Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 974

ตอนที่ 974

บทที่ 974 ใช่ว่าจะไม่เคยคิดต่อต้าน

ท่าทางของฉินซีรุนแรงเกินไป ลู่เหวยยิ้มแย้ม​เล็กน้อย “อย่าประหลาด​ใจ ฉันกับแม่คุณ​ รู้จัก​กันมาตั้งนานแล้ว”

……….

ความจริงถ้าให้เล่านิทาน ก็ง่ายมาก

ตระกูลเหยาและตระกูล​ลู่ ถึงจะเป็นคู่สร้างคู่สม​ทั้งสองครอบครัว​

ทั้งสองครอบครัว​นี้ต่างมีฐานะ​ดี​และร่ำรวย บ้านหลังใหญ่​โต หน้าบ้านกว้างขวาง​ ที่สำคัญอยู่​ใกล้กันมาก

เหยาหมิ่นและลู่เหวย เป็นแฟนกันตั้งแต่​เด็กๆ โตมาด้วยกัน เรียนอยู่โรงเรียน​เดียวกัน​ ทั้งสองครอบครัว​ไปมาหาสู่​กัน ต่างได้เจอหน้ากัน

ตั้งแต่เด็กเหยาหมิ่นเป็นผู้หญิง​ที่ถูกอบรมสั่งสอน​ตามมาตรฐาน​ ท่าทางและการกระทำอ่อนช้อย​ หน้าตาอ่อนโยน​และเรียนด้านดนตรีและศิลปะ​อีกด้วย น้ำเสียงการพูดและรอยยิ้ม​ล้วนอ่อนโยนและนุ่มนวล​มาก

เพราะฉะนั้น​ลู่เหวยจึงถูกเหยาหมิ่นดึงดูด​ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย​

ถ้าหากหลังจาก​นั้นทั้งสองครอบครัว​ไม่ได้ตกอับ ทั้งสองคนต้องอยู่ด้วยกัน​แน่นอน​

ลู่เหวยก็คิดเช่นนี้ เพราะฉะนั้น​เขาจึงไม่ได้รีบร้อนไปเปิดโปง​ความจริง แต่อยู่ข้างๆเธออย่างเงียบๆ ยิ่งไปกว่านั้น​เพื่อเธอแล้วยังเรียนด้านดนตรีอีกด้วย ก็เพราะว่า​กลัววันข้างหน้า​ทั้งสองคนจะพูดคุย​กัน​ไม่รู้เรื่อง​

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาสองคนไม่มีอนาคต​ด้วยกัน​

สวรรค์​กลั่น​แกล้ง เผชิญหน้า​กับตระกูล​ใหม่​ที่เกิดขึ้น​มา อุตสาหกรรม​ของตระกูลเหยาและตระกูล​ลู่ที่พึ่งพาอาศัย​กันนั้น ต่างค่อยๆร่อยหรอ​ลงไป

เพื่อช่วยครอบครัวกลับมา การสมรส​ของลูกสาวกลายเป็นเครื่องมือ​ที่​น่าใช้ที่สุด

ลู่เหวยถูก​บีบบังคับ​ให้แต่งานกับสูหยิง ส่วนเหยาหมิ่นแต่งงานกับฉินซึ่งเทียน

…………….

ฉินซีฟังคำพูดแค่สองสามคำของลู่เหวยก็พูดจนจบเรียบร้อย​แล้ว​ น้ำเสียงเต็มไปด้วย​การอ้อมค้อม​ อดไม่ไหว​ที่จะ​ต้องเอ่ยปากถามขึ้น​มาว่า “ท่าน……. ไม่เคยคิดจะต่อต้านเลยหรือคะ?”

ลู่เหวยยิ้มแย้ม​แบบขมขื่น​ ส่ายหน้า​ “ฉันกับแม่ของหนู ต่างไม่ใช่นิสัยที่แข็งข้อ”

ความจริงเขาใช่ว่าจะไม่เคยคิดต่อต้าน​

ได้ยินข่าวคราว​ว่าตระกูลเหยาจะให้เหยาหมิ่นแต่งงาน ลู่เหวยจึงได้ไปหาเธอที่บ้านตระกูลเหยา

เขาอยากถามหลายอย่าง​มาก อยากบอกความรักและความรู้สึก​ของ​เขาให้กับเหยาหมิ่น และอยากถามเหยาหมิ่นดูว่าคิดเช่นเดียวกัน​กับเขารึเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น​เคยคิดว่า​ ถ้าหาก​เหยาหมิ่นยอมทิ้งทุกอย่าง​เพื่ออยู่​กับเขา เขาก็ยอมทิ้งทรัพย์สิน​เงินทอง​ของตระกูล​ลู่เช่นเดียวกัน​

แต่ว่าเขาคิดไม่ถึง​ เหยาหมิ่นถึงกับ​ปฏิเสธ​เพื่อพบเจอ​กับเขา

มือถือ​ของเขามีแค่ข้อความนึงที่โดดเดี่ยว​เดียวดาย​

“เราต่างต้องแต่งงานกันทั้งคู่​ พบเจอกันแล้ว กลับไม่ดี”

เขาก็เลยรู้เลยว่า เหยาหมิ่นใช่ว่าจะไม่รู้​ความหมาย​ของ​เขา

แต่ว่าเหยาหมิ่นเลือกที่จะยอมรับกับการจัดการของตระกูลเหยา ก็เลยหมายความ​ว่า​เธอได้ปฏิเสธ​ตัวเองแล้ว

ความกล้าหาญ​ของลู่เหวยมีแค่นี้แหละ ถูกเหยาหมิ่นตัดขาดจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้ ก็เลยละทิ้งการต่อต้าน​ไป ฟังการจัดการของที่บ้าน แต่งงานกับสูหยิง

แต่ว่าเรื่องราว​เหล่านี้​ เขาไม่เคยคิดจะพูดกับฉินซี และไม่คิดจะเอ่ยให้ใครฟังทั้งนั้น​

นี่เป็นความลับของเขากับเหยาหมิ่น เขาจะเก็บไว้ในท้องของตัวเองไปชั่วชีวิต​

ฉินซีมีความเสียใจและผิดหวัง​

นิสัยของเหยาหมิ่น เธอรู้ดี อ่อนแอ และเอาอยู่​หมัดแบบง่ายๆ ตระกูลเหยาให้เธอแต่งงานกับฉินซึ่งเทียน แค่กล่อมเกลา​นิดๆหน่อยๆ เธอก็รับปากทันทีทันใด​แน่นอน​อยู่แล้ว​

แต่ว่าถ้าหาก​ลู่เหวยแข็งแกร่ง​กว่านี้อีกนิดเดียว​ หรือบอกความรัก​และความรู้สึก​ของตัวเองให้กับเธอเร็วๆหน่อย ตอนจบอวสาน​ของเหยาหมิ่น จะแตกต่าง​จาก​ตอนนี้มั้ยนะ​?

แต่ว่าในโลกนี้ ไม่มีคำว่าถ้าหาก​เยอะแยะ​มากมาย​เช่นนั้น

ลู่เหวยมองดูสีหน้าของ​ฉินซีที่เหมือนกับ​ว่า​คิดไม่ถึง​ ยังคิดว่าคำพูดของตัวเองทำให้เธอเข้าใจผิดไปแล้ว จึงหัวเราะ​พูดขึ้น​มา​ว่า “พูดแบบกลางๆเลยนะ ฉันแอบชอบแม่ของหนูไม่เป็นผล แต่ว่าฉันต้องพูดกับหนูให้ชัดเจน​ว่า เราสองคนแค่โตมาด้วยกัน​เท่านั้น แม้แต่​บอกความในใจฉันก็ยังไม่ทันได้บอกด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้อง​พูดถึง​ว่ามีอะไรกับเธอ หลังจาก​แม่หนูแต่งงานกับฉินซึ่งเทียน แม้แต่งานแต่งฉันก็ยังไม่ไปเลย หลังจากหนูกำเนิด เราถึงค่อยๆติดต่อ​กัน”

ฉินซีก้มหน้าดื่มกาแฟไปนึงคำ จู่ๆก็ถามขึ้น​มาว่า​” ท่านกับคุณ​นายลู่ ก็อธิบาย​แบบนี้หรือคะ? ”

ลู่เหวยหัวเราะ​ออกมา​” เด็กโง่ ถ้าฉันพูดแบบนี้ ชั่วชีวิต​นี้เธอก็จะสงสัย​ว่าฉันหักหลัง​ ฉันพูดกับเธอว่าแม่ของหนู​เป็นเพื่อนเก่าแก่​ของ​ฉัน ก็ถือว่า​ไม่ใช่การหลอกลวงแล้วนี่​น่ะ”

ฉินซีมองดูสีหน้าอันเจ้าเล่ห์​ของลู่เหวยที่เผยออกมา​ ยิ้มแย้ม​ตามด้วย

” เมื่อสักครู่​ท่านพูดว่า​ รับปากกับแม่ของหนู​ว่าจะดูแล​หนู……..เรื่องราวเป็น​ยังไง​กันคะ? ”

ฉินซีคิดออก​อย่างกะทันหัน​

รอยยิ้ม​บนหน้าของลู่เหวยค่อยๆเก็บเข้าไป​

” หลังจากแม่ของหนูไปจากตระกูลฉิน เคยติดต่อ​กับฉัน”

ฉินซีจับกาแฟเอาไว้แบบแน่นๆ เงยหน้า​ขึ้น​มา​มองเขา” หนู……. ไม่เคยได้ยินแม่พูดถึง​เลย”

ลู่เหวยผายมือ” เธอกำชับเป็นพิเศษ​ ไม่ให้ฉันพูดออกไป อาจจะคิดถึง​นิสัยของสูหยิงหรอกมั้งถ้าหากได้ยิน อาจจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”

ฉินซียังจ้องหน้าเขาไว้ “แม่ของหนู…… เคยพูดอะไรกับท่านรึเปล่า​คะ?”

ลู่เหวยค่อยๆพยักหน้า​

…………

ตอนที่เหยาหมิ่นติดต่อ​กับลู่เหวย เป็นตอนที่ข่าวเท็จของเธอนั้นแพร่หลาย​ออกไปพอดีเป๊ะ​

ลู่เหวยได้ยินข่าวนี้มาตั้งนานเป็นธรรมดา​อยู่​แล้ว เขาไม่เชื่อ แต่ว่ารูปถ่ายกลับวางอยู่ตรงนั้นแบบจริงๆจังๆ กำลังกลุ้มใจอยู่​ว่าติดต่อ​เหยาหมิ่นไม่ได้ เธอก็โทรศัพท์​มาเองเลย

ลู่เหวยไปหาเธอตามที่อยู่​ที่เธอให้มา เห็นหน้าตาเธอโทรมมาก พักอยู่ในเอ็กซ์เพรสอินน์ หดหู่​ใจเหลือเกิน​

แต่ว่าเหยาหมิ่นกลับไม่ได้ระบายความโกรธเคือง​อะไรให้กับเขา แค่เอ่ยปากแบบตรงๆว่า “คุณ​เห็นข่าวพวกนั้นแล้ว ใช่รึเปล่า?”

ลู่เหวยไม่มีวิธี​โต้กลับ​ ได้แต่พยักหน้า​

หน้าตาเหยาหมิ่นอยู่​ในความคาด​หมาย สีหน้าถือได้ว่า​นิ่งสงบ “คุณ​เชื่อรึเปล่า?”

ลู่เหวยไม่ลังเล​แม้แต่วินาทีเดียว​ ก็ส่ายหน้าทีเดียว​เลย

ใบหน้าของเหยาหมิ่นเผยรอยยิ้ม​ที่น่าสมเพช​ออกมา​ “ฉันรู้ คุณ​เชื่อฉัน”

ต่อมา เธอจึงพูดเรื่องราวความเป็นมา​ ให้กับลู่เซิ่นฟังรอบนึง

ฉินซึ่งเทียนหลอกเธอไปที่โรงแรมยังไง​ และเล่นตุกติก​ครั้งสุดท้าย​ยังไง​

ลู่เหวยได้ยินคำพูดของ​เธอ ค่อยๆหดหู่​ใจ

“ตอนที่คุณไปหาฉินซึ่งเทียนในโรงแรม​ หน้าเคาเตอร์​ให้คุณ​ดื่มน้ำ……… มีปัญหา​ใช่รึเปล่า? ”

เหยาหมิ่นพยักหน้า​ และส่ายหน้า​ มีปัญหา​แน่นอน​ แต่ว่า…. ฉันไม่มีหลักฐาน”

ลู่เหวยคิดๆดู” ถ้าอย่างนั้น​ตอนนี้เราไปตรวจ​ที่โรงพยาบาลดู ถ้าหาก​ร่างกาย​คุณ​มียา น่าจะยังขับออกไป​ไม่​หมด”

เหยาหมิ่นกลับส่ายหน้า​

“ปกติ​ฉันนอนไม่หลับ​ ก็จะทานยานอนหลับ​เป็นประจำอยู่​แล้ว ต่อให้​ไปตรวจที่โรงพยาบาลตอนนี้ ก็ไม่น่าจะตรวจพบอะไร”

ลู่เหวยเงียบกริบ​

ตามความเจ้าเล่ห์​ของฉินซึ่งเทียน ถ้าหาก​เขาอยากทำแบบไม่ทิ้งร่องรอย​ ต้องใช้ยานอนหลับ​ของเหยาหมิ่นที่ทานอยู่เป็นประจำแน่นอน​

เหยาหมิ่นกลับผายมือ “คุณ​ยอมเชื่อฉัน ฉันก็ขอบใจ​คุณ​มากแล้ว มาหาคณครั้งนี้​ ไม่ใช่​เพื่อขอร้องให้คุณ​ช่วย​ตรวจสอบ​ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น​มา​ในวันนั้น แต่อยากขอร้องคุณ……ช่วย​ฉันดูแลฉินซีดีๆ”

“ฉินซี?” ลู่เหวยประหลาด​ใจเล็ก​น้อย “ดูแล​ลูกสาวของคุณ?”

เขาเหลือแต่ถามไปแบบตรงๆ เพราะอะไร​คุณ​ถึงดูแลเองไม่ได้

เหยาหมิ่นพยักหน้า​ เหมือนกับรู้ว่าทำไมเขาถึงประหลาดใจ​เช่นนี้ อธิบาย​ด้วยตนเองว่า” ฉัน….. เกิดเรื่อง​แบบนี้ อนาคต​ของ​ฉินซีต้องลำบากแน่ๆ ถ้าหาก​มี​ตระกูล​ลู่ช่วยเหลือ​เกื้อกูล​อยู่​ น่าจะไม่ลำบากขนาดนั้น”

ลู่เหวยถูกสีหน้า​ท่าทางที่จริงใจของเธอจนยอมจำนน จึงไม่ได้เกิดความสงสัย​อะไรในชั่วขณะ​นั้น

เขามองดูหน้าตาที่โทรมๆของเธอ เหมือนกับสาบานอย่างหนักแน่น​ จึงพยักหน้า​แบบแรงๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท