Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 738

ตอนที่ 738

บทที่ 738 ผมอยากกินแต่อาหารที่คุณทำ

มู่วี่สิงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายเธอ ตั้งใจถูไถเส้นผมของเธอ “ผมเห็นคุณซื้ออาหารมาเยอะแยะ ผมตั้งใจทำงานขยันขันแข็งน่าจะให้ค่าตอบแทนหน่อย ผมอยากกินแต่อาหารที่คุณทำ”

เขายังทำงานบ้านทั้งที่บาดเจ็บ…เขาไม่ใส่ใจเรื่องที่ตัวเองกำลังพักฟื้น

กลิ่นเฉพาะตัวของเขาปกคลุมลมหายใจของเธอ กลิ่นที่คุ้นเคยไม่จางหายไปจากจมูกของเธอ ในที่สุดเธอก็ใจอ่อน “โอเค ฉันจะถือว่าเป็นค่าแรงของคุณก็ได้”

ใบหน้าของเขาเปื้อนรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว ก้มหน้าหอมเธอฟอดหนึ่ง “น่ารักจัง”

เวินจิ้งถอดเสื้อคลุมแล้วคาดผ้ากันเปื้อนเข้าครัวไปเตรียมอาหารกลางวัน มู่วี่สิงเอนหลังบนโซฟาไม่ช้าก็หลับตาลง

แม้ว่าจะไม่ใช่งานหนักอะไร แต่บาดแผลเจ็บหนักยังไม่หายดี เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก

เวินจิ้งผัดกับข้าวง่ายๆ สามอย่าง และต้มน้ำแกงอีกชามหนึ่ง กับข้าวทุกอย่างเป็นอาหารอ่อนเหมาะกับคนป่วย

เมื่อเธอถอดผ้ากันเปื้อนแล้วยกอาหารมาที่โต๊ะ ถึงเห็นว่าชายหนุ่มที่เอนหลังบนโซฟาหลับไปแล้ว เธอยืนข้างๆ มองเขาเนิ่นนาน

คิ้วโก่งตาเป็นประกาย หล่อเหลาแต่เย็นชา โครงหน้าเด็ดเดี่ยว ด้วยความเย็นชาที่เป็นธรรมชาติของเขา แม้ว่าจะเป็นขณะที่หลับอยู่ ก็ยังแผ่ความรู้สึกเย็นชาที่น่ากลัวออกมา

แต่เวลาที่เขาอยู่ต่อหน้าเธอ เขากลับเปลี่ยนเป็นคนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก

เธอยื่นมือไปสะกิดใบหน้าของเขา “กินข้าวก่อนแล้วค่อยนอน ลุกเถอะค่ะ”

เธอมองออกว่าเขาเหนื่อยมากจริงๆ ถ้าไม่ได้กินมื้อเช้ากินมื้อกลางวันก็ยังไม่สายไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้เมื่อไรถึงจะหายดี

“มู่วี่สิงคุณตื่นเถอะ…

“จิ้งจิ้ง” เสียงพึมพำต่ำๆ ออกมาจากริมฝีปากของชายหนุ่ม เขาขมวดคิ้ว ราวกับกำลังฝันร้าย “จิ้งจิ้ง…ผมไม่ได้ตั้งใจ…”

“จิ้งจิ้ง…อย่าไปจากผม…อย่าไปกับเขา…”

เธอเม้มริมฝีปาก กลิ่นอายหอมอ่อนๆ ค่อยๆ เข้าใกล้จมูกของชายหนุ่ม เสียงยังคงแผ่วเบา “มู่วี่สิง คุณตื่นมากินข้าวเถอะ”

ทันใดนั้นมู่วี่สิงลืมตา เวินจิ้งเห็นเงาของตัวเองในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน เขาหรี่ตา เธอยังไม่ทันดึงสติกลับมา เขาก็จูบเธอ “ตื่นมาได้เห็นหน้าคุณ ดีจริงๆ”

ริมฝีปากบางถูไถริมฝีปากของเธอ เสียงถอนหายใจดังเบาๆ ออกมาจากริมฝีปาก

เวินจิ้งยืนขึ้น “ตื่นแล้วก็กินข้าวเถอะ”

มู่วี่สิงมองตามหลังเธอ ดวงตาสีเข้มอ้างว้าง มีความกลัดกลุ้มเจือปน แต่ที่มากกว่านั้นกลับเป็นความรู้สึกที่มีความสุข เธอไม่ชอบเขาสักนิดจริงๆ หรือ

แต่ตอนที่เขาจูบเธอ…ปฏิกิริยาของเธอเป็นธรรมชาติ

และทุกครั้งที่ลิ้มรสริมฝีปากของเธอ ก็เหมือนกับเคยจูบมาหลายต่อหลายครั้ง

ถึงแม้เธอจะไม่พูดกับเขาสักคำ ชายหนุ่มยังอยู่ต่อถึงช่วงค่ำ และยังหน้าด้านหน้าทนกินมื้อค่ำแล้วถึงจะออกจากอพาร์ทเมนท์ของเธอ หลังจากเวินจิ้งอาบน้ำเสร็จจะเข้านอนถึงได้เห็นบัตรเอทีเอ็มที่หัวเตียง

เธอกะพริบตา หยิบมันแล้วโยนเข้าไปในตู้

เช้าวันรุ่งขึ้น เวินจิ้งออกไปร้านกาแฟแต่เช้า

หยีเป่ยโจวเมื่อเห็นเธอก็ตาเป็นประกายทันที รีบเดินตรงมาหาเธอ ดวงตาเหมือนดวงดาวสุกสกาวปิดบังความยินดีและตื่นเต้นไม่มิด “ผมนึกว่าคุณจะไม่มาอีกแล้ว”

เวินจิ้งยิ้มบางๆ “ฉันบอกแล้วว่าจะมาเรียนชงกาแฟ จะไม่มาได้ยังไงคะ”

เธอเอียงศีรษะ ยิ้มตาหยีถามเขา “ฉันทำงานก่อนค่อยเรียน หรือเรียนก่อนค่อยทำงานดีคะ”

เธอสวมเสื้อถักไหมพรมคอวีสีขาว และสวมทับด้วยเสื้อสเวตเตอร์สีเหลืองอ่อน ใบหน้าสะอาดบริสุทธิ์ รอยยิ้มเหมือนดวงจันทร์เสี้ยว สาดส่องพลังรอบด้าน รู้สึกอบอุ่น และยังมีความสงบสุขุม ไม่ถึงกับชวนให้ตะลึงงัน แต่มองแล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก

“ตามสะดวกเลยครับ” หยีเป่ยโจว มองเธอ

เวินจิ้งครุ่นคิด ก่อนที่จะตัดสินใจในที่สุด “ตอนบ่ายคนจะมากหน่อย อย่างนั้นตอนเช้าฉันเรียนชงกาแฟ ตอนบ่ายค่อยช่วยคุณเสิร์ฟ”

หยีเป่ยโจวเห็นด้วยทุกประการ

เธอไม่ได้รักการชงกาแฟจริงจัง เพียงแต่เวลาที่รู้สึกว่างเปล่าต้องการหาอะไรบางอย่างทำเพื่อเติมเต็ม

มีโรงพยาบาลติดต่อมาให้เธอไปทำงาน แต่เธอเข้าใจความคิดของมู่วี่สิงดี ถ้าเธอไปทำงานที่โรงพยาบาล เขาก็จะแทรกแซงให้เธอย้ายไปทำงานโรงพยาบาลของเขา เช่นนั้นก็ไม่มีทางเลี่ยงที่จะต้องเจอหน้าเขา

เช่นนั้น สู้ทำเรื่องอื่นที่ไม่เคยลองทำมาก่อนดีกว่า ถือเป็นการผ่อนคลายด้วย

เธอไม่แม้แต่จะพกโทรศัพท์มือถือออกจากบ้านมาด้วย

ช่วงเช้ามู่วี่สิงต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โทรไปหาเวินจิ้งก็ไม่มีคนรับสาย หงุดหงิดจนต้องใช้ให้เกาเชียนไปตามหาเธอทันที แต่เกาเชียนยังไม่ทันออกไปก็ถูกเขาเรียกไว้เสียก่อน

โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ อพาร์ทเมนท์ก็ไม่อยู่ คิดถึงวันนั้นที่เธอบอกว่าจะไปเรียนชงกาแฟ กำลังคิดจะโทรศัพท์ไปถามที่อยู่ อีกฝ่ายยังไม่ทันรับเขาก็วางสายแล้ว

เวินจิ้งเคยพูดว่า ไม่ชอบให้เขาใช้อำนาจ

เขาจะต้องหาร้านกาแฟทีละร้านอย่างนั้นหรือ

“โต๊ะ 3 ทางโน้นครับ”

เวินจิ้งรับถาดกาแฟมา ยิ้มบางๆ “ได้ค่ะ ฉันจะเอาไปเสิร์ฟเดี๋ยวนี้”

“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง เชิญค่ะ” เธอวางกาแฟเอสเพรสโซสองถ้วยตรงหน้าทั้งสองคน พูดอย่างมีมารยาท

ยังไม่ทันหดมือกลับ มือของผู้ชายก็ยื่นมาแล้ว จับข้อมือของเธอแน่น และยังลูบหลังมือของเธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ออกแรงดึงมือกลับ

แต่ทว่า ไม่สำเร็จ

“คุณชายจี้…คุณกำลังทำอะไร” คนที่จับมือเธอแน่นคือผู้ชายอายุราวสามสิบปี คนที่นั่งตรงข้ามเธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย มองเห็นท่าทางของเธอ พูดขึ้นอย่างโมโห “ผู้หญิงสาวๆ มาทำงาน ยังอายุน้อย คุณอย่าไปยุ่งกับเด็กมันเลย”

แต่แรกเวินจิ้งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย เธอจึงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพนักงานด้วยซ้ำ ยังคงสวมเสื้อผ้าของตัวเอง ผิวพรรณของเธอขาวผ่องเรียบเนียน ดูแล้วอายุน้อยมาก

“คุณผู้ชาย” เวินจิ้งฝืนยิ้ม “ในที่สาธารณะอย่าทำวุ่นวายจนน่าเกลียดจะดีกว่าค่ะ กรุณาปล่อยมือฉันคุยกับผู้หญิงที่คุณนัดเถอะค่ะ”

“เด็กตรงไหนกัน” ผู้ชายยิ้มเยาะดูถูก มองเวินจิ้งหัวจรดเท้า สายตาหื่นชัดเจน “หน้าตาสะสวยพอ รูปร่างใช้ได้ เรียกราคามาสิ”

ผู้หญิงทรงเสน่ห์รู้สึกผิดหวัง “คุณชายจี้เปลี่ยนรสนิยมเป็นจืดชืดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรคะ”

ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ “ผมชอบจืดๆ อย่างนี้ คุณหนูตระกูลหลิน รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ มาทำงานเสิร์ฟน่าสงสารไปนะ มากับผมดีกว่า”

เวินจิ้งสีหน้าเหมือนเดิม กับผู้ชายแบบนี้แม้แต่โกรธยังไม่จำเป็น เธอยังยิ้มต่อ “ขอโทษค่ะ ฉันคิดว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟน่าสนุก ช่วยปล่อยมือด้วยค่ะ”

ช่วงสามปีมานี้เธอออกงานเลี้ยงกับแม่มากมาย มีคนจำสถานะของเธอได้ก็ไม่แปลก แต่ตอนนี้ตระกูลหลินยังไม่ได้ตกต่ำ ถึงขนาดที่จะให้ผู้ชายหยาบคายอย่างนี้สบประมาท

รอบข้างเริ่มมีสายตาหลายคู่พากันมองมา เวินจิ้งยิ้มบางๆ “ชอบฉันหรือคะ”

เธอมองเขา สายตาเฉยชา “คุณอยากจะให้เงินค่าตัวฉันเท่าไร ลองพูดมา ถ้าฉันพอใจจะลองคิดดู”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท