Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 874

ตอนที่ 874

บทที่ 874 ใจร้อนมากเกินไป

ฉินซึ่งเทียนมองดูฉินหว่านอย่างละเอียดรอบคอบ แล้วขมวดคิ้วพูด“แล้วหนู……ก็รู้ใช่ไหมว่าทำไม?”

สายตาของฉินหว่านกระพริบวูบวาบ หลังจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง

ฉินซึ่งเทียนที่เริ่มกังวลอีกครั้ง ก็หันหน้าไปมองหลี่เหวย“เธอได้บอกคุณแล้วใช่ไหม?”

ครั้งนี้หลี่เหวยก็ไม่เปิดปากพูดเช่นกัน ก้มหน้าลง และไม่พูดอะไร

เส้นเลือดสีน้ำเงินที่หน้าผากของฉินซึ่งเทียนสั่นไหว ครู่หนึ่งเขาก็รู้สึกปวดหัว ราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ“ฉินหว่าน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ หนูไม่บอกพ่อ พ่อจะให้ความยุติธรรมกับหนูได้ยังไง?”

หลังจากที่นิ่งเงียบอยู่นาน ฉินหว่านก็เปิดปากพูดอย่างช้าๆ เบาๆ ว่า“ฉินซีพูดว่า……แม่ของหนูทำลายครอบครัวของเธอ เธอแก้แค้นหนู……ดังนั้นก็จะทำลายความสุขของหนูด้วย……”

“อะไรนะ?”ฉินซึ่งเทียนที่เพิ่งจะได้ยิน จิตใจก็ว่างเปล่า ต่อจากนั้นความโกรธก็พุ่งขึ้นมา จากก้นบึ้งของหัวใจ“ช่างไร้ยางอาย!ทำไมถึงว่าแม่ของหนูทำลายครอบครัวของเธอ……”

เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ ก็อยากจะด่าออกมา แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่ฉินซีพูดนั้นเป็นความจริง ตัวเขาเองก็ดูเหมือนว่า……ไม่มีอะไรสามารถโต้แย้งได้

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉินซีสามารถใช้เหตุผลนี้ เพื่อเหน็บแนมคนอื่น หรือแม้แต่ทำเรื่องแบบนี้ได้

ฉินซึ่งเทียนหยุดหายใจสองครั้ง แล้วก็คิดได้ว่า“ฉันจะคุยกับเธอเอง!”

แน่นอนว่าหลี่เหวยและฉินหว่าน ไม่สามารถปล่อยให้เขาไปคุยกับฉินซีได้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นแล้ว การโกหกที่มั่วนิ่มของพวกเขานี้ จะถูกเปิดเผยทันที

หลี่เหวยเปลี่ยนเป็นสีหน้าเศร้าโศก กระอึกกระอักดึงมือของฉินซึ่งเทียนมา“ซึ่งเทียน……ลืมมันไปซะเถอะ มันเป็นความผิดของฉัน บางทีผลกรรมอาจจะตกไปอยู่ที่หว่านหว่าน คุณอย่าไปรบกวนฉินซีเลยค่ะ”

เมื่อเธอพูดประโยคนั้นไป ก็เท่ากับกระพือให้เรื่องใหญ่โต ลุกลามขึ้น และยิ่งทำให้ฉินซึ่งเทียนโกรธมากขึ้น เขาโกรธจนริมฝีปากสั่นไปหมด“อะไรถึงเรียกว่าผลกรรม!ไม่มีสิ่งนั้น!คุณอย่าคิดแบบนั้นเลย!”

หลี่เหวยก้มหน้าลง ไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้“ทำไมจะไม่ใช่ล่ะคะ ฉินซีตอนนี้เป็นสะใภ้ตระกูลลู่แล้ว เบื้องหลังของเธอยอดเยี่ยมกว่าพวกเรามาก เธอต้องการจะใช้วิธีอะไรเพื่อแก้แค้นพวกเรา พวกเรา……ก็ทำได้แค่ทนรับ……”

ยิ่งเธอพูด เสียงของเธอก็ยิ่งเบาลง และท้ายที่สุด ก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่น

และฉินหว่านที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ ก็เช็ดน้ำตาด้วย

ฉินซึ่งเทียนโกรธจนปวดหัวมากขึ้น แล้วเขายกมือขึ้นลูบขมับไปมา“ถึงแม้ว่าฉินซีเธอจะแต่งงานกับใคร ท้ายที่สุดเธอก็นามสกุลฉินอยู่ดี เธอจะมีความสามารถอะไรได้ ผมรู้ทุกอย่างดี!พวกคุณแม่ลูกไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ผมจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ ผม……จะให้เธอจ่ายค่าชดเชย!”

หลี่เหวยเงยหน้าขึ้นมองเขา“คุณ……หมายถึงอะไร?”

ฉินซึ่งเทียนโบกมือ“ปล่อยให้เป็นเพื่อนของผม!ตอนนี้โทรไปหาหซู่หนาน ให้เขาอย่าแกล้งโง่!ถูกฉินซีเกลี้ยกล่อมเพียงแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่เป็นเขาที่มีเจตนา บอกให้เขาอย่าไปสนใจเรื่องนี้เลย!”

หลังจากที่เขาพูดจบ ก็หันหน้าไปมองทางฉินหว่าน“พ่อรู้ว่าตอนนี้ในใจหนูรู้สึกน้อยใจ คำพูดของฉินซีก็ไม่ถูกต้อง พ่อจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แน่นอน!เรื่องที่หซู่หนานทำ ลูกก็อย่าไปใส่ใจมาก ช่วงวัยรุ่น ทำผิดพลาดเพียงครั้งสองครั้งถือว่าปกติ หนูก็หัดที่จะใจกว้างบ้าง”

เมื่อเขาพูดจบ เห็นหลี่เหวยยังนั่งอยู่ที่เดิม ก็ขมวดคิ้วขึ้น“ทำไมคุณยังอยู่ตรงนี้?ให้โทรหาหซู่หนาน หรือจะให้ฉินหว่านโทรไปหาเอง?คุณเป็นคุณนายหญิงฉินยังไงเนี่ย!”

หลี่เหวยตกตะลึง“ฉัน……ให้ฉันโทร?”

ฉินซึ่งเทียนเหล่ตามอง“แล้วจะใครล่ะ?คุณพูดกับหซู่หนานเจ้าเด็กนั่นดีๆ เขาก็เป็นคนหัวรั้นคนหนึ่ง โน้มน้าวให้กลับมาก็โอเคแล้ว!เรื่องนี้ไม่ค่อยจะดี ถ้าให้ฉินหว่านพูดด้วยตัวเอง ให้คุณออกหน้าแทนดีกว่า”

หลี่เหวยพยักหน้าตอบ ในที่สุดฉินหว่านก็มีสีหน้าที่ดีขึ้น ทั้งสองคนขยิบตาให้กันอย่างลับๆ และฉินหว่านก็ตอบด้วยเสียงเบาว่า“พ่อคะ หนู……รู้สึกปวดหัวค่ะ ขอตัวกลับห้องก่อนนะคะ”

ฉินซึ่งเทียนมองเธอด้วยสายตาที่เต็มความสงสาร“เจ็บปวดมานานแล้ว เหนื่อยแล้วล่ะสิ?เดี๋ยวจะให้หมอขึ้นไปดูหนูนะ!”

ฉินหว่านส่ายหัว“หนูพักผ่อนก็โอเคแล้วค่ะ!ไม่ต้องรบกวนให้คุณหมอมาหรอกค่ะ”

ฉินซึ่งเทียนก็ไม่อิดออด โบกมือให้เธอกลับไปพักผ่อน

เมื่อเห็นเธอเดินจากไป หลี่เหวยก็ลุกขึ้น มองไปที่ฉินซึ่งเทียน แล้วพูดเบาๆ ว่า“ฉันจะไปโทรหาหซู่หนาน ไม่อยู่ตรงนี้รบกวนเวลาคุณแล้วค่ะ”

ฉินซึ่งเทียนพยักหน้า“คุณออกไปแล้ว ช่วยบอกให้คนใช้เอายาแก้ปวดหัวมาให้ผมด้วย”

หลี่เหวยมีสีหน้ากังวล“ทำไมคะ อาการปวดหัวกลับมาอีกแล้วเหรอ?เกิดจากปัญหาของพวกเราเหรอคะ?”

ฉินซึ่งเทียนโบกมือ“ไม่เกี่ยวกับเรื่องของพวกคุณ อย่าคิดมากเลย ออกไปโทรศัพท์เถอะ”

หลี่เหวยก็ตอบรับ เมื่อออกมา ก็ไปหาคนรับใช้เกี่ยวกับเรื่องยาแก้ปวดหัว แล้วหลบอยู่ในห้องของตัวเอง ถือโทรศัพท์ออกมา

แม้ว่าฉินซึ่งเทียนจะไม่พูด เธอก็วางแผนว่าจะโทรหาแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อก่อนหซู่หนานเคยเป็นแฟนของฉินซี และตอนนี้ก็ยังคงคิดถึงเธออยู่เสมอ……

ในตอนแรกที่ฉินหว่านยืนยันที่จะคบกับหซู่หนาน หลี่เหวยไม่ได้เห็นด้วยมาตั้งแต่แรก

ในแผนการของเธอ ฉินหว่านควรจะได้แต่งงานกับครอบครัว ที่มีสถานะเดียวกับตระกูลฉิน เพื่อที่จะให้สถานะทางสังคมของตัวเธอเองและฉินหว่าน มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

แต่ท่าทีของฉินหว่านเด็ดเดี่ยวมาก น้ำใจของเธอก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย

ตอนนี้ฉินซึ่งเทียนไม่มีลูกชายไว้ในอ้อมแก มีเพียงแค่ลูกสาวสองคน อย่างฉินซีและฉินหว่าน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงฉินซี ความสัมพันธ์ได้ขัดแย้งกันไปแล้ว ดังนั้นฉินซึ่งเทียนจึงเหลือเพียงฉินหว่าน ที่เป็นลูกสาวผู้ให้กำเนิดเพียงคนเดียวเท่านั้น

ตราบใดที่ยังสามารถได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากฉินซึ่งเทียนทรัพย์สมบัติของตระกูลฉินหลังจากนี้ ก็จะตกเป็นของฉินหว่านไปโดยปริยาย

ฉินหว่านไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการบริษัท ถ้าหากฉินซึ่งเทียนท้ายที่สุดแล้ว ส่งมอบบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปให้กับคนอื่น ถ้างั้นสิ่งที่เธอลงทุนลงแรงไป ก็จะเปล่าประโยชน์

ตอนนี้เป็นเรื่องยาก ที่จะฝึกฝนทักษะการบริหารจัดการของฉินหว่านแล้ว งั้นก็ต้องหาคนที่สามารถบริหารจัดการบริษัทได้ และสามารถพูดเชิญชวนให้ฉินซึ่งเทียนเชื่อในตัวเขาได้

ถ้าเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุดก็จะสามารถกุมบริษัทไว้ในมือของตัวเองได้

และหซู่หนานก็เป็นบทบาทนั้นพอดี

หซู่หนานไม่มีฐานะทางครอบครัว ตอนนี้อาชีพของเขา ก็ขึ้นอยู่กับการต่อสู้ด้วยตัวเอง คนประเภทนี้จะมุ่งแสวงหาความก้าวหน้า และก็จะเข้าใจเรื่องราวได้ดี

หลี่เหวยที่มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย แต่ทำไมไม่เคยคิดว่าหซู่หนานจะน่าหลงไหลได้ขนาดนี้

หลี่เหวยมุ่ยปากอย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วเอื้อมมือไปกดหมายเลขของหซู่หนาน

……

ทางด้านหซู่หนาน หลังจากที่ออกมาจากตระกูลฉิน ก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

เมื่อเขาขับรถอยู่บนท้องถนน ก็ยังคงปลอบใจตัวเองไปด้วย“ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องเลิกกัน จบแบบเจ็บๆ ดีกว่าเจ็บแบบไม่มีวันจบ”แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็ยังคงเสียใจอยู่ดี

ตัวเองเพิ่งจะ ใจร้อนมากเกินไปแล้ว

เดิมทีแผนการของเขา ควรจะเข้าไปใกล้ฉินซีอีกครั้ง รอให้ฉินซีมีท่าทีที่อ่อนลง และเต็มใจที่จะยอมรับตัวเขา แล้วถึงจะไปขอเลิกกับฉินหว่าน เพื่อแบบนี้จะไม่ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเกิดความสูญเสีย

แต่ในตอนนั้นเขารู้สึกรำคาญฉินหว่านมากจริงๆ แล้วก็พูดความจริงๆ ออกไปในทันที ว่าจะขอเลิก

เขาก็ไม่ได้คาดคิดว่า ฉินหว่านจะมีปฏิกิริยาตอบกลับรุนแรงขนาดนี้ ทำให้เขารับมือไม่ทัน

ทำได้แค่รอ รอให้อารมณ์ของฉินหว่านค่อยๆ คงที่ แล้วค่อยกลับไปพูดคุยดีๆ กับเธอ

หซู่หนานที่กำลังคิดได้แบบนั้น กลับได้รับสายจากหลี่เหวย

น้ำเสียงของหลี่เหวยที่ดังออกมา ยังคงอ่อนโยนและนุ่มนวล“เสี่ยวหนานอ่า ถึงบ้านหรือยัง?”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท