Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1047

ตอนที่ 1047

บทที่ 1047 การชดใช้

ฉินซีสีหน้าแข็งไป

เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองถูกกั้นไว้ในโรงแรม เธอก็ติดต่อจ้าวจิ้งเป็นคนแรก และส่งข้อความให้ลู่เหวยต่อ แต่เธอไม่ทันได้ติดต่อลู่เซิ่น

เธอมีเหตุผลที่ถูกต้องมากมาย เช่นเธอติดต่อคนอื่นเพราะเธอมีเรื่องสำคัญมากมายต้องบอก เช่นเธอเคยคิดจะติดต่อกับลู่เซิ่นเหมือน แต่ถูกขัดจังหวะไป

แต่ฉินซีไม่ได้พูดอะไรเลย แค่ก้มหน้าและขอโทษเบาๆ”ฉันขอโทษ”

ถ้าเป็นเธอ ลู่เซิ่นตกอยู่ในสภาพที่อันตรายแบบนี้ แต่ไม่ได้บอกอะไรเธอเลย ฉินซีคิดว่าเธอคงโกรธกว่าลู่เซิ่นมากมั้ง อย่างน้อยก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่กับเธออย่างสงบ และป้อนข้าวเธออีก

แต่ลู่เซิ่นก็ดูเหมือนรู้ว่าฉินซีไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้ ก็ไม่ได้คิดจะโกรธฉินซีอะไรนักหนาหรอก เขาแค่ถอนหายใจเบาๆ แล้วหยิบของอีกอย่างออกมาจากกระเป๋าและวางไว้ข้างเตียงของฉินซี”คุณไม่ต้องขอโทษฉันหรอก”

ฉินซีหันหน้าไปมองและพบว่าที่เขาวางคือโทรศัพท์ของเธอ

เธอคิดว่าโทรศัพท์ตกอยู่ในโรงแรมพร้อมกระเป๋าเอกสารแล้ว

ไม่คิดสิ่งเหล่านี้ที่คิดว่าสูญหายไปแล้ว สุดท้ายก็ได้คืนมาด้วย

“ขอโทษ”ลู่เซิ่นพูดเบาๆ”ฉันปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยลายนิ้วมือ ของคุณและเห็นอินเตอร์เฟซการโทร”

ฉินซีอึ้งไป รีบนึกขึ้นได้ว่าอินเตอร์เฟซการโทรของโทรศัพท์คืออะไร

เธออยู่ในห้องของโรงแรม เมื่อกำลังจะโทรหาลู่เซิ่น ก็ถูกเสี่ยวหลี่เรียกออกไป จากนั้นก็เกิดเรื่องต่างๆขึ้นมา เธอก็ไม่มีเวลาจับโทรศัพท์เลย

ดังนั้นหลังจากปลดล็อกโทรศัพท์แล้ว อินเทอร์เฟซก็จะเป็นหมายเลขของลู่เซิ่น

ฉินซีรู้ ลู่เซิ่นเห็นก็รู้แล้วว่าเธอกำลังจะโทรหาเขา

ไม่น่าล่ะเขาไม่โกรธ..

ฉินซีแอบด่าในใจ

ในเมื่อก็เห็นแล้ว ทำไมต้องถามฉันอีก

ลู่เซิ่นดูเหมือนรู้ความคิดของเธอและหัวเราะเบาๆ”ฉันแค่อยากได้ยินคุณพูดเองเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าคุณจะขอโทษโดยตรงโดยไม่บอกว่าคุณอยากโทรหาฉัน”

ฉินซีรู้สึกอึ้งกับความมีเหตุมีผลของเขา ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรสักพัก ผ่านไปสักพักถึงแก้งทำเสียงโกรธ

ลู่เซิ่นยิ้มนักกว่าเดิมอีก เขายื่นมือออกไปชะลอความเร็วในการให้น้ำเกลือของฉินซี และลูบผมของฉินซี”เอาล่ะ คุณพักผ่อนก่อนนะ มีอะไรเดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง”

ฉินซียังมีคำถามมากมายอยากจะถาม แต่ความง่วงนอนดูเหมือนจะควบคุมไม่ได้ ทำให้เธอเกือบลืมตาไม่ไหว

ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ถามอะไร เลยหลับตานอนหลับไป

และรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของลู่เซิ่น ก็ค่อยๆหายไปจากใบหน้าพร้อมการลมหายๆใจที่สบายของฉินซี

แต่แทนด้วยความเย็นชา

ในเมื่อฉินซึ่งเทียนกล้าที่จะแตะต้องคนของเขาโดยตรง ก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะชดใช้

เมื่อฉินซีตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว

ประสิทธิภาพการบังแดดของผ้าม่านไม่ค่อยดี แสงเข้าวอร์ดและสว่างทั้งห้องเลย

ฉินซีก็เลยสามารถมองเห็นลู่เซิ่นที่นั่งอยู่บนโซฟาริมหน้าต่างได้อย่างชัดเจน

เขายังใส่ชุดของเมื่อคืน ไม่รู้ว่าเพิ่งตื่นหรือไม่ได้นอนทั้งคืน

ไม่มีคนอื่นในวอร์ด เขาถือเอกสารในมือ ขมวดคิ้วและอ่านอย่างตั้งใจ

คงเป็นเพราะกลัวว่าจะส่งเสียงรบกวนฉินซี ขนาดพลิกหน้าก็เบามาก แต่ท่าทางที่ดูแพงก็ยิ่งดูเด่นมากขึ้นราวกับรู้สึกถึงสายตาของฉินซี ลู่เซิ่นเงยหน้าขึ้นมอง

แค่เหลือบมอง สีหน้าที่เย็นชาก็ละลายไปทันที และมุมปากก็ยิ้มขึ้นมา”ตื่นแล้วเหรอ คุณรู้สึกตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า”

ฉินซีส่ายหัว”ไม่ค่ะ”

ลู่เซิ่นลุกขึ้นเดินไปหาเธอ แล้วก้มลงไปช่วยเธอลุกขึ้น”ไปล้างตัวก่อนนะ เดี๋ยวแม่บ้านก็จะเอาอาหารเช้ามาให้”

ฉินซีพยักหน้าและลุกขึ้นนั่ง

แต่เมื่อเธอไปถึงห้องน้ำก็ตะลึง

มือซ้ายของฉินซีวางพลาสเตอร์อยู่ แม้ว่านิ้วไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แขนทางซ้ายไม่สามารถขยับได้สบาย

เพราะแบบนี้ … เรื่องง่ายๆอย่างการบีบยาสีฟันแล้วบิดผ้า เธอก็ทำเองไม่ได้

แต่จะต้องเรียกลู่เซิ่นเข้ามาไหม

ฉินซีลังเล

แต่เธอลังเลแค่ไม่วินาที เสียงของลู่เซิ่นก็ดังมาจากด้านหลัง”มีอะไรเหรอ ทำไมยืนเฉยๆล่ะ”

ฉินซีหันหน้าไปมอง ลู่เซิ่นมีรอยยิ้มที่มีความหมายบนใบหน้า เธอรู้อยู่แล้วว่า ลู่เซิ่นแกล้งถามอีกแล้ว

เธอไม่สนอะไรแล้ว ยื่นมือขวา”มีแค่มือเดียว ไม่รู้จะล้างยังไง”

มุมปากของลู่เซิ่นยิ้มใหญ่ขึ้น ยกเท้าเข้าไปในห้องน้ำ”งั้นฉันช่วยคุณก็ได้”

ฉินซีแกล้งพยักหน้าอย่างสงบเสแสร้ง

จริงๆแล้วเธอไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตคู่อย่างใกล้ชิดได้ยังไง ทั้งครอบครัวและประสบการณ์ในอดีตของเธอ ต่างก็ไม่ได้สอนเรื่องนี้ให้เธอ

เรื่องบนเตียงไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นระหว่างคู่รักก็ได้ และการจูบก็ไม่จำเป็นต้องมีความรัก แต่การบิดผ้าให้แห่ง เช็ดหน้าอย่างระมัดระวังในห้องน้ำเมื่อตอนเช้า ไม่สามารถใช้ข้ออ้างใดๆได้นอกจากความรัก

เธอรู้สึกว่า ลู่เซิ่นอาจจะชอบเธอมาก

ไม่น้อยกว่าการหวั่นไหวใจของเธอในช่วงหลายวันนี้แน่

ทั้งๆที่สองคนไม่ได้พูดอะไรเลย แต่บรรยากาศสีชมพูในห้องน้ำกลับมากกว่าใดๆ

หลังจากที่ลู่เซิ่นบิดผ้าให้แห่งเป็นครั้งสุดท้ายและแขวนไว้ เขาก็เอื้อมมือไปหาฉินซีว่า “ไปเถอะ”

ฉินซีเหยียดมือขวาออกอย่างเป็นธรรมชาติและวางไว้บนฝ่ามือของเขา

ทั้งสองจับมือเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกัน เห็นแม่บ้านที่ถือกระบอกกระติกน้ำร้อนเข้ามาพอดี

แม่บ้านเห็นท่าทางสนิทสนมของทั้งสองคน หน้าตายิ้ม”ตื่นแล้วเหรอคะ มา กินข้าวกันเถอะนะ”

เธอหยิบอาหารเช้าออกมาทีละอย่าง มือขวาของฉินซีไม่ได้ขยับไม่ได้เพราะให้น้ำเกลือ เธอจึงหยิบช้อนขึ้นมาเอง

ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกเสมอว่าการแสดงออกของลู่เซิ่นดูไม่พอใจที่เธอสามารถกินข้าวเองได้

หรือว่าอยากจะป้อนข้าวเธอหรอ

ฉินซีหัวเราะในใจ ไม่ได้บอกความจริงออกมา และนั่งลงกินอาหารเช้าเอง

เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จ แม่บ้านถือกระติกน้ำร้อนออกไปด้วยรอยยิ้ม เหลือสองคนในวอร์ดอีกแล้ว

ลู่เซิ่นช่วยเธอนอนลงบนเตียงในโรงพยาบาล แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เธอ”เมื่อวานคุณนอนเร็ว เลยไม่ได้บอกคุณ โทรศัพท์ของคุณมีสายโทรเข้าเยอะมาก ฉันก็เลยปลดล็อกโทรศัพท์คุณ แต่ฉันไม่ได้อ่านข้อความที่พวกเขาส่งมา เพราะฉะนั้นต้องรอให้คุณตอบเอง ”

ฉินซีพยักหน้าและรับโทรศัพท์ไป โทรศัพท์สั่นราวกับว่ารับรู้อะไรบางอย่าง

ฉินซีก้มลงดู จ้าวจิ้งโทรมา

เธอรีบรับสายทันที

“พี่ฉินซี คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”น้ำเสียงของจ้าวจิ้งดูกังวลมาก”ฉันได้ยินจากประธานลู่ว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง”

เธอถามเป็นชุดเลย ทำให้ฉินซีไม่ทันจะตอบ มีแต่ยิ้มฟังเธอพูดเสร็จก่อน ค่อยจะหาโอกาสตอบ”ไม่เป็นไร ฉันรับสายของคุณเองได้ด้วยเนี่ย”

จ้าวจิ้งถอนหายใจด้วยความโล่งอก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท