Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 987

ตอนที่ 987

บทที่ 987 บอกว่าไม่ต้องการก็คือไม่ต้องการ

“ทุกคนคงทราบกันดีว่าดิฉันได้แต่งงานกับลู่เซิ่น คนของบริษัทลู่ซื่อโดยเขารู้เรื่องที่ดิฉันได้รับความลำบากใจและการคุกคามจากประธานฉินทั้งหมด ในฐานะที่เป็นสามีของดิฉันเขาจึงไม่สามารถละเลยเรื่องนี้ได้ จึงโจมตีฉินซื่อกรุ๊ปโดยพุ่งเป้าไปยังการแก้แค้น”

ในขณะที่ฉินซีพูดออกมาอย่างเรียบนิ่ง ผู้คนในห้องประชุมต่างเริ่มฮือฮา

หลังจากที่คณะกรรมอดทนกันมานาน ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะต่างคนต่างพูดออกมา

“พุ่งเป้าไปยังการแก้แค้นหมายความว่าอย่างไร”

“ฉินซี อย่างนี้หมายความว่าคุณยอมรับข้อกล่าวหาที่ประธานฉินพูดแล้วใช่ไหม”

“กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะบริษัทลู่ซื่ออย่างนั้นเหรอ”

ฉินซีคิดไว้อยู่แล้วว่าปฏิกิริยาของทุกคนจะเป็นแบบนี้ เธอยืนรออย่างใจเย็นเพื่อให้ทุกคนระบายความในใจออกมาจนหมดแล้วจึงเริ่มเอ่ยปาก

“ดิฉันได้พูดไปแล้วว่าดิฉันจะไม่ยอมรับผิดในสิ่งที่ดิฉันไม่ได้ก่อ ดิฉันจะดำเนินการในส่วนที่ดิฉันรับผิดชอบเท่านั้น ที่ดิฉันพูดว่าพุ่งเป้าไปที่การแก้แค้น หมายความว่าบริษัทลู่ซื่อพุ่งเป้าไปยังการถอนเงินลงทุนและเข้าร่วมการประมูลโครงการตึกแฝดค่ะ”

สีหน้าของทุกคนดูสับสนราวกับถูกฉินซีทำให้เวียนหัว

แท้จริงแล้วเธอต้องการสื่ออะไรกันแน่ ในตอนแรกเธอใช้ความพยายามอย่างมากในการอธิบายว่าตนเองไม่ใช่คนที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหล แต่มาตอนนี้กลับยอมรับว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องในการที่บริษัทลู่ซื่อเข้าร่วมการประมูลโครงการตึกแฝด เธอทำแบบนี้เพื่ออะไร

ฉินซีมองดูท่าทางของเหล่าคณะกรรมการก็รู้ว่าบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้แล้ว เธอค่อยๆลดสายตามองต่ำ “ ฉินซึ่งเทียนพยายามก้าวก่ายเรื่องของฉันหลายต่อหลายครั้ง แม้กระทั่งใช้วิธีการบังคับให้ฉันต้องหย่ากับลู่เซิ่น หากมองในมุมพ่อและลูกสาว ดิฉันยังพอจะทนไหว แต่ลู่เซิ่นไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นเข้ามาก้าวก่ายกับชีวิตการแต่งงานของเขาได้ ดังนั้นเมื่อเขารู้ข่าวการประมูลโครงการตึกแฝดของฉินซื่อกรุ๊ปก็รีบชิงโปรเจคนี้ไปเป็นของบริษัทลู่ซื่อ”

ทันทีที่พูดจบ ทุกคนต่างพากันช็อค

——บังคับให้ฉินซีต้องหย่ากับลู่เซิ่น ฉินซึ่งเทียนช่างหน้าไม่อายเสียจริงๆ

——ชีวิตการแต่งงานของลู่เซิ่นถูกก้าวก่าย มิน่าล่ะเขาถึงต้องแก้แค้น

เรื่องใหม่ๆผุดขึ้นมาเรื่อยๆ กรรมการแต่ละคนราวกับว่ากำลังปูเสื่อรอดูดราม่า จนลืมไปหมดแล้วว่าพวกเขานั้นก็มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ด้วย

ฉินซึ่งเทียนกัดฟันแน่น หันไปมองฉินซีด้วยความโกรธ “ฉินซี ฉันขอเตือน คณะกรรมของฉินซื่อกรุ๊ปไม่สามารถทนฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้…”

ฉินซีไม่สนใจเขาและยังคงพูดต่อไป “ในสมัยโบราณมีคำกล่าวไว้ว่า ‘ข้ามิได้ฆ่าป๋อเหริน แต่ป๋อเหรินตายเพราะข้า’ แม้ว่าการประมูลโครงการตึกแฝดของบริษัทลู่ซื่อจะเป็นการตัดสินใจของลู่เซิ่นเองทั้งหมด โดยที่ดิฉันไม่ทราบเรื่องอะไรเลย แต่เมื่อดิฉันได้มาวิเคราะห์ดูแล้วจุดเริ่มต้นก็มาจากตัวดิฉันเองดังนั้นดิฉันจะไม่หนีและจะชดใช้ด้วยความรับผิดชอบที่เหมาะสมค่ะ”

ฉินซึ่งเทียนหาโอกาสพูดแทรกขึ้น เขายิ้มเย้ยหยัน “เธอจะรับผิดชอบอย่างไร ตอนนี้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปกำลังประสบปัญหาใหญ่ หรือเธอจะไปพูดโน้มน้าวให้ลู่เซิ่นปล่อยโปรเจคโครงการตึกแฝดแล้วเอากลับมาหรือไง”

เขาพูดลอยๆเพราะคิดว่าฉินซีคงจะเมินคำพูดเขาเหมือนอย่างเคย โดยคาดไม่ถึงว่าครั้งนี้เธอจะหันมาแล้วพูดด้วยท่าทีจริงจัง “สำหรับโปรเจคโครงการตึกแฝดแล้ว ดิฉันไม่สามารถจริงๆ แต่…การที่ดิฉันยังคงอยู่ในฉินซื่อกรุ๊ปต่อไป เกรงว่าลู่เซิ่นคงจะไม่เลิกแก้แค้นไปง่ายๆ ดังนั้นดิฉันขอลาออกจากตำแหน่งผู้ถือหุ้นด้วยความสมัครใจค่ะ”

เมื่อเธอจบดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง

แม้แต่ฉินซึ่งเทียนเองก็แสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมาและอดไม่ได้ที่จะถาม “เธอพูดอะไรออกมา จะทำอะไรกันแน่”

ฉินซีหันกลับมาพูดกับทุกคน “หากมีคนยินดีที่จะรับหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของดิฉัน ดิฉันก็ยินดีที่จะลาออกจากการเป็นกรรมการในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปค่ะ”

เธอพูดซ้ำอย่างชัดเจน แต่สายตาของทุกคนกลับรู้สึกไม่กล้าที่จะเชื่อ

ทุกคนรู้ดีว่าฉินซีต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการนำหุ้นคืนมาได้สำเร็จและกลับสู่ฉินซื่อกรุ๊ป จะเป็นไปได้อย่างไรที่บอกว่าไม่ต้องการจะแปลว่าไม่ต้องการจริงๆ

แม้แต่ ฉินซึ่งเทียนก็คิดเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนอย่างที่ฉินซีคาดไว้ แต่กลับขมวดคิ้วเป็นปม “เธอคิดจะทำอะไรกันแน่”

ปล่อยหุ้นในมือไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ท้ายที่สุดแล้วเธอมีแผนอะไรซ่อนอยู่

แต่นั่นยังดี ไม่ใช่ว่าฉินซีไม่เตรียมการอะไรเลย เธอยิ้มจางๆ “ประธานฉินและคณะกรรมทุกท่านคะ ดิฉันไม่ใช่คนที่ดีเด่นอะไร หากดิฉันยังคงอยู่ในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและถือหุ้นต่อไป ดิฉันจะทุ่มเทสุดความสามารถอย่างแน่นอน แต่วันนี้ดิฉันรู้แล้วว่าดิฉันไม่สามารถแสดงความบริสุทธิ์ให้แก่ตัวเองได้ หากวันใดที่ดิฉันมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับลู่เซิ่น ประธานฉินและทุกท่านก็จะต้องตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ขึ้นอีก อีกทั้งประธานฉินก็จะหาเหตุผลต่างๆโดยสร้างความเดือดร้อนให้แก่ดิฉัน ดังนั้นเพื่อประโยชน์แก่ตนเองและเพื่อทุกท่านแล้ว ดิฉันจึงตัดสินใจเช่นนี้ค่ะ ”

หลังจากที่เธอพูดจบ คิ้วของฉินซึ่งเทียนก็ค่อยๆคลายปมออก

สิ่งที่เขาได้ยินนั้นก็คือ เพราะฉินซีละอายใจแกตนเองที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจคโครงการตึกแฝด จึงขอลาออก

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกต่อไป

เขาเชิดปลายคางขึ้น การแสดงออกที่ดูเย่อหยิ่งกลับมาอีกครั้ง “เธอต้องการขายหุ้น?”

ฉินซีพยักหน้า

ฉินซึ่งเทียนเลิกคิ้วขึ้น “เธอคิดว่าจะขายราคาเท่าไหร่”

ฉินซีตอบอย่างเรียบนิ่ง “ราคาตลาด”

ฉินซึ่งเทียนยิ้มเยาะ “ฉินซี การจากไปของเธอมันช่างน่าเศร้าจริงๆ ทำไมถึงหวังว่าตัวเองจะสามารถขายหุ้นในราคาที่สูงได้อีกล่ะ”

กลยุทธ์การแสดงความเห็นใจของฉินซึ่งเทียนเป็นประโยชน์เสมอเพราะอาศัยเขาเป็นเครื่องมือในการระงับข่าวในเชิงลบทั้งหมด ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปยังคงมีแนวโน้มที่มั่นคงและอยู่ในระดับที่สูง

แม้ว่าคนอื่นๆจะไม่เข้าใจ แต่ฉินซึ่งเทียนนั้นรู้ดีว่าอัตราการพัฒนาของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปกับราคาหุ้นในตอนปัจจุบันนั้นไม่ตรงกันอย่างสิ้นเชิง

ฉินซีต้องการขายหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือออกไปโดยเมื่อแปลงแล้วก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อย

แต่ฉินซียังพูดไม่จบ เธอหันไปมองฉินซึ่งเทียนและค่อยๆหันกลับมามองทุกคน ใช้น้ำเสียงที่ทุกคนคุ้นหูพูดกับฉินซึ่งเทียนว่า “ประธานฉิน ซื้อหุ้นของดิฉันไป ไม่เพียงแต่หมายถึงเงินปันผลยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงผู้ถือหุ้นสูงเป็นอันดับสองของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอีกด้วย ทุกท่านคิดว่านี่มันไร้ค่าเหรอคะ”

ทันทีที่เธอพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของทุกคนต่างแสดงความสนใจ… ฉินซีพูดสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเขาออกมา

สีหน้าของฉินซึ่งเทียนเปลี่ยนไป

ตามหลักโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เขาและฉินซีครอบครองนั้นเป็นหุ้นหลัก ส่วนคนที่เหลือต่างเป็นหุ้นที่กระจัดกระจายกันไป ไม่มีผลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมากนัก

แต่หากมีใครซื้อหุ้นไปจากฉินซีก็จะสามารถเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไปโดยปริยายและหากซื้อหุ้นที่กระจัดกระจายของคนอื่นๆไปด้วยอีกล่ะก็ นี่อาจเป็นการคุกคามต่อตำแหน่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเขา

ฉินซึ่งเทียนค่อยๆขมวดคิ้ว

เขาไม่สามารถทนให้อำนาจการบริหารฉินซื่อกรุ๊ปต้องตกไปเป็นของผู้อื่นได้อย่างแน่นอน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท