ตอนที่ 186 เมามาย
“เธอไม่เข้าใจ หรอกว่าเขาเป็นคนอย่างไร อบอุ่น เผด็จการ ละเอียดรอบคอบ ไม่อยู่กับร่องกับรอย ปล่อยตัว เจ้าชู้ หยาบคาย เยาะเย้ยถากถาง มีสติปัญญาปราดเปรื่อง รสนิยมแย่…. เธอจะเห็นคุณสมบัติมากมายในตัวเขา แต่ถ้ายิ่งรู้จักกันนานขึ้นเธอจะพบว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเธอจะหาความมั่นใจจากตัวเขาไม่ได้เลย หนังเรื่อง Temptress Moon ที่พึ่งเข้าฉายนั้นฉันคิดว่า อ่า ฉันประสบความสำเร็จแล้ว ฉันได้กลายเป็นคนดังของฮอลลีวูดแล้ว ฉันประสบความสำเร็จแล้วใช่ไหม ลิซ… ” จูเลียมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆหล่อน สายตาคู่นั้นบ่งบอกถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง
“แน่นอน พี่จูเลีย พี่ประสบความสำเร็จแล้ว” เอลิซาเบธตอบกลับหัวข้อสนทนานั้น พร้อมกับดึงแก้วที่อยู่ในมือของหญิงสาวไปเปลี่ยนเป็นแก้วน้ำผลไม้อีกแก้วจากบริกรแล้วใส่กลับมาในมือของจูเลียตามเดิม
ถึงแม้เอริคจะเปิดเผยฐานะของเอลิซาเบธแล้วก็ตาม แต่หล่อนก็แสดงความเสียใจอย่างจริงใจกับจูเลีย ทำให้ช่องว่างระหว่างทั้งสองคนที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นหายไป ตอนนี้ในใจของจูเลียมีแต่คำพูดคำนั้นของเอริค หล่อนเจ็บปวดทรมานใจมาก ทำให้ดื่มแอลกอฮอลล์หลายแก้วโดยไม่รู้ตัว ฤทธิ์แอลกอฮอลล์ทำให้หล่อนเมามายไม่ได้สติ เป็นเพราะจูเลียนั้นดื่มมากเกินไปทำให้จิตใจของหล่อนอ่อนแอ จึงได้เริ่มเล่าเรื่องระหว่างหล่อนกับเอริคให้เอลิซาเบธฟัง
จูเลียรับแก้วที่เอลิซาเบธยื่นให้โดยแทบจะไม่มีสติ แต่ก็เอะใจ หล่อนพยายามเขย่าของเหลวที่อยู่ในแก้วแต่ก็รู้ว่าของเหลวภายในแก้วนั้นไม่ใช่ไวน์แดง หญิงสาวเมาจะแทบไม่มีสติกล่าวขึ้นว่า “ฉัน …. ฉันประสบความสำเร็จแล้ว หลังจากนั้นฉันก็ได้เซ็นสัญญานักแสดง ฉันมีรายได้หลายร้อยล้านดอลล่าห์เลยนะ หลายร้อยล้านดอลล่าห์อะ เมื่อก่อนฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิด จนกระทั่ง…. ไอคนน่ารังเกียจคนนั้นมาคุยกับฉัน แต่เขากลับไม่ผลักดันสนับสนุนอะไรเลย ฉันโกรธความคิดบ้าๆนั้นของเขามาก เขาไม่ให้เกียรติฉัน ตำหนิฉัน จนกระทั่ง ….จนกระทั่งฉันร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา เขาจึงจะยอมหยุด อึก! ฉันมักจะแกล้งแสดงความภูมิใจต่อหน้าเขา แกล้ง…..แกล้งแสดงว่ามั่นใจในตัวเองเสมอ แต่เขามักใช้คำพูดง่ายๆเหล่านั้น พูดหว่านล้อมจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมามองสายตาคู่นั้นได้ แต่ดูตอนนี้สิดูสิ่งที่เขาทำกับฉัน …. เขาเป็นแฟนฉันไม่ได้ พอฉันจะไปคบกับผู้ชายคนอื่นเขาก็ออกมาขัดขวางฉัน บอกว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีอะไรดี”
หญิงสาวจิบน้ำผลไม้อย่างสะลืมสะอือด้วยความเมา แล้วหล่อนก็หัวเราะเยอะออกมาเสียงดัง “แต่แล้ว ..แต่แล้วเขาก็พูดคำที่ฉันคิดไม่ถึงออกมา ‘ฉันกับจูเลียมีความสัมพันธ์อะไรเหรอ’ฮ่า ฮ่า น่ารังเกียจเสียจริง มีความสัมพันธ์อะไร มีความสัมพันธ์อะไรกัน….”
“พอแล้ว พี่จูเลีย พี่เมามากแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งพี่ที่บ้าน” เอลิซาเบธกล่าวขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวแสดงกิริยาที่ไม่ดีออกมาด้วยความเมา หล่อนจึงใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนและนุ่มนวล เพื่อกล่อมให้คนเมาไม่ได้สติอย่างจูเลียนั้นเชื่อฟังและตามไปด้วยดีๆ
“อื้อ กลับบ้าน ฉันอยากกลับบ้าน ฉันไม่อยากเห็นคนน่ารังเกียจคนนั้นแล้ว” จูเลียลุกขึ้นยืนทันทีหลังจากกล่าวจบ เพราะความมึนเมาทำให้หล่อนเซลงไปนั่งบนโซฟาอีกครั้ง เอลิซาเบธรีบคว้าตัวของจูเลีย และช่วยประคองจูเลียลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
อลันเดินมาหาเอริคที่กำลังพูดคุยอยู่กับเฮอร์เบิร์ต รอสส์ เขากระซิบข้างหูเอริคไม่กี่ประโยค เอริคมองไปที่ประตูของงานปาร์ตี้ แล้วจึงหันมากล่าวขอโทษเฮอร์เบิร์ต รอสส์แล้วเดินไปยังทางนั้นทันที
“เกิดอะไรขึ้น จูเลีย ทำไมเธอถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้” เอริคมองเอลิซาเบธที่ประคองจูเลียอยู่ด้วยสายตาไม่พอใจ แล้วจึงมองไปรอบๆ “อลิสันละ? เธออยู่ไหน”
อลิสันเป็นผู้ช่วยหน้าตาน่ารักของจูเลีย
“ไม่…ไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันอยากดื่มเท่าไหร่มันก็เรื่องของฉัน” เมื่อจูเลียเห็นเอริคปรากฏขึ้นตรงหน้าของตัวเอง หล่อนพยามยามโบกไม้โบกมือ แล้วกล่าวเสียงดังว่า “คุณยุ่งกับฉันอีกแล้ว คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่!”
“หุบปาก พรุ่งนี้เธออยากโดนพาดหัวข่าวนางเอกสาวชื่อดังเมาไม่ได้สติหรือยังไง”เอริคถลึงตาใส่และมองไปรอบๆอีกครั้ง คนจำนวนไม่น้อยต่างหันมาสนใจทางนี้ เอริคจึงรีบให้เอลิซาเบธประคองหญิงสาวออกไปจากงานปาร์ตี้ทันที เมื่อเดินไปถึงระเบียงทางเดินทั้งหมดจึงรู้สึกโล่งใจ
“อลิสันอยู่ไหน ฉันให้หล่อนไปส่งเธอไหม” เอริคกล่าวถามอีกครั้ง
หญิงสาวเบะปากด้วยความน้อยใจ อาจเป็นเพราะเสียงเอริคตวาดเมื่อสักครู่จึงเรียกสติของหล่อนกลับมา “อลิสันลาพัก หล่อนไปเมืองเล็กๆทางตอนใต้กับฉัน และเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่นั้นไม่ดีจึงทำให้หล่อนป่วย”
เอริคถอนหายใจออกมา แล้วหันไปพูดกับผู้ช่วยว่า “อลัน นายช่วยไปส่งจูเลียที่บ้านที”
อลันกำลังจะตอบกลับ เอลิซาเบธก็แย้งขึ้นมาทันที “ฉันไปเอง ยังไงอลันก็เป็นผู้ชายที่ดูท่าทางแล้วไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่นัก อีกอย่างพี่จูเลียก็เมาหนักมาก หล่อนต้องการคนดูแล”
“เธอ….” เอริคมองเอลิซาเบธด้วยความสงสัย แล้วเหลือบมองจูเลียอีกครั้ง
“ฉันอยาก….ฉันอยากให้ลิซไปส่งฉัน ไม่เอา….ผู้ชายน่ารังเกียจ พวกคุณเป็นผู้ชายน่ารังเกียจ!” จูเลียดูเหมือนจะมึนเมาอีกครั้งจึงจับแขนเอลิซาเบธไว้แล้วค่อยๆเดินไปหาอีกฝ่ายอย่างช้าๆ
อลันยักไหล่ เอริคมองไปที่จูเลีย แล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนเธอแล้ว ลิซ เธอรู้ที่อยู่ของจูเลียใชไหม?”
“ฉันรู้ ฉันรู้ ถนนสาย 11070 Wilshire Boulevard” เอลิซาเบธที่กำลังประคองร่างของหญิงสาวไร้สตินั้นพยายามยกมือเล็กๆของหล่อนตอบคำถามอย่างกระตือรือร้นราวกับนักเรียนตอบคำถามของอาจารย์อย่างไรอย่างนั้น
เอริคยักไหล่แล้วยิ้มกับเอลิซาเบธ “โอเคๆ ในเมื่อเธอรู้แล้วก็ดี ฉันเดินไปส่งพวกเธอละกัน”
ลิฟต์ค่อยๆเลื่อนลงมายังชั้นล่าง เอริคมักจะรู้สึกแปลกใจกับหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างเขา ถึงแม้จะรู้จักกันเพียงไม่นานก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความเป็นทอมบอยจากตัวเอลิซาเบธ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก? ถ้าเป็นความจริงขึ้นมา คืนนี้จูเลียก็คง…..
ภาพชั่วร้ายผุดขึ้นมาในหัวเขา ทำให้เอริคกระตุกยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
โชคดีที่เอลิซาเบธประคองร่างของจูเลียอย่างระมัดระวัง ไม่ได้ทำให้เอริครู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ ถ้าหล่อนรู้ว่าเขาคิดอะไร หล่อนก็คงอดไม่ได้ทีเตะที่ขาของเอริคเป็นแน่
“รถของฉันอยู่ด้านนี้ เฮ้ คุณไม่คิดจะช่วยอะไรฉันหน่อยเหรอ แสดงความสุภาพบุรุษสักหน่อยสิ” เมื่อเดินออกมาจากลิฟต์ เอลิซาเบธก็ชี้ไปที่รถคันสีแดงที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ ถ้าคิดจะประคองร่างที่ไร้สตินี้ไปถึงรถก็คงจะอันตรายมากทีเดียว หล่อนจึงหันไปกล่าวกับเอริคอย่างไม่พอใจ
“อ่ะ ขอโทษ ฉันคิดว่าเธอไหว” เอริคยิ้มขึ้นพร้อมกับช่วยประคองจูเลียอีกด้านหนึ่ง ทั้งสองคนช่วยกันประคองหญิงสาวไปที่รถคันนั้น เอลิซาบเธเอียงร่างจูเลียไปทางเอริคแล้วตัวเองก็ใช้มือหยิบกุญแจขึ้นมาเปิดประตูรถ
เมื่อเปิดรถแล้ว เอลิซาเบธหันมาบอกให้เอริคช่วยเอาจูเลียเข้าไปในรถ แต่หล่อนกับเห็นภาพที่ร่างไร้สติของจูเลียกำลังคลอเคลียพัวพันร่างของเอริคยู่ แก้มของหล่อนก็ติดอยู่กับแก้มของเอริค จูเลียพูดพึมพำไม่หยุด “เอริค อึก!ฉันฝันถึงคุณอีกแล้ว คุณจะตีฉันอีกไหม คุณมักจะตีที่ก้นของฉัน มันเจ็บมากรู้ไหม แล้วตอนเช้ากางเกงในของฉันมักจะ***เสมอเลย เอริค คุณอ่อนโยนกับฉันสักนิดได้ไหม คุณจูบฉันหน่อย….. “
เมื่อเอริคเห็นดวงตาของเอลิซาเบธที่ไร้ความรู้สึก เขาก็ยกมือขึ้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงปล่อยให้หญิงสาวคลอเคลียร่างตัวเอง เขารับรู้ได้ถึงความเปียกจากลิ้นของจูเลียที่เลียอยู่ที่แก้มของเขา เขาหมดแรงแก้ตัวใดๆ “นี่…เธอต้องเข้าใจ ว่าหล่อนเมามาก”
เอลิซาเบธเรียกสติกลับมาจึงดึงร่างของหญิงสาวเข้าไปนั่งเบาะหลังอย่างเงียบๆ แล้วกระแทกปิดประตูรถอย่างแรง หลังจากนั้นหล่อนก็ไปนั่งที่คนขับ แล้วขับรถออกไปทันที แต่ไม่ลืมจะเปิดหน้าต่างรถออกมาโบกมือลาพร้อมกลับตะโกนว่า “คุณวิลเลียม จูเลียพูดถูก คุณมันน่ารังเกียจที่สุดในโลกเลย”
เอริคเห็นหญิงสาวที่ชูนิ้วกลางออกมาจากรถ เอริคฝืนยิ้มอย่างเจื่อนๆ
ฉันยังไม่เคยตีหล่อนเลยนะ!
ฉันเคยตีหล่อนเหรอ?
ไม่มีนะ?
หรือฉันจะแก่ไปแล้ว ฉันจำผิดเหรอ?
….
เมื่อลืมตาขึ้น หญิงสาวรู้สึกได้ว่าเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนหัว จูเลียใช้มือเคาะที่หน้าผากเบาๆพร้อมกับมองไปรอบๆ
ค่อยยังชั่ว ฉันอยู่ที่ห้องนอนของตัวเอง
หล่อนไม่รู้ว่าในใจนั้นจะดีใจหรือเสียใจดี เพราะเมื่อคืนหล่อนดื่มมากไป และยังฝันถึงคนๆนั้น อีกทั้งยังพูดเรื่องไร้สาระออกไปอีก ไอหยา โชคดีว่ามันคือความฝัน ไม่อย่างนั้นคงขายหน้าไปตลอดแน่
หล่อนลุกขึ้นนั่ง ทำให้ผ้าห่มบางๆเลื่อนลงมา ทำให้จุดอ่อนโยนนั้นปะทะกับลมเย็นๆของเครื่องปรับอากาศทำให้หล่อนรู้สึกเย็นสบาย หญิงสาวยกมือจับหน้าอก และเมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบเปิดผ้าห่มดูทันที
ไม่นะ ผู้ชายคนนั้นทำอะไรกับฉันกันแน่?
เมื่อเสียงของลูกบิดประตูห้องนอนดังขึ้น จูเลียก็รับหยิบผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างกายของตัวเองทันทีพร้อมกับจ้องไปที่ประตูห้อง
ร่างหนึ่งสวมแค่เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของผู้ชาย หญิงสาวขายาวขาวสวยปรากฏขึ้นที่ประตู เมื่อหล่อนเห็นจูเลียที่นั่งอยู่บนเตียงจึงกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม “ฮ้าย พี่จูเลีย ในที่สุดพี่ก็ตื่นสักที ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องกวนฝันหวานของพี่แล้วแหละ”
“เธอ…..” จูเลียพยายามคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืน นึกถึงฐานะของหญิงสาว แล้วพยายามฝืนยิ้มมันออกมา “สวัสดีตอนเช้า ลิซ เธอ… มาส่งฉันที่บ้านเมื่อคืนใช่ไหม “
“ใช่สิ เมื่อคืนพี่เมามาก อาเจียนไปตั้งสองสามครั้ง ทำให้เสื้อผ้าฉันเลอะไปหมด ฉันเลยไปหาเสื้อในตู้เสื้อผ้าของพี่ หวังว่าพี่จะไม่ถือสานะ ” เอลิซาเบธดึงเสื้อเชิ้ตนั้นขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นกางเกงสีขาวด้านในยิ่งเน้นให้ขาของหล่อนดูเรียวยาวมากขึ้นอีก
“ไม่ถือสาแน่นอน ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ” จูเลียจำเสื้อเชิ้ตที่อยู่บนร่างของหญิงสาวได้ นานแล้วที่หล่อนแอบเก็บเสื้อตัวนั้นเอาไว้ แต่เอลิซาเบธไม่เอะใจว่าทำไมมีเสื้อของผู้ชายอยู่ที่นี้ และจูเลียเองก็จะไม่พูดมันออกมาเช่นกัน