Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 865

ตอนที่ 865

บทที่ 865 ชัดเจนว่าไม่เหมือนเลยแม้แต่น้อย

คฤหาสน์ตระกูลฉิน

ทั้งสี่คนทานอาหารเสร็จโดยไม่รู้รสชาติของอาหาร คนรับใช้นำผลไม้ขึ้นเสิร์ฟ หลี่เหวยที่เบื่ออาหารจึงลุกขึ้นและกลับไปที่ห้อง

ในที่สุดสีหน้าของฉินซึ่งเทียนก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังจากที่มองหซู่หนานเขาก็จำบางสิ่งที่เขาลืมไปแล้วขึ้นมาได้ “หซู่หนาน ครั้งก่อนเธอพูดว่าจะยืมเงินเพื่อเอาไปแก้ไขปัญหาที่ยุ่งเหยิง แต่ฉันได้ยินมาจากเลขาว่าเธอไม่ได้แตะต้องเงินเลย แก้ไขเรื่องนั้นได้แล้วเหรอ”

ตอนที่หซู่เป่ยถูกแบล็กเมล์ หซู่หนานยืมเงินจาก ฉินซึ่งเทียนโดยตรง หลังจากนั้นเขาอาศัยให้ฉินซีช่วยแก้ปัญหา เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่ได้บอกฉินหว่านเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่เขาคาดไม่ถึงว่าจู่ๆ ฉินซึ่งเทียนจะพูดถึงเรื่องนี้บนโต๊ะอาหาร เขามองไปที่ฉินหว่านอย่างไม่รู้ตัวพลางตอบกลับ “แก้ไขได้แล้วครับ ผมให้เพื่อนช่วยเลยไม่จำเป็นต้องใช้เงินครับ”

ในตอนนี้ ในหัวของฉินซึ่งเทียนเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับวิธีจัดการกับหุ้นที่ฉินซีได้รับ ที่ถามหซู่หนานเป็นเพียงการถามลอยๆเท่านั้น เมื่อได้ยินคำตอบเขาก็พยักหน้า “แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีที่สามารถให้เพื่อนช่วยได้โดยไม่ต้องใช้เงิน อันที่จริงแล้วเงินสิบล้านน่ะ เป็นเรื่องยากนะที่จะถามหาจากใครสักคน”

เขาไม่ได้จริงจังอะไร แต่กลับเป็นฝั่งของฉินหว่านที่สีหน้าเปลี่ยนไป

สิบล้าน?มีเรื่องอะไรกันแน่ถึงต้องใช้เงินสิบล้านในการแก้ปัญหา

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมตัวเองถึงไม่เคยได้ยินหซู่หนานพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน

เธอทนกับมื้ออาหารและตอนนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอดึงตัวหซู่หนานขึ้น “พ่อคะ เราสองคนอิ่มแล้ว จะออกไปเดินเล่นสักหน่อยค่ะ”

ฉินหว่านรีบลากหซู่หนานไปที่สวนหลังบ้าน

“หซู่หนาน นายปิดบังเรื่องอะไรอยู่ ถึงต้องเลี่ยงฉันแล้วไปยืมเงินพ่อฉันตั้งสิบล้าน?” ฉินหว่านจ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง

หซู่หนานลูบขมับของเขาด้วยความเหนื่อยล้า “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตอนนี้ทุกอย่างแก้ไขได้แล้ว เพราะงั้นอย่าถามอีกเลย”

“ไม่มีอะไร?ไม่มีแล้วจะใช้เงินสิบล้านไปทำไม” ฉินหว่านยังไม่จบ “นายไม่พูดใช่ไหม งั้นฉันจะไปถามคนอื่น ต้องมีคนรู้แน่!”

เธอพูดพลางเปิดโทรศัพท์จะกดโทรออก

เธอมองดูรายชื่อโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นฉินหว่านก็เห็นชื่อๆหนึ่ง

หซู่เป่ย

“นายไม่บอกฉัน แต่ก็น่าจะบอกน้องชายนายแล้วสินะ ฉันจะโทรไปถามเดี๋ยวนี้แหละ!”

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะโทรจริงๆ หซู่หนานยื่นมือไปหยุดเธอไว้ “ฉินหว่านหยุดสร้างปัญหาสักที!”

“ฉันสร้างปัญหา?” ฉินหว่านดวงตาแดงก่ำ “ฉันสร้างปัญหาเหรอ ไม่ว่าเรื่องอะไรนายไม่เคยบอกกับฉัน เพราะนายไม่เคยคิดจะจริงจังกับฉันเลย!”

เธอจ้องหซู่หนาน รอให้เขาส่ายหัวเพื่อปฏิเสธ

แต่หซู่หนานกลับนิ่งเฉย

ฉินหว่านมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆเธอก็หัวเราะออกมา “นายไม่โกหกฉันแล้วเหรอ หซู่หนาน นายลืมสิ่งที่นายพูดตอนที่บอกว่าต้องการอยู่กับฉันไปแล้วเหรอ”

หซู่หนานก้มหน้า

ฉินหว่านหุบยิ้ม สีหน้าเปลี่ยนไป จู่ๆเธอก็พูดออกมาอย่างเด็ดขาด “ทางที่ดีนายควรบอกฉันตอนนี้ หซู่หนาน นายกำลังปิดบังอะไรอยู่ ถ้าฉันรู้ด้วยตัวเอง…ฉันจะโกรธมากกว่านี้!”

หซู่หนานเงยหน้าขึ้นมองไปที่เธอ

ใบหน้าของฉินหว่านบูดเบี้ยวเพราะความโกรธ จากใบหน้าที่สวยงามของเธอ ตอนนี้กลับดูน่ากลัวขึ้นมา

ในตอนแรก…เขารู้สึกได้อย่างไรว่าเธอและฉินซีมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน

เห็นได้ชัดเจนว่าไม่เหมือนเลยแม้แต่น้อย!

เขาอึ้งไปชั่วขณะ ฉินหว่านยังคงไม่หยุด “นายทำเรื่องที่บอกใครไม่ได้มาเหรอ หซู่หนาน ฉันต้องรู้ให้ได้…”

จู่ๆหซู่หนานก็รู้สึกปวดที่ขมับขึ้นมา “ทำไมเธอต้องอยากรู้ด้วย ต่อให้รู้ไปมันก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวเธอเอง”

สีหน้าของฉินหว่านนิ่งเฉยทันที “นายหมายความว่ายังไง ที่บอกว่ารู้ไปก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวฉัน มันคืออะไร”

หซู่หนานถอนหายใจ “เธออยากรู้ให้ได้เลยใช่ไหม”

ฉินหว่านลังเล

ที่เธอโวยวาย นั่นเพราะว่าไม่พอใจที่หซู่หนานมีเรื่องปิดบังตัวเอง

ในตอนนี้ เพราะท่าทีของหซู่หนานที่รักษาระยะห่างระหว่างตัวเองนั้นมันทำให้เธอเริ่มรู้สึกสับสนในใจ

แต่เธอปลอบใจตัวเองมาโดยตลอด อย่างน้อยเธอยังมีไพ่ใบสุดท้ายอยู่ในมือ นั่นก็คือการที่หซู่หนานเข้ามาในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้ก็เพราะอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างเธอ

ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าหซู่หนานข้ามหัวตัวเองไปติดต่อกับฉินซึ่งเทียน เธอจึงโกรธมากขนาดนี้

แต่เมื่อสงบสติอารมณ์แล้วคิดดูอีกที ทันทีที่รู้ว่าหซู่หนานเอ่ยปากขอยืมเงินกับฉินซึ่งเทียนได้โดยตรง ทุกอย่างก็ปรากฏบนใบหน้าของตัวเอง เธอดูตกใจเหมือนกับคนขวัญอ่อนอย่างไรอย่างนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น…จากสัญชาตญาณของผู้หญิงแล้ว สีหน้าแบบนี้ของหซู่หนาน ถึงขนาดยอมปริปากพูด แน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่

แต่หซู่หนานไม่ให้เวลาเธอได้ใช้ความคิด

“ฉันยืมเงินสิบล้านจากพ่อของเธอเพราะมีคนแบล็คเมล์น้องชายฉัน” หซู่หนานเล่าสาเหตุ “แต่หลังจากนั้นฉันก็หาคนมาช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะงั้นเลยไม่จำเป็นต้องใช้เงินนี่แล้ว”

ฉินหว่านสงสัยว่า “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำไมถึงไม่บอกฉัน”

หซู่หนานถอนหายใจ “เธอคิดว่าเพราะอะไร”

ฉินหว่านครุ่นคิดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้าทันที “เพื่อนที่ช่วยนาย…คือฉินซีใช่ไหม”

หซู่หนานก้มหน้าลงโดยไม่ตอบอะไร

แค่นี้ก็รู้คำตอบแล้ว

ฉินหว่านตัวสั่นด้วยความโกรธ “นาย…นายไม่เคยบอกอะไรฉันเลย นายขอให้ฉินซีคอยช่วยอยู่เสมอ นาย…”

หซู่หนานพูดอย่างจนใจ “ฉันบอกแล้วไง เธอรู้เรื่องนี้ก็ไม่มีผลดีอะไร”

“หุบปาก!” เสียงฉินหว่านเสียงแหลม “ถ้าไม่รู้ฉันก็จะกลายเป็นเหมือนคนโง่ ถูกนายเก็บไว้ในเงามืดมาโดยตลอด ไม่รู้แม้กระทั่งนายกับยัยนั่นคืนดีกันแล้ว! ”

สีหน้าของหซู่หนานดูใกล้จะหมดความอดทนเต็มที “ตอนที่ฉันขอให้ฉินซีช่วย เราสองคนไม่มีอะไรเกินเลยกันจริงๆ…”

ฉินหว่านเข้าใจประเด็นได้อย่างแม่นยำ “ตอนนั้นพวกนายไม่มีอะไรเกินเลย แล้วตอนนี้ล่ะ?”

หซู่หนานเหลือบมองเธอ

ฉินหว่านหน้าแดงก่ำจากความโกรธ เสียงแหลมคมเสียดหู ต่อให้มองจากภายนอกอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อว่านี่คือคุณหญิงตระกูลฉิน ตรงกันข้ามกลับเหมือนผู้หญิงปากตลาด

เขาจำได้ว่าในตอนแรกนั้นตัวเองคิดอย่างไร

แม้ว่าจะไม่เชื่อคำอธิบายของฉินหว่านไปเสียทุกอย่าง แต่ในก้นเบื้องหัวใจของเขานั้นยอมรับในสิ่งที่เธอพูดว่าตัวเองถูกฉินซีทิ้ง

หลังจากคืนที่วุ่นวายของทั้งสองคนได้ผ่านไป ไม่ว่าจะเกิดจากความคิดที่อยากจะแก้แค้นหรือความคิดที่อยากจะรับผิดชอบก็ตาม เขาตัดสินใจที่จะอยู่กับฉินหว่าน

ไม่มีใครขาดคนใดคนหนึ่งไปแล้วจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้

เขาเชื่อว่าตัวเองก็ทำได้เช่นกัน

เวลาที่เขาและฉินซีอยู่ด้วยกันนับว่าไม่นานนัก อีกทั้งเธอยังเป็นลูกคุณหนูตระกูลฉินที่เอาแต่ใจและเย่อหยิ่งมาตั้งแต่เด็ก เมื่อได้มาอยู่ด้วยกัน บ่อยครั้งที่เขาต้องอดทนเพื่อเอาใจเธอ ยิ่งไปกว่านั้นในชีวิตของฉินซีมักจะยุ่งอยู่เสมอ เขาจึงเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆในชีวิตเธอ

แต่เมื่อได้อยู่กับฉินหว่านเขาได้ลิ้มรสความรู้สึกการเป็นที่ต้องการ การถูกรัก และการถูกเยินยอ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ฉินหว่านที่ทั้งอ่อนโยนและมีน้ำใจจนทำให้เขาหวั่นไหวในตอนแรกได้หายไปตั้งนานแล้ว

เธอกรีดร้องอย่างหมดหวัง ใบหน้าดุร้ายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท