Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1426

ตอนที่ 1426

บทที่1426 โกรธ

ฉินซีมีความนับถือตัวเองอย่างมาก เธอไม่อยากให้เหยาจ้าวมองเป็นเรื่องตลก

ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่มีความประหม่าสูง ฉินซีเลยไม่ได้สังเกตเห็นเหยาจ้าวที่กำลังแอบขำตนอยู่

เห็นการเคลื่อนไหวของเหยาจ้าวเชื่องช้าแบบนี้ มือยังคงสั่นอยู่ ในที่สุดฉินซีก็ทนไม่ไหว

“เอามา!”

ฉินซีลุกขึ้น เดินไปด้านหน้าของเหยาจ้าว เอื้อมมือไปคว้ายาน้ำในมือเขา

เดิมทีเธอคิดที่จะเงยหน้าดื่มมันลงไปทันที ให้เหยาจ้าวเห็นว่าตนแข็งแกร่งแค่ไหน

แต่ว่า ในตอนที่ฉินซีหยิบยาน้ำขวดนั้นมาได้ กลับขยับไม่ได้แล้ว

มือทั้งคู่ของเธอราวกับเป็นอัมพาต ยืนตัวแข็งอยู่กับที่

ฉินซีอยากที่จะเปิดออก แต่ว่า เธอไม่มีความกล้า

เหยาจ้าวมองดูท่าทางอวดเก่งของเธอ ขำจนเจ็บท้อง

เขาปิดปากไว้ “อะแฮ่ม….”

เหยาจ้าวส่งเสียงกระแอมเบาๆ กลั้นรอยยิ้มข้างในใจไว้ ค่อยๆเอ่ยปาก “เป็นอะไร? ไม่กล้าดื่มแล้วหรอ?”

เขาจงใจใช้คำพูดกระตุ้นฉินซี อยากให้ฉินซีติดกับ

ฉินซีภายใต้สถานการณ์แบบนี้อับอายเป็นที่สุด “เหยาจ้าว ฉันจะบอกนายให้นะ นายอยู่ตรงนั้นพูดกระซิบกระซาบให้มันน้อยๆหน่อย ใครบอกฉันไม่กล้าดื่มแล้ว ฉันก็แค่รอแค่นั้นเอง”

ฉินซีมุ่ยปากพูด จ้องเขม็งไปที่เหยาจ้าวอย่างดุร้าย

เหยาจ้าวกลั้นขำอย่างยากลำบาก เขาแอบบีบต้นขาตัวเองในจุดที่ฉินซีมองไม่เห็น “ฮิฮิ ในเมื่อเธอไม่กลัว งั้นรออะไรอยู่? รอจนสุดท้ายก็ยังต้องดื่มอยู่ดี รีบตัดสินใจซะดีกว่า”

ในน้ำเสียงของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อย น้ำตาปรากฏขึ้นจากมุมตาของเขา

“พูดพล่อยให้มันน้อยหน่อย! ถ้ายังพูดอีกฉันจะกรอกยาน้ำขวดนี้ลงท้องนาย ให้นายดื่มกับฉัน”

ฉินซีค้นพบความผิดแปลกของเขาได้อย่างว่องไว เมื่อเห็นว่าเขากล้าหัวเราะเยาะตน ก็โมโหขึ้นมาทันที

เธอยกแขนขึ้นสูง เขย่ายาน้ำในมืออย่างข่มขู่

ถึงอย่างไรยาน้ำขวดนี้ก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ดื่มเข้าไปก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร แล้วยังทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย คนที่ทั้งวันเอาแต่ศึกษายา ไม่ออกกำลังอย่างเหยาจ้าว ยิ่งต้องดื่มมากหน่อย มีสุขภาพที่แข็งแรงถึงจะถูก

พูดคำนี้ออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของเหยาจ้าวก็หายไปทันที

“อันนี้จ้านเซินเตรียมไว้ให้เธอเป็นพิเศษ ฉันจะไปกล้าแบ่งได้ยังไง เธอดื่มเองเถอะ อย่าทำให้ความพยายามของจ้านเซินสูญเปล่า”

เหยาจ้าวเน้นย้ำคำว่า “พยายาม” ฉินซีที่โกรธเกรี้ยวอยู่ยิ่งลุกเป็นไฟ

เธอกลัวมากจริงๆ แต่เหยาจ้าวยังคงพูดไม่คิดทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะคำพูดของจ้านเซิน วันนี้เธอจะต้องกรอกยาน้ำขวดนี้ลงไปในท้องของเหยาจ้าวให้ได้

ให้เขารู้เสียหน่อย ว่าความน่ากลัวของคนมันเป็นยังไง

“เหยาจ้าว นายคอยดูเถอะ”

ฉินซีขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด รังสีฆ่าฟันเผยขึ้นในดวงตาสีเข้ม

ตอนนี้เป็นฤดูร้อนแท้ๆ อุณหภูมิรอบด้านสูงมาก แต่เหยาจ้าวกับรู้สึกอย่างอธิบายไม่ได้ว่าเหมือนมีลมเย็นๆพัดผ่านคอไป ทำให้เขาหนาวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

ฉินซีจ้องมองเขาอย่างดุร้าย เปิดฝาขวดยาน้ำอย่าไม่กลัวตาย

กลิ่นขมที่เข้ามาปะทะหน้า ทำให้ฉินซีเกือบจะอาเจียนออกมา

ฉินซีบีบจมูก เงยหน้าที่เทาทะมึนเหมือนคนตายขึ้น กรอกยาน้ำเข้าไปทันที

จากนั้น เธอก็หยิบน้ำบนโต๊ะขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว กลั้วปากไม่หยุด

“แหวะ~”

ฉินซีคลื่นไส้ ใบหน้าแดงก่ำ

ขมเกินไปแล้ว บนโลกนี้ทำไมถึงมีของไม่น่ากินแบบนี้ได้

สิ่งนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นอาวุธชีวเคมีได้เลย อยู่ในระดับเดียวกับปลาซิวกระป๋องเลย

ฉินซีเอ่ยปากด้วยความโมโห พูดกรีดร้องไปที่เหยาจ้าว “ตอนที่นายไม่มีธุระอะไร จะปรับเปลี่ยนรสชาติของยาน้ำนี่หน่อยไม่ได้หรอ? ไม่รู้ว่าสิ่งที่นายเรียนมาจะไปทำอะไรกินได้ แม้แต่เรื่องเล็กๆแค่นี้ยังทำได้ไม่ดี ไม่มีประโยชน์เลยจริงๆ”

เพราะว่าในปากขมเกินไป ดังนั้นอารมณ์ของฉินซีเลยกลายเป็นไม่ดีขึ้นมา

เหยาจ้าวถูกต่อว่าโดยไม่มีเหตุผล เลยเอ่ยปากอย่างน้อยใจ “ขมขนาดนั้นเลยหรอ? ของนี้ฉันไม่ได้ทำขึ้นมานะ เป็นพวกตาแก่หัวโบราณพวกนั้นทำ เธอจะมาโมโหฉันทำไม”

เขามองไปที่ขวดที่ถูกฉินซีโยนไปด้านข้าง รู้สึกว่าการตอบสนองของฉินซีนั้นโอเว่อร์เกินจริง

ยาน้ำนี้เหยาจ้าวเองก็เคยชิม แม้ว่าเขาเองก็รู้สึกว่าขมมาก แต่ก็ไม่ได้กีดกันเท่าฉินซี

อันที่จริง ความสามารถในการรองรับรสขมของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน

ฉินซีบังเอิญเป็นคนประเภทที่ไม่สามารถกินขมได้อย่างมาก เธอชอบของหวานมาก ยิ่งหวาน ก็ยิ่งทำให้ฉินซีมีความอยากอาหาร

หนึ่งปีที่อยู่นอกองค์กรมานี้ ฉินซีจะกินเค้กหนึ่งชิ้นแทบจะทุกวัน

ทุกวันตอนที่ลู่เซิ่นเลิกงาน จะแวะซื้อกลับมาบ้าน แบ่งกันกับฉินซี

คิดถึงตรงนี้ ฉินซีก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ

น้อยใจที่ไม่ได้กินเค้กที่แสนอร่อย ไม่อาจเจอลู่เซิ่นได้ ล้วนใช้เรื่องยาน้ำในครั้งนี้ มาระบายกับเหยาจ้าว “งั้นนายคุยกับจ้านเซินไม่ได้หรอ ให้เขาปรับปรุงหน่อย หรือไม่นายก็ไปลงชื่อกับจ้านเซิน เข้าสู่กระบวนการ ปรับเปลี่ยนรสชาติหน่อยได้ไหม? หนทางมีมากกว่าความยากลำบาก นายอย่าหลีกเลี่ยงหน้าที่!”

ฉินซีพูดอย่างมีความชอบธรรม ทุกประโยคแทรกเข้าไปในใจของเหยาจ้าว

มองดวงตาที่แดงแล้วของฉินซี เหยาจ้าวก็ยิ้มไม่ออกอีกต่อไปแล้ว

เขายกมือทั้งคู่ขึ้น ทำท่าทียอมแพ้ “โอเคโอเคโอเค ฉันรู้แล้ว ฉันผิดเอง อีกเดี๋ยวฉันจะไปรายงานกับจ้านเซิน รับประกันว่าภายในหนึ่งอาทิตย์จะวิจัยอาหารเสริมกำลังที่รสชาติดีออกมาให้ได้ ใช้ได้ไหม?”

เหยาจ้าวกลัวฉินซีขึ้นมาแล้วจริงๆ ไม่กล้าที่จะเถียงกับเธอ

เขารู้สึกว่าอาการของฉินซีในตอนนี้ไม่มั่นคง ถ้าทะเลาะกับเธอต่อไป เธอก็จะร้องไห้

ถ้าจ้านเซินรู้เข้า ก็จะคิดว่าเขารังแกฉินซีเป็นการส่วนตัว หรือไม่ก็จะดึงดูดให้เกิดความสงสัยมากขึ้น

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้น เหยาจ้าวจึงเลือกที่จะยอมจำนนโดยไม่ลังเล

“อืม”

ฉินซีพยักหน้า เห็นเขาตกลงแล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นเล็กน้อย

แล้วเธอก็หยิบลูกอมเม็ดหนึ่งเข้าปาก ความรู้สึกที่หวานละมุมนั้น ละลายอยู่ที่ปลายลิ้น ในที่สุดรสชาติขมก็จางหายไปช้าๆ

ได้กินลูกอม อารมณ์ของฉินซีก็กลายเป็นมีความสุข

ยี่สิบนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่เวลาที่ฉินซีกินยา ยังเกินมาไม่น้อย

มองนาฬิกาบนกำแพง ฉินซีก็ขมวดคิ้ว

เธอจัดแจงเสื้อผ้าเล็กน้อย ค่อยๆเอ่ยปาก “ถึงเวลาแล้ว ฉันไปฝึกก่อนนะ มีเรื่องอะไรรอฉันออกมาค่อยคุย”

ไม่พูดเรื่องกินยา สมองของฉินซีก็ฟื้นความมีเหตุมีผลกลับมา

เหยาจ้าวมองแผ่นหลังของเธอ แล้วส่ายหน้า “เฮ้อ….”

เขาไม่รู้จริงๆ ควรทำยังไงกับผู้หญิงอย่างฉินซีดี

แม้ว่าฉินซีจะเข้าไปฝึกฝนแล้ว แต่เหยาจ้าวก็ไม่กล้าไป เกรงว่าฉินซีอยู่คนเดียวจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงอย่างไรพอฝึกแล้วเธอก็ไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

นึกถึงคำเตือนของจ้านเซิน เหยาจ้าวเลยรออยู่ด้านนอกอย่างซื่อตรง มองนาฬิกาบนผนัง คำนวณเวลาในใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท