Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1474

ตอนที่ 1474

ผู้อำนวยการผู้สง่างามอย่างเขา ตกไปอยู่ในจุดที่ต้องช่วยคนอื่นเสิร์ฟชารินน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่

ถ้าไม่ใช่เพราะได้เจอฉินซี ชั่วชีวิตนี้เขาไม่มีวันมาเป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรม

ตลอดมามีแต่คนอื่นรับใช้ลู่เซิ่น มีที่ไหนที่เขาจะไปรับใช้คนอื่น

ลู่เซิ่นเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน ฉินซีไปแล้ว เขาก็อยากไป แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา

ถ้าเขาออกไปอย่างบุ่มบ่าม ขาดคนไป ทางโรงแรมจะต้องรู้สึกได้ถึงความแปลก

ถึงเวลาจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะเชื่อมเขากับฉินซีเข้าด้วยกัน ตอนที่จ้านเซินตรวจสอบ จะต้องสงสัยแน่

ดังนั้น เพื่อฉินซีแล้ว ลู่เซิ่นจะต้องอดทน

โจวเอ้อมองความทุกข์ของเขาออก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

หลังจากหลูจื๋อหลินส่งฉินซีกลับไปแล้ว ก็เรียกหรูเว่ยเสียงเข้าไปในห้องรับรอง

“วันนี้แกคิดจะสร้างปัญหาให้ฉันซักกี่เรื่อง ทำไมแต่ก่อนฉันไม่รู้เลยว่าแกมันยั่วโมโหขนาดนี้!”

หลูจื๋อหลินโกรธจนตัวสั่น ชี้ไปที่หรูเว่ยเสียงพร้อมด่าทอ

เมื่อกี้อยู่ด้านนอกเพื่อที่จะรักษาภาพลักษณ์ เขาอดทนไว้ตลอด ตอนนี้ในที่สุดก็ระบายออกมาได้

หรูเว่ยเสียงขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะโต้เถียง “ประธานหลู ผมไม่ได้ยั่วโมโห เมื่อกี้มือสั่งหารคล้ายกับฉินซีมากจริงๆ”

ถ้าไม่มีความมั่นใจ70% เขาก็ไม่กล้าทำเรื่องผลีผลาม

“แกยังจะพูดอีก!”

หลูจื๋อหลินได้ฟังคำพูดของเขา ก็แทบหมดลมทันที

หลูจื๋อหลินพูดด้วยความโมโห “หรูเว่ยเสียง แกดูตรงไหนว่าคุณฉินกับมือสังหารคนนั้นคล้ายกัน! คุณฉินหน้าตาสวยขนาดนั้น อันที่จริงมือสังหารคนนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง”

ในสายตาของหลูจื๋อหลิน ในเมืองไห่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถเปรียบเทียบกับฉินซีได้

หรูเว่ยเสียงไร้คำจะพูดต่อคำพูดของเขา

เห็นได้ชัดว่าเขาถูกความงามของฉินซี ทำให้สับสน

หรูเว่ยเสียงรู้ ว่าตอนนี้ตนพูดอะไรไป หลูจื๋อหลินก็ไม่ฟัง

เขาได้แต่ปิดปากลงอย่างช่วยไม่ได้

หลูจื๋อหลินเห็นเขาไม่โต้ตอบ ความโมโหในใจก็เบาลงเล็กน้อย

เขามองตรงไปที่หรูเว่ยเสียงแล้วเอ่ยถาม “เมื่อกี้ฉันให้แกสังเกตแขกที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงอย่างละเอียด แกพบคนน่าสงสัยหรือเปล่า”

หรูเว่ยเสียงกำลังคิดที่จะเอ่ยปากพูด ว่าเขาเจอแต่ฉินซี

แต่หลูจื๋อหลินกลับพูดขึ้นมาก่อน “นอกจากคุณฉิน”

เขาจ้องไปที่หรูเว่ยเสียงอย่างดุร้าย

หรูเว่ยเสียงส่ายหน้า “งั้นก็ไม่มีแล้ว”

เขาไม่รู้ว่าทำไม หลูจื๋อหลินถึงไม่ยินยอมที่จะเชื่อเขา

หรูเว่ยเสียงรู้สึกว่า เขาจะต้องเสียใจที่ปล่อยฉินซีไป การมีอยู่ของเธอเป็นปัญหาใหญ่ อีกอย่างฉินซียังมีพรรคพวก ตอนนี้ไม่รู้ว่าไปหลบซ่อนที่ไหนแล้ว

เห็นเขาสร้างเรื่องไว้มากมาย แต่กลับไม่ได้ผลสำเร็จอะไรเลย หลูจื๋อหลินก็อับอายจนโกรธขึ้นมาทันที

มือทั้งสองของเขากำหมัดแน่น พูดอย่างขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน “รองานเลี้ยงใกล้จบลง ฉันจะให้ทุกคนถอดหน้ากากออก ครั้งนี้ถ้าแกยังไม่แหกตา หามือสังหารสองคนนั้นให้เจอ ฉันจะไม่ปรานีแก!”

เพื่อที่จะหามือสังหารสองคนนั้นให้เจอ หลูจื๋อหลินได้แต่เพิ่มขั้นตอนนี้เข้าไป

ถ้าเขาหยุดงานเลี้ยงกะทันหัน ให้ทุกคนถอดหน้ากากออก จะต้องเกิดความโกลาหลขึ้นแน่นอน

หลูจื๋อหลินไม่อยากให้ใครขุ่นเคือง ดังนั้นจึงเลือกวิธีนี้

หรูเว่ยเสียงขมวดคิ้วพูดตอบ “ครับ”

เขารู้สึกว่ามือสังหารตัวจริงถูกหลูจื๋อหลินปล่อยตัวไปแล้ว ทำไมมาทำเรื่องพวกนี้อีก มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

แต่ว่า เขาก็ไม่สามารถเอ่ยปากแย้งคำพูดของหลูจื๋อหลินได้ ไม่อย่างนั้น เขาก็จะถูกทุบตีอย่างรุนแรงอีก

หลูจื๋อหลินตอนนี้เห็นเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว “ยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก!”

เขาจ้องหรูเว่ยเสียงด้วยความหงุดหงิด นั่งลงยกขาจะถีบเขา

หรูเว่ยเสียงได้รับคำสั่ง ก็รีบออกไปจากห้องรับรอง

หัวหน้าผู้คุ้มกันเคาะประตู เข้ามารายงาน

“ประธานหลู กล้องวงจรปิดทุกอันในคืนวันนี้ ผมได้ตรวจสอบแล้ว ไม่พบคนน่าสงสย”

หัวหน้าบอกสถานการณ์ที่ตรวจสอบมาได้ต่อหลูจื๋อหลินรวดเดียวจบ

หลูจื๋อหลินได้ยินคำนี้ ก็ไม่ได้ผันผวนมากนัก

เขารู้ ว่าอีกฝ่ายสามารถหลบหนีภายใต้เปลือกตาของหรูเว่ยเสียงได้อย่างง่ายดาย ก็แสดงว่าเขาเตรียมตัวมาดี และมีทักษะที่ยอดเยี่ยม

ถ้าแม้แต่กล้องวงจรปิดเล็กๆยังจัดการไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูดถึงการขโมยของ

หลูจื๋อหลินเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากกล้องวงจรปิด ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่ผิดหวัง

“อืม ฉันรู้แล้ว”

หลูจื๋อหลินพูดขึ้นเบาๆ แสงสลัวประกายขึ้นในดวงตาของเขา

จิตใจของเขาหยั่งลึกมาก หัวหน้าผู้คุ้มกันเดาความคิดของเขาไม่ออก จึงเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ประธานหลู ตอนนี้ผมควรทำอะไร?”

หัวหน้าผู้คุ้มกันโค้งตัวลง สังเกตสีหน้าของหลูจื๋อหลินอยู่เงียบๆ

ช่วงหนึ่งหลูจื๋อหลินเองก็ไม่มีแผนการดีๆ ได้แต่ใช้วิธีที่โง่เขลาที่สุด “แกอย่าพึ่งทำผลีผลาม กลับไปที่จุดของแก เฝ้าประตูให้ดี ไว้จะใช้งานแกแล้ว ฉันจะไปเรียกแกเอง”

ถ้ามือสังหารยังไม่ออกจากห้องจัดเลี้ยง งั้นอีกเดี๋ยวหรูเว่ยเสียงก็คงจะหาเขาเจอ

ถึงตอนนั้น เขาค่อยติดต่อหัวหน้าผู้คุ้มกัน ให้เขานำคนมาจับกุม

“ครับ ประธานหลู”

เดิมทีหัวหน้าผู้คุ้มกันนึกว่าครั้งนี้จะถูกใช้งานหนัก ไม่คิดว่าจะยังเป็นงานคนเฝ้าประตูอยู่

เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ นึกถึงคำที่คนในทีมพูดเมื่อกี้ ก็อดที่จะเปิดปากไม่ได้ “ประธานหลู ถ้าครั้งนี้เอาเอกสารนั่นกลับมาไม่ได้…..”

คำพูดของหัวหน้าผู้คุ้มกันยังไม่ทันพูดจบ หลูจื๋อหลินก็เขวี้ยงแก้วใบหนึ่งไป

เขาจ้องไปที่หัวหน้าผู้คุ้มกันด้วยสายตาดุดัน พูดด้วยน้ำเสียงมืดมน “แกรู้ไหม ว่าแกกำลังพูดอะไร?”

“นี่แกกำลังแช่งฉันหรอ?”

หลูจื๋อหลินขบเคี้ยวเขี้ยวฟันพูด แทบทนไม่ไหวที่จะใช้แก้วทุบหัวเขาให้แตก ให้เขาไม่ต้องใช้สมองเวลาพูด

หัวหน้าผู้คุ้มกันสบตากับดวงตาที่มุ่งร้ายของเขา เมื่อเห็นความกระหายเลือดในแววตา ถึงพึ่งรู้สึกตัวว่าตนพูดผิดไป

เขารีบปิดปาก แล้วอธิบายด้วยความตื่นตระหนก “ประธานหลู ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ผมแค่กำลังเป็นห่วงคุณ ก็เลยพูดผิดไป คุณได้โปรดยกโทษให้ผมซักครั้ง”

หัวหน้าผู้คุ้มกันยังอยากที่จะอาศัยโอกาสนี้เลื่อนตำแหน่ง ไม่คิดว่าจะทำให้หลูจื๋อหลินโกรธ

หลูจื๋อหลินตะคอกอย่างเย็นชา “ดูแล้วฉันว่าแกจงใจ!”

ตอนนี้เขาเหมือนกับพลุ นิดเดียวก็ระเบิด ไม่สามารถทนรับการกระตุ้นได้

หัวหน้าผู้คุ้มกันตัวสั่นเทา ภายใต้การจ้องมองของเขา

เขาส่ายหัว “ไม่ใช่ ไม่ใช่จริงๆครับ! ประธานหลู ผมเพียงแค่อยากช่วยคุณเตรียมรับมือกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ไม่มีความหมายอื่นแน่นอน ถ้าหากมี ผมขอให้ถูกรถถูกประตูชนตายทันที”

หัวหน้าผู้คุ้มกันสาบานน้ำตาคลอเบ้า อยากที่จะพิสูจน์ความจริงใจของตน

หลูจื๋อหลินมองเขาก็ไม่ได้มีความกล้าหาญขนาดนั้น ความโกรธจึงค่อยๆหายไป

อย่างที่หัวหน้าผู้คุ้มกันพูดมา ตอนนี้เขาควรที่จะเตรียมวางแผนล่วงหน้าสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจริงๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท