Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1173

ตอนที่ 1173

บทที่ 1173 ไม่อยากจะเชื่อเลย

ต่อมาฉินซี“ขอบคุณ”เขายังไง จนถึงตอนนี้ลู่เซิ่นยังจำได้อย่างชัดเจน

แต่ว่า……แต่คนอีกคนที่อยู่ในภาพความจำกลับไม่อยู่ข้างกายอีกแล้ว

ลู่เซิ่นไม่ใช่คนที่อารมณ์หวั่นไหวง่าย แต่ตอนนี้ก็เดินเข้าห้องมืดอีกแล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งเขาเดินเข้าไปในห้องมืดยิ่งมีอารมณ์ซับซ้อนที่พูดไม่ออก จนอัดอั้นอยู่ในทรวงอกของเขาอย่างไม่หยุด

กังวล ไม่อยากเชื่อเลย สงสัย ความโกรธและยังมีความเศร้า

เขาไม่ยักรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีอารมณ์ซับซ้อนได้ขนาดนี้

เพียงแต่เขารู้ ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ห้ามให้อารมณ์ตัวเองมาควบคุม

แล้วเขาก็ถอนหายใจยาว ปรับอารมณ์ให้สงบลง ถึงบิดประตูเปิดเข้าห้องมืด

หลังจากห้องนี้ถูกดัดแปลงเป็นห้องมืด ก็กลายเป็นดินแดนของฉินซีอย่างสิ้นเชิง

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามา

ในห้องมืดแทบจะไม่มีอะไรตกแต่งเลย ตู้ก็ถูกเก็บอย่างสะอาดหลายตู้ ของทุกชิ้นถูกเก็บเข้ากล่องไป วางไว้มุมห้อง

เพราะมีผู้บุกรุกเข้ามาที่นี่ กลุ่ม รปภ. เลยได้เข้ามาตรวจสอบห้องมืดอย่างละเอียด กล่องถูกค้นจนยุ่งเล็กน้อย ยังมีไม้บรรทัดบางส่วนถูกโยนทิ้งไว้อีกข้างหนึ่ง

ลู่เซิ่นมองไปรอบๆ ก็งั้นๆ รู้สึกว่าไม่น่ามีของอะไรที่ตัวเองอยากได้

ฉินซีน่าจะเป็นคนไม่ชอบอะไรวุ่นวาย ฉะนั้นถ้าเธอเคยมาที่นี่ อย่างน้อย……พื้นก็จะไม่รกแบบนี้

เขาจึงหันหลังเดินกลับห้องโดยไม่มีความสงสัย

ห้องนอนเขากับฉินซีจะมีคนเข้าไปความสะอาดทุกเช้า แต่สถานการณ์ของวันนี้คับขัน ก่อนเขากลับมาได้สั่งไว้เป็นพิเศษว่าอย่าแตะต้องของในห้อง เพราะฉะนั้นวันนี้ยังไม่มีใครได้เข้าไป

ผลักประตูออก เพียงแค่ชำเลืองมอง ลู่เซิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย

แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เขาก็สามารถดูออกว่า ห้องนี้มันโล่งขึ้นไปบ้าง

เพราะว่าของส่วนตัวของฉินซีได้ถูกเก็บไปหมดแล้ว

อันที่จริงแล้วฉินซีก็ไม่ได้วางของไว้ในห้องนอนมากนัก แต่ของเหล่านั้นกลับมีความหมายมาก

แต่ถ้าหากไม่มีแล้ว ในสายตาของลู่เซิ่นก็มองว่าห้องดูแปลกตาไป

เขาขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าห้องแต่งตัวไป

เสื้อผ้าลดน้อยลง กระเป๋าเดินทางก็หายไป1ใบ

ลองดูดีๆอีกครั้ง……สิ่งที่ขาดหายไปคือเสื้อผ้าตามฤดูกาลนี้ ของที่หายไปจากห้องล้วนเป็นของจำเป็นทั้งสิ้น

เก็บกวาดสะอาดขนาดนี้……ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แต่ดูเหมือนว่า…ตั้งใจเตรียมการไว้แล้ว

ลู่เซิ่นเม้มปากแน่นขึ้นมา

เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ว่าฉินซีหายออกไปด้วยตัวเอง

หัวใจของเขากำลังโกรธเป็นไฟ ปิดห้องแต่งตัวอย่างเสียงดัง กลับพบว่าประตูห้องแต่งตัวนั้น……ปิดไม่ค่อยได้

——มีผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งถูกโยนทิ้งไว้ที่มุมประตู ติดอยู่ที่ช่องประตู

ลู่เซิ่นสับสนแล้วโน้มตัวลงอย่างช้าๆ เก็บผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา

เขาและฉินซีไม่มีนิสัยชอบใช้ผ้าเช็ดหน้า เป็นไปไม่ได้ที่คนใช้ที่บ้านจะโยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งไว้ที่ห้องของเขา

ลู่เซินนึกถึงผู้บุกรุกที่พ่อบ้านพูดถึงทันที

หรือว่านี่เป็นผ้าเช็ดหน้าที่คนบุกรุกทิ้งไว้หรอ?

ลู่เซิ่นหรี่ตา

หลังฉินซีกินข้าวเย็นเสร็จก็ตรงไปที่ห้องเลย ไม่ได้ไปที่อื่น หากการหายไปของเธอเกี่ยวข้องกับผู้บุกรุกจริงๆ……งั้นก็แปลว่าเวลาเธอน่าจะได้เจอหน้ากับคนที่บุกรุกในห้องนี้!

คิดถึงนี่แล้ว ผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือนั้นกลับเป็นสิ่งที่สำคัญขึ้นมา

ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

ลู่เซิ่นเดินไปไม่กี่ก้าว อยากจะเอาผ้าเช็ดหน้าวางบนโต๊ะ รอให้หลินหยังขึ้นมานำผ้าเช็ดหน้าไปตรวจดูว่ามีอะไรพิเศษบนผ้าเช็ดหน้าหรือไม่

แต่พอเดินไปข้างโต๊ะ ก็ถูกสิ่งของหนึ่งบนโต๊ะดึงดูดสายตาของเขา

——กระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกพับไว้โดยมีบัตรธนาคารทับอยู่ข้างบน

ลู่เซิ่นไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของเขาจู่ๆถึงได้เต้นแรงขึ้น

แต่ยังไม่ทันได้หยิบกระดาษขึ้นมา ประตูก็ถูกเคาะดังขึ้นมาทันที

“ประธานลู่ครับ!” น้ำเสียงของหลินหยังดูตื่นเต้นและตกใจเล็กน้อย“พวกเขาติดตามคุณผู้หญิงได้แล้วครับ!”

ลู่เซิ่นเงยหน้าขึ้นทันที:“เบาะแสของฉินซีในตอนนี้งั้นหรอ? ”

หลินหยังคิดว่าตัวเองยังคงพูดไม่ชัดเจน รีบพูดอธิบายเพิ่ม:“ ไม่ใช่……แต่เป็นเส้นทางที่คุณผู้หญิงขับรถผ่านเมื่อวานครับ”

ความหวังที่เพิ่งเพิ่มขึ้นในใจของลู่เซิ่นก็ดับวูบอีกครั้ง แต่เขาจะใส่อารมณ์ต่อหลินหยังก็คงไม่ดี จึงเชิดคางให้เขา:“ เอามานี่ฉันขอดูหน่อย”

หลินหยังไม่กล้ารอช้า รีบถือแท็บเล็ตแล้วเดินมา

ลู่เซิ่นนำกระดาษที่ถือไว้วางกลับที่เดิม ยื่นมือรับแท็บเล็ตที่หลินหยังยื่นให้ เปิดมาดูทีนึง

“จุดเริ่มต้นของการติดตามเริ่มจากที่นี่ครับ” หลินหยังเอื้อมมือออกไปและชี้ไปที่แผนที่ที่แสดงบนแท็บเล็ต “นี่น่าจะเป็นบ้านของคุณอานหยัน จุดที่คุณผู้หญิงขึ้นรถนั้นเป็นจุดบอดที่อยู่ใกล้บ้านอานหยัน กล้องตรวจจับภาพที่บันทึกได้นั้นไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์เลย มีแค่กล้องตัวนี้ตัวเดียวที่เห็นภาพได้ชัด”

เขาชี้ไปที่ข้างๆของคลิปวีดีโอ

ลู่เซิ่นไม่ลังเลที่จะคลิกเปิดทันที

คุณภาพของกล้องมีความเลือนรางมาก ลู่เซินอาศัยความคุ้นเคยที่มีต่อฉินซีมองข้างหลังจากภาพเบลอก็รู้ว่าเป็นฉินซี

แต่เขาสามารถดูออกทุกการเคลื่อนไหวของฉินซี เห็นได้ชัดว่าเธอเปิดประตูรถด้วยตัวเองและเข้าไปนั่งที่เบาะคนขับ

อย่างไรก็ตามมุมกล้องนี้อยู่ในมุมอับสายตามาก มองเห็นแต่การเคลื่อนไหวของฉินซี

และจุดเบาะข้างคนขับเท่านั้น ส่วนด้านหลังของรถถูกบังมิด มองไม่เห็นอะไรเลย

เพราะฉะนั้นฉินซีออกไปคนเดียวรึป่าวกันแน่ ลู่เซิ่นก็ไม่สามารถรู้ได้

เหมือนกับว่าหลินหยังเคยดูวีดีโอนี้ไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเตรียมใจไว้ตั้งนานแล้วว่าลู่เซิ่นจะผิดหวัง รอจนวีดีโอนี้จบ เขารีบพูดทันทีว่า:“ รถที่คุณผู้หญิงขับออกไปนั้นหายออกจากกล้องไปเป็นเวลานาน หลังจากนั้นถึงมาปรากฏขึ้นที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งตรงชานเมืองอีกครั้ง”

ครั้งนี้ไม่รอเขาชี้ ลู่เซิ่นเปิดวีดีโอด้วยตัวเอง

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปั๊มน้ำมันนั้นชัดเจนกว่าภาพก่อนหน้านี้มาก แต่ว่าก็ไม่ได้ทำให้ลู่เซิ่นได้คำตอบที่เขาอยากได้อีกเช่นเคย

เนื่องจากกล้องตรวจจับภาพถ่ายจากด้านหน้ารถในแนวทแยง เห็นใบหน้าของฉินซีได้ชัดผ่านกระจกรถ แต่หน้าต่างทั้งสี่ด้านของรถของฉินซีถูกปิดด้วยฟิล์มดำที่ค่อนข้างหนา จึงไม่สามารถตรวจจับภาพบริเวณเบาะหลังคนขับได้

แต่เพียงแค่มองไปที่ใบหน้าของฉินซีนั้น ลู่เซิ่นแปลกใจเล็กน้อย

ฉินซีดูแล้วนิ่งมาก เหมือนกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

หรือจะพูดได้ว่า ดูเหมือนกับว่า……ได้ไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว

“สถานที่สุดท้ายที่คุณผู้หญิงปรากฏตัว อยู่ในตัวเมือง” หลินหยังไม่กล้าดูสีหน้าของลู่เซิ่น รอวีดีโอจบ พูดขึ้นเองว่า “เป็นกล้องวงจรปิดจากโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง คุณภาพของจอภาพนั้น……ก็ไม่เท่าไหร่”

ครั้งนี้ลู่เซิ่นไม่อยากเสียเวลาไปดูแล้ว แต่เงยหน้ามองหลินหยัง ถามว่า:“ ถ่ายเห็นแค่ฉินซีคนเดียวอีกแล้วใช่มั้ย”

หลินหยังได้แต่พยักหน้า

คิ้วของลู่เซิ่นไม่หยุดขมวดทั้งวัน ครั้งนี้ดูวีดีโอจบ รู้สึกว่าความคิดสับสนวุ่นวายไปหมด

แม้หลินหยังจะคำนึงถึงสีหน้าของเขา แต่สิ่งที่ควรพูดก็ต้องพูด สุดท้ายก็เอ่ยปากพูดไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท