Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1230

ตอนที่ 1230

บทที่ 1230 ยิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

คนพวกนั้นอาจจะไม่ใช่คนที่จ้านเซินส่งมาทดสอบฉินซี บางทีพวกเขาอาจแค่อยากจะหนีออกไป

แต่ว่าฉินซีทำได้แค่แข็งใจและเลือกที่จะรายงานกับพวกเขา

ตอนนี้ฉินซีก็แทบจะเอาตัวไม่รอด ไม่สามารถแยกแยะว่าอะไรคือความจริงกันแน่

และตอนนี้ ความเชื่อใจของจ้านเซินที่มีต่อฉินซีก็เริ่มมีมากขึ้นแล้ว

เวลาหนึ่งเดือนได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ฉินซีอยู่บนเกาะนี้มาเป็นเวลาสองเดือนครึ่งแล้ว

มันเป็นอีกคืนที่เหนื่อยล้า ฉินซีจบหลักสูตรไปอีกหนึ่งวัน เธอผลักประตูเพื่อที่จะเข้าไปในห้องของตัวเอง แต่กลับพบจ้านเซินนั่งอยู่ในห้อง

คิ้วของฉินซีขมวดเข้าหากัน แต่เธอก็ควบคุมอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

จ้านเซินยิ้มอ่อนพลางยกคางขึ้นชี้มาที่เธอ “เธอไม่เห็นเหรอว่า…ในห้องเธอมีอะไรเปลี่ยนไป”

ฉินซีหันมองไปตามสิ่งที่จ้านเซินหมายถึง แต่ก็พบว่าบนผนังห้องเธอ…มีทีวีเครื่องหนึ่งติดอยู่

ฉินซีอึ้งไปชั่วขณะ

…เขาหมายความว่าอะไร

ฉินซีรู้ดีว่าหอพักของสำนักงานใหญ่ มีเพียงเธอเท่านั้นที่ต้องตัดขาดกับข่าวสารภายนอกทั้งหมด โดยสมาชิกส่วนใหญ่ต่างก็มีโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ในหอพักก็ยังมีทีวีอีกด้วย

แต่เธอไม่เคยขอยืมจากพวกเขาเลย ประการแรกกลัวว่าจะเป็นการเปิดเผยตัวตน ประการที่สองกลัวที่จะทำให้พวกเขาติดร่างแหไปด้วย

แต่ว่าทำไมจู่ๆจ้านเซินถึงติดตั้งทีวีให้แบบนี้ล่ะ

ฉินซีไม่สามารถหาคำตอบได้

ดูเหมือนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนของฉินซีจะทำให้จ้านเซินพึงพอใจ เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ลุกขึ้นเดินไปด้านข้างของฉินซีพลางเอ่ยขึ้น “เป็นเวลาสองเดือนครึ่งแล้วที่เธอมาอยู่ที่นี่ และในที่สุดเธอกลับมาเป็นตัวของตัวเองเอง”

ฉินซียิ้มโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่เธอยังคงรักษาสีหน้าไม่ให้แสดงถึงหวั่นไหวออกมา

จ้านเซินหันกลับ จู่ๆก็เอื้อมมือมาเชยคางของเธอขึ้น

ฉินซีเกือบจะเบี่ยงตัวหลบโดยอัตโนมัติ แต่ท้ายที่สุดเธอก็กัดฟันควบคุมตัวเองไม่ให้ทำท่าทีบุ่มบ่าม เธอเพียงแค่เงยหน้ามองจ้านเซิน “นี่คุณจะทำอะไร”

จ้านเซินไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ขยับศีรษะยิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

มือของฉินซีที่อยู่ในกระเป๋าเปลี่ยนเป็นกำหมัด

…ถ้าหากจ้านเซินกล้าที่จะจูบ ตัวเองต้องหาเหตุผลเพื่อเลี่ยงตัวออกมา

ฉินซีหลับตาแน่น กะเอาไว้แล้วว่ารอให้ลมหายใจของจ้านเซินเข้ามาใกล้ เธอค่อยหาเหตุผลเพื่อหลีกเลี่ยง

ถึงฉินซีจะหลับตาและรออยู่หลายวินาที แต่ริมฝีปากของจ้านเซินก็ยังไม่เข้ามาใกล้

ฉินซีสับสน ค่อยๆลืมตาขึ้น

จ้านเซินหยุดอยู่ที่ระยะเดิมที่เขาเข้ามาใกล้

ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ลมหายใจของจ้านเซินเกือบจะรดลงบนใบหน้าของฉินซี เพียงแค่คนใดคนหนึ่งขยับเขยื้อน ก็จะทำให้ทั้งสองคนได้จูบกัน

แต่ยังไม่มีใครขยับตัว

แววตาของจ้านเซินลึกซึ้งจนไม่สามารถคาดเดาได้ ฉินซีไม่เข้าใจและไม่คิดจะมองเข้าไปแววตาของเขาด้วย เพราะทั้งคู่อยู่ใกล้กันเกินไป ดวงตาของฉินซีจึงไม่สามารถโฟกัสได้

ไม่รู้ว่าติดอยู่ในท่าที่คลุมเครือนี้มานานเท่าไหร่ แต่แล้วจู่ๆจ้านเซินก็ปล่อยมือและถอยหลังออกไป

“เธอกลับมาแล้ว”

จ้านเซินหันหลังให้กับฉินซี จู่ๆก็พูดประโยคเดิมนี้ซ้ำอีกครั้ง

ฉินซีมองไปยังแผ่นหลังของจ้านเซินก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาคิดจะทำอะไร

เพราะ…ถ้าเป็นฉินซีเมื่อก่อน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามถ้ายังไม่เกิดขึ้น ฉินซีคนก่อนก็จะทำเหมือนที่ตัวเองทำในตอนนี้ ไม่ขยับเขยื้อน แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

แต่หลังจากที่ฉินซีเห็นการตายของฟางฟางและเหยาหมิ่น เธอก็ไม่ปล่อยให้จ้านเซินเข้าใกล้เธออีกเลย

…เธอได้เลือกตัวเลือกที่ถูกต้องอีกครั้ง

ฉินซีรู้ดีว่า ตอนนี้ราวกับตัวเองกำลังเดินอยู่บนทางน้ำแข็งที่เปราะบาง ถ้าเดินพลาดแม้ก้าวเดียว ก็อาจจะตกลงไปในเหวลึกได้

แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไปต่อคำพูดของจ้านเซินแต่กลับหันไปมองที่ทีวีแทน

จ้านเซินที่หันหลังเธอ ราวกับรู้ว่าเธอกำลังมองดูทีวีอยู่จึงเอ่ยปากขึ้น “ฉันคิดว่า เธออยู่ที่นี่มาสองเดือนครึ่งแล้ว ก็ควรจะรู้ได้รู้ว่าโลกภายนอกเกิดอะไรดีๆขึ้นบ้าง”

ฉินซีเกือบจะพยักหน้าตามสัญชาตญาณ แต่เธอก็ยั้งตัวเองไว้ได้ เพียงแค่พูดออกมานิ่งๆ “ดีขึ้นแล้วล่ะ ไม่มีเรื่องอะไรที่ฉันต้องกังวล”

“หืม?” เมื่อจ้านเซินได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็หันกลับมามองฉินซีด้วยความสนใจ “เธอไม่โอเคอย่างนั้นเหรอ”

ฉินซีนิ่งไปสักพักแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองเขา “แล้วคุณคิดว่ามีเรื่องอะไรที่ฉันต้องโอเคล่ะ”

จ้านเซินไม่ได้พูดอะไรต่อ จู่ๆก็ยิ้มพลางเดินไปที่ข้างทีวีและเอื้อมมือไปกดเปิดเครื่อง

ฉินซีรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

แต่จ้านเซินกลับจางๆ เขาหยิบรีโมทขึ้นมาเปลี่ยนช่องสองสามช่อง จากนั้นก็หันไปพูดกับฉินซี “ในเมื่อเธอไม่อยากดูอะไร งั้นก็มาดูข่าวกับฉันสิ”

สัญชาตญาณของฉินซีบอกว่าจ้านเซินไม่ใช่คนที่จะชวนคนอื่นดูข่าวง่ายๆแบบนี้ แต่ฉินซีไม่มีทางเลือก นอกจากจะเดินไปหาเขาอย่างระมัดระวัง

จ้านเซินได้ท่าที่นั่งสบายแล้วบนโซฟา เมื่อเห็นว่ากำลังฉินซียืนอยู่ก็ไม่ได้บังคับให้เธอมานั่งข้างๆ เพียงแต่เชิดคางขึ้น สื่อความหมายให้ฉินซีดูทีวี

ฉินซีเงยหน้าขึ้น แต่แล้วจู่ๆก็ต้องผงะ

ใบหน้าที่อยู่ในทีวีนั่น…ไม่ใช่ลู่เซิ่น แล้วจะเป็นใคร

ทันใดนั้นหัวใจของฉินซีก็รู้สึกเหมือนถูกบีบด้วยอะไรบางอย่าง ความโศกเศร้าเข้าครอบงำไปทั้งหัวใจ

ฉินซีทำได้เพียงแค่กำหมัดอยู่ในกระเป๋าของเธอ เกรงว่าสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอจะกลับมาหักหลังตัวเธอเอง

ฉินซีไม่ได้เจอลู่เซิ่นมาสองเดือนแล้ว

ไม่ได้นอนกอดกัน ไม่ได้จูบกัน ไม่ได้พบกัน ไม่มีรูปถ่าย ไม่ได้ยินเสียง ไม่มีข่าวคราวใดๆ

แต่เมื่อฉินซีได้เห็นลู่เซิ่น เธอก็เพิ่งค้นพบว่า เธอยังคงใจเต้นอย่างไม่มีวิธีทำให้สงบลงได้

แม้ว่าลู่เซิ่นจะทรยศตัวเอง ฉินซีเองก็เสียใจและผิดหวัง

แต่ว่าความรักของเธอยังคงอยู่ แม้จะผ่านมาเนิ่นนาน ลู่เซิ่นยังคงมีชีวิตอยู่ภายในใจของเธอ

ตอนที่เห็นลู่เซิ่น ฉินซีก็เพิ่งจะรู้ตัวว่า ช่วงเวลาสองเดือนครึ่งนี้ มันไม่สามารถหยุดเธอได้

ฉินซียังคงคิดถึงลู่เซิ่น

ฉินซีใช้เวลาไม่กี่วินาทีก่อนที่จะลบความสนใจจากใบหน้าของลู่เซิ่นบนทีวีได้ เสียงของผู้ประกาศข่าวดังเข้ามาถึงหูของเธอ

“จากการที่ ลู่เซิ่น ผู้นำบริษัทลู่ซื่อกรุ๊ปได้ออกมาแถลงเรื่องการแต่งงานสดๆร้อนๆ ซึ่งการตอบสนองของตลาดทุนต่อข่าวนี้ นั้นค่อนข้างอ่อนไหว หุ้นในวันนั้นพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย ได้มีการคาดเดาเอาไว้มากมายเกี่ยวกับคู่สมรสของเขา เราได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ต่อมามาฟังรายละเอียดข่าว… ”

ฉินซีรู้สึกราวกับมีแสงสีขาวพุ่งผ่านมายังสมองของเธอ มันทำให้ความสามารถในการตอบสนองของเธอหายไปจนหมด

ลู่เซิ่น แต่งงาน

อานุภาพของสองคำนี้เมื่ออยู่รวมกัน มันรุนแรงกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก

เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แม้ว่าเธอจะใช้เล็บจิกแน่นลงบนฝ่ามือ แต่ร่างกายของเธอยังคงสั่นเทาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เธอเพิ่งนึกได้ว่าจ้านเซินที่นั่งอยู่ข้างหลังเธอ อาจจะกำลังเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของตัวเธออยู่

ฉินซีกัดปลายลิ้นของตัวเธอเองอย่างแรง เพื่อทำให้ตัวเองสงบลง

เสียงทีวีดังเข้ามาในหูของเธออีกครั้ง

ผู้ประกาศข่าวยังคงพูดคุยและคาดเดาไปต่างๆนานาเกี่ยวกับคู่สมรสของลู่เซิ่น

“ลู่เซิ่นปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรสของเขา และดูเหมือนว่าเขาจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆออกมาเลย.

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท