Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 729

ตอนที่ 729

บทที่ 729 เขาชอบเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต

มู่วี่สิงทั้งไม่สบอารมณ์และไม่พอใจเอามาก ๆ ถ้าฟังให้ละเอียดจะได้ยินความเจ็บปวดปะปนอยู่ในน้ำเสียง

เธอเงยหน้าขึ้น “ก่อนที่ฉันจะไปก็พิมพ์และเซ็นหนังสือหย่าเรียบร้อยแล้ว พวกเราหย่ากันตั้งแต่สามปีก่อน มู่วี่สิง เป็นคุณที่ใช้พยายามรักษาชีวิตแต่งงานของพวกเรามาตลอด”

มู่วี่สิงหรี่ตา แววตาถูกฉาบทับไปด้วยความเย็นชาอย่างรวดเร็ว “เวินจิ้ง ผู้ชายคนนั้นของเธอไร้ประโยชน์ เขาไม่ใช่คู่มือของฉัน อย่าคิดว่าจะแย่งผู้หญิงของฉันไปได้”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เขากำลังพูดอะไร

เท่าที่เธอจำได้ ผู้ชายคนนี้เหมือนจะหึงหยูจิ่งห้วน แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะมองหยูจิ่งห้วนเป็นคู่แข่งความรักจริง ๆ

เขาเพียงแค่ไม่ชอบผู้ชายที่อยู่รอบ ๆ ตัวเธอ

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “คุณไหมว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุได้ยังไง”

นัยน์ตาดำของมู่วี่สิงจ้องมองเธอ ใบหน้าหล่อเหลาตึงเครียด “ฉันประสบอุบัติเหตุเพราะไล่ตามเธอที่หนีตามผู้ชายคนนั้นไป”

เธอขมวดคิ้วแน่น พูดเสียงเรียบ “ฉันหนีไปทำไม”

ใบหน้าของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหด เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าสีหน้ายังคงดูอ่อนแรง แต่ความเย็นชาที่ฉายชัดในแววตากลับไม่ลดลง “เพราะว่าเธอไม่รู้ว่าใครคือคนที่รักเธอมากที่สุด เธอยังคงไม่แน่ใจว่าจะเลือกเขาหรือว่าฉัน”

เขาแค่แกล้งเธอหรือว่าเขาความจำเสื่อมจริง ๆ

เธอยกนิ้วขึ้นมา “หนึ่งบวกหนึ่งเป็นเท่าไหร่”

“เวินจิ้ง ชื่อของเธอถูกเขียนลงบนทะเบียนสมรสของฉัน! เรื่องนี้ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนไป! ฉันเอกก็ไม่ต้องการให้เปลี่ยน พวกเราจะหย่ากันไม่ได้!”

เวินจิ้งมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา พูดเสียงเรียบ “ฉันบอกว่าแล้วว่าที่จริงพวกเราหย่ากันแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นคุณใช้กลอุบายทำให้การหย่าร้างของเราไม่ความสำเร็จ ในสายตาของฉันการแต่งงานครั้งนี้จบลงตั้งนานแล้ว ฉันชอบหยูจิ่งห้วน ฉันชอบเพียงเขามาตลอด”

ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเขาจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง อีกทั้งความทรงจำก็ยังสับสน

ลี่หนานเฉิงบอกว่าเขาจำเธอได้แค่คนเดียว เธอค้นพบแล้วว่าเหมือนเขาจะจำเธอได้แค่คนเดียวเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเขาจะจำอดีตของพวกเราไม่ได้แล้ว

พวกเราหย่ากันตั้งนานแล้ว

ดังนั้นเธอเลยอยากจะหนีเขาไปโดยไม่คิดใส่ใจ

เธอทำเพื่อผู้ชายที่ชื่อหยูจิ่งห้วน

ลมหายใจขาดห้วง เขามองใบหน้าเล็ก ๆ นั้นอย่างเย็นชา “ฉันไม่สนใจว่าพวกเธอจะรักกันจริง ๆ หรือเปล่า เธอเป็นภรรยาของฉัน เป็นภรรยาของฉันคนเดียว!”

สีหน้าของเธอล่องลอย

ในตอนนั้นเอง น้ำเสียงของเขาก็ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วง “หลังจากนี้ก็เช่นกัน”

เวินจิ้งไม่สนใจเขา เธอออกจากห้องพักฟื้นไปที่ห้องทำงานแพทย์

คุณหมอคุ้นเคยกับมู่วี่สิงดี เขาทำงานที่โรงพยาบาลหนานเฉิงมาตลอด

เขาวางประวัติการรักษาที่กำลังอ่านอยู่ลง ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณนายมู่ มาถามผมว่าเขาจำไม่ได้จริง ๆ หรือว่าแกล้งโกหกคุณว่าความจำเสื่อมใช่ไหม”

เวินจิ้งนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “ถ้าหากเขาไม่ได้กำลังโกหกฉัน”

เธอชะงัก ขมวดคิ้ว “อุบัติเหตุทางรถยนต์กระทบกระเทือนสมองของเขาหรือเล่า”

คนเป็นหมอหยิบผล CT สแกนสมองส่งให้เธอ อธิบายด้วยเสียงเรียบ ๆ “ไม่ เขาเพียงแค่สติเลอะเลือนเพราะว่าเสียเลือดมาก ประสบอุบัติเหตุแล้วยังรอดชีวิตกลับมาได้ก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว ในเมื่อเขารู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะเป็นอันตรายน้อยที่สุด ย่อมต้องปกป้องส่วนหัวก่อนเป็นอันดับแรก”

เขายื่นมือไปชี้ “หัวของเขาเหมือนจะบาดเจ็บแค่ภายนอก แม้จะดูรุนแรง แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากมายอะไร”

คุณหมอพูดสรุปด้วยเสียงเรียบ “ทุกคนคิดว่าเขาสูญเสียความทรงจำเพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่”

เวินจิ้งไม่เข้าใจ “ในเมื่อไม่ใช่ แล้วทำไมของถึงได้ลืมอะไรไปมากมายขนาดนั้น”

เธอถามอย่างสงสัย “หรือว่าเขาหลอกฉัน”

แต่เท่าที่เธอรู้จักมู่วี่สิงมา เขาไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้

คนเป็นหมอเงยหน้ามองเธอ “รอยมีดบนร่างกายเขาเธอเป็นคนลงมือใช่ไหม ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนั้น ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอสองคน ความรู้สึกของพวกเธอคนนอกก็ไม่มีสิทธิ์จะไปพูดอะไร คุณหมอมู่ลืมเรื่องต่าง ๆ ไปมากมาย พวกเธอสามารถที่จะเริ่มต้นใหม่ และสามารถที่จะจบมันได้เช่นกัน”

เธอออกมาจากห้องทำงานแพทย์ ก็เห็นลี่หนานเฉิงพุ่งเข้ามาหาเธอด้วยความโมโห

เวินจิ้งยืนนิ่ง รอให้เขาเดินเข้ามา

เขาหอบหายใจ เห็นได้ชัดว่าค้นหาไปแล้วรอบหนึ่ง เห็นห้องทำงานที่อยู่ไม่ไกล ก็ถามขึ้นมาอย่างประหลาดใจ “เธอไปถามเรื่องอาการบาดเจ็บของมู่วี่สิงมาอย่างนั้นเหรอ”

ก็นับว่าเธอยังมีคุณธรรมอยู่สักหน่อย

เวินจิ้งไม่ตอบ “ตามหาฉันมีอะไร”

ลี่หนานเฉิงยืดตัวตรงทันที “เขาย้ายไปอยู่ห้องพิเศษแล้ว ตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาลเธอก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนเขา”

เวินจิ้งนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นก็เบนสายตา “ฉันหย่ากับเขาแล้ว”

“หย่าอะไรกัน! เขายังไม่เซ็นชื่อเธอก็ยังคงเป็นภรรยาของเขา นี่เป็นเรื่องที่จริงแท้และแน่นอน ใครก็เปลี่ยนมันไม่ได้! แล้วก็เก็บความคิดของเธอที่มีต่อไอ้หน้าขาวคนนั้นเอาไว้ด้วย”

เวินจิ้งไม่พูดอะไรต่ออีก เพียงกลับไปที่ห้องพักฟื้นของมู่วี่สิงอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็มองเห็นแววตาไม่สบอารมณ์ของชายหนุ่ม

ทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามา ความแข็งกระด้างและน่าอึดอัดปรากฏในแววตาขึ้นทันที

ห้องพิเศษมีพื้นที่กว้างขวาง เวินจิ้งกวาดตามองเห็นเตียงเดี่ยวที่วางอยู่ข้าง ๆ เตียงผู้ป่วย ชุดเครื่องนอนใหม่ถูกปูไว้อย่างเรียบร้อย

พอเห็นเธอเดินเข้ามา มู่วี่สิงก็พูดว่า “เลยเวลาอาหารเที่ยงไปแล้ว เธอไปไหนมา”

น้ำเสียงเหมือนเธอทำให้เขาต้องหิ้วท้องรออย่างไรอย่างนั้น ราวกับว่าเรื่องนี้มากจนเกินทน

เวินจิ้งพูดเสียงเรียบ “ฉันไปถามหมอเรื่องสถานการณ์ของคุณ”

เธอมองตาเขา “ฉันอยากรู้ว่าคุณความจำเสื่อมจริง ๆ หรือกำลังโกหกฉันอยู่กันแน่”

มู่วี่สิงหรี่ตา ไม่สบอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก “เธอสงสัยว่าฉันกำลังโกหกเธออย่างนั้นเหรอ”

“ใช่” เวินจิ้งพยักหน้า “คุณลืมเรื่องที่คุณทำไว้กับฉันไปจนหมด หลังจากนั้นก็พูดว่าฉันเป็นภรรยาของคุณอย่างหน้าด้าน ๆ ดังนั้นฉันก็เลยสงสัยว่าคุณตั้งใจทำ”

แววตาของชายหนุ่มสั่นไหว เขาทำเรื่องผิดบาปต่อเธอไว้มากมายขนาดถึงเพียงนั้นเชียวเหรอ

เวินจิ้งมองใบหน้าที่ค่อย ๆ ดำคล้ำของเขา หลังจากนั้นก็ถามออกมาเย็น ๆ ว่า “เธอว่าฉันทำอะไรเธอ”

เขาทำอะไรลงไป ถึงได้ทำให้เธอหนีไปกับผู้ชายคนอื่น เขาบาดเจ็บหนักขนาดนี้เธอยังไม่มีทีท่าจะสนใจ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ฉันชอบเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต ฉันทำอะไรที่เกินไปกับเธออย่างนั้นเหรอ”

คำพูดข้างริมฝีปากของเวินจิ้งถูกเขาสกัดกั้นให้กลับเข้าไป

เขาชอบเธอมาตั้งแต่เล็กจนโตอย่างนั้นเหรอ

ในความทรงจำของเขา การรับรู้ของเขาเป็นอย่างนี้เหรอ

แต่ตอนเด็ก ๆ พวกเราไม่เคยพบกัน…เขาจะชอบเธอได้ยังไง

มู่วี่สิงเห็นเธอไม่พูด ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงขาวซีดปรากฏความดีใจขึ้นมาทันที “เธอเข้าใจแล้วใช่ไหม อยู่กับฉัน…”

เวินจิ้งตัดคำพูดเขาอย่างไม่ใส่ใจ เธอกะพริบตา “ฉันเข้าอยู่นานแล้ว เป็นคุณที่ชอบฉันมาตลอด จากนั้นไล่ตามฉันไปทั่วโลก เดาว่าชาติก่อนฉันไม่ทันระวังไปขุดหลุมบรรพบุรุษคุณเข้า เลยถูกคุณพัวพันอยู่แบบนี้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท