Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1355

ตอนที่ 1355

บทที่ 1355 กลับตาลปัตร

ลู่เซิ่นมองไปยังจุดสีแดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความประหลาดใจ และรอยยิ้มเล็กๆได้ปรากฏบนใบหน้าอันหล่อเหลา

ตำแหน่งของจุดสีแดงอันนี้ มันคือตำแหน่งห้องผู้ป่วยของฉินซี

หลังจากนั้น ลู่เซิ่นได้เคาะลงบนแป้นพิมพ์สองครั้ง และแบบก่อสร้างทั้งหมดก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

ลู่เซิ่นมองจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าที่จริงจัง และศึกษาเส้นทางเข้าออกของห้องผู้ป่วยอย่างรอบคอบ

ฉินซีที่ซึ่งอยู่ห่างไกลในโรงพยาบาลไม่รู้ว่า ลู่เซิ่นได้ทำหลายอย่างอย่างลับๆเพื่อที่จะได้พบเธอ

แต่ว่า ฉินซีเองกำลังพยายามเพื่อหาหนทางหนีออกมาให้เร็วที่สุด

เธอมองไปยังจ้านเซิน จู่ๆก็พูดขึ้น“จ้านเซิน นายยังจำตอนที่พวกเรายังเป็นเด็กได้ไหม มีครั้งหนึ่งที่ฉันป่วย และอยากกินซุปกระดูกหมูมากๆ แต่ว่าพ่อครัวในบริษัทลากิจกะทันหันเพราะมีธุระที่บ้าน จากนั้นฉันก็ร้องไห้ตลอด ช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ นายปลอบยังไงก็ไม่หายสักที”

ขณะที่ฉินซีกำลังพูด สีหน้าของเธอก็พลันนึกย้อนไปถึง

แต่ที่จริงแล้ว ในใจลึกๆของเธอยังคงจำจ้านเซินได้ดี

ในตอนนั้นพวกเขามีความสุขมาก และไม่ต้องมาเผชิญกับความจริงที่โหดร้ายในภายหลัง

ถึงแม้ว่าภายในองค์กรจะไร้มนุษยธรรมมาก การเรียนที่ทั้งหนักทั้งเหนื่อย ซึ่งเธอมักถูกลงโทษเป็นประจำ แต่ว่าจ้านเซินก็ยังอยู่เคียงข้างเธอ

มันเป็นเพียงแค่การคงอยู่ ไม่รู้ว่ามันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเมื่อไหร่

ฉินซีที่กำลังนึกย้อน พูดต่อ “ในตอนนั้นฉันเถียงว่าฉันกินอะไรไม่ได้ ฉันเลยไม่ไปเรียนและไม่อยากมีชีวิตอยู่ จากนั้นครูสอนการเอาชีวิตรอดของพวกเรา ก็มายืนสอนที่ด้านข้างของฉัน ยังใช้มือตีฉันอีก จู่ๆนายก็ปรากฏตัว จากนั้นก็ปลอบฉัน ไม่ให้ฉันร้องไห้ และหลังจากนั้น แล้วก็เปลี่ยนมาใช้ลูกไม้เดิม โดยการเอาซุปกระดูกหมูมาให้ฉัน”

ใบหน้าบอบบางได้ปรากฏรอยยิ้มเล็กๆและลักยิ้มทั้งสองออกมา

ฉินซีในตอนนี้ ไม่มีความรู้สึกที่จอมปลอมแบบนั้นแล้ว ดังนั้นจ้านเซินจึงรู้สึกว่ามันคือความจริง

เมื่อพูดถึงอดีต นัยต์ตาของจ้านเซินก็เกิดความหวั่นไหว

เขานั้นจำเรื่องราวที่ฉินซีพูดมาได้ทั้งหมด ในตอนนั้นเขาโตกว่าฉินซีสองปี แต่หลังจากการเผชิญหน้ากันบนภูเขาครั้งนั้น ทั้งสองก็ไม่สามารถแยกออกจากกันได้

ฉินซีไม่ได้เถียงกับใครเพราะสิ่งที่คนอื่นพูดเกี่ยวกับอัมพาตที่ใบหน้าของเขา

ในความเป็นจริงแล้ว จ้านเซินไม่ได้สนใจในสิ่งที่คนอื่นพูดเลย

ในสายตาของเขา ผู้คนเหล่านั้นก็เป็นเพียงแค่มดปลวกที่อ่อนแอ ไม่มีพิษภัยใดๆ เขาสามารถเอาชีวิตของพวกเขาได้ทุกเมื่อ ตราบเท่าที่เขาต้องการ

แค่เพียงฉินซีไม่รู้ เธอยังรู้สึกอย่างใสซื่อว่าเขายังคงเป็นคนดีมากๆคนหนึ่งอยู่

ริมฝีปากของจ้านเซินเปิดออก“ฉันจำได้”

ซุปกระดูกหมูถ้วยนั้น ฉันเป็นคนทำเอง

สำหรับซุปกระดูกหมูถ้วยนั้น ไม่รู้ว่าจ้านเซินใช้เวลาในการทำเท่าไร แต่สุดสุดท้ายก็ออกมาสำเร็จ

ตอนนั้นยังโดนน้ำร้อนลวก และเกิดเป็นแผลเป็นที่ลบไม่ออกบนแขนมาจนถึงปัจจุบัน

ฉินซีไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้ในตอนแรก จนกระทั่งในภายหลัง บางครั้งก็ได้ยินคนในองค์กรพูดขึ้นมา และจึงรู้ว่าจ้านเซินนั้นดีกับเธอมากตั้งแต่ไหนแต่ไรมา

เรื่องนี้จึงทำให้ฉินซียิ่งใกล้ชิดกับจ้านเซินมากขึ้น

ฉินซียิ้มมุมปาก “นั้นเป็นซุปกระดูกหมูที่ดีที่สุดที่ฉันได้กินในรอบยี่สิบปีเลย จ้านเซิน ขอบคุณนะ ที่คอยดูแลฉันตอนที่อยู่ในองค์กรมาหลายปี”

คำขอบคุณของเธอ เป็นคำขอบคุณที่ออกมาจากใจจริง

นอกจากนี้ก็ยังหมายถึงคำลา

จ้านเซินที่กำลังฟังรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “ผมบอกแล้ว ระหว่างเธอกับฉัน ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้”

ตอนนี้เขาหวังอย่างยิ่งว่า ฉินซีจะเป็นคนที่ขี้แยและเป็นคนที่เขาใกล้ชิดเหมือนกับตอนในวัยเยาว์

แต่ทว่า เวลาไม่อาจย้อนกลับ

ฉินซีไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่อายุสิบสาม สิบสี่คนนั้นที่ไม่เข้าใจเรื่องราวใดๆเหมือนแต่ก่อนแล้ว

และจ้านเซินก็เติบโตกลายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมในองค์กร ยิ่งสูงขึ้นไป ยิ่งไร้ความปราณี และทำการทดลองที่โหดร้ายต่อไป

“โอเค หลังจากฉันจะไม่พูดแล้ว”

ฉินซีพยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง และทำตามคำพูดของเขา

ฉินซีในตอนนี้ ไม่สามารถทำให้จ้านเซินไม่พอใจ

จ้านเซินชอบบรรยากาศที่กลมกลืนในตอนนี้ ฉินซีสามารถสงบสติลง และพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน ไม่บ่ายเบี่ยงเขาอีกต่อไป เขาดีใจมาก

เขาเหลือบมองไปที่ถ้วยของฉินซี “กินน้ำซุปก่อน เดี๋ยวซุปจะเย็นแล้ว”

จ้านเซินบอกให้เธอรีบกิน แล้วฉินซีก็หยิบถ้วยขึ้นมา และกินคำโตๆ

โจวซิงที่ยืนอยู่ข้างๆ มองไปทางทั้งสองที่อยู่ด้วยกัน

แม้ว่าตอนนี้ฉินซีจะดูโอเค และสงบมาก แต่ว่า โจวซิง กลับรู้สึกว่าฉินซีในตอนนี้ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ และรู้สึกอึดอัดมาก

ฉินซีในตอนนี้ เหมือนเป็นหุ่นยนต์สมบูรณ์แบบถูกสร้างขึ้นมาโดยจ้านเซิน

เธอมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม และยังเชื่อฟังคำสั่ง ราวกับเป็นตุ๊กตาเซรามิคที่บอบบาง และนั่งอยู่ตรงนั้น เจ้านายสั่งให้เธอทำอะไร เธอก็ทำตาม

เธอไม่เคยขัดขืน และทำตามเพียงคำสั่งของเจ้านายเท่านั้น ไม่มีความคิดของตัวเอง ไม่มีจิตวิญญาณ และว่างเปล่า ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจ

หลังจากที่ฉินซีได้กินซุปคำสุดท้ายแล้ว เธอก็คืนปิ่นโตกลับมาให้จ้านเซิน “กินหมดแล้ว”

เธอยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ แต่กลับไม่มีความสุขเลยสักนิดเดียว

“เธอต้องพักผ่อนเยอะๆนะ ผมจะออกไปคุยธุระกับหมอโจวสักหน่อย”

จ้านเซินมองไปยังถ้วยซุปกระดูกหมูที่กินจนหมดเกลี้ยง และพยักหน้าด้วยความเต็มใจ

เขาอธิบายให้ฉินซีสองประโยค ฉินซีเองก็…ตอบกลับแล้ว “โอเค นายไปเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”

เมื่อเธอได้ยินว่าจ้านเซินกำลังจะไป ในใจของเธอก็มีความสุขขึ้นมา

ฉินซีแทบอยากจะไม่อยากให้เขากลับมาอีกตลอดกาล หลังจากที่เขากลับไป

“อืม”

จ้านเซินมองไปยังโจวซิงยืนอยู่ข้างๆ “หมอโจว รบกวนคุณมากับผมสักครู่”

เขาพลางพูดไปพลางเดินไปที่ประตู

แม้ว่าจ้านเซินจะพูดจาดูสุภาพอย่างมาก แต่การกระทำที่แท้จริงแล้ว คือไม่ให้โจวซิงมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธได้

เขาเป็นคนที่อำนาจมากคนหนึ่ง และฉินซีก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ

ฉินซีมองไปยัง โจวซิง ด้วยความกังวล และไม่รู้ว่าจ้านเซินจะทำอะไร เรื่องนี้ทำให้เกิดความกระสับกระส่ายภายในใจของเธอ

โจวซิง รับรู้ถึงความกังวลภายในใจของฉินซี และส่งสายตาให้เธอ แล้วปลอบใจเธอว่าไม่ต้องกังวลถึงคำพูดเก่าๆ จากนั้นก็เดินตามหลังจ้านเซินออกไปจากห้องผู้ป่วยทั้งสอนเดินตีคู่กันมา ไม่มีใครพูดอะไร และเดินตรงไปจนสุดทางเดิน

เมื่อเห็นว่าไม่มีทางข้างหน้าแล้ว ความอดทนที่อยู่ภายในใจของโจวซิง ก็ได้หมดลง เขาอดไม่ได้และเป็นที่ผู้ก่อนว่า “คุณจ้าน ถ้าคุณยังมีเรื่องที่ไม่อยากให้คุณฉินได้ยิน เดินไปที่นี่ ก็ได้นะ ”

แม้ว่า โจวซิง ไม่รู้ว่าจ้านเซินจะพูดอะไร แต่สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่า จะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฉินซีแน่นอน

เป็นอย่างที่คิดไว้ จ้านเซินพูดเรื่องของฉินซี

คุณหมอโจวคุณรู้สึกว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับการแสดงออกของฉินซีเมื่อกี้หรือเปล่า ”

แม้ว่าเมื่อกี๊ฉินซีจะแสดงได้ดีมาก แต่ว่าจ้านเซินรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ

เพราแท้ที่จริงแล้วฉินซีเป็นคนที่ใสซื่อมาก ความใสซื่อมากเกินไป ทำให้จ้านเซินไม่อยากเชื่อว่านี้มันคือความจริง

ในความเป็นจริง โจวซิงยังรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของฉินซี ในตอนนี้นั้นใหญ่เกินไปและเขาก็รีบร้อนเกินไปซึ่งทำให้จ้านเซินไม่เชื่อในความตั้งใจของเธออย่างง่ายดาย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท