Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1313

ตอนที่ 1313

บทที่ 1313 ผู้ดูแลในเมืองหนาน

ในความทรงจำของฉินซี ตัวเองนั้นเคยมาที่สาขาในเมืองหนาน เพียงแต่หลังจากที่ความจำฟื้นคืนแล้ว ก็ไม่เคยมาที่นี่ด้วยตัวเองอีก

เธอมองสำรวจไปรอบๆ จนแน่ใจว่าไม่มีความแตกต่างไปจากความทรงจำ ถึงได้เดินเข้าไป

ไม่ต้องรอให้เธอผลักประตู ประตูก็ได้เปิดออกเองโดยอัตโนมัติ

ผู้ดูแลในเมืองหนานยืนอยู่ในนั้นส่งยิ้มมาให้เธอ

ฉินซีที่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร แต่ใบหน้ากลับนิ่งสงบ หันไปทางผู้ดูแลแล้วพยักหน้าทักทาย แล้วก็ค่อยๆเดินเข้าไป

ประตูที่อยู่ด้านหลังได้ปิดลง

ฉินซีเดินตามผู้ดูแลเข้าไป ดีที่พวกเขาไม่ได้เดินไปไกลมาก และเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องรับแขก

คนรอบข้างจึงได้เดินออกไป ในห้องรับแขกจึงเหลือเพียงผู้ดูแลกับฉินซีสองคนเท่านั้น

…..การต่อสู้ครั้งนี้ มีอะไรอยากจะพูดไหม

ฉินซีงุนงงในใจ แต่ก็นั่งลงอย่างสงบ

ผู้ดูแลที่อยู่ตรงหน้านี้แซ่หวาง ให้ฉินซีเรียกเขาว่าเหล่าหวาง

“ลูกพี่บอกว่า ครั้งนี้คุณจากมาอย่างรีบร้อน ทำให้ไม่ทันได้กำชับอะไรกับคุณ” เหล่าหวางพลางพูดพลางล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วทำการโทรหาหมายเลขหนึ่ง แล้วหันหน้ามามองฉินซีพร้อมกับอธิบายว่า “แต่ผมรู้สึกว่าให้เขาได้เป็นคนบอกกับคุณเองจะดีที่สุด”

เมื่อคำพูดของเหล่าหวางจบลง คู่สายโทรศัพท์ก็มีการรับสายขึ้น

ใบหน้าของจ้านเซินโผล่ขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์

“ฉินซี” เสียงของเขาดังออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ ยิ่งทำให้เดาไม่ออกถึงอารมณ์ของเขา แต่ว่าลักษณะการพูดการจายังคงพูดตรงไปตรงมาเหมือนอย่างเคย “คุณไม่ต้องรีบร้อนกลับมานะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณรับตำแหน่งแทนเหล่าหวาง เป็นผู้ดูแลในเขตเมืองหนาน”

ฉินซีตกใจ

จ้านเซินกำลังพูดอะไรอยู่

ผู้ดูแล…..เมืองหนานเหรอ

อาจเป็นเพราะเห็นอาการตกใจของฉินซี จ้านเซินจึงยิ้มขึ้นเบาๆแล้วพูดต่อว่า : “เดิมทีผมอยากจะบอกกับคุณก่อนที่คุณจะไป แต่ว่าวันนั้นคุณจากไปอย่างรีบร้อน ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสบอก ข่าวนี้สำหรับคุณอาจจะกะทันหันเล็กน้อย แต่ผมเชื่อว่าคุณสามารถทำได้และทำได้ดี”

ฉินซีไม่ได้ตอบตกลงในทันที ในหัวสมองของเธอมีเรื่องมากมายแวบเข้ามา จึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

จากองค์กรใหญ่มาเป็นผู้ดูแลเมืองหนาน สำหรับระดับของฉินซีที่อยู่ภายในองค์กรแล้ว ก็ไม่ถือเป็นเรื่องที่แปลก ภายในองค์กรที่มีคนอยู่ในระดับเดียวกันกับเธอ มีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกับถังย่า ก็ไปเป็นผู้ดูแลในเขตอื่นอยู่ชั่วคราวก่อน หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์แล้ว ก็สามารถกลับมาที่สาขาเพื่อไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น

แต่ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวของฉินซี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก

ฉินซีอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหลายปี ทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของจ้านเซิน จะทำภารกิจอันใด ติดต่อผู้คนในองค์กร สามารถพูดได้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับภายใต้การควบคุมของเขาทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นเมื่อมาถึงระดับนี้แล้ว ฉินซียังคงเป็นหน่วยข่าวกรองที่ไร้เดียงสาคนหนึ่ง

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์หลังกลับไปที่องค์กรอีกครั้ง จ้านเซินแทบจะคอยจับตาดูเธอตลอดเวลา ควบคุมการเคลื่อนไหวข้อมูลทั้งหมดที่เธอมี

และการเป็นผู้ดูแลสำหรับฉินซี ก็เหมือนกับการถูกไขกุญแจมือ แล้วถูกปล่อยออกมาจากเรือนจำ

เมืองหนานถือว่าอยู่ไม่ไกลจากสาขา แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น ยิ่งไปกว่านั้นการเป็นผู้ดูแล ฉินซีจะสามารถมีอิสระมากขึ้น จ้านเซินก็ไม่สามารถกระทำต่อเธอเหมือนดังแต่ก่อน ที่คอยแทรกแซงทุกเรื่องได้อีก

เมื่อก่อนฉินซีรู้สึกมาโดยตลอดว่าตัวเองเหมือนเป็นปลาทองที่ถูกจ้านเซินเลี้ยงไว้ในตู้ปลา ที่ดูโปร่งใสทั้งสี่ด้าน ไม่ว่าตัวเองจะทำอะไรก็จะสังเกตเห็นได้ตลอดเวลา

แต่เวลานี้ ปลาทองตัวนี้ได้รับแจ้งว่า เธอได้ถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติแล้ว

เรื่องแบบนี้…..เป็นเรื่องที่เป็นได้หรือ

หรือว่าเบื้องหลังนี้มีแผนการซุกซ่อนอยู่

ความไม่เชื่อใจที่ฉินซีมีต่อจ้านเซินได้ถูกฝังรากลงลึกไปแล้ว ดังนั้นปฏิกิริยาแรกกลับไม่ใช่ความดีใจ แต่เป็นความสงสัย

แต่แน่นอนว่าเธอไม่สามารถพูดความสงสัยนี้ออกมาได้ จึงครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วพูดขึ้น: “เป็นเรื่องที่กะทันหันจริงๆ ฉัน…..ไม่เคยสัมผัสเจอกับเรื่องแบบนี้มาก่อน มันไม่ง่ายเหมือนกับการทำภารกิจ ฉันอาจจะทำได้ไม่ดี”

น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการปฏิเสธ แต่จ้านเซินกลับยิ้ม : “ไม่ต้องห่วงเหล่าหวางจะคอยอยู่ช่วยคุณจนกว่าคุณจะปรับตัวได้ในที่สุด”

ฉินซีหันไปมองเหล่าหวางที่ยืนอยู่ข้างๆตามคำพูดของเขา เขายิ้มให้พร้อมพยักหน้า

ก็ยิ่งทวีความสงสัยที่อยู่ภายในใจของฉินซี เดิมทีเธอคิดว่า ถ้าหากเธอได้เป็นผู้ดูแลแล้ว อย่างนั้นเหล่าหวางคนนี้ ก็คงเหมือนเช่นแต่ก่อน ที่ควรรับตำแหน่งใหม่ถึงจะถูก

แต่เท่าที่ฟังจากความหมายของจ้านเซินคือ ดูเหมือนว่าตำแหน่งของเขาถูกลดระดับลงไปหนึ่งขั้น ลดมาเป็น…..ผู้ช่วยของตัวเองเหรอ

แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเหล่าหวางยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา ฉินซีจึงเดาว่า จ้านเซินคงใช้สิ่งอื่นเพื่อใช้เป็นการแลกเปลี่ยน

ดูแล้ว จ้านเซินคงจะวางแผนการไว้ทุกอย่างแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีความคิดที่อยากให้ฉินซีมาเมืองหนาน และที่พูดเรื่องนี้กับเธอ ก็เป็นการบอกกล่าวให้ทราบ ไม่ใช่เป็นการขอความคิดเห็นจากเธอ

ฉินซีรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถปฏิเสธได้

ถึงแม้ยังไม่รู้เจตนาของจ้านเซินคืออะไร แต่เธอทำได้เพียงแค่หน้า : “อย่างนั้น…..ฉันจะพยายาม”

มีรอยยิ้มที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฏอยู่บนใบหน้าของจ้านเซิน เขาพยักหน้าแล้วก็ปิดวิดีโอสนทนาลง

ฉินซีมองดูหน้าจอโทรศัพท์ที่ดับลง แล้วก็เหม่อลอย

ไม่ว่าจ้านเซินตัดสินใจแบบนี้จะมีแผนการอะไรในเบื้องหลัง แต่ว่าอย่างน้อยๆตอนนี้ เธอรู้สึกว่าเพียงว่าเหมือนตัวเองได้รับขนมเปี๊ยะที่ประทานมาจากฟ้าหล่นลงมาใส่หัวตัวเอง

เธอได้รับอิสรภาพที่ช่วงนี้เธอใฝ่ฝันมาตลอดเวลา

แม้ว่าเหล่าหวางที่อยู่ข้างๆคนนี้ที่เห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่จ้านเซินส่งมาเพื่อสอดส่องเธอ แม้ว่าอิสรภาพของเธอยังคงมีความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง แต่แค่นี้ฉินซีก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากแล้ว

“ฉินซี” เสียงเรียกของเหล่าหวางได้ดึงความสนใจของเธอ “ผมจะพาคุณไปคุ้นเคยกับสถานที่นี้ก่อน แล้วค่อยพาไปดูสถานที่พักอาศัยของคุณ หากคุณมีสิ่งของที่ต้องการนำมา สามารถลิสต์เป็นรายการ เมื่อมีคนออกจากสาขา ก็จะช่วยขนไปให้คุณ”

ฉินซีพยักหน้ารับ

ความจริงแล้วสิ่งของที่เหลืออยู่ในสาขา ก็ไม่มีอะไรที่อยากจะนำมาด้วย มีเพียงแต่กล้องถ่ายรูปที่เธอนั้นคิดถึงมาก แต่เธอรู้ดีว่าต่อให้นำมาด้วย ก็คงไม่น่าจะได้ใช้

ทั้งคู่ได้เดินไปวนดูสาขารอบๆ

องค์กรสาขาเมืองหนานอยู่ในบ้านสไตล์ตะวันตกหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ในเมืองที่คึกคัก แต่สภาพแวดล้อมกลับเงียบสงบ ราคาคงน่าจะไม่เบา

บ้านมีหลังขนาดใหญ่มาก นอกจากห้องประชุมและพื้นที่ห้องสำนักงานแล้ว ยังมีอีกสองชั้นที่ทำเป็นห้องๆ ชั้นบนสุดที่ออกแบบเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้ดูแล

เพียงแต่เหล่าหวางที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มีครอบครัวลูกเด็กเล็กแดง จึงไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ฉินซีที่ไม่มีที่จะไป จึงได้ถูกจัดให้พักอาศัยอยู่ที่นี่

“น่าจะประมาณนี้” เหล่าหวางได้พาเดินวนครบรอบ จึงได้หยุดชะงักเท้าขึ้น แล้วก็ยื่นกุญแจที่อยู่ในมือให้กับฉินซี “หากยังต้องการสิ่งใด ให้ติดต่อผมได้เลย”

เมื่อเห็นฉินซีรับกุญแจไปแล้ว เขาก็ยิ้มให้แล้วหันหลังเดินออกไปจากห้อง

ฉินซียืนอยู่ที่เดิม แล้วมองไปรอบๆ เหมือนกับว่าตัวเองนั้นกำลังฝันไป

อีกทั้งยังเป็นฝันที่ดีด้วย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท