Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1076

ตอนที่ 1076

บทที่ 1076 ลบไม่ออก

“คุณคือหลี่เหวย?” หัวหน้าบอดี้การ์ดเอ่ยถามขึ้น

หลี่เหวยขมวดคิ้วอย่างไปพอใจ “แกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาเรียกชื่อฉันตรงๆ ฉินซีล่ะ เรียกมันออกมา ฉันจะพบเค้าด้วยตัวเอง!”

หัวหน้าบอดี้การ์ดผ่านอะไรมานักต่อนัก เขายังคงความนิ่งเมื่อถูกหลี่เหวยเยาะเย้ย เพียงเอ่ยเสียงเย็น : “คุณผู้หญิงให้เรามาหาคุณ”

หลี่เหวยได้ยินเช่นนั้น เธอยืดตัวขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าของตน : “เหอะ นับว่ามันยังฉลาดพอ”

ผู้คนที่รุมล้อมถูกบอดี้การ์ดไล่ออกไปจนหมด หลี่เหวยเล่นละครคนเดียวไร้ผู้ชมไร้ความหมายอะไร แถมเธอได้บรรลุเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย เมื่อฉินซียอมพบเธอ จึงไม่เอ่ยใดๆให้มากความ เธอพยักหน้ารับ : “นำไปสิ”

บอดี้การ์ดหมุนตัวเดินนำไปอย่างว่าง่าย

นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่เหวยได้มารีสอร์ทชิงหยวน ไม่คุ้นชินนัก เมื่อเห็นบอดี้การ์ดเดินนำไป เธอไม่รอช้า เร่งฝีเท้าตาม

ครู่หนึ่ง หลี่เหวยรู้สึกถึงความผิดปกติ

ทำไมพวกเขาถึงเดินอ้อมรอบนอกรีสอร์ท แม้ประตูใหญ่ยังไม่เข้า

“เห้ยเห้ย!” เธอเร่งฝีเท้าฉุดรั้งบอดี้การ์ดเอาไว้ “แกจะไปไหนกัน! ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเราไม่ได้เดินในรีสอร์ท”

บอดี้การ์ดไม่เอ่ยใดๆ

หลี่เหวยลังเล ไม่เดินตามอีกต่อไป : “พวกแกไปเรียกฉินซีออกมา!”

บอดี้การ์ดกลับหลังจ้องมองเธอ ไม่ยอมปริปากเช่นเคย

หลี่เหวยเห็นสีหน้านิ่งขรึมเย็นชา ในหัวจินตนาการไปต่างๆนาๆอย่างน่ากลัว

…..ทำไมถึงเดินอ้อม? ยิ่งเดินยิ่งไกลออกไป จะไปไหนกันแน่?

…..ฉินซีคิดทำมิดีมิร้ายต่อเธอหรือเปล่า? หรือจะลงมือกับเธอ?

หลี่เหวยตระหนกสั่นเทา จินตนาการไปต่างๆนาๆ จนตกใจกลัว เธอไม่มีทางเดินไปข้างหน้าเป็นอันขาด พลันโวยวายอยู่กับที่ : “พวกแกจะพาฉันไปไหน? ฉินซีอยู่ไหน? เรียกมันออกมา!”

เพียงแต่คราวนี้เธอเดินตามบอดี้การ์ดมาไกลพอสมควร รอบข้างไร้ซึ่งผู้คน ไม่ว่าเธอจะโวยวายอย่างไรก็ไม่มีใครได้ยิน

บอดี้การ์ดทั้งหลายยืนนิ่งราวรูปปั้น ไร้ปฏิกิริยาใดกับการโวยวายของเธอ

พวกเขานิ่งมากเท่าไหร่ ความกลัวของหลี่เหวยทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น เธอยืดตัวตรงหวังเดินไปข้างหน้า

แต่กลับถูกบอดี้การ์ดขวางทาง ไม่ให้ไปไหน

หลี่เหวยใบหน้าขาวซีด น้ำเสียงสูงขึ้นเรื่อยๆ : “พวกแกจะทำอะไร! ฉันเป็นนายหญิงของตระกูลฉิน พวกแกจะทำอะไรฉัน!”

เสมือนว่าบอดี้การ์ดบ้าใบ้ ไม่ปริปากแม้คำเดียว แถมยังไม่ยอมปล่อยเธอไป พวกเขาล้อมหลี่เหวยไว้ตรงกลาง ไม่ให้เธอไปไหนได้

หลี่เหวยตกใจกลัวกับจินตนาการของตน หัวใจเต้นรัวราวจะหลุดออกมา : “พวกแกคิดจะทำอะไรกันแน่…..ฉินซีสั่งให้พวกแกทำอะไร…..พวกแกจะทำอะไรฉันไม่ได้เด็ดขาด…..”

เธอร้องตะโกนอยู่อย่างนั้นราวเสียสติ ทันใดนั้นเหมือนว่าเธอนึกอะไรขึ้นได้ เธอเอื้อมมือลูบไล้กระเป๋า : “โทรศัพท์! โทรศัพท์ฉันล่ะ! ฉันจะโทรหาคนของตระกูลฉิน! พวกแกอย่าคิดจะทำอะไรฉันนะ!”

เธอตื่นตระหนก มือทั้งสองข้างคุ้ยเขี่ยไปมา ควานหาโทรศัพท์อยู่นานกว่าจะเจอ เธอกำโทรศัพท์แน่น กวาดสายตามองรอบตัวด้วยความระแวดระวัง เกรงถูกบอดี้การ์ดแย่งไปจากเธอ

แต่เหล่าบอดี้การ์ดกลับไม่สนใจโทรศัพท์ของเธอ ยังคงแน่นิ่งเช่นเคย

หลี่เหวยกดโทรหาฉินหว่านอย่างเร็ว : “หว่านหว่าน! แม่ติดอยู่ที่รีสอร์ทชิงหยวน รีบมาเร็วเข้า!”

ไม่ทันที่ฉินหว่านจะได้เอ่ยถามใดๆ หลี่เหวยกดวางสายโทรศัพท์ สายตาเหลือบมองไปยังทิศทางที่ใครบางคนเดินเข้ามา

ฉินซีปรากฏตัวขึ้นเสียที

แต่ละก้าวที่เชื่องช้าของเธอ เสมือนเดินเล่นหลังอาหาร

ความกลัวเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ เธอก้าวเดินอย่างโมโห มุ่งไปทางฉินซี

“ฉินซี!” หลี่เหวยกัดฟันกรอด “แกคิดจะทำอะไรกันแน่!”

ฉินซีนิ่งเฉย : “จะทำอะไร? ฉันต่างหากที่ต้องถามคุณ คุณแหกปากโวยวายหน้าบ้านฉัน รบกวนเวลาอาหารเที่ยงของฉัน”

หลี่เหวยใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ : “ฉินซี! แกอย่าคิดนะว่าแต่งเข้าบ้านผู้ดีแล้วจะกลายเป็นหงส์ขึ้นมาได้! อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้! ลู่เซิ่นหย่ากับแกไปแล้ว! แกนี่มันหน้าด้านจริงๆ ก็แค่ขอทานที่ไม่ยอมไปจากบ้านเค้าแค่นั้น!”

ฉินซีนิ่งเฉยกับประโยค เพียงแค่พยักหน้า : “ใช่ อย่างน้อยฉันสามารถอยู่ที่นี่ได้ ยังดีกว่าคุณที่ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมไปไหนอยู่ได้แค่หน้าบ้าน”

หลี่เหวยคิดตอบโต้ แต่กลับถูกฉินซีขัดขึ้น

“หลี่เหวย เธอจะทำอะไร รีบพูดเร็วเข้า ฉันไม่มีเวลาที่จะเสียกับเธอ” ฉินซีขมวดคิ้ว อย่างไร้ความอดทน

เธอโมโห แต่เมื่อนึกถึงเป้าหมายในการมาที่นี่ จึงอดกลั้นกลืนลูกไฟกลับลงคอพยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน : “ที่ฉันมา ไม่ได้มีอะไรมากหลอก ก็แค่เห็นว่า…..ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พ่อเธอคิดถึงเธอมาก แต่ติดต่อเธอไม่ได้ เลยให้ฉันมาพูดกับเธอดู…..”

ท้ายประโยค หลี่เหวยเก้ๆกังๆ

หลายวันมานี้ เธอใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นสุข

บริษัทฉินถูกตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ท่าทางดุร้าย ไม่ว่าฉินซึ่งเทียนใช้แผนการอะไร ก็ไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้เลย

ในโลกออนไลน์คำด่าสำหรับฉินซึ่งเทียนกองโตเป็นภูเขา ที่อยู่และเบอร์โทรของฉินซึ่งเทียนถูกแพร่กระจายว่อนเน็ต หลายวันมานี้ฉินซึ่งเทียนไม่กล้าเปิดเครื่อง เปิดเครื่องมีแต่จะต้องรับสายคนแปลกหน้าประโยคด่าทอไร้จุดจบ

ฉินซึ่งเทียนโมโหจนล้มป่วย

หลี่เหวยจับจ้องเรื่องราวทั้งหมด ด้วยความสลด

ไม่ใช่เพราะห่วงใยฉินซึ่งเทียนซะทีเดียว เธอเพียงแค่ห่วงอนาคตของตน

คิดไปคิดมา ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ต้องเป็นฉินซี ตน….. คงต้องรองขอร้องเธอดู

หากฉินซียอมปล่อยพวกเขา หลี่เหวยรู้ดี ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาทั้งนั้น

อันที่จริงก่อนเธอจะมาที่นี่ เธอได้ทำใจเอาไว้แล้ว เธอรู้ดีฉินซีไม่ทางพบเธอ ฉะนั้นหากเธอโวยวายที่หน้าบ้านต้องได้ผลแน่ๆ เมื่อได้พบฉินซี เธอออดอ้อนเอาใจหน่อย ไม่แน่อาจบรรลุเป้าหมาย

ไม่คาดคิดฉินซีกลับทำเช่นนี้ เธอตระหนกตกใจ เมื่อเป็นเช่นนี้เธอยกเลิกแผนการในทันที

สถานการณ์ตรงหน้าอยู่เหนือการควบคุมของหลี่เหวย ยังไงซะเมื่อครู่เธอเพิ่งอ้าปากด่าฉินซีอยู่หมาดๆ คราวนี้จะให้เยินยอเอาใจ ต่อให้เป็นหลี่เหวย ก็ยากนักที่จะก้มหัวได้

“ถ้างั้นก็ช่วยไปบอกฉินซึ่งเทียนด้วย อย่าคิดถึงฉันง่ายๆ” ฉินซีนยกมุมปากอย่างเยาะเย้ย “เขาคิดถึงฉันขึ้นมาทีไร ต้องสั่งคนจับตัวฉันทุกที แถมยังเล่นกันถึงกับชีวิต ฉันคงไม่มีเกียรติรับไว้ได้”

“แก!” หลี่เหวยพูดไม่ออก เธอสูดหายใจเข้าลึกอยู่หลายรอบกว่าจะสงบอารมณ์ลงได้ เธอเอื้อมแขนคว้าชายเสื้อของฉินซี หวังลดระยะห่างของทั้งคู่ : “ฉินซี ยังไงซะ เขาก็เป็นพ่อของเธอ ไม่ว่าเธอจะโกรธแค่ไหน ก็ลบความจริงไม่ได้อยู่ดี…..”

ฉินซีสลัดชายเสื้อหลุดออกมามือของเธอ พร้อมยิ้มอย่างเย็นชา : “ไม่เห็นหรือไง? ฉินซึ่งเทียนบอกนักข่าวใส่ร้ายแม่ฉันมีชู้ ฉันอาจเป็นลูกชู้ ฉันไม่รู้สึกว่าความจริงข้อนี้จะลบทิ้งไม่ได้”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท