Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 702

ตอนที่ 702

บทที่ 702 เขาไม่จริงใจตั้งแต่แรก

มู่ซีตกใจกับท่าทางมู่วี่สิงมาก ยกเว้นต่อหน้าเวินจิ้ง ช่วงนี้ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

เธอกังวลเบาๆ น้ำเสียงทั้งเสียใจและอึดอัด “ฉันไม่กล้าห้ามเธอ … เธอเป็นคุณหญิงของตระกูลมู่ ฉันเป็นแค่ลูกสาวปลอมที่พวกรับมาเลี้ยงเอง และคุณก็ตามใจเธอมาก อารมณ์ของเธอ…ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถห้ามได้ค่ะ”

หัวใจของเวินจิ้งเย็นยะเยือกมาก ทั้งตัวรู้สึกหนาวสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยากจะถอยหนี อยากจะไปจากตรงนี้ แต่ทว่าเธอขยับขาไม่ได้เลย

พิงกำแพงไว้ เธอหายใจแรงๆ บอกกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องใจเย็นๆ

ห้ามให้มู่วี่สิงเจอเธอเด็ดขาด… เธอต้องไปจากที่นี่

แค่เพิ่งจะเดินจากไป เสียงของคนรับใช้ก็ดังขึ้นจากบันไดด้านหลังว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายอยู่ห้องหนังสือไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคุณไม่เข้าไปล่ะคะ”

ความตื่นตระหนกในดวงตาของเวินจิ้งพลันแผ่กระจายไปยังจุดที่ลึกที่สุด ความกลัวและความลังเลก็หายไปหมด เหลือเพียงความคิดเดียว คือไปจากที่นี่

ในขณะนี้ ผู้ชายที่อยู่ในห้องหนังสือกำลังโกรธมาก เขาลุกขึ้นและผลักมู่ซีออก และเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

มู่ซีไม่ทันเตรียมตัว ก็ถูกเขาผลักไปที่เขาโต๊ะอย่างรุนแรง ความเจ็บอย่างหนักจากหน้าท้องไปถึงทั้งตัว

เธอรีบนั่งยองๆและกอดตัวไว้ทันที

“จิ้งจิ้ง”เสียงของผู้ชายเข้าใกล้เรื่อยๆ เวินจิ้งรู้สึกกลัวมาก อัตราความเร็วการเต้นของหัวใจเร็วจนเกือบทำให้เธอ

หายใจไม่ออก

ข้างหน้าก็คือประตูห้องนอน สมองของเธอว่างเปล่า รีบวิ่งเข้าไปข้างในทันที แล้วปิดประตูสุดแรง ล็อคมัน

อย่างสนิท

ร่างเพรียวของเธอพิงแผงประตูด้านหลัง ขาของเธอสั่นอย่างหนักมาก

“จิ้งจิ้ง เปิดประตู” เสียงต่ำของผู้ชายที่อยู่ข้างนอกดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเร่งรีบ

เวินจิ้งปิดปากไว้ เธอก็ไม่ได้จะกรีดร้องหรือร้องไห้หนักอะไร แต่ก็ทำแบบนี้โดยไม่รู้ตัว

มู่วี่สิงกำลังเคาะประตูอยู่ เขาเคาะไม่เบาหรือหนักมาก แต่ทุกจังหวะก็กระแทกใจเธออย่างรุนแรง

เธอมีภาพลวงตาว่า วินาทีต่อไปผู้ชายคนนี้จะบุกเข้ามา …

เธอไม่กล้าคิดต่อ

มู่วี่สิงเคาะประตูต่อ “จิ้งจิ้ง ฟังฉันนะ เปิดประตูก่อน”

เขาไม่เคยตื่นตระหนกแบบนี้มาก่อน แม้แต่ได้รับโทรศัพท์ของคุณปู่ เขาก็สงบตลอดเวลา นอกจากจะต้องทำให้หลินยี่ได้รับการโทษ เขาไม่มีความรู้สึกอื่นใดๆเลย

“อย่าเคาะ อย่าเคาะเลย”เวินจิ้งพึมพำ สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง “มู่วี่สิง ฉันบอกให้คุณอย่าเคาะแล้วไง”

เสียงเคาะประตูด้านนอกหยุดทันที

เสียงต่ำของผู้ชายดังขึ้นอีกครั้ง “จิ้งจิ้ง เปิดประตู”

ข้างในไม่มีเสียงใดๆเลย เงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างใน

เขาตื่นตระหนก และอดไม่ได้ที่จะเคาะประตูต่อเรื่อยๆ “จิ้งจิ้ง เปิดประตู”

ร่างกายของเวินจิ้งค่อยๆเลื่อนลง พิงประตูนอนขดตัวไว้ แขนโอบรอบเข่าและใบหน้าของเธอฝังอยู่ในเส้นผมสีดำ

“จิ้งจิ้ง ถ้าคุณไม่เปิดประตู ผมจะเข้าไปเองนะ”

สายตาของเวินจิ้งเย็นชาตลอด “มู่วี่สิง ฉันบอกแล้ว ห้ามเข้ามา”

เสียงของเธอไม่สูงหรือต่ำมาก แต่ก็พอที่ทำให้ผู้ชายที่อยู่ข้างนอกได้ยินอย่างชัดเจน

มือของเธอที่วางบนเข่าค่อยๆกำหมัดแน่นๆ และข้อต่อเป็นสีขาว เธอกำแน่นมาก เช่นเดียวกับเส้นประสาทที่ตึงอยู่อย่างแน่นๆ

เพิ่งนึกได้ว่ามีโทรศัพท์ติดตัวอยู่ เธอรีบหยิบออกมา เก็บความตึงเครียดและแรงสั่นสะเทือนไว้ เธอพบเบอร์ของพี่ชายอย่างรวดเร็วจากเบอร์ติดต่อ…

แต่ยังไม่ทันโทรติด เสียงต่ำและเย็นชาของผู้ชายที่อยู่นอกประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง “จิ้งจิ้ง เพื่อความปลอดภัยของพี่ชายคุณ ผมขอเตือนคุณอย่าไปหาเขา”

สายตาของเธอจ้องอยู่กับเบอร์ของพี่ชายอย่างนาน

ลังเลอยู่นานหนึ่งนาทีเต็มๆ โทรศัพท์ของเธอก็ลื่นล้มลงกับพื้น

เธอแค่รู้สึกหนาวมาก หนาวเหลือเกิน คิดว่าตัวเองควรร้องไห้ออกมาอย่างหนักด้วยซ้ำ แต่เธอไม่สามารถบีบน้ำตาได้เลย

เธอเชื่อว่าพี่ชายต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน

มุมปากของเวินจิ้งค่อยๆยิ้มออกมา ทั้งขมขื่นและเยาะเย้ย ผู้ชายคนนี้ทำให้ความรู้สึกอย่างต่ำของเธอเพิ่มขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า

เธอยังมีความคาดหวังในตัวเขา เธอคิดว่าพวกเขาจะไปต่อด้วยกันได้จริงๆ

เธออยากจะส่งของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับเขา แต่เธอยังไม่ได้ส่งออกไปเลย เขาก็ส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้เธอก่อนล่ะ

“มู่วี่สิง” เธอหลับตา เสียงแหบมาก”ที่คุณพาฉันกลับมาจากพี่ชายตั้งแต่แรก ใช้สัญญาหย่าหลอกฉันกลับมาก็เพื่อที่จะใช้ฉันจัดการพี่ชายใช่มั้ย”

เขาโหดร้ายจริงๆ โหดกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ

แต่ทำไมเขาต้องจัดการกับพี่ชาย ทำไม …

“ทำไมคุณถึงทำกับเขาแบบนี้ …ฉันทำผิดกับตระกูลมู่เอง ไม่เกี่ยวกับเขา มู่วี่สิง …ทำไมคุณถึงโหดร้ายแบบนี้ด้วย”

ห่างกันแค่ประตูอันหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าจะเหวกั้นไว้

มู่วี่สิงยืนอยู่ข้างนอก เสียงต่ำและเย็นเยือก “จิ้งจิ้ง ให้ฉันเข้าไป”

เวินจิ้งไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้อยู่หรือเปล่า “คุณจะพูดอะไร ก็พูดอยู่ข้างนอกแค่พูดแล้วกัน”

เธอรู้ดีว่าประตูนี้ไม่สามารถกั้นเขาได้ ถ้าเขาจะเข้ามาจริงๆ ก็จะมีวิธีมากมาย และเธอก็รู้ว่า เขาจะทำอะไรเธอก็ไม่มีทางห้ามได้เลย

มู่วี่สิงอยู่ข้างนอกอย่างเงียบๆตั้งนาน แล้วก็หันตัวจากไปเลย

เวินจิ้งกอดเข่าอย่างแน่น นิ้วของเธอสั่นอยู่ตลอด

ผ่านไปไม่กี่นาที เสียงเดินที่อยู่นอกประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง เธอได้ยินเสียงกุญแจเปิดประตูอย่างชัดเจน และประตูก็ถูกเปิดไว้ในวินาทีถัดไป

มู่วี่สิงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ หญิงสาวกอดตัวนอนขดอยู่บนพื้น ผมสีดำปิดหน้าสวยๆของเธอไว้ เขามองไม่เห็นการแสดงออกของเธอ

เวินจิ้งถามอย่างเสียงต่ำว่า “ตกลงคุณทำอะไรกับพี่ชายฉัน”

เขาแค่ย่อตัวลงและยกใบหน้าเล็กๆของเธอขึ้นด้วยนิ้วยาว”วันนี้คุณไปไหนมา”

เธอไปไหนแล้ว ..

เขากลัวว่าเธอจะไปหาพี่ชายเหรอ

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่แล้ว คุณกังวลอะไรอีก” เธอเงยหน้าขึ้น การแสดงออกบนใบหน้าเธอน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้อีก “กลัวว่าฉันจะไปรายงานพี่ชายเหรอ”

เขาเอื้อมมือไปอุ้มเธอกลับไปที่เตียง “อย่านั่งที่พื้น มันหนาว”

เขาปัดผมที่แก้มของเธอออก” ในใจของเธอ หลินยี่อ่อนแอขนาดนี้เลยเหรอ เป็นห่วงแบบนี้”

“มู่วี่สิง คุณเป็นสามีของฉัน เขาเป็นพี่ชายของฉัน แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่คุณก็ทำแบบนี้ไม่ได้ คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้”

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกล่าวหา

เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง

เธอเอื้อมมือออกไปจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มันเปียกอย่างที่คิดไม่มีผิด และอารมณ์ที่หัวเราะตัวเองก็ค่อยๆพลุ่งพล่านในใจเธอ เธอมารับความอับอายชัดๆเลย

เขาไม่จริงใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้หรอก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท