Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1322

ตอนที่ 1322

บทที่ 1322 เปิดโปง

ที่นี่แค่ชั้นสองเท่านั้น ชายคากว้างพอรองรับฝ่าเท้าของฉินซี ความยากเมื่อเทียบกับการฝึกฝนขององค์กร สำหรับฉินซีแล้ว ไม่ต่างจากเดินบนพื้นราบทั่วไป

เธอเดินไปข้างหน้าสีหน้าเรียบเฉย เงียบกริบไร้เสียง เมื่อถึงหน้าขอบหน้าต่างของแต่ละห้อง ก็ย่อตัวลงอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ข้างในห้องมองเห็นเธอ

เดินผ่านไปสามห้องติดกันแล้ว ก็ยังไม่เห็นคนที่ตัวเองต้องการหา

ฉินซีมองเห็นข้างหน้าเหลือเพียงสองห้องเท่านั้น เม้มปาก แล้วเดินต่อไป เมื่อถึงหน้าขอบหน้าต่างก็ก้มตัวลงอีกครั้ง เห็นเพียงตาคู่หนึ่งเท่านั้น มองเข้าไปในห้องส่วนตัว

แต่ครั้งนี้ เธอหาคนที่ต้องการเจอในที่สุด

ในห้องเป็นบรรยากาศใกล้กินข้าวเสร็จแล้วจริงๆ อาหารบนโต๊ะเหลือไม่มากนัก

แต่ความสนใจของฉินซีถูกคนทั้งสองดึงดูด

ในห้องมีแค่สองคนเท่านั้น มุมที่พวกเขานั่งหันข้างให้ทางที่ฉินซียืนอยู่ ฉินซีจึงมองเห็นเพียงแค่ใบหน้าด้านข้างของทั้งสองคน

คนหนึ่งคือเวินจิ้ง อีกคนหนึ่ง…เป็นผู้ชาย

ในมุมของฉินซี เห็นหน้าด้านข้างของเขาเพียงเสี้ยวเดียว โดยเฉพาะตอนที่ชายหนุ่มหันไปพูดคุยกับเวินจิ้ง เธอเห็นเพียงท้ายทอยด้านหลังเท่านั้น เธอจึงดูไม่ออกเลยว่าเขาคือใคร

แต่ถึงแม้จะมองไม่เห็นหน้า แต่ปฏิสัมพันธ์ของคนทั้งสองในห้องชัดเจนมาก

เวินจิ้งกินข้าวเสร็จแล้ว วางตะเกียบหยิบกระดาษมาเช็ดปาก ดูเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรเลย หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งให้ผู้ชายคนนั้น

เพียงแค่ท่าทางธรรมดาๆ ฉินซีกลับได้กลิ่นผิดปกติ

ถ้าเป็นคนสองคนที่ความสัมพันธ์ธรรมดา หรือไม่สนิทสนมกัน ก่อนหยิบกระดาษให้คงจะต้องถามก่อน หรืออย่างน้อยก็ส่งสายตา สอบถามอีกฝ่ายว่าต้องการไหม

แต่เวินจิ้งไม่ทำอย่างนั้น

ดูเหมือนเธอจะแน่ใจว่าชายหนุ่มต้องการกระดาษเช่นกัน ดึงกระดาษออกมาอย่างคล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติส่งให้ เกือบจะช่วยเขาเช็ดปาก

ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็รับมาอย่างไม่เก้อเขิน หันไปมองเวินจิ้งยิ้มให้เธอบางๆ บรรยากาศทั้งห้องคลุมเครืออย่างบอกไม่ถูก

ชายหนุ่ม ออกมากินข้าวสองต่อสอง บรรยากาศน่าสงสัย ความสัมพันธ์ใกล้ชิด ท่าทางคุ้นเคยกัน

ในใจฉินซีแทบจะแน่ใจแล้ว ผู้ชายคนนี้ ต้องเป็นสามีเวินจิ้งที่ถูกตั้งใจปิดบังข้อมูล

เขาคือใครกันแน่

ฉินซีอยากจะยื่นหน้าขึ้นไปอีก มองหน้าคนนั้นให้ชัด นึกไม่ถึงจะมีแมลงเล็กๆ บินมาตอมหน้าของฉินซี

เธอก้มหน้านิดหนึ่ง หวังจะหลบแมลง ปลายผมยาวถูกเปลือกนอกเครื่องปรับอากาศเบาๆ

ความเคลื่อนไหวนี้เบาสุดๆ แทบไม่น่าจะได้ยิน แต่ชายหนุ่มคนนั้นในห้องส่วนตัวเหมือนจะได้รับสัญญาณเตือน ทันใดนั้นดึงตัวเวินจิ้ง ผลักไปบนโซฟา ปกป้องเธอข้างหลังเขา

“ออกมา”

เสียงของเขาเย็นชา พูดกับขอบหน้าต่างโดยตรง

ฉินซีรู้ดี เขาเรียกเธอนั่นเอง

ตอนแรกเธอคิดไว้ จะสังเกตทั้งสองคนที่นี่ ถ้าเห็นว่าเวินจิ้งคิดเงินเมื่อไร ก็จะรีบออกจากห้องของตัวเอง ทำทีบังเอิญเจอกับเวินจิ้งที่ระเบียง

นึกไม่ถึงว่าสัญชาตญาณระแวดระวังของผู้ชายคนนี้จะแรงขนาดนี้ แม้แต่เสียงเบาเหมือนแมวเดินยังได้ยิน

ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว หลบต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ฉินซีจึงยืนขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย มือหนึ่งจับขอบหน้าต่าง กระโดดข้ามหน้าต่างเข้าไปในห้อง

เพราะอย่างนี้ ในที่สุดเธอก็เห็นหน้าสามีของเวินจิ้งชัดๆ แล้ว

เมื่อมองอย่างเป็นกลาง เขาหน้าตาคมคาย ฉินซีเพียงแค่กวาดตามองครั้งเดียว เมื่อมองจากเสื้อผ้า นาฬิกาและออร่ารอบตัว ต้องเป็นคนมีอำนาจแน่

เขารูปร่างสูงใหญ่ เวินจิ้งถูกเขาบังอยู่ข้างหลัง ถ้าไม่ใช่เพราะเวินจิ้งยื่นหน้าออกมาดู ก็คงจะได้รับการปกป้องจนมองไม่เห็นอะไรเลย

ต้องทำอย่างไรถึงจะถามออกไปได้

ฉินซีคิดในหัวอย่างรวดเร็ว

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่คนที่จะผูกมิตรได้ง่ายๆ ฉินซีไม่คิดว่าจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรจากเขา

ส่วนเวินจิ้ง…

เธอเคยเจอเวินจิ้งแค่สองสามครั้ง ไม่รู้ว่าเธออารมณ์เป็นยังไงกันแน่ แต่ปกติคนทั่วไป ถ้าถูกเข้าใจผิด ปฏิกิริยาแรกก็ต้องอธิบายแน่นอน

ในสถานการณ์อย่างนี้ ความเป็นไปได้ที่จะตะแบงแต่งเรื่องโกหกมีน้อยลง

ในเมื่อเธอปรากฏตัวในสถานการณ์ที่ไม่น่ายินดี อย่างนั้นแสดงเป็นนางร้ายดีกว่า

ตัดสินใจแล้ว ฉินซีก็ปรับอารมณ์ทางสีหน้า เดินผ่านชายหนุ่มที่ยืนปกป้องเวินจิ้ง พูดจาเสียดสีเสียงเย็นกับเธอ “คุณกล้าสวมเขาให้ลู่เซิ่นจริงๆ ด้วย”

เธอตั้งใจพูดจายั่วยุอยู่แล้ว เมื่อพูดประโยคนั้นจบ ก็จ้องมองเวินจิ้งเขม็ง

“ฉินซี” เวินจิ้งประหลาดใจมาก เบิกตาโต

“ฉันเอง” ฉินซีตั้งใจยิ้มเย็นชา สายตาไม่เป็นมิตร “คุณนายลู่”

มีแต่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ตอนที่พูดสามคำสุดท้ายนั้น น้ำเสียงของเธอแฝงความไม่พอใจจริงๆ

อย่างที่คิดไว้ น้ำเสียงที่เธอตั้งใจพูดจาเสียดแทง เวินจิ้งหดตัวในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนนั้นโดยอัตโนมัติ

นี่เป็นท่าทางขอการปกป้อง

ตอนที่ตัวเองถูก “โจมตี” เธอจะมองหาการปกป้องจากชายหนุ่มคนนี้โดยสัญชาตญาณ

ฉินซีจำรายละเอียดนี้ในใจ มองปฏิสัมพันธ์ระหว่างเวินจิ้งกับผู้ชายคนนั้น

ผู้ชายคนนั้นแสดงท่าทางระวังตัวเต็มที่ต่อการปรากฏตัวของเธอ ขณะที่กระซิบกับเวินจิ้ง เพื่อยืนยันสถานะของเธอ สายตาก็พิจารณาเธออยู่ตลอด

แต่ฉินซีนิ่งกว่าเขามาก มองสายตาของเขาอย่างไม่ครั่นคร้าม กระทั่งยังยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางของพวกเขาสองคน

กระทั่งสายตาของเขามาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเธออีกครั้ง ฉินซีถึงพูดขึ้นอีกครั้ง “คุณนายลู่ไม่ระวังตัวเลยนะคะ คบชู้เปิดเผยขนาดนี้”

ครั้งนี้…เธอตั้งใจทดสอบทัศนคติของเวินจิ้ง

เธอเคยเจอกับเวินจิ้งไม่กี่ครั้ง ไม่ง่ายที่จะมีโอกาสอย่างนี้ เธออยากจะฉวยโอกาสทดสอบผู้หญิงคนนี้เสียหน่อย

เกินกว่าที่คาดไว้ เวินจิ้งเจอเข้ากับคำพูดอย่างนี้ แต่เธอกลับดูเหมือนจะนิ่งมาก เผชิญหน้ากับคำถามอย่างนี้ เพียงแต่ตอบกลับเรียบๆ

“ฉันคบกับใครเกี่ยวอะไรกับเธอหรือไง”

ฉินซีเลิกคิ้วนิดๆ กำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเสียงของผู้ชายคนนั้นก็ดังขึ้น

“คุณนายลู่ ตอนนี้คุณกำลังทำลายชื่อเสียงใครงั้นหรือ”

ฉินซีชะงัก สายตาเปลี่ยนเป็นครุ่นคิดมากขึ้น

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า……ดูเหมือนไม่รู้ความจริงที่เวินจิ้งแต่งงานกับลู่เซิ่นหลอกๆ ฟังจากน้ำเสียงรวดร้าวของเขา ฉินซีดูออกว่าเขายังคงใส่ใจเวินจิ้ง

……ไม่นึกว่าการมาครั้งนี้ จะได้ผลมากกว่าที่คิด

ผู้ชายคนนี้ สถานะคงจะเป็นสามีของเวินจิ้งแน่ ไม่รู้ว่าเวินจิ้งไม่ได้แต่งงานกับลู่เซิ่นจริงๆ แต่ยังคงแคร์เวินจิ้งมาก

ความใส่ใจนี้ พูดอีกอย่างหนึ่ง ก็คือรักนั่นเอง

อย่างนี้แล้วยังรักเธอ รักอย่างลุ่มหลง

ฉินซีทีแรกคิดว่าคงจะไม่ได้ข้อมูลอะไรจากผู้ชายคนนี้ แต่ทันใดนั้นก็เปลี่ยนความคิด

ชัดเจน เมื่อเทียบเขากับเวินจิ้ง อารมณ์ของเขาไม่นิ่งเท่าไม่แน่…อาจจะถามอะไรได้มากกว่า

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท