Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 751

ตอนที่ 751

บทที่ 751 จากหลังมือเป็นหน้ามือ

ด้านหน้ารถยนต์ สุนัขสีดำโดนชนล้มคว่ำอยู่ข้างหน้า มันพยายามใช้แรงทั้งหมดเพื่อที่จะลุกขึ้นยืน แต่เพราะขาที่บาดเจ็บไม่น้อย เลือดอาบอยู่บนขนสีดำอย่างเปียกโชก และยังสามารถเห็นกระดูกที่เปื้อนเลือดได้รางๆ

เมื่อมันเห็นเวินจิ้งเข้าไปใกล้ ดวงตาสีดำขลับของมันที่มองตรงมาทำให้เธอหวาดกลัวจนถอยหลังไปหนึ่งก้าว

มู่วี่สิงและคนขับรถตามลงมา ชายหนุ่มยืนพิงรถยนต์ มองไปยังสุนัขสีดำที่กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ใบหน้าของหญิงสาวดูอ่อนโยน ดวงตาเบิกกว้าง มือเรียวยื่นออกมาเพื่อที่จะสางขนให้มันเบาๆ

“เจ็บไหม?” เสียงพูดของเธอเหมือนจะทำให้มันตกใจ

ยังไม่ทันได้แตะถึงตัว สุนัขตัวนั้นถอยหนีด้วยความตกใจ ทำให้เลือดสีแดงข้นของมันยิ่งไหลออกมา เสียงร้องของมันฟังดูแล้วน่าเวทนายิ่งนัก

เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น

มู่วี่สิงไม่รอให้เธอได้พูดอะไร เขาหันไปสั่งกับคนขับรถอย่างเย็นชาว่า “ส่งสุนัขตัวนี้ไปคลินิกรักษาสัตว์ แล้วก็หาเจ้าของให้มันด้วย”

“ไม่ ฉันจะพามันกลับมันบ้านด้วย”

คนขับรถอดไม่ได้ที่จะพูดว่า“คุณผู้หญิงครับ ถ้าอยากเลี้ยงสุนัข คุณสามารถหาพันธุ์แท้ที่ราคาแพงได้ ไอ้ตัวนี้ดูเหมือนจะถูกทิ้งมาไม่มีใครเอานะครับ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ามันมีนิสัยอย่างไร… …”

แล้วมันจะแตกต่างอะไรกับฐานะคุณผู้หญิงตระกูลมู่กันล่ะ?

คนมีเงินชอบที่จะอวดเบ่งกัน สุนัขก็เป็นหนึ่งในนั้นสินะ

ชายหนุ่มเดินมานั่งยองข้างๆ ก่อนที่จะวางมือลงบนไหล่เธอ พลางกระซิบว่า“ถ้าคุณอยากเลี้ยงสุนัขผมจะซื้อให้ คุณชอบสุนัขตัวใหญ่ไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เราอยู่ที่การ์เด้นมูเจียวาน คุณอยากจะเลี้ยงทิเบตันสักตัวก็ได้ถ้าชอบ”

เขาไม่ได้รังเกียจเจ้าสุนัขพันธุ์ผสมตัวนี้ ไม่สำคัญว่าจะเป็นพันธุ์ที่แย่แค่ไหน ปัญหาก็คือเจ้าตัวนี้โดนชนแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะตายหรือไม่ หรือภายหลังอาจจะพิการเดินไม่ได้ แล้วภายหลังเธอก็จะต้องจูงเจ้าขาเป๋พันทางตัวนี้ไปเดินเล่นบ่อยๆ

เวินจิ้งเงยหน้ามามองเขาอย่างดื้อดึง “มันมองมาที่ตาฉันตลอด มันต้องการฉัน”

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปาก จะพูดดี หรือไม่พูดดี

เวินจิ้งเบะปากเล็กๆของเธอ ดวงตากลมโตมองสบมายังเขา “ฉันอยากเลี้ยงตัวนี้ สามี… …”

สองคำสุดท้าย หญิงสาวจงใจพูดอย่างออดอ้อนเพื่อเขา

ดวงตาดำขลับราวกับน้ำหมึกของเขาส่องประกาย ปากบางยกขึ้น เขานำใบหน้าเข้าไปแนบแก้มเธอ ระยะห่างแบบนี้ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน “ไหนลองพูดอีกรอบทีสิ หือ?”

อาหารในตู้เย็นต้องซื้อใหม่อีกครั้ง มู่วี่สิงคิดว่า นิสัยแล้งน้ำใจของผู้หญิงคนนี้มันทำให้เขาแทบจะกัดฟันด้วยความเกลียดชัง พอไม่มีเรื่องก็เย็นชาจนน่าใจหาย แต่พอมีเรื่องมาขอร้องก็เปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ ลงศักดิ์ศรีตัวเองลง ไม่ว่าเขาจะขอร้องหรือล่อลวงให้เธอพูดคำว่าสามีแค่ไหน เพื่อที่จะเลี้ยงสุนัขตัวนี้เธอก็ยอมเรียกเขาว่าสามีอย่างง่ายๆ

เวินจิ้งกะพริบตาปริบ ก่อนที่จะแย้มยิ้มขึ้นราวกับดอกไม้บาน “สามี”

สองคำนี้เป็นไพ่ไม้ตายอย่างแท้จริง มู่วี่สิงเงียบไปสักพักไม่ได้พูดอะไรออกมา

แต่เพราะเนื่องจากเลือดที่อาบอยู่บนตัวของเจ้าสุนัขตัวนี้แลดูน่าหวาดหวั่นนัก ชายหนุ่มจึงสั่งเวินจิ้งไม่ให้ไปแตะต้องมัน “ผมจะให้เกาเชียนเรียกสัตวแพทย์มาที่บ้าน”

ดังนั้นคนขับรถที่น่าสงสารจึงต้องอุ้มร่างที่บาดเจ็บของหมาตัวนั้นขึ้นมานั่งข้างหลังอย่างทุลักทุเล

ใจของเขาเต้นไปด้วยความกลัว สุนัขตัวนี้เป็นตัวที่คุณผู้หญิงอยากเลี้ยง หากว่าเกิดอะไรผิดพลาดเพราะเขาละก็… …

คาดเดาได้เลยว่าถ้าเธอเรียกเขาว่าสามีอีกรอบครั้งนี้งานการก็ไม่ต้องทำมันแล้ว อยากจะร้องไห้โดยที่ไม่มีน้ำตาจริงๆ

ป้าหลี่ดีใจมากที่ได้ยินข่าวผ่านโทรศัพท์ว่าพวกเขาจะกลับมาที่การ์เด้นมูเจียวาน หลังจากวางสายเธอก็ตรงดิ่งมาทำความสะอาดห้องหับให้อีกรอบ

ในขณะที่มู่วี่สิงและสัตวแพทย์กำลังพูดคุยเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของสุนัขนั้น เธอก็ดึงเวินจิ้งออกไปอีกด้านอย่างเงียบ ๆ ก่อนพูดด้วยความโล่งใจว่า “พวกคุณกลับมาก็ดีแล้ว อย่าต้องทำให้ทรมานกันไปมากกว่านี้เลย พวกคุณยังเด็กนัก ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะรู้สึกเสียใจภายหลังหรือเปล่า… …”

เวินจิ้งพยายามฝืนยิ้มออก เธอจับมือที่ค่อนข้างแห้งคู่นั้นของป้าหลี่ก่อนจะกระซิบกับเธอว่า “ขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้ตกใจเมื่อครั้งก่อน คราวหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว”

สายตาของคนรอบข้างที่มองมายังความยุ่งเหยิงระหว่างเธอกับมู่วี่สิงนั้น คงคิดว่าพวกเขาทั้งสองคนคงรักกันอย่างลึกซึ้งเกินไป

เมื่อเธอกลับเข้าไป สัตวแพทย์ได้ทำการรักษาบาดแผลของสุนัขแล้ว กระทั่งเลือดบนตัวมันก็ถูกทำความสะอาดอย่างดี บนขาของลูกสุนัขสีดำตัวนั้นมีผ้าพันแผลสีขาวพันไว้อยู่

ดวงตาของเธอเผยให้เห็นความสุขออกมา พลางเดินเข้าไปใกล้ “เสร็จหรือยังคะ? มีอะไรที่ต้องรักษาอีกไหม? มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษไหมคะ?”

สัตวแพทย์สาวคนนี้ เธอกับมู่วี่สิงก็เป็นกลุ่มก๊วนเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทกันนัก เมื่อเห็นเวินจิ้งเดินมาก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองเธอ

หลังจากที่เธออธิบายพอสังเขปจบ ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว

มู่วี่สิงนั่งอยู่บนโซฟา รอยยิ้มที่แสนเกียจคร้านไม่สามารถปกปิดอารมณ์ความตามใจเธอของเขาได้ “ใกล้แล้วล่ะ คุณตั้งชื่อให้มันหน่อย มันย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกภายในบ้านคุณแล้ว” เวินจิ้งนั่งยองๆอยู่ข้างโต๊ะน้ำชา หมาดำตัวจ้อยก็นอนหมอบอยู่บนโต๊ะชาและจ้องมายังเธอ ดวงตาสีดำกลมโตของมันที่มองมาทำให้เวินจิ้งอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก

เธอเอามืออังไว้ที่แก้ม พลางคิดอย่างตั้งใจ

“ถึงอย่างไรก็เป็นสุนัขที่คุณเลี้ยง เรียกมันเวินเสี่ยวเฮยว่า ไหม?”

เวินจิ้งจ้องเขาแบบไม่สบอารมณ์นัก และกลอกตาไปมา ก่อนจะยิ้มพลางพูดว่า “เข้ามาอยู่ในบ้านคุณแล้วก็ต้องใช้นามสกุลคุณสิ ถ้าอยากเรียกว่าเสี่ยวเฮยก็ได้ มู่เสี่ยวเฮย หือ?”

ปากบางของชายหนุ่มกระตุก ขนาดพยาบาลที่มาดูแลอดที่จะแอบขำออกมาไม่ได้

นิ้วนุ่มยื่นมือไปลูบหัวมู่เสี่ยวเฮย รอยยิ้มของเธอบริสุทธิ์ ภายนัยน์ตาปรากฏให้เห็นรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานาน ตั้งแต่คิ้วลงมาจนถึงดวงตา

ประเทศF ตระกูลลู่

ในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างหรูหราม่านสีเข้มที่ปลิวไสวไปตามแรงลมเป็นครั้งคราว บนเตียงใหญ่มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลามีเสน่ห์เขาหลับตาแน่น ดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

อู๋ชิงมองไปยังสองพี่น้องตระกูลลู่ที่เขาต้องมารับเสด็จทุกวัน ช่างน่าปวดหัวนัก “คุณชายลู่ คุณลู่”

ลู่เซิ่นมองไปยังชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง สายตาที่มองมีความดูถูกเล็กน้อย “ไม่ใช่แค่ถูกยิงนะ ยังจะถูกตั้งใจให้ยิงพลาดอีก นี่เขาตั้งใจจะนอนไปถึงเมื่อไหร่กัน?”

อู๋ชิงหมดคำจะพูด เขาจำใจต้องอธิบายให้ฟังอีกรอบ “คุณชายลู่ นอกจากพี่ใหญ่จะถูกยิงแล้ว ยังตกลงมาจากหน้าผา บริเวณศีรษะได้รับความเจ็บปวด บาดแผลต่างๆบนร่างกายก็รุนแรง……”

“โอเค โอเค” ลู่โยวโยว ขี้เกียจที่จะฟังจึงขัดคำอธิบายของเขา “ฉันมากี่ครั้ง ก็พูดให้ฟังแต่คำพูดไร้สาระ”

อู๋ชิงได้แต่แอบด่าอยู่ในใจ ไม่ใช่เพราะว่าพี่ชายของคุณมากี่ครั้งก็ต้องมาเหน็บแนมพี่ใหญ่ของเขาที่ไม่ยอมตื่นสักทีไม่ใช่หรือไง

เด็กหญิงอายุประมาณ 18 ปี ใบหน้าสวยงดงามน่าหลงใหล ความหยิ่งยโสอวดดีแผ่ออกมาจากทุกท่วงท่าของเธอที่แสดง

อารมณ์ของลู่เซิ่น ยิ่งแย่ไปอีก หลังจากเย้ยหยันเสร็จด้วยท่าทีรังเกียจ เขาก็พูดอย่างไม่สนใจว่า “ไปเถอะ ฉันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมองเขานอนนิ่งเหมือนศพแบบนี้”

ลู่โยวโยวถอนหายใจ ก่อนที่จะขมวดคิ้วมุ่น พลางด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“เขามีน้องสาวคนหนึ่งไม่ใช่หรือ? พี่ชายทำให้เขาเจ็บแบบนี้ ทำไมเธอถึงไม่สนใจล่ะ?”

อู๋ชิงกระแอมไอสองสามครั้ง “ตามรายงานที่คนของพี่ใหญ่ที่อยู่ในเมืองหนานแจ้งมา ตอนนี้คุณเวินกับมู่วี่สิงอยู่ด้วยกัน เป็นไปได้ที่เธอจะคิดว่าพี่ใหญ่ตายไปแล้ว?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท