Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1294

ตอนที่ 1294

ที่1294 กำหนด

“ เป็นอะไรไป?” ถังย่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำนี้ เธอจึงไม่ได้อ่านรายงานมาก่อน

เมื่อเห็นใบหน้าของฉินซีซีดลง เธอคิดว่าต้องมีบางอย่างที่ร้ายแรงอยู่ในนั้น

แต่ฉินซีทำเพียงแค่บีบกระดาษแน่น ก่อนส่ายหัว “ไม่มีอะไร”

ถังย่าลุกขึ้นนั่งด้วยความอยากรู้อยากเห็น ” รู้ไหมว่าสีหน้าเธอมันแย่มาก?”

ฉินซีเม้มปาก ปิดเอกสารในมือลง และนั่งลงข้างถังย่า

“เธอคิดว่า สิ่งที่เธอทำมาทั้งหมดนี่ มันคือสิ่งที่ถูกต้องไหม?” ฉินซีไม่ได้มองไปที่เธอ แต่มองขึ้นไปบนเพดาน

ถังย่ารู้ว่าฉินซีมีอะไรที่อยากจะพูด แต่เธอก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ แค่ถามกลับไป “เธอจะไปบอกว่าอะไรถูกหรืออะไรผิดได้ยังไงล่ะ?”

ฉินซียิ้มจาง “ใช่ อะไรคือผิดและอะไรคือถูก?”

จากข้อมูลของคนๆนี้ เขาไม่ใช่คนดี ยกเว้นตอนเด็กที่ไปโกงพี่น้องของตัวเอง ภายหลังเรื่องปากท้องก็ไม่ใช่ของแท้แน่นอน

แต่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่หลานสาวของเขาสนิทที่สุด

เขาตายไปแบบนี้ ฉินซีไม่รู้ว่าชีวิตของเด็กผู้หญิงจะเปลี่ยนไปหรือไม่

การทำลายชีวิตของคนอื่นในนามของการผดุงความยุติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงหรือ?

เธอไม่ได้พูดทั้งหมด แต่ถังย่าดูเหมือนว่าจะเข้าใจเธอจากคำถามง่ายๆเช่นนี้

“ฉินซี” เธอยิ้ม “เมื่อไหร่ที่เธอรู้สึกสงสัย เธอจะเจ็บปวด”

ถังย่าพอเข้าใจความรู้สึกของฉินซี แต่เธอไม่มีทางทำได้ด้วยตัวเอง

เพราะตรรกะและความคิดของเธอถูกหลอมรวมโดยองค์กรอย่างสมบูรณ์ ไม่มีวันที่จะสงสัยในตัวองค์กร

“ใช่ มันเจ็บปวดมาก” ฉินซีพึมพำ แต่ไม่นานเธอก็ยิ้มออกมา “แต่ความสงบที่เจ็บปวดนั้นดีกว่าความสุขที่สับสนวุ่นวายไม่ใช่เหรอ”

ถังย่าตกใจกับคำพูดของเธอและไม่ได้ตอบอะไรออกไป

ตอนแรกที่เธอมองไปที่ฉินซี เธอไม่เข้าใจ

ทำไมต้องเป็นเธอ? ทำไมจ้านเซินถึงชอบเธอ? มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเธอ? เธอมีอะไรที่ฉันไม่มี?

แต่เมื่อถึงตอนนี้ เธอก็เข้าใจ

เพราะว่าฉินซีกับพวกเขาไม่เหมือนกัน

จ้านเซินเติบโตขึ้นมาในองค์กรตั้งแต่เขายังเด็ก และคนที่เขารู้จักก็ล้วนเป็นคนภายในเช่นเดียวกับเธอ ทุกคนไม่สงบนิ่ง ไม่แยแสต่อสิ่งใด และมีเป้าหมายเดียวกัน ราวกับเครื่องจักร

เมื่อตอนที่ถังย่าได้ติดต่อกับจ้านเซิน ก็เป็นช่วงที่เขาผ่านการฝึกฝนอย่างละเอียด

แต่ฉินซีเป็นคนธรรมดาคนแรกที่เข้ามา

เธอมีความรักโลภโกรธหลง มีความรู้สึกต่างๆ ถึงตอนนั้นเธอจะเป็นแค่เด็กผู้หญิง แต่เธอก็เหมือนสีสันสดใสที่แต่งแต้มบนจานสีที่มันมีแต่สีดำและขาว

ลู่เซิ่นอาจจะเริ่มให้ความสนใจเธอตั้งแต่นั้นมา และแม้ว่าตัวตนฉินซีจะกลายเป็นเหมือนพวกเขาในองค์กรมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความอยากรู้อยากเห็นที่เขาเคยมีก็ไม่หายไปง่ายๆ ความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นสามารถเปลี่ยนเป็นความรักได้ง่ายดายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้พบเจอฉินซีทุกวัน

ถังย่าหันไปมองฉินซี ใบหน้าของเธอมีความดื้อรั้น ดูไม่ยอมแพ้ ราวกับจะประกาศว่าเธอจะไม่มีวันภักดีกับองค์กรได้

ทันใดถังย่าก็หัวเราะขึ้นมา

จ้านเซินไม่สามารถกำจัดองค์กรได้ และเขาดันตกหลุมรักคนที่ไม่มีวันจะมาเป็นสมาชิกขององค์กร

เรื่องนี้มันคงถูกกำหนดให้เป็นโศกนาฏกรรมตั้งแต่แรก

“เธอหัวเราะอะไร?” ทันใดนั้นฉินซีก็หันกลับมามองรอยยิ้มอันเงียบงันบนใบหน้าของถังย่า

โดยปกติถังย่าจะไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจเธอ เธอเพียงแค่สายหน้ายิ้มจางๆ

ฉินซีไม่ได้ถามต่อ เธอเพียงแค่จมจ่ออยู่กับความคิดของตัวเอง

ก่อนงานแต่งของลู่เซิ่น ถ้ามีเป้าหมายที่จะละทิ้งองค์กรเพียงชั่วครู่ ภายในใจคิดเพียงแต่จะไปเฝ้าดูงานแต่งเขาอย่างราบรื่น

ทว่าตอนนี้ หลังจากที่เป้าหมายเล็กๆนี้ได้รับการแก้ไข เป้าหมายที่เธอพักไว้ชั่วครู่ได้กลับมาอยู่ในความคิดของเธออีกครั้ง เมื่อเห็นผลลัพธ์ของภารกิจสุดท้ายนี้ ความคิดที่จะออกไปจากองค์กรกลับเด่นชัดขึ้น

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เธอเองไม่ได้เลวพอที่จะเป็นคนทำ แต่หนึ่งสิ่งที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้คือ เรื่องนี้เธอเองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง

แค่คิดว่าต่อไปในอนาคต เรื่องทำนองนี้คงเกิดขึ้นได้บ่อย ความคิดที่อยากจะออกไปก็เร็วมากขึ้นเท่านั้น

แต่เรื่องนี้ก็เอาไปพูดกับถังย่าไม่ได้ เธอไม่แน่ใจว่าในองค์กรนี้ใครจะช่วยเธอได้ และใครจะยืนหยัดอยู่กับเธอ และใครจะไม่ทรยศเธอ เธอพึ่งแค่ตัวเอง

“เอาล่ะ สิ่งที่ควรจะให้ฉันก็เอามาให้แล้ว ฉันต้องไปแล้ว อยู่นานเกินไปล่ะ” ถังย่าลุกขึ้น

ความคิดของฉินซีถูกขัดจังหวะโดยถังย่า เงยหน้าขึ้นมองเธอ และในที่สุดก็จำคำถามแรกของเธอได้

“จะว่าไป ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

ถังย่ายิ้มจาง ๆ “เกิดเรื่องบางอย่าง เลยต้องกลับมา ”

ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ นั่งเครื่องกลับพร้อมเธอมันจะสบายกว่าไหม

ต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากสินะ ถึงกลับมาทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมง

ฉินซีเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไม่อยากถามอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ทำได้แค่ผงกหัวเบาๆ ก่อนจะไปส่งเธอที่ประตู

ถังย่าเดินออกไปไม่กี่ก้าว เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูลง จึงหันกลับไปมองอีกครั้ง

เธอไม่ได้โกหก เธอกลับมา … เพื่อต้องได้รับการรักษาจากนักสะกดจิต

ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้จ้านเซิน เธอรู้สึกเหมือนหัวใจมันแทบจะเต้นออกมาข้างนอกทุกที ถ้าหากไม่ระวังตัว คงไม่สามารถกลั้นความรู้สึกที่แท้จริงไว้แค่ในใจได้

แต่ เหตุผลที่ไม่กลับมาพร้อมพวกเขา…

ถังย่าหันหลังกลับ และเดินต่อไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของเธอ

เพราะเธอรู้ดีกว่าใคร ว่าจ้านเซินต้องการใช้เวลากับฉินซีสองต่อสอง

เธอไม่มีวันที่จะขัดขวางแผนการของจ้านเซินทั้งนั้น

เธอคิดพลางเดินไปยังหน้าห้องพักแพทย์

ถังย่ายืนนิ่งสักพัก ก่อนยกมือขึ้นเคาะประตู

หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออกจากด้านใน

ใบหน้าของเหยาจ้าวก็โผล่ออกมา

เขามองไปที่ถังย่าด้วยใบหน้าเรียบเฉย แค่เพยิดคางไปด้านในส่งสัญญาณให้เธอเข้าไป

ถังย่าไม่พูดอะไร เธอแค่พยักหน้าเป็นการทักทาย แล้วเดินหายเข้าไปข้างใน

ประตูปิดตามหลังเธอ

จ้านเซินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา

หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ หลายจอ และแต่ละหน้าจอ เป็นภาพที่มาจากกล้องวงจรปิด แต่จอตรงกลางกลับกลายเป็นมืดสนิท

– จอนี้เคยเป็นของห้องฉินซี

เขารู้สึกลำบากเล็กน้อย และต้องการติดตั้งกล้องในห้องเธอเพื่อดูว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่

แต่คำพูดของถังย่ายังดังก้องอยู่ในหูของเขา

“ฉินซีไม่ชอบถูกเฝ้าดู สิ่งนี้จะทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย คุณอยากให้เธอรู้สึกว่าต้องระมัดระวังกับคุณตลอดเวลาหรือไง?”

คำตอบในใจของจ้านเซินคือไม่แน่นอน

ดังนั้นไม่ว่าเขาจะลังเลใจแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงทำตามคำแนะนำของถังย่า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท