Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1559 ไม่มีอะไรแตกต่าง

บทที่ 1559 ไม่มีอะไรแตกต่าง

อย่างไรก็ตามซิวหน่ายซิงเป็นลูกศิษย์ที่ถังย่ารับมาเอง แม่ว่าจะไม่มีความรักความเสน่หาแบบชายหญิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความรู้สึกใดๆต่อเขาเลย

มองไปที่สายตาอันแข็งกร้าวของเขา ถังย่ารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เธอไม่เคยมีประสบการณ์ในการจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ และก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากว่าอย่างไร คิดไปแล้วมีแค่สองวิธีเท่านั้น คือเธอจะแบกหน้าเตือนซิวหน่ายซิงเรื่องกฎขององค์กร ให้เขาถอนตัวเองให้ได้ หรือไม่……ก็ทำเช่นเดียวกันกับจ้านเซิน นิ่งๆเนียนๆเปลี่ยนหัวข้อเรื่องไป เสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ความรู้สึกที่ไม่เหมาะสม เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เดี๋ยวก็จะค่อยๆจางหายไปเอง

เธอมองไปที่ซิวหน่ายซิง วิธีการแรกที่จะยับยั้งอย่างเด็ดขาด ยิ่งตอนนี้เขากำลังยึดอารมณ์เป็นใหญ่ จะบังคับบีบคั้นก็เหมือนเป็นการทำลายความตั้งใจของเขา อาจจะไม่ใช่เพียงแค่ไม่เห็นผล แต่อาจจะกลับกระตุ้นจิตวิทยาที่ดื้อรั้นของเขา ส่งผลทำให้ยากที่จะควบคุมอะไรมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นสิ่งถังย่าสามารถทำได้ ก็คือทำแบบจ้านเซิน

เมื่อคิดแบบนี้ ถังย่าก็รู้สึกตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

เป็นไปได้มั๊ยว่าจ้านเซินไม่ยอมที่จะกระตุ้นตัวเองอีก ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง?

แต่เสียดายที่เขาเลือกหัวข้อผิด ไม่เพียงไม่ได้ทำให้ตนเองสงบลง แต่กลับทำให้เธอโกรธอย่างสุดขีด

พอนึกถึงสภาวะอารมณ์ตนเอง ก็นึกถึงจ้านเซินโดยที่ไม่รู้ตัว ถังย่ารีบกระแอมหนึ่งครั้ง เรียกสติของตนเองกลับคืนมา

เธอครุ่นคิดอยู่สักสองสามวินาที สุดท้ายแล้วเธอก็หลีกเลี่ยงปัญหาที่มีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของเธอ เพียงแต่ใช้น้ำเสียงที่เรียบนิ่งในการเปลี่ยนหัวข้อ

“ฉันรู้ ตอนที่จ้านเซินป่วย เธอไม่ได้เป็นคนแรกที่ส่งข่าวให้ฉัน ไม่เพียงแต่ไม่อยากให้ฉันมีส่วนร่วม แต่อยาก……รอให้เรื่องเกิดอะไรขึ้นกับเขา ถูกต้องมั๊ย ”

สีหน้าของซิวหน่ายซิงหลังจากที่ได้ยินชื่อของจ้านเซินแล้ว มีความเบี้ยวบูดชั่วขณะ รอยยิ้มประชดประชันที่มุมปากของเขาไม่ได้แสดงถึงความยับยั้งชั่งใจ :“ดูเหมือนว่าเธอก็ไม่ได้โง่นัก ฉันประเมินเธอต่ำเกินไป ถังย่า”

เขาเงยหน้าพร้อมยิ้ม น้ำเสียงมีความกระท่อนกระแท่น: “เพราะถ้าเขาเป็นอะไรไป เธอกับฉัน……ถึงจะเป็นอิสระได้”

ถังย่าขมวดคิ้ว น้ำเสียงกดต่ำ: “อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย องค์กรที่ใหญ่อย่างนี้ จะล่มสลายเพราะว่าไม่มีเขาคนเดียว นอกจากนั้น……ฉันไม่เคยรู้สึกว่า ฉันไม่มีความเป็นอิสระ”

อากัปกิริยาของซิวหน่ายซิงมีความเหลือเชื่อเล็กน้อย : “เธอไม่เคยรู้สึก?ถังย่าเธอไม่เคยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไป เธอถึงคิดแบบนี้ บางเวลาฉันรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนแค่สุนัขตัวหนึ่งของจ้านเซิน เขากวักมือ หรือแม้แต่ไม่ได้กวักมือ แค่ใช้เพียงแค่สายตา เธอก็ไปอยู่ต่อหน้าเขา เธอไม่รู้สึกว่าดูถูกตัวเองเกินไปเหรอ?”

“ฉันไม่รู้สึก” อากัปกิริยาของถังย่านั้นสงบนิ่ง เมื่อเทียบกับซิวหน่ายซิงที่ใกล้จะระเบิดความโกรธอีกครั้ง สีหน้าของเธอช่างเฉยเมยราวกับพูดถึงเรื่องคนอื่น “ฉันทำอะไร ล้วนแต่เป็นการเลือกโดยความสมัครใจของตนเอง ไม่มีอะไรที่จะต้องไปต่อว่า”

“เธอ!”ซิวหน่ายซิงเกลียดที่เธอไม่เอาไหน เมื่อเขาจะเอ่ยปากพูดอะไรอีก ถังย่าก็ขึ้นเสียงสูงตัดบทเขา

“พอเถอะ”

ที่จริงแล้วเสียงของเธอไม่ดัง แต่ซิวหน่ายซิงสัมผัสได้จากสายตาของเธอ จึงไม่กล้าที่พูดอีกต่อไป ทำได้แต่ขมวดคิ้วและอยู่อย่างเงียบๆ มองดูเธอ

“ซิวหน่ายซิง เธอไม่ใช่ฉัน ไม่ต้องเอามุมมองความคิดเธอมาคาดเดาความคิดของฉัน ฉันเป็นอาจารย์ของเธอ ไม่ใช่เธอเป็นอาจารย์ของฉัน ดังนั้นเธอไม่ควรที่มายุ่งวุ่นวายกับชีวิตความรู้สึกของฉัน ”ความน่าเกรงขามของถังย่า ทำให้ซิวหน่ายซิงถึงกับอดไม่ได้ที่จะสะดุ้งเล็กน้อย ดังนั้นถึงแม้ว่าในใจของเขาจะไม่ยินยอม แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยปากโต้แย้ง ได้แต่เพียงบีบกำปั้นอยู่เงียบๆ

“ส่วนเรื่องอื่น……”ถังย่าชะงักไปสักครู่ แล้วจึงพูดต่อว่า “พฤติกรรมของฉันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ฉันจะคิดว่าฉันไม่เคยได้ยินเรื่องที่เธอพูด ต่อจากนี้ไม่ต้องพูดถึงมันอีก”

พูดจบ เธอก็หันหลังกลับไป

แต่ซิวหน่ายซิงกลับคว้าข้อมือของเธอไว้อย่างรวดเร็ว

อันที่จริงตามฝีมือของสองคนนี้แล้ว ถ้าถังย่าตั้งใจที่จะหลบ ซิวหน่ายซิงก็จะจับไม่ได้ เธอคิดไม่ถึงว่าซิวหน่ายซิงจะกล้าถึงขั้นนี้ เธอพูดถึงขั้นนี้แล้ว เขายังกล้าเอื้อมมืออีก

ดังนั้นข้อมือของเธอจึงถูกซิวหน่ายซิงจับไว้ในมืออย่างแน่น

“อาจารย์” เขาเปลี่ยนน้ำเสียงอีกครั้ง เขาหยุดเรียกชื่อเธอด้วยแบบน้ำเสียงที่ยั่วยวน แล้วกลับมาเรียกน้ำเสียงนุ่มๆ ละมุนๆ อ่อนโยนแบบเดิมแทน แต่สิ่งที่เขาเอ่ยปากพูด กลับทำให้ถังย่ารู้สึกไม่คุ้นเคย “แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้แล้ว แต่ฉันก็จะไม่เลิกล้มความตั้งใจ”

ถังย่าหลับตา

เธออยู่องค์กรนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่ค่อยชำนาญในการจัดการความรู้สึกของปถุชนคนทั่วไปนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการแก้ปัญหาเรื่องความรู้สึก

ซิวหน่ายซิงคือคนที่เธอเก็บมา เขากลายเป็นแบบนี้……ส่วนหนึ่ง ก็เป็นความรับผิดชอบของเธอ

——ดังนั้นจะละเลยไม่สนใจก็ไม่ได้

ความคิดมากมายผุดขึ้นในใจของเธอ เธอหลับตาลง อดทน หันหลังกลับ เผชิญหน้าต่อซิวหน่ายซิง ยกมือบอกให้เขาปล่อยมือ

ซิวหน่ายซิงยอมทำแต่โดยดี

ถังย่าถอยหลังเล็กน้อย เว้นระยะห่างระหว่างสองคนให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม หลังจากนั้นจึงเอ่ยปากว่า

“ฉันไม่รู้ว่า ทำไมนายทำถึงเลือกที่จะยืนหยัดต่อไป ”เสียงของถังย่านุ่มนวลขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

สายตาของซิวหน่ายซิงค่อนข้างที่จะดื้อรั้น: “ในเมื่อเธอยังยืนหยัดได้ แล้วทำไมฉันถึงทำไม่ได้”

ยิ่งไปกว่านั้น……ไม่ว่าจะมองอย่างไร ความรู้สึกของเธอ ดูเหมือนว่าจะหมดหวังมากกว่าฉันอีกนะ

สุดท้ายแล้วซิวหน่ายซิงก็ไม่ได้พูดประโยคนี้ออกมา เขาแค่พูดเงียบๆในใจ

แต่ดูเหมือนถังย่าจะมองเห็นคำบรรยายที่ซ่อนอยู่ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้: “เวลานานเกินไปแล้ว บางอย่างได้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของตัวฉันไปแล้ว ฉันไม่สามารถทิ้งมันไปได้ แต่นาย……ทำไมไม่รีบตั้งแต่ตอนนี้ตอนที่ยังไม่สาย รีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลมล่ะ?”

ใบหน้าของซิวหน่ายซิงไม่พอใจเล็กน้อย: “ทำไมเธอถึงคิดว่า บนโลกใบนี้มีเพียงแต่ความรู้สึกของเธอเท่านั้นที่มั่นคงล่ะ?”

ถังย่ามองไปที่อากิปกิริยาของซิวหน่ายซิง ราวกับว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่รู้ประสา รู้แต่จะเล่นสนุกๆไปวันๆ : “ตอนฉันยังเป็นเด็ก ก็กลายเป็นสมาชิกขององค์กร ครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับเขา มีอายุแต่เพียงไม่กี่ปี——”

“พูดอย่างกับว่าตอนที่ฉันเจอเธอ เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเหรอ?”ซิวหน่ายซิงทนไม่ได้จึงตัดบทเธอ “เธออย่าคิดว่าบนโลกใบนี้มีเพียงเธอที่มีความรู้สึกลึกซึ้งที่สุด ประสบการณ์ของเธอกับจ้านเซิน ก็คือประสบการณ์ของฉันกับเธอ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เธอใช้อะไรมาสงสัยว่าความรู้สึกของฉันไม่ลึกซึ้งเท่าเธอ”

น้อยมากที่ถังย่าจะโดนคนเถียงแบบถึงกับพูดไม่ออกอย่างนี้

……ซิวหน่ายซิงฝังใจกับเรื่องของเธอ และลึกซึ้งมากกว่าที่เธอคิดไว้

การรับรู้นี้ไม่ได้ทำให้ถังย่ารู้สึกดีใจ ตรงกันข้ามกลับทำให้เธอรู้สึกทุกข์ใจเพิ่มขึ้นไปอีก

เดิมทีเธอคิดว่าตนเองสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการเปลี่ยนจุดดึงดูด แต่คิดไม่ถึง……สุดท้ายก็ต้องเปิดอก คุยกับซิวหน่ายซิงให้เข้าใจ

เธอถอนหายใจในใจ ไม่ได้รับคำพูดต่อจากซิวหน่ายซิงอีก แต่กลับย้อนถามคำถามหนึ่งไปว่า

“เธอรู้ว่าทำไมองค์กรถึงไม่ให้พวกเรามีความรักมั๊ย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท