ตอนที่ 212 ตกลงตามนี้นะ
” วิลเลี่ยม คุณนี่เผด็จการจริงๆเลยนะ “ หลังจากที่นิโคลออกไปแล้วเสียงของเอลิซาเบธที่ยืนอยู่ด้านข้างเอริคก็ดังขึ้น
เอริคหันกลับมาพร้อมกับจ้องมองไปที่หน้ารูปไข่ของเอลิซาเบธพร้อมกับยักไหล่แล้วกล่าวว่า “ นี่เป็นเพียงแค่บทลงโทษเล็กๆสําหรับผู้หญิงที่ชอบเล่นตุกติก จากสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้บอกกับพวกเราแล้วว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ต้องมี ว่าแต่ทําไมวันนี้ถึงพูดจาด้วยน้ําเสียงแปลกๆกับฉันหล่ะ ? มันทําให้ฉันเจ็บปวดมากเลยรู้ไหม หรือว่าเธอลืมช่วงเวลาที่สวยงามที่เกิดขึ้นในเวนิสไปหมดแล้ว ? ?
เอลิซาเบธคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนทําให้ใบหน้าของหล่อนร้อนผ่าวขึ้นมา ทว่าริมฝีปากบางของหล่อนยังคงแสร้งหัวเราะออกมาก่อนที่จะพูดเย้ายวนด้วยคําพูดที่เร่าร้อนว่า “เอ๊ะ หรือว่าคุณก็อยากจะลงโทษฉัน คุณวิลเลี่ยม ? ”
เอริคใช้มือของตนเองลูบคางเบาๆพร้อมกับคิดอะไรบางอย่างก่อนที่จะกล่าวว่า “ หรือ บางที…ผมอาจจะเพิ่มเงื่อนไขซีรี่ย์เรื่อง Friends ให้มากขึ้น แล้วนําไปบอกกับเมอร์ ด็อกอีกครั้ง ว่านี่เป็นบทลงโทษของผมที่มีไว้สําหรับเอลิซาเบธดีล่ะ”
ทันทีที่ได้ฟังเช่นนั้นเอลิซาเบธก็ใบหน้าบูดบึงขึ้นมาในทันทีพร้อมกับใช้ดวงตาที่สวยงามของหล่อนจ้องไปที่เอริคก่อนจะนึกถึงสิ่งที่พ่อของหล่อนฝากไว้ก่อนหน้านี้ หากหล่อนถูกปิดวงเงินในบัตรเครดิตของเธออีกครั้งหล่ะก็…หากเอริคทําอย่างที่เขาพูดนั่นก็หมายความว่าบัตรเครดิตของหล่อนก็คงจะถูกปิดวงเงินจนไม่สามารถใช้งานได้อีก
เมื่อคิดเช่นนั้นหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดปนกับโมโหขึ้นมา หล่อนกัดฟันกรอดก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เอริค วิลเลี่ยม คุณมันคนเฮงซวย ! ”
คําพูดของเอริคที่พูดออกไปก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะทําให้หญิงสาวโกรธถึงเพียงนี้ เขาเพียงแค่อยากจะแหย่หญิงสาวเท่านั้น ทว่าคําพูดเชิงล้อเล่นของเขากลับทําให้หญิงสาวมีปฏิกิริยา โต้ตอบกลับที่รุนแรงและจริงจังเกินความคาดหมายของเขาอย่างมากเห็นเช่นนั้นเขาจึงรีบอธิบาย ออกไปในทันทีว่า “อย่าโกรธฉันเลยนะลิซ ฉันก็แค่ล้อเล่นแค่นั้นเอง”
หญิงสาวทําท่าหมุนตัวกลับเพื่อจะเดินหนีไปแต่ว่าเท้าของหล่อนกลับไม่ได้ขยับไปตามตัวของหล่อน ในเวลานี้ถึงแม้ว่าจะได้ยินคําอธิบายของเอริคแล้วแต่ว่าบนใบหน้ารูปไข่ของหล่อนกลับยัง แสดงสีหน้าไม่พอใจเช่นเดิม เพียงครู่หนึ่งก่อนที่หล่อนจะก้าวเดินออกไปหล่อนก็เอ่ยถามออกมาด้วยน้ําเสียงเรียบว่า “คุณวิลเลี่ยม พ่อของฉันให้ฉันมาเชิญคุณไปพบไม่แน่ใจว่าคุณจะมีเวลาว่างให้กับท่านหรือเปล่า ? ”
“แน่นอนสิ เธอจะพาผมไปหรือเปล่า ? ”
เอลิซาเบธยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าพร้อมกับหันตัวกลับไปเพื่อเดินตรงไปยังลิฟต์ เมื่อเห็นว่าเอลิซาเบธอารมณ์ดีขึ้นแล้วเอริคก็เดินตามหล่อนไปที่ลิฟต์ในทันที
เมื่อมาถึงห้องห้องหนึ่งที่อยู่บนชั้นสอง เอลิซาเบธก็เคาะประตูก่อนที่ประตูนั้นจะถูกเปิดออกหล่อนผายมือออกเพื่อเป็นการเชิญเอริคให้เข้าไปในห้อง
เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านใน เอริคก็กวาดสายตามองไปรอบๆห้องก่อนจะพิจารณาสิ่งที่อยู่ภายในห้องอย่างรวดเร็ว ภายในห้องแห่งนี้มีห้องรับแขกที่ถูกจัดแต่งขึ้นแบบเรียบง่ายๆ มีชั้นวางหนังสือและโซฟา 2-3 ตัวสําหรับรับรองแขก พร้อมกับโต๊ะกาแฟที่ถูกจัดวางไว้ที่ตรงกลางเพื่อง่ายต่อการใช้งาน ในตอนนี้มีเพียงเมอร์ด็อกที่กําลังนั่งรอเขาอยู่โดยปราศจากการปรากฏตัวของ แบร์รี่ ดิลเลอร์ในเวลานี้
” เอริค นั่งลงก่อนสิ ” เมื่อเห็นเอริคเดินเข้ามาแล้ว เมอร์ด็อกก็รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับยิ้มแล้วเชิญให้เอริคนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามของเขา ก่อนที่จะเอ่ยปากสั่งเอลิซาเบธว่า “ ลิซ เอากาแฟ มาเสริฟแขกหน่อยสิ ”
หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้าก่อนที่จะเดินไปด้านข้างเพื่อจัดการตามที่พ่อของ หล่อนสั่งในทันที
เอริคเห็นเมอร์ด็อกยิ้มพลางมองหลังของลูกสาวที่กําลังทํากาแฟไปพลาง อลิซาเบธในเวลานี้สวมใส่ชุดเดรสเปิดไหล่สีแดงซึ่งโดดเด่นพอที่จะขับให้ผิวพรรณและรูปร่างที่สวยงามของหล่อนสะดุดตามากขึ้น
” เอริค ปีนี้นายอายุ 19 ปีแล้วสินะ ? ” เมอร์ด็อกเอ่ยถามขึ้น
เอริคพยักหน้าตอบรับ วันเกิดของเขาคือวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งในวันที่เขาอายุครบ 19 ปี บริบูรณ์นั้นเป็นช่วงเวลาที่เขากําลังถ่ายทําภาพยนตร์เรื่อง The Dark War พอดิบพอดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีการจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ใดๆ เพียงแต่มีการรับประทานอาหารร่วมกันกับคนใกล้ชิดเท่า
” ลิซเองก็อายุมากกว่านายแค่ 2 ปีเท่านั้น จนถึงตอนนี้ฉันยังจําลิซตอนเด็กๆได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะ แต่น่าเสียดายนะที่ฉันเอาแต่ยุ่งจนไม่มีเวลาที่จะใกล้ชิดกับลูกสาวเหมือนแต่ก่อน ดูเหมือนว่าเด็กตัวเล็กๆที่อยู่กับฉันจะเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่น่าเสียดายที่นิสัยของเธอยังเป็นเหมือนกับเด็กน้อยอยู่เลย ”
” พ่อค่ะ หนูเหมือนกับเด็กตรงไหนกัน !” เมื่อได้ยินในสิ่งที่พ่อของหล่อนพูด เอลิซาเบธก็รีบหันกลับมาค้าน พร้อมกับยกแก้วกาแฟสองใบมาเสริฟให้กับเอริคและเมอร์ด็อกที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ก่อนที่จะเธอจะเลื่อนตัวไปนั่งข้างๆเมอร์ด็อก ก่อนหน้านี้หล่อนเพียงแค่จะพาเอริคมาพบกับพ่อของหล่อนตามที่พ่อของหล่อนสั่งไว้เท่านั้น ทว่าเมอร์ ด็อกได้สั่งหล่อนไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าให้หล่อนอยู่ด้วยขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกัน ถึงแม้ว่าเอลิซาเบธชอบที่จะทําอะไรร่วมกับพ่อของหล่อน แต่ในเวลาที่เมอร์ด็อกโกรธแม้แต่ตัวหล่อนเองก็ไม่กล้าที่จะขัดคําสั่ง
เมอร์ด็อกหัวเราะออกมาก่อนที่จะพูดกับเอริคว่า “ ดูสิ แค่นี้ก็เถียงขึ้นมาแล้ว จะไม่ให้บอกว่าเหมือนกับเด็กได้ยังไงกันว่าไหม ? ”
เอริคจึงหัวเราะตามอย่างเป็นมารยาทออกมา การกระทําของเมอร์ดอกในตอนนี้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างผ่านคําพูดของเขา ทว่าสําหรับเอริคแล้วเขาไม่ได้คิดอยากจะแต่งงานกับ เจ้าหญิง” อย่างหล่อน เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงๆเขาคงจะหาความสุขไม่ได้อย่างแน่นอน
ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกมาเมอร์ด็อกก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “ เอริคหนังเรื่องSleepless in Seattle ใกล้จะฉายแล้วใช่ไหม ? ”
“ถือเป็นคําถามที่ดี” เอริคนึกขึ้นมาในใจ ก่อนที่จะรีบตอบกลับไปว่า “ใช่แล้ว ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็จะฉายแล้ว นี่ก็เดือนกันยายนแล้วด้วย ผมอยากจะจัดการหนังเรื่อง Sleepless in Seattle และ Little devil ให้เรียบร้อย เวลาในตอนนี้ค่อนข้างกระชั้นชิด ซึ่งดูเหมือนว่าอาจจะต้องถ่ายทํา และเผยแพร่ออกมาในเวลาเดียวกันเลย “
เมอร์ด็อกพูดแบบสบายๆด้วยน้ําเสียงที่มีเสน่ห์ว่า “ จริงๆแล้วฉันเองก็ค่อนข้างจะมีความรู้เกี่ยวกับการผลิตภาพยนตร์นะ แต่ว่าน้อยมากที่จะได้เห็นการผลิตภาพยนตร์ที่มีความรวดเร็วแบบ ที่นายทําเป็นเพราะแบบนี้ฉันถึงอยากไปดูการผลิตภาพยนตร์ของนายอย่างมากเลยล่ะ “
แม้ว่าในคําพูดนั้นจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้เอริคก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี กับคําชื่นชมนั้นก่อนจะหัวเราะพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ฮ่าๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ยินดีที่จะให้คุณเมอร์ด็อกมาเยี่ยมชมที่กองถ่ายภาพยนตร์ของเรา “
“ เกรงว่าจะไม่ได้น่ะสิ” เมอร์ด็อกกล่าวออกมาพร้อมกับแสดงท่าทางเสียดายออกมา “ ฉัน ยุ่งมากคงไม่มีเวลาไปหรอกว่าแต่ถ้าเป็นลิซหล่ะจะเป็นอะไรไหมถ้าจะให้เธอไปแทนฉัน ? ”
” อืม…ห้ะ?? ” เอริคเกิดอาการมึนงงขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินเมอร์ด็อกพูดวนกลับไปที่เอลิซาเบธอีกครั้ง
เมอร์ด็อกตอบกลับอย่างไม่รีบร้อนว่า ” คือแบบนี้นะเอริค หลักสูตรในมหาลัยของลิซตอนนี้ เสร็จสมบูรณ์แล้วและเธอเองก็อยู่ในช่วงที่ต้องฝึกงานพอดี นายเองก็น่าจะรู้ว่าลิซเรียนมหาลัยสาขาเฉพาะทางมา ให้เธอไปเป็นผู้ช่วยในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Sleepless in Seattle ได้หรือเปล่า ฉันคิดว่าถ้าเธอได้ไปอยู่ในนั้นเด็กคนนี้จะได้ฝึกฝนความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่ภายใต้การดูแลที่มีประสิทธิภาพและโดดเด่นของนาย “
ทันใดนั้นเอริคก็เกิดอาการอยากจะต่อว่าแม่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าของเขาในทันที ที่แท้หล่อนเองก็กําลังนั่งรอเพื่อสิ่งๆนี้อยู่นี่เอง เขามองไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้างเมอร์ด็อกที่กําลังนั่งก้มหน้าพร้อมกับเขี่ยเล็บของตัวเองเบาๆ ราวกับลูกสาวที่ต้องเชื่อฟังการตัดสินใจของพ่อแม่อย่างจําใจ
” คุณเมอร์ด็อกกองถ่ายของเราต้องเดินทางไปนิวยอร์ก ซีแอตเทิลและชิคาโกถึงสามที่ การที่จะมาเป็นผู้ช่วยผู้กํากับถือเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและน่าเบื่อ ผมคิดว่าเอลิซาเบธคงไม่สามารถรับความลําบากเช่นนี้ได้แน่ๆ ”
ทันทีที่เอริคกล่าวปฏิเสธออกมา เอลิซาเบธที่กําลังก้มหน้าก้มตาไม่อยากได้ยินคําพูดของเอริคก็รีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่เขาด้วยสีหน้าไม่พอใจก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า” คุณแน่ใจ ได้ยังไงว่าฉันจะทําไม่ได้ ? นี่คุณดูถูกผู้หญิงอย่างนั้นหรอ ? ”
” เอ่อ…”
เมอร์ด็อกที่เห็นสีหน้าตกตะลึงของเอริคหลังจากได้ยินคําพูดของลูกสาวตัวเองก็หัวเราะออกมาในทันที “ ฮ่าๆๆๆ เห็นไหมฉันบอกนายแล้ว งั้นเอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะ “
” ตกลงอะไรเนี่ย ?!? เอริคนึกในใจพร้อมกับทําท่าจะพูดปฏิเสธออกมาอีกครั้ง แต่ว่าเมอร์ดอกกลับไม่เปิดโอกาสให้เขาได้กล่าวอะไรออกมาหลังจากนั้น เขาตบไปที่ไหล่ของลูกสาวเบาๆก่อนจะกล่าวว่า “ ลิซ ลูกออกไปก่อน พ่อมีเรื่องอยากจะคุยกับเอริคเป็นการส่วนตัว ”
เอลิซาเบธพยักหน้าพร้อมกับมองเอริคอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป