Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1127

ตอนที่ 1127

บทที่ 1127 คาดเดาไม่ถูก

ลู่เซิ่นถามอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ สูหยิงยังตามไม่ทัน “ถือสาอะไรกัน”

ลู่เซิ่นขยายความให้ชัดขึ้น “พ่อไปทำความสะอาดสุสานให้แม่ของฉินซี แม่น่าจะไม่ถือสานานแล้วใช่มั้ยครับ ไม่อย่างนั้นตามนิสัยของแม่ คงไม่มีทางกล้ำกลืนอยู่กับพ่อต่อไปเด็ดขาด แม่ยังยอมอยู่กับพ่อ แสดงว่าไม่เก็บมาใส่ใจแล้ว”

เขาพูดอย่างมั่นใจ สูหยิงไม่คิดว่าตัวเองจะถูกลูกชายมองทะลุปรุโปร่ง รู้สึกโมโหเพราะขายหน้า โต้กลับ “ลูกเข้าใจอะไร! คืนนี้ลูกรีบถามอย่างนี้ คิดจะกลับไปคืนดีกับยัยจิ้งจอกนั่นหรือไง”

รอยยิ้มของลู่เซิ่นคาดเดาไม่ถูก เขาเงียบไม่ตอบ

ดีที่เวลานี้สูหยิงไม่มีอารมณ์ครุ่นคิดว่าเขาพูดอะไร บ่นพึมพำอะไรอีกหน่อยแล้วก็ผละไป พอออกมาแล้วถึงรู้สึกว่าตัวเองเรียกลู่เซิ่นมาเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาเลิกความคิดแต่งงานกับเวินจิ้งแท้ๆ แต่กลับถูกเขาขัดจังหวะเปลี่ยนเรื่องเสียนี่

สูหยิงจะกลับไปก็ไม่ได้ ส่ายหน้าออกไปจากหน้าประตูห้องลู่เซิ่น

ขณะที่ลู่เซิ่นกำมือถือ คิดถึงคำพูดของลู่เหวยกับตัวเอง

เพราะเขารู้สึกผิด จึงไม่พูดความจริงกับฉินซีหรือเปล่า

ลู่เซิ่นเปิดคลิปที่พ่อบ้านส่งให้ตัวเองอีกครั้งโดยไม่ตั้งใจ เพิ่งจะนึกขึ้นได้ ฉินซีบอกว่าถึงบ้านอานหยันแล้วจะติดต่อกลับมา ทำไมเธอถึงแล้ว ยังไม่โทรกลับมาหาอีกนะ

ขณะที่เขาจะกดโทรออก เหลือบมองเวลา ถึงเห็นว่าตอนนี้ที่ เมืองAเป็นเวลากลางดึกแล้ว

…คงจะมัวแต่ปลอบอานหยันกระมัง

ลู่เซิ่นถอนหายใจเสียดาย เขาอยากเห็นเหลือเกินตอนที่เขาบอกฉินซีว่าพวกเขาจะจัดงานแต่งงานกันฉินซีจะแสดงออกอย่างไร

รออีกหน่อยละกัน เขาบอกกับตัวเอง

ทว่าลู่เซิ่นยังคงไม่รู้ การรอคอยครั้งนี้ จะนานแสนนาน

……

ประเทศF

ฉินซีผลักประตูเข้าไปในบ้านอานหยัน

แน่นอน คนที่ยืนตรงหน้าเธอไม่ใช่อานหยัน แต่เป็นจ้านเซิน

เขามองไปที่นอกหน้าต่าง พึมพำ “ลู่เซิ่นเฝ้าตามติดคุณจัง…”

คงจะกลัวว่าหลังจากนี้ฉินซีจะไม่มีรถใช้ คนขับรถจอดรถทิ้งไว้ ตัวเองเดินไปเรียกรถกลับรีสอร์ทชิงหยวน รอจนเสียงรถที่หน้าประตูค่อยๆ หายไป จ้านเซินถึงจะเลิกคิ้ว เปิดประตูบ้านอานหยันอีกครั้ง

จ้านเซินจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ ย่อมไม่ใช่คิดขึ้นปุบปับ แต่เป็นการวางแผนอย่างรอบคอบต่างหาก

ที่ห้องนอนเลือกใช้ยาประเภทควบคุมประสาททำให้ฉินซีเชื่อฟังว่าง่าย จากนั้นให้เธอบอกลากับพ่อบ้านด้วยตัวเอง เป็นความคิดที่ดีกว่าเธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ประการแรกลดความสงสัยของคนตระกูลลู่ เขามีเวลาหนีไปกับฉินซี อีกประการ อย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้เช้าถึงจะมีคนรู้เรื่องนี้

จ้านเซินไม่หวั่นเกรงอำนาจของตระกูลลู่ แต่ที่นี่ถึงอย่างไรก็เป็นประเทศF เขตอิทธิพลของตระกูลลู่ ถ้าคิดจะมีเรื่องกับพวกเขา คงจะต้องเกิดเรื่องปวดหัวตามมามากมายแน่

สู้หาข้ออ้างให้ฉินซีไม่ได้ คำพูดออกจากปากของเธอเอง เช่นนี้คนของตระกูลลู่อย่างน้อยคงใช้เวลาอีกสองสามวัน ถึงจะผิดสังเกต

เวลาทั้งวัน ทำอะไรได้ตั้งมากมาย

การหาข้ออ้างนั้น จะมีพิรุธจนทำให้คนสังเกตเห็นความผิดปกติง่ายๆ ไม่ได้ และจะไม่มีแรงจูงใจไม่ได้ จ้านเซินตรวจสอบอยู่นาน ถึงจะเลือกข้ออ้างนี้

เขาตรวจสอบจนรู้แน่ สองสามวันนี้อานหยันไปทำงานต่างเมือง ที่บ้านไม่มีคนอยู่ จึงวางแผนให้ฉินซีมาที่นี่เอง แล้วค่อยพาตัวเธอไป เป็นแผนการที่รัดกุม

แต่ จ้านเซินคิดไม่ถึงว่าคนขับรถของตระกูลลู่จะยืนรออยู่ที่เดิมจนเห็นฉินซีเดินเข้าบ้านถึงกลับไป ตอนนี้ค่อยโล่งใจหน่อย ยังโชคดีที่เขาเข้าไปในบ้านอานหยันก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าเขาทำตามแผนเดิมที่จะรออยู่นอกบ้านเพื่อพาตัวฉินซีไป ทั้งหมดนี้คงจะพังไม่เป็นท่าแน่

ด้วยความสามารถของเขา แม้แต่รีสอร์ทชิงหยวนก็สามารถแทรกซึมได้ การเข้ามาในบ้านอานหยันแน่นอนว่าไม่ใช่ปัญหา ไม่สัมผัสสัญญาณเตือนภัยใดๆ กล้องวงจรปิดทั้งหมดก็ปิดก่อนแล้ว ไม่มีทางเห็นร่องรอยใดๆ

เมื่อคิดถึงปฏิกิริยาของลู่เซิ่นเมื่อรู้ข่าวนี้ รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากจ้านเซิน

เขาไม่ได้หลอกฉินซี หลักฐานทั้งหมดของเขา ลู่เซิ่นเป็นคน “ส่งมอบ” เอง

นี่เป็นคำพูดจากปากของลู่เซิ่น ในที่สุดกลายเป็นข้อมูลให้คนอื่น จะหมายความว่าอย่างไร จะอธิบายอย่างไร อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา

จ้านเซินด้านหนึ่งคิดอย่างได้ใจ อีกด้านหนึ่งสังเกตโดยรอบอย่างระมัดระวัง

ทุกอย่างปกติดี

เขาโล่งอก หันไปพูดกับฉินซี “ไปกันเถอะ”

ฉินซีก็เชื่อฟังตามไปด้วยดี

จ้านเซินเห็นท่าทางของเธอเหมือนหุ่นเชิด รอยยิ้มของเขาครุ่นคิด

“ถ้าคุณรู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว จำได้ทุกอย่าง รู้ว่าผมทำอะไรกับคุณบ้าง คงจะอัดผมเต็มแรงใช่มั้ย…” จ้านเซินพูดพึมพำกับตัวเอง

เมื่อพูดถึงเขาจะถูกทุบตี รอยยิ้มเหมือนกับรอคอย ทำให้ไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่

ฉินซีเดินตามหลังเขาอย่างว่าง่าย เดินไม่เท่าไรก็มาถึงรถ

“คุณขับนะ” จ้านเซินเปิดประตูรถฝั่งคนขับ “ผมจะเปิดจีพีเอสนำทางให้”

ฉินซีพยักหน้า ไม่มีความเห็นเป็นอื่น เข้าไปนั่งในรถ

“นึกไม่ถึงจะเชื่อฟังขนาดนี้…ผมถึงกับทำตัวไม่ถูก” จ้านเซินยิ้มส่ายหน้า ตัวเองเปิดประตูรถด้านหลัง

ถึงแม้เขาจะวางแผนเส้นทางที่มีกล้องวงจรปิดน้อยที่สุด แต่ไม่รู้ว่าถนนเส้นนี้จะมีกล้องวงจรปิดที่คาดไม่ถึงติดอยู่ตรงไหนหรือเปล่า เพื่อป้องกันไว้ก่อน ให้ฉินซีขับรถเองจะดีกว่า พยายามไม่ให้ตัวเองถูกจับภาพได้

เช่นนี้ดูแล้ว เหมือนกับฉินซีต้องการเดินทางไปเอง

อีกอย่างหนึ่ง…

จ้านเซินคิดถึงจดหมายฉบับนั้นที่ฉินซีวางบนโต๊ะ สายตาก็นึ่งขรึมยิ่งขึ้น

ฉินซีนั่งที่ตำแหน่งคนขับรถ รออยู่นานก็ไม่เห็นจีพีเอสที่จ้านเซินพูด จึงหันมาไปมองเขาแวบหนึ่ง

จ้านเซินค่อยรู้สึกตัว เปิดมือถือ น้ำเสียงขอโทษ “ขอโทษที นี่ไง! คุณดูก่อน ขับไปจากที่นี่นะ”

ฉินซีหันไปโดยไม่แสดงอารมณ์ ติดเครื่องยนต์

รถค่อยๆ เคลื่อนตัวหายลับไปท่ามกลางความมืดมิด

……

ฉินซีเบิกตาโพลง

จ้านเซินบุกเข้ามาในห้องนอน ภาพกล้องวงจรปิด กลิ่นหอมที่ปะทะจมูกของตัวเอง…

ทุกอย่างเหมือนภาพไม่ปะติดปะต่อหมุนวนในหัวของฉินซี ราวกับฝันร้าย

จู่ๆ ก็รู้สึกขมับปวดรุนแรง ฉินซีนวดขมับ แล้วลุกขึ้นนั่ง

แต่วินาทีที่มือสัมผัสกับผ้าปูเตียง สัญญาณเตือนภัยในหัวของเธอก็ดังขึ้นทันที

ที่นี่ไม่ใช่รีสอร์ทชิงหยวน!

พ่อบ้านให้ความสำคัญกับ “รายละเอียดที่กำหนดคุณภาพชีวิต” มากที่สุด วัสดุผ้าปูเตียงคัดสรรมาอย่างดี ในตอนแรกฉินซีไม่รู้สึกอะไร จนกระทั่งเดินทางไปที่อื่น พักอยู่ไม่กี่วัน สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง

ผ้าปูที่นอนของรีสอร์ทชิงหยวนมีสัมผัสพิเศษ เป็นสัมผัสที่เธอไม่เคยรู้สึกกับที่อื่น

ที่นี่ก็ไม่มี

ฉินซีนั่งตัวตรงทันที มองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง

เธอรู้แล้ว ความทรงจำที่ขาดเป็นห้วงๆ ในหัว ไม่ใช่ความฝัน มันเป็นความจริงทุกอย่าง

แต่เมื่อเทียบกับความทรงจำแล้ว ตอนนี้เธออยากรู้มากกว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน

จ้านเซินพาเธอมาที่นี่ เพราะอะไร

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท