ตอนที่ 174 รางวัลที่ไม่คาดคิด
” เรื่องเล็กน้อย…อีกเรื่องหนึ่ง ? ” เอริคดึงสาวน้อยมาบนตัก หยิกแก้มเบาๆ ” มีปัญหาอะไรหรอ ? “
” มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันจะมีปัญหาอะไรล่ะ !” ดรูว์ปฏิเสธทันที ” เรื่องเป็นอย่างนี้ เพื่อซื้อลิขสิทธิ์หนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าฉันที่ต้องหาตัวแทนไว้หรอ “
” อ่อ ” เอริคเข้าใจทันที ” ในสัญญาคุณมีข้อเสนอให้กับฝ่ายตรงข้าม แล้วก็ทำไม่ได้ อีกทั้งข้อดีนั้นแน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวกับฉัน ใช่ไหม ? “
” เอริคคุณนี่ฉลาดมากจริงๆ !” หญิงสาวเข้ากอดเอริคด้วยสีหน้ายกย่องชื่นชม
” เอาล่ะ ไม่ต้องแสดงแล้ว พูดความจริงมา !” เอริค อดไม่ได้ที่จะขยี้หัวหญิงสาวอย่างหมั่นเขี้ยว
” จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไร ” หญิงสาว พยายามพูดกันเอริคไว้ก่อน ถึงจะพูดว่า ” ตอนที่ฉันหาตัวแทน มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ลอเรนซ์ เบนเดอร์ ยืนต่อแถวอยู่ข้างๆเพื่อนฉันพอดี เขาถือบทอยู่ เขาพูดว่าอยากให้ฉันเอามาให้คุณดูสักหน่อย พวกเขาหวังว่าคุณจะสนใจบทละครของพวกเขาบ้าง “
” พวกเขาติดต่อไม่ถึงฉัน และไปหาคุณเจอก็ไม่มีอะไรมากมาย อย่างนี้พอเข้าใจได้แล้ว แต่พวกเขาทำไมถึงอยากให้ฉันลงทุนล่ะ มีบริษัทหนังตั้งมากมาย อย่างแรกเลยอีกฝ่ายควรจะนึกถึง 7 บริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่สิ แม้ไม่ใช่ 7 ยักษ์ใหญ่ บริษัทระดับ 2 – 3 อื่นๆก็ควรจะนึกถึงก่อนเลย ? “
ดรูว์จับแขนเอริกยิ้มแล้วพูดว่า ” เพราะคุณมีเงินไง หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างก็เขียนข่าวว่าคุณได้ส่วนแบ่งหลายร้อยล้านดอลล่าร์จากหนังที่คุณทำนิ “
เอริคยักไหล่ ” คุณควรจะรู้ไว้ว่าส่วนแบ่งของ 《Home Alone》เหลือไม่มากแล้ว ส่วนแบ่งของ《Pretty Woman 》ก็เหมือนเอื้อมถึง ถ้าอยากซื้อบริษัทภาพยนตร์ที่มีรายการทีวี ก็แน่นอนว่าต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก ส่วนแบ่งของ《Running Out of Time》ยังต้องเก็บไว้ มันไม่สามารถนำมาใช้จ่ายได้ อีกทั้งต้องเก็บไว้จ่ายภาษีปีหน้า แต่ฉันต้องจ่ายภาษีทั้งหมด 35% ที่จริงแล้วฉันก็ไม่ได้มีเงินสดมากนักหรอก เห้อ ฉันเพิ่งจะพบว่าจากปีที่แล้วจนถึงช่วง 1 ปีนี้ สูญเปล่าเงินสักนิดก็ไม่มีเก็บแล้ว “
หญิงสาวตบบ่า ” วางใจเถอะ ท่านเศรษฐีเงินล้าน ถ้าคุณไม่มีเงินฉันจะรับเลี้ยงคุณเอง “
” ชีวิตนี้มีผู้หญิงมาพูดกับฉันอย่างนี้ก็พอแล้ว ” เอริคหัวเราะออกมา ” เอาเถอะ พูดหัวข้อของคุณต่อ เด็กหนุ่มนั่นชื่ออะไรนะ ? “
” ลอเรนซ์ เบนเดอร์ ด้วยเหตุผลที่เขาอยากให้คุณลงทุน ฉันรู้สึกว่าเพราะพวกเขาสองคนยังวัยรุ่นอยู่เลย และบทก็ไม่เลวเท่าไหร่ บริษัทภาพยนตร์พวกนั้นย่อมไม่ให้ความสนใจที่จะลงทุนสร้างหนังให้พวกเขา แต่หนังทั่วๆไปแบบนี้ การลงทุนขั้นต่ำก็ต้องใช้เงินประมาณ 10 ล้าน ที่นี่คุณเข้าใจรึยังล่ะ “
” หลังจากนั้นคุณก็ตกลง ต่อมาก็ให้เขาเป็นตัวแทนของคุณ….แล้วเขามีความสามารถพอที่จะเป็นตัวแทนของคุณได้งั้นหรอ ? ” เอริคก็คิดมาถึงปัญหาข้อหนึ่ง
” เด็กหนุ่มนั่นฉลาด เขาร่วมกับเพื่อนเขาเปิดบริษัทภาพยนตร์ด้วยกันแล้ว คุณก็รู้นิ ว่าการจะเปิดบริษัทได้อย่างน้อยๆ ก็ต้องจ่ายเงินค่าจดทะเบียนบริษัท มันก็คือเงินจำนวนหนึ่งเลย บริษัทหนังอย่างนี้ในฮอลลีวูดนั้นมีจำนวนเยอะมาก แถมเมื่อปีก่อนเขายังสร้างหนังเรื่องหนึ่งที่ใช้ต้นทุนต่ำมากๆ เขาควบคุมการสร้างด้วยตัวเอง เพื่อนอีกคนนั้นเป็นผู้กำกับแล้วก็คนเขียนบทด้วย แต่หลังจากสร้างเสร็จได้ไม่นานที่บริษัทของพวกเขาก็เกิดเหตุการ์ณไฟไหม้ซะก่อน ทำให้พวกบทละครหรือพวกแผ่นภาพนั้นถูกเผาไปหมด เสียหายไม่น้อยเลย “
” น่าเสียดายจริงๆ ลอเรนซ์ เบนเดอร์คือ….เอ่อ สักครู่นะ ลอเรนซ์ เบนเดอร์ ? ” เอริคที่ได้ยินชื่อของอีกคนก็เสียงสูงขึ้นมาทันที
” อื่อ ? ” ดรูว์พยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อ
เอริค มองหน้าดรูว์ จากนั้นเขาชี้ไปที่โต๊ะชา ” คุณสะกดชื่อของเขาให้ฉันหน่อยสิ ? “
ดรูว์แม้ว่าจะเบลอๆ แต่ก็ยังเดินไปข้างๆโต๊ะชา ยื่นมือจิ้มน้ำในแก้วชานิดหน่อย คิดสักครู่ ถึงจะเขียนลงบนโต๊ะชาสองคำ ” น่าจะ…น่าจะสะกดอย่างนี้แหละ ? ” หลังจากเขียนเสร็จ หญิงสาวหันกลับไป ถามเอริกอย่างไม่มั่นใจ
เอริค เริกหน้าผาก เปลี่ยน O ในชื่อ Leorence เป็น W Lawrence ในเวลาเดียวกันนั้นทำท่าเขกหัวหญิงสาวอย่างน่ารักๆ ” ฉันล่ะอยากรู้จริงๆอยู่ในโรงเรียนคุณทำอะไรบ้าง ชื่อง่ายๆอย่างนี้ยังสะกดไม่เป็น ฉันส่งเงินไปช่วยโรงเรียนคุณตั้งเท่าไหร่ ยังไม่เคยเห็นใบคะแนนของคุณเลยเนี่ย ครั้งหน้าเอามาให้ฉันดูด้วยนะ “
” เหอะเหอะ อย่างนั้นก็ไม่ต้องอ่านแล้วใช่ไหม ? ” หญิงสาวยิ้มมุมปาก วางมือลงบนโต๊ะชา เตรียมจะลบทิ้งได้ตลอดเวลา
แต่เอริคไม่ได้คาดคั้นอีก เขามองชื่อบนโต๊ะชา นึกชื่อคนที่เหมือนกันทั้งหมด ขณะที่ ดรูว์พูดต่อไป เอริกนั้นไม่ได้ตอบกลับ หลักๆเลยเพราะชีวิตก่อนตอนอ่านชื่อภาษาอังกฤษ ปกติแล้วจะแปลชื่อออกมาเป็นเสียงภาษาจีน อีกทั้งสำเนียงของดรูว์ไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษที่เอริคเรียนในชีวิตก่อนเลย เอริคก็เลยคิดชื่อนี้ในความทรงจำไม่ออก
” ดรูว์ เพื่อนของลอเรนซ์ เบนเดอร์คนนั้นชื่ออะไรนะ ? ” เอริคถามอีก
หญิงสาวเกาหัว คิดอยู่สักครู่ ” เหมือนว่าชื่อ…บางที…ชื่ออะไรเควนซ์ ทาเรนติโน่เนี่ยแหละ ” พูดจบ ดรูว์เห็นท่าทางเอริคชัดเจนขึ้นหน่อย ถึงถามว่า ” เอริคคุณไม่รู้จักพวกเขาหรอ ? “
เอริคตัดสินใจ ไม่ให้หญิงสาวเห็นท่าทางที่ผิดปกติไปมากกว่านี้ เขารีบหาข้ออ้าง แล้วพยักหน้ารับคำอีกฝ่ายทันที ” เคยได้ยิน ฉันก็กำลังจะพูดตอนที่คุณพูดชื่อเขาอยู่พอดี รู้สึกเหมือนเคยเจอมาก่อน มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว ที่ 2 คนนี้ซวย ถ่ายหนังด้วยกันจนเสร็จ ผลลัพธ์คือถ่ายเสร็จแล้วฟิลม์ทั้งหมดก็ถูกไฟไหม้ไป “
จริงๆแล้วเอริคไม่เคยคุยกับสองคนนี้ เขาจึงพูดผ่านๆไป ดังนั้นเขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะสงสัยอะไรเพิ่ม
ดรูว์ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเอริค เธอก็เชื่อแล้ว
” อย่างนั้น คุณจะบอกว่า พวกเขาอยากให้ฉันลงทุนในหนังของพวกเขา พวกเขาให้บทคุณมาแล้วเหรอ ? ” เอริคถาม
ดรูว์ส่ายหน้า ” ไม่มี….ฉันไม่มี ตอนแรกฉันคิดว่าจะมาคุยเรื่องนี้กับคุณก่อน ถ้าคุณไม่ตกลง ฉันก็จะได้บอกพวกเขาไป “
” อย่างนี้ไม่ดี ถ้าทำสัญญาแล้วก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แน่นอนว่าพวกเราต้องสร้างหนังอย่างมืออาชีพ แม้ว่าพวกเขาจะมีแค่สองคน แต่คุณก็ตอบตกลงเรื่องของพวกเขาไปแล้ว แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีผลกระทบตามมานิดหน่อย ” เอริคนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง คิดแล้วพูดว่า ” ถ้างั้นก็เป็นพรุ่งนี้แล้วกัน เดี่ยวพรุ่งนี้ตอนกลางวัน คุณพาพวกเขาไปที่โรงถ่ายของ 《Friends》ใช้เวลาช่วงพักกลางวัน ให้พวกเขาเอาบทมาให้ฉันดูหน่อยก็แล้วกันนะ? “
” เอริคถ้าทำอย่างนั้นจะไม่ยุ่งยากเหรอ คุณจะพบพวกเขาเพื่ออะไร ฉันรู้สึกว่านั้นมันเสียเวลาเปล่าอีกอย่าง…เคว….เควนซ์ ทาเรนติโน่เพิ่งจะอายุ 20 กว่าๆเอง เขาจะเขียนบทดีๆได้ยังไง นักเขียนบทที่มีชื่อเสียงของฮอลลีวูด มีคนไหนที่อายุไม่ถึง 30-40 บ้าง ก็ไม่มีถูกไหม ฉันจะเอาบทมาให้คุณก็แล้วกัน ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องไปเจออะไรกับพวกเขาสักหน่อยนี่หน่า ? “
เอริคหัวเราะ ” คุณลืมแล้วเหรอ ฉันก็ยังไม่ถึง 20 นะ ? “
” ฮ่าๆ ฉันรู้สึกว่าคุณอย่างน้อยก็ 40 ปีแล้ว ” หญิงสาวอยู่ข้างๆเอริก พูดอย่างที่เธอรู้สึกสัญชาตญาณของเธอมันบอกเธอแบบนี้!
เอริคลูบหัวหญิงสาว แต่ก็รู้สึกโล่งใจ หญิงสาวมีไหวพริบดีอย่างนี้ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งพบว่าจริงๆแล้วเขาควรจะมีอายุมากแค่ไหน คำถามของเธอก็ไม่แปลกอะไร ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่หลายคนก็รู้ดี
” ตกลง เอาอย่างนี้แหละ พรุ่งนี้พาพวกเขามา แต่ก็อย่ามาสายล่ะ คุณก็รู้ว่าฉันยุ่งมาก “
” อื้ม ” ดรูว์ตอบ ทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยอ้อนเอริคทันที ” อย่างนั้น เอริคฉันทำเรื่องนี้เสร็จแล้ว มีรางวัลไหม ? “
เอริคตบหลังหญิงสาวเบาๆ ” มีสิ ฉันจะช่วยคุณทำบริษัทหนังหนึ่งแห่ง แต่คุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ ดังนั้นช่วงนี้ก็ใส่ชื่อฉันไปก่อน รอคุณครบ 18 ปีเต็มค่อยโอนไปเป็นของคุณ แล้วก็ซื้อลิขสิทธิ์ 《An Affair to Remember》ก็ใส่ชื่อบริษัทนี้ลงไป “
” ว้าว รีบบอกมาเร็ว ชื่ออะไร ? ” หญิงสาวตาเป็นประกาย ถามอย่างตื่นเต้น”
” Flower – Films “
หญิงสาวตกใจนิดหน่อย ก็เบ้ปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า ” Flower – Films ชื่อแปลกมาก เปลี่ยนได้ไหม ? “
แปลก ?
เอริคมองหน้าสาว แต่นี่มันชื่อที่ชีวิตก่อนเธอตั้งเองนะ ” แปลกยังไงล่ะ คุณลองบอกให้ฉันฟังหน่อยซิ ? “
ดรูว์ซบลงบนอกของเอริก คิดอยู่สักพักถึงจะเงยหน้าอย่างหดหู่ ด้านการตั้งชื่อหญิงสาวไม่ถนัดเลย ” งั้นก็…ชื่อนี้ไปก่อน “
เอริคหุบยิ้มลูบหัวหญิงสาว ” เอาล่ะ ดึกมากแล้ว นอนเถอะ “
หญิงสาวดึงแขนเอริคให้ยืนขึ้น ” ไม่ๆๆ อย่ารีบสิ เอริค ปิดซัมเมอร์ยังอีกตั้ง 1 เดือนนะ ให้ฉันทำเรื่องนี่ให้เสร็จก่อน พวก ซื้อลิขสิทธิ์หนังอะไรๆก่อนนะ ? “
” อื้ม…ให้ฉันคิดดูก่อน พรุ่งนี้จะจัดรายการให้ ตอนนี้นอนก่อนเถอะ ” เอริคกล่าว
” ไม่ต้องจัดการให้ฉัน พรุ่งนี้ฉันจะทำเอง !” หญิงสาวยืนกราน
” ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้ฉันให้เธอแน่ ” เอริคพูดจบลุกขึ้นเดินไปทางลิฟต์ ยังไม่ไปห้องนอน แต่เดินเข้าไปในห้องหนังสือ เห็นหญิงสาวตามมา เอริคพูด ” อย่ามารบกวนฉัน เธอนอนไปก่อนเลย อดนอนบ่อยๆระวังไม่ถึง 30 ก็กลายเป็นยัยป้าน่าเกลียดหรอก “
” ห๊ะ !” หญิงสาวขมวดคิ้ว รีบเดินกลับเข้าห้องนอน
โต๊ะหนังสือทางซ้าย เอริครีบหาสมุดโน้ต หยิบปากกาขึ้นมา คิดถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ปากก็อมยิ้ม เขาคิดถึงในชีวิตก่อน คนที่ถูกเรียกว่า ผู้กำกับ ‘สุดยอดความสามารถ’ เควนซ์ ทาเรนติโน่ก็เริ่มโผล่ขึ้นมา ลอเรนซ์ เบนเดอร์ แม้ว่าไม่มีชื่อเสียงของเควนซ์ แต่ทั้งสองคนก็เข้ากันดี ซีรีย์หนังของเควนซ์ นั้นลอนเรนซ์ เบนเดอร์เป็นคนสร้างทั้งหมด
แต่ถ้าตัวเขาเองมีประสิทธิภาพที่จะทำให้ทั้งสองคน 2 มีชื่อเสียงขึ้นมา อย่างนั้น ไม่รู้ว่าภาพยนต์ในชีวิตก่อนเรื่อง 《Reservoir Dogs》และ 《Pulp Fiction》จะปรากฏขึ้นมา หรือเกิดผลกระทบ บางทีเขาอาจจะแค่จำผิด เควนซ์ก็พลาดหนังสองเรื่องนี้ได้เลย ในตอนนั้นเอง เอริคก็อยากรู้ว่าบทที่ควนซ์จะเอามาในวันพรุ่งนี้ คือเรื่องอะไร