Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1114

ตอนที่ 1114

บทที่ 1114 ยอมไม่ได้ที่จะให้เธอรับความลำบาก

นึกไม่ถึงว่าโน้ตบุ๊คไม่ได้ปิด แค่อยู่ในโหมดพักเท่านั้น

แค่เธอปัดมือขึ้น หน้าจอก็สว่างขึ้นมา

ฉินซีขมวดคิ้ว ก่อนที่จะพิมพ์รหัสเข้าไป

——คอมพิวเตอร์เปิดอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในหน้าเริ่มต้น

มีการเปิดโปรแกรมเล่นวิดีโอและเห็นได้ชัดว่ามีการหยุดวิดีโอชั่วคราว

คอมพิวเตอร์วางอยู่บนตักของฉินซี ดังนั้นพ่อบ้านจึงมองไม่เห็นว่าบนหน้าจอมีอะไร เห็นแค่เพียงใบหน้าของฉินซีเท่านั้นที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“คุณผู้หญิง” หลังจากเงียบไปนาน ในที่สุดพ่อบ้านก็อดไม่ได้ที่จะถาม “มีอะไรที่ผิดปกติหรือครับ?”

ในที่สุดฉินซีก็ละสายตาจากหน้าจอตรงหน้า ก่อนที่จะส่งยิ้มให้พวกเขา “ไม่มีอะไร พวกเธอออกไปก่อนเถอะ ฉันอยากคิดอะไรคนเดียวสักพัก”

“แต่ …” พ่อบ้านแย้งขึ้น “ไม่รู้ว่าใครที่แอบเข้ามา ผมต้องรักษาความปลอดภัยให้คุณผู้หญิงนะครับ”

ฉินซีส่ายหัวอย่างแน่ใจว่าเธอไม่เป็นไร “คนนั้นออกไปจากที่นี่แล้วไม่ใช่หรือไง? ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแล้วล่ะ”

เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของเธอ พ่อบ้านก็ทำได้แค่พยักหน้าตอบรับ และเมื่อเขากำลังจะออกไป ฉินซีกลับพูดขึ้นมาว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ไม่ต้องรายงานให้ลู่เซิ่นรู้ก่อนนะ” พ่อบ้านหันกลับมามองด้วยความประหลาดใจ “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่บอกประธานลู่ละครับ?”

ฉินซีส่ายหน้าเบาๆ “ไม่มีอะไรหรอกน่า ลู่เซิ่นทำธุระอยู่ที่เมืองหนานก็เหนื่อยพออยู่แล้ว ฉันไม่อยากไปเพิ่มเรื่องอะไรที่ทำให้เขาไม่สบายใจอีก ฉันคุยโทรศัพท์กับเขาแล้ว ไว้วันที่เขาจะกลับมา ฉันจะคุยกับเขาต่อหน้า ดีกว่าไหมล่ะ?”

พ่อบ้านยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ฉินซีพูดด้วยความเด็ดขาด และเขาไม่สามารถแย้งต่อเธอได้ดังนั้นเขาจึงต้องทำทีเป็นเห็นด้วย

ผู้คนในห้องจึงค่อยๆทยอยกันเดินออกมา ภายในห้องจึงดูค่อยๆเงียบสงบลงทันตา

หลังจากที่เหล่าบอดี้การ์ดออกมาพร้อมกับพ่อบ้านแล้ว สีหน้าพวกเขาก็ยังคงดูกังวล “พ่อบ้าน เราจะปล่อยให้คุณผู้หญิงอยู่คนเดียวจริงๆหรือ?”

พ่อบ้านส่ายหัว พลางยิ้มอย่างกังวลใจ “นายก็เห็นว่าท่าทางเธอเป็นยังไง คอยเฝ้าอยู่ข้างนอกนี่แหละ ระวังเป็นพิเศษด้วยล่ะ”

บอดี้การ์ดอีกคนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ จะไม่บอกประธานลู่จริงๆหรือครับ?”

พ่อบ้านยังไม่ตอบทันที เขาไตร่ตรองสักพัก ก่อนที่จะส่ายหัวอย่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไร และเดินจากไป

บอดี้การ์ดสองสามคนมองไล่หลังอย่างไม่เข้าใจ

… …

ภายในห้องหนังสือยังคงเหลือฉินซีเพียงคนเดียว

เธอรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่ปิดบังพิรุธได้ไม่เก่งนัก แค่คนมองมา ก็รู้แล้วว่าในโน้ตบุ๊กต้องมีอะไรที่ผิดปกติแน่นอน ว่าส่วนสำคัญของปัญหาคืออยู่ในนั้น แต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงมากพอที่จะปกปิดมันแล้ว

เพราะว่ารูปพื้นหลังบนหน้าจอนั้นคือหน้าของลู่เซิ่น ข้างหลังเขาเป็นร้านอาหารโบราณและสไตล์การตกแต่งก็ค่อนข้างคล้ายกับคฤหาสน์ตระกูลลู่ที่เธอเคยอยู่

เธอเกือบจะตัดสินไปแล้วว่า ลู่เซิ่นต้องอยู่ในคฤหาสน์เก่าของตระกูลลู่ที่อยู่ในเมืองหนาน

——แล้วเขากลับไปที่คฤหาสน์เก่าทำไมกัน

ฉินซีจำคราวก่อนได้ที่ลู่เซิ่นออกไปดูงานที่เมืองหนาน เขาเคยบ่นกระปอดกระแปดเกี่ยวกับผ้าห่มของโรงแรมที่ห่มแล้วหลับไม่สบาย

เธอยังเคยถามเลย ตระกูลลู่ที่อยู่เมืองหนานควรที่จะมีคฤหาสน์ของตระกูลที่นั่น ทำไมเขาไม่กลับไป

ลู่เซิ่นส่ายหัวปฏิเสธอย่างเป็นจริงเป็นจัง “ที่แต่คนแก่ๆอยู่ที่นั่น ถ้าไม่มีเรื่องใหญ่อะไรจริงๆ ผมจะกลับไปทำไมล่ะ?”

ถ้าไม่มีอะไรสำคัญจริงๆ จะไม่กลับไป ถ้าตอนนี้กลับไป แสดงว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น

ฉินซีนึกไปถึงบันทึกที่ส่งมายังกล่องเมลบ๊อกของเธอแทบจะในทันที

ข้างในนั้นลู่เซิ่นพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและบอกว่าเขาจะแต่งงานกับคนหนึ่ง เป็นเพราะว่าคุณอยากแต่งงานก็เลยจะกลับไปอธิบายให้ “คนแก่” พวกนั้นฟัง ใช่ไหมล่ะ?

ฉินซีกัดริมฝีปากบางของตัวเอง และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจคลิกเล่นวิดีโอ

แน่นอนว่าวิดีโอไม่ได้ถูกบันทึกโดยมืออาชีพ ภาพมีการสั่นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเห็นภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจน

เหมือนว่ากำลังจะแอบถ่าย คนส่วนใหญ่ในวิดีโอกำลังรับประทานอาหารกัน และเมื่อรอถึงลู่เซิ่นวางตะเกียบลง ผู้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ซ้ายมือ โพล่งถามขึ้นมา “ลู่เซิ่น ได้ยินว่าคราวนี้แกกลับมาเพื่อต้องการแต่งงานนี่?”

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป คนทั่วทั้งโต๊ะอาหารก็พากันเงยหน้าขึ้นมามองตรงไปยังลู่เซิ่นแทบจะทันที

ลู่เซิ่นหยิบทิชชู่ ขึ้นมาบรรจงเช็ดที่มุมปาก ก่อนพูด “ไม่ใช่แต่งงาน แต่คือขอแต่งงาน”

ชายวัยกลางคนโบกมือไปมา “แตกต่างกันตรงไหน ลู่เซิ่นจะไปขอแต่งงานยังไงก็ต้องสำเร็จอยู่แล้ว”

ลู่เซิ่นลดสายตาลง “ผม ผมไม่ค่อยแน่ใจ”

วิดีโอจบลงเท่านี้ ก่อนที่จะหยุดนิ่งอยู่ที่บนใบหน้าของลู่เซิ่น

ฉินซีที่ใช้ชีวิตอยู่กับเขามาปีกว่าๆ ไม่เคยเห็นเขาแสดงท่าทางแบบนี้มาก่อน

ดูเปราะบาง และดูเหมือนไม่มีความมั่นใจ

ฉินซีรู้ดีว่า เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่เขาปรารถนามานานแต่ไม่สามารถทำได้นั้น คนก็จะแสดงอาการระมัดระวังตัวออกมาเช่นนี้

เธอแค่ไม่รู้ว่าลู่เซิ่นจะแสดงออกมา

จริงๆแล้ว…เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับคนทั่วไป เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ตัวเองรักใคร่ แต่ไม่ได้ครอบครองเช่นนี้

เธอไม่คาดคิดว่าจะเห็นเขาในมุมนี้เท่านั้น

อาจจะ… … เป็นตัวเธอเองที่ไม่คู่ควร

เช้าวันนั้นในถังย่า เธอแน่ใจว่าไม่มีการแก้ไขบันทึกเสียงอันนั้นแน่ ฉินซีรู้สึกเหมือนมีของมีดทิ่มแทงเข้ามาภายในหัวใจ

และตอนนี้เมื่อเธอเห็นวิดีโอ ดูเหมือนว่ามีดเล่มนั้นจะถูกดึงออกไป เหลือเพียงแต่รูขนาดใหญ่ รู้สึกราวกับจะกระอักเลือด แต่ทั้งใจก็ชาไปหมดเพราะความเจ็บปวด

คนที่ทำเรื่องทั้งหมดจะต้องเป็นคนเดียวกันแน่ คงจะอยากให้เธอเห็นและรับรู้ทุกอย่าง

ฉินซีอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความขมขื่น

ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะมีเจตนาอะไรก็ตาม ก็ควรต้องหยุดได้แล้ว

เธอเข้าใจแล้ว ลู่เซิ่นไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ และตัดสินใจที่จะไปแต่งงานกับคนอื่น

เธอไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไร เรื่องนี้มันทำให้เธอเจ็บช้ำมาพอแล้ว ไม่ต้องให้เธอต้องทนเห็นมันซ้ำๆหรอก

ใช้วิธีการต่างๆนาๆในการเตือนเธอเกี่ยวกับข้อเท็จจริงข้อนี้

รอยยิ้มที่ขมขื่นปรากฏบนริมฝีปากบางของเธอ ดวงตาเบิกขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา

ฉินซีเอนหลังบนโซฟา สายตาทอดมองไปที่ฉลุเพดาน

โชคดีที่เธอและลู่เซิ่นได้หย่ากันเรียบร้อย จะได้ไม่มีข้อพิพาทระหว่างเขาและเธอ

โชคดีที่เธอไม่ได้นำสิ่งของมาเพิ่มในห้องมืดอีก ไม่อย่างนั้นคงต้องเก็บกันยาว

วันนี้คงได้นอนที่นี่เป็นคืนสุดท้าย รอให้พรุ่งนี้ลู่เซิ่นตื่น เธอก็คงต้องคุยเรื่องนี้กับเขาให้รู้เรื่อง

เธอรู้ทุกอย่างแล้ว และเธอเต็มใจที่จะปล่อยลู่เซิ่นให้เป็นอิสระจากเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนและเก็บมันไว้ให้ลำบากใจอีกต่อไป

หลังจากนี้เขาอยากจะทำอะไร เขาก็ได้ทำตามใจ

เขาอยากแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นมาก ก็รู้ว่าคงรักมาก

รักมากขนาดนั้น ก็คงไม่อยากให้เธอต้องมาลำบากอะไร

หากไม่มีตัวเธอ ก็คงไม่ต้องหลบซ่อนอะไร และสามารถจัดงานแต่งได้โดยไม่ต้องปิดบังอะไร

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท