้งบีบนวดหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้า

หยูจิ่งห้วนเม้มริมฝีปาก พยักหน้าช้าๆ

“มีอะไรก็โทรหาผมละกัน”

เวินจิ้งหลับตาลง ราวกับฝันไป ในความฝันนั้นมีเด็กน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ยืนถือไอศกรีมเขย่งเท้าอยากให้เธอช่วยฉีกห่อไอศกรีม เธอแย้มยิ้ม แต่พอฉีกซองแล้ว ไอศกรีมละลายหมดแล้ว พอเธอเงยหน้า ก็ไม่เห็นเงาของเด็กน้อยแล้ว

หนูไปไหนแล้ว

เธอลืมตาโพลง โทรศัพท์มือถือข้างตัวสั่น เวินจิ้งเช็ดเหงื่อที่ผุดบนใบหน้า แล้วหยิบมือถือ

ข้อความวีแชทนั่นเอง

“ขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอท้อง”

ใบหน้าเวินจิ้งไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ไม่ช้าก็ลบข้อความนั้นทิ้ง หลังจากโทรไปหาหลินเวยแล้ว ก็เรียกพยาบาลเข้ามา

“คุณเวิน”

“ฉันอยากกลับบ้าน ต้องทำยังไงบ้างคะ”

“กลับบ้านหรือคะ แต่สภาพร่างกายคุณตอนนี้ยังต้องอยู่โรงพยาบาลดูอาการอีกหลายวันนะคะ” พยาบาลหาสมุดประวัติการรักษาของเวินจิ้ง ใบหน้าฉายชัดว่าไม่เห็นด้วย

แต่ท่าทีของเวินจิ้งแน่วแน่อย่างมาก “ฉันอยากกลับบ้านตอนนี้”

“คุณเวิน คุณหมอไม่ยอมแน่ๆ อีกอย่างตอนนี้เป็นเวลากินข้าวของคุณหมอ อีกราวชั่วโมงหนึ่งถึงจะกลับมา ถ้าจะกลับก็ต้องรอคุณหมอยินยอมอยู่ดีค่ะ”

เวินจิ้งเงียบ ทันใดนั้นมองพยาบาลตรงไปตรงมา พูดเรียบๆ “ตอนนี้ฉันไม่มีเงินติดตัวสักแดง จ่ายค่ารักษาไม่ไหว เหตุผลนี้เพียงพอที่พวกคุณจะยอมให้ฉันออกจากโรงพยาบาลไหม”

พอพูดจบเธอก็หันไป เก็บข้าวของลงในกระเป๋าของตัวเอง

พยาบาลแม้จะดูอายุน้อย แต่ทำงานที่โรงพยาบาลมาเกือบสิบปีแล้ว เคยพบเห็นคนไข้ที่สีหน้าไม่ให้ความร่วมมือ คนที่หงุดหงิดเพราะอยากออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนด ไปจนถึงคนที่พูดจาหยาบคายข่มขู่และอดอาหาร ทำทุกทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเหตุผลเช่นนี้

แต่เธอไม่เชื่อที่คนไข้คนนี้พูดแม้แต่น้อย

ตอนส่งเธอมาที่โรงพยาบาล ผู้ชายที่มากับเธอดูแล้วฐานะไม่ธรรมดา ต้องเป็นคนในสังคมชั้นสูงแน่

แม้ตอนนี้ร่างกายเวินจิ้งจะอิดโรย แต่ยังคงดูมีสง่าราศี ดูแล้วไม่เหมือนคนยากจน

ดังนั้นจะพูดว่าเธอไม่มีเงิน คงจะเป็นเพียงคำพูดหลอกลวงแน่

แต่ถ้าเธอปฏิเสธจ่ายเงินค่ารักษาจริงๆ ละก็ เช่นนั้นเธอก็ไม่มีทางอยู่โรงพยาบาลต่อได้แน่นอน

ขณะที่ตอนนี้ห้องคนไข้ไม่เพียงพอ หลายคนอยากอยู่โรงพยาบาลแต่เตียงไม่พอ

“อย่างนั้นฉันจะช่วยติดต่อคุณหมอเจ้าของไข้ให้ค่ะ” พยาบาลถอนหายใจ

“ขอบคุณค่ะ”

ไม่นานพยาบาลก็กลับเข้ามา ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อย

“คุณเวิน” พยาบาลกำชับ “ออกจากโรงพยาบาลแล้วต้องพักผ่อนมากๆ นะคะ”

“ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ” เวลาที่ท่าทีของเวินจิ้งยิ้มอ่อนโยน จริงใจ เป็นบุคลิกที่ทำให้คนอิจฉา

หลังออกจากโรงพยาบาล ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ฟังที่พยาบาลกำชับสักนิด เพราะเธอจองเที่ยวบินไปเมืองหนานทันที

หยูจิ่งห้วนรู้ว่าเวินจิ้งแอบออกจากโรงพยาบาล ก็ล่วงเข้าวันรุ่งขึ้นแล้ว เขาสืบไม่เจอว่าเวินจิ้งหายไปไหน และยังไม่ยอมบอกมู่วี่สิง

“หมอหยู ต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะ” พยาบาลที่อยู่ข้างๆ เห็นสีหน้ากังวลของหยูจิ่งห้วนก็อดไม่ได้ที่จะเตือนเขา

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจสักนิด เขาต้องปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ

เวลานี้ มู่วี่สิงที่สวมเสื้อคลุมสีขาวเพิ่งออกจากห้องตรวจ เห็นเขาท่าทางใจลอย ก็ขมวดคิ้ว

“นายเป็นไรไป” เขาถามเสียงเรียบ

ตั้งแต่เวินจิ้งเกิดเรื่อง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนห่างเหินไปบ้าง แต่ที่โรงพยาบาล งานยังสำคัญที่สุด

“ไม่มีอะไร” หยูจิ่งห้วนไม่อยากเล่า

ถึงอย่างไรมู่วี่สิงก็คาดเดาได้ เรื่องที่ทำให้เขาอารมณ์แปรปรวน ก็มีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับเวินจิ้ง

หลังกลับไปถึงห้องทำงาน เขาเรียกเกาเชียนเข้ามา “ตอนนี้เวินจิ้งเป็นยังไงบ้าง”

ไม่นานนัก เกาเชียนก็เข้ามารายงานอึกอัก “คุณเวินออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวานครับ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท