Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 989

ตอนที่ 989

บทที่ 989 จู่ๆก็กลับคำ

“ก็ได้”

คำพูดง่ายๆสองคำของฉินซึ่งเทียนกลับทำให้ทุกคนเงียบเสียงลง

สายตาของฉินซีเองก็ดูจะประหลาดใจ

ฉินซึ่งเทียนรู้สึกภูมิใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ

คิดไม่ถึงสินะ!ฉันเห็นเล่ห์เหลี่ยมของเธอหมดแล้ว!

แต่ทว่าฉินซีรีบกำจัดสีหน้าแปลกใจของตนเองพลางลดตามองต่ำ “ประธานฉินคะ หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในมือของดิฉันเมื่อแปลงเป็นเงินแล้วต้องใช้เงินหลายร้อยล้าน คุณ…จ่ายไหวจริงๆเหรอคะ”

ฉินซึ่งเทียนมั่นใจว่าฉินซีกำลังใช้กลอุบาย ยิ่งปล่อยไปไม่ได้ เขาเชิดคางขึ้น “เรื่องเงินสดเป็นเรื่องของฉัน เธอไม่จำเป็นต้องกังวล”

ฉินซีไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงแต่พยักหน้ารับ “ตกลงค่ะ อย่างนั้นแล้วดิฉันจะรีบหาทนายเพื่อทำข้อตกลงโดยเร็วที่สุด ดิฉัน…”

เธอยังพูดไม่จบก็ถูกใครบางคนพูดแทรก

“ฉินซี ประธานฉิน ถ้าผมจำไม่ผิด ทุกคนใน ณ ที่นี้ล้วนมีสิทธิ์โดยชอบธรรมต่อการแข่งขันซื้อหุ้นในครั้งนี้ใช่ไหมครับ”

ฉินซีเงยหน้าขึ้นมองโดยบังเอิญ กลับพบว่าผู้พูดไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเธอ

เป็นกรรมการสมาชิกที่ช่วยเธอพูดในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด

เขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ทำไมเขาถึงคอยพูดช่วยเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

ฉินซีครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง นอกจากการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดแล้ว ก็ไม่สามารถนึกได้ว่าเขาและตนเองนั้นมีจุดเกี่ยวข้องกันอย่างไร

ฉินซีไม่ได้โง เธอรู้โดยอัตโนมัติ เพราะจากการคาดการณ์แล้ว บุคคลนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับลู่เซิ่น

แม้ว่าเธอจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตนเองแต่ในเมื่อเขามาช่วยในเวลาคับขันเช่นนี้ ฉินซีก็ไม่ปฏิเสธ

และตอนนี้ สิ่งที่เขาพูดดูเหมือนจะเป็นการเติมฟืนใส่ไฟตามแผนของฉินซี

ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้วทันที

เขามองไปรอบๆ “ทุกท่านครับ หากอิงตามความรู้สึกแล้ว ฉินซีคือลูกสาวของผม หุ้นนี้คือหุ้นที่พ่อของผมได้ให้แก่แม่ของเธอ และตอนนี้มันกลับมาอยู่ในมือของผมก็เหมาะสมแล้วนี่ครับ หากอิงตามธุรกิจล่ะก็ จำเป็นต้องมีกำลังทางธุรกิจเพียงพอถึงจะซื้อหุ้นด้วยเงินสด เกรงว่าท่านทั้งหลายจะสามารถประมูลในราคาที่สูงได้ แต่อาจจะเก็บเงินเพียงพอในเวลาที่กำหนดไม่ได้”

น้ำเสียงของเขาค่อนข้างสง่าผ่าเผย ทุกคนในห้องต่างเงียบสงบ

ฉินซึ่งเทียนหันไปมองฉินซี “พูดได้ว่า ไม่ว่าใครจะให้ราคาเท่าไหร่ก็ตาม ฉันสามารถจ่ายในราคาที่สูงกว่าได้ แต่ไม่มีใครซื้อหุ้นทั้งหมดได้โดยตรงเหมือนกับฉัน ฉันเองก็ไม่คิดว่าเธอจะเต็มใจขายหุ้นเป็นส่วนๆแบบนี้หรอกนะ เซ็นสัญญามากมายมันน่ารำคาญ ว่าไหม”

ฉินซีนิ่งเงียบพลางพยักหน้า

สิ่งที่สมาชิกกรรมการพูด…เป็นประโยชน์อย่างคาดไม่ถึง

ฉินซึ่งเทียนได้รับการยินยอมจากฉินซี เขาโบกมือราวกับกลัวว่าเธอจะเสียใจ “เธอไม่จำเป็นต้องไปหาทนายความเพื่อรีบร่างข้อตกลงหรอก ฉินซื่อกรุ๊ปมีทนายความมากมาย ฉันจะให้พวกเขาทำข้อตกลงให้เธอตอนนี้เลย เธอรอที่นี่ก่อน เซ็นข้อตกลงเสร็จค่อยไป”

ฉินซีตาเบิกกว้างด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ “แต่เงินสด… ”

ฉินซึ่งเทียนสีหน้าไม่เต็มใจนัก“เรื่องเงินสดฉันจัดการเองเธอไม่ต้องกังวล”

ทั้งสองคนตัดสินเรื่องนี้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

กรรมการคนอื่นๆต่างรู้ดีว่าถึงแม้ตนเองจะต้องการซื้อ แต่ก็ไม่มีกำลังมากพอ เมื่อไม่มีวิธีนำหุ้นของฉินซีมาได้จึงไม่ได้สนใจอีกต่อไป

ฉินซึ่งเทียนสังเกตเห็นท่าทางของคนอื่นๆแล้วก็หันไปพยักหน้าให้กับ เลขาต่ง

เลขาต่งเปิดไมโครโฟนกล่าวปิดท้าย “ขอขอบพระคุณทุกท่าน การประชุมสมาชิกผู้ถือหุ้นในวันนี้ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขอเชิญทุกท่านเดินออกอย่างเป็นระเบียบ…”

คณะกรรมการต่างมองหน้ากันพลางเริ่มลุกขึ้นกันเป็นกลุ่มๆ

มีเพียงฉินซีที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

เมื่อผู้ถือหุ้นออกไปจนหมด ฉินซึ่งเทียนส่งสัญญาณให้หซู่หนานเดินไปปิดประตูห้องประชุม ส่วนหลี่เหวยและฉินหว่านก็แทบรอไม่ไหวที่จะเดินออกจากห้องรับรอง

“ฉินซี” นัยน์ตาฉินหว่านแฝงไปด้วยความหยิ่งผยอง“นี่แกจะเล่นสกปรกก่อนไปใช่ไหม”

ฉินซีมองเธออย่างสงบนิ่งโดยไม่ตอบอะไรออกไป

ฉินซึ่งเทียนเดินไปที่ด้านข้างของฉินซี

จริงๆแล้วเขาเองก็กังวลใจอยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของเขากับฉินซีก็ไม่สามารถตัดขาดกันได้ในคราวเดียวเหมือนกับการซื้อขายหุ้น แม้ว่าตอนนี้ฉินซีจะออกจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว แต่หากภายภาคหน้าฉินซีต้องการแก้แค้น ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าลู่เซิ่นจะไม่หมายหัวและกลับมาทำร้ายฉินซื่อกรุ๊ปอีก

“ฉินซี” เขาพูดอย่างเคร่งขรึม “ในเมื่อออกจากบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว ก็กลับไปบอกลู่เซิ่นด้วยว่าให้การความร่วมมือและสนับสนุนหน่อย อย่าทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนอีก”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ฉินซีไม่ได้แสดงแสดงท่าทีเหยียดหยามเมื่อแต่ก่อน เธอเพียงแค่ตอบรับเฉยๆเท่านั้น

“คุณไม่ต้องกังวล ลู่เซิ่นจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของฉันอีกต่อไป”

ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ส่วนหลี่เหวยที่พยายามคิดทบทวน มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป “ฉินซี นี่เธอ…”

ฉินซียิ้มมุมปาก แต่ในตาของเธอกลับไม่มีรอยยิ้มปรากฏอยู่ “ฉันกับลู่เซิ่น เป็นไปอย่างที่พวกคุณต้องการแล้ว”

เมื่อเธอพูดเช่นนี้ ราวกับว่าหินก้อนสุดท้ายในใจของฉินซึ่งเทียนก็ค่อยๆผ่อนคลายลง จนเผยให้เห็นรอยยิ้ม

มิน่าล่ะฉินซีถึงดูอ่อนแอ!มิน่าล่ะเธอถึงลาออกจากตำแหน่ง!

เพราะไม่มีคนคอยหนุนหลังเหมือนอย่างเคย เธอจึงกลัวว่าตัวเองจะไปไม่รอด ถึงได้ทำแบบนี้สินะ!

ความเคลือบแคลงใจสุดท้ายของฉินซึ่งเทียนได้ไขกระจ่างแล้ว เขารู้สึกขอบคุณตนเองที่ตัดสินใจซื้อหุ้น

ต่อไปนี้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าฉินซีจะต่อต้านในคณะกรรมการบริหารอีกทั้งยังไม่ต้องกลัวว่าบริษัทลู่ซื่อจะแอบวางแผนอะไรไว้เบื้องหลัง

ในอนาคตฉินซื่อกรุ๊ปจะกลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ดังเดิมได้อย่างแน่นอน!

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น สีหน้าของหลี่เหวยและฉินหว่านเองก็มีความสุขจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่

หรือแม้แต่ในแววตาของหซู่หนานก็ดูจะยินดีอยู่ไม่น้อย

แต่ฉินซีไม่คิดมัวเสียเวลาอยู่กับพวกเขา เธอหันไปพูดกับฉินซึ่งเทียน “ทนายจะเอาสัญญามาเมื่อไหร่”

ฉินซึ่งเทียนก้มดูโทรศัพท์ “ทนายบอกว่า…ใกล้จะถึงแล้ว”

ฉินซีพยักหน้าและกลับไปนิ่งเงียบตามเดิม

ตอนนี้หลี่เหวยกำลังมีความสุขจนเอ่อล้นแทบอัดอั้นเอาไว้ไม่ไหวจนในที่สุดก็อดที่จะพูดกับฉินซี ไม่ได้ “ฉินซี ตอนนี้เธอก็ขายหุ้นแล้วได้เงินไปไม่ใช่น้อยๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีตระกูลลู่คอยดูแลแล้ว แต่ก็อย่าลืมนะว่าเธอเป็นคนของตระกูลฉินถ้าเกิดเธอไม่มีที่ไป จำไว้นะพวกเราทุกคนต้อนรับเธอเสมอ”

สิ่งที่เธอพูดดูเหมือนจะเป็นการปลอบประโลม แต่กลับเต็มไปด้วยการประชดประชัน

ไม่มีที่ไป…

แบบนี้หมายถึงกำลังถากถางว่าเธอไม่เหลือใครแล้วไม่ใช่หรือไง

โชคดีที่ฉินซีเห็นธาตุแท้ของหลี่เหวยมาเนิ่นนานแล้วจึงไม่ถูกยั่วยุได้ง่ายๆ เธอเพียงแค่หันไปยิ้มให้ “งั้นคงต้องรบกวนคุณช่วยจัดหาห้องให้ฉันด้วยแล้วสิ”

สายตาของหลี่เหวยแข็งกร้าว

โดยปกติเมื่อเธอพูดอะไรเช่นนี้ออกไป ตามนิสัยของฉินซีแล้วเธอจะไม่ตอบโต้กลับ แล้วทำไมจู่ๆเธอถึง…กลับคำล่ะ

เมื่อเห็นท่าทีเลิ่กลั่กของของเธอ ฉินซีก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เต็มใจให้ฉันกลับไปด้วยจริงๆ งั้นฉันก็ไม่อยากทำให้ใครต้องรังเกียจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท