I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี – ตอนที่ 211

ตอนที่ 211

ตอนที่ 211 – เอาชนะตนเอง

1 เอาชนะตนเอง

รูเพิร์ต เมอร์ดอกที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปี แต่ถึงแม้ว่าอายุของเขาจะไม่ได้น้อยๆแล้วตัวเลขก็ไม่สามารถทําให้เห็นริ้วรอยบนใบหน้าของเขาได้เลย การพบกันครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับเอริค อย่างมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้เรื่องอื้อฉาวที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นจะเกิดขึ้นเพราะเขาและดูเหมือนว่าเป็นเพราะข่าวอื้อฉาวของเขาจึงทําให้การเจอหน้ากันของฝ่ายตรงข้ามเกิดความอึดอัดใจขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในเวลานี้เมอร์ด็อกดูมีชีวิตชีวาอย่างมากเส้นผมที่มีอยู่ไม่มากถูกหวีจัดทรงจนเรียบ ใบหน้าของเขามีแว่นไร้กรอบประดับอยู่รวมไปถึงรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ตรงมุมปากของเขา

เมื่อเอริคมองไปที่หน้าเมอร์ด็อกเขาก็สังเกตเห็นว่าเมอร์ด็อกเองก็กําลังจับจ้องมาที่เขาพร้อมกับกําลังคาดเดาอายุของเขาในใจ ทั้งคู่ใช้เวลาสบตากันเพียงไม่กี่วินาทีต่างก็รีบยื่นมือออกมาเพื่อทักทายกันอย่างเป็นทางการ

“ สวัสดีคุณเมอร์ด็อกผมเอริค วิลเลียม ” แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนตรงข้ามจะเคยเห็นเขาจาก สื่อก่อนหน้านี้แล้วแต่เอริคก็ยังเลือกที่จะแนะนําตัวเองอีกครั้งเพื่อเป็นไปตามมารยาททางสังคมในการเจอกันครั้งแรก

“สวัสดีเอริค ” เมอร์ด็อกและเอริคจับมือกันเพื่อเป็นการทักทายก่อนที่เมอร์ดอกจะหันไปหาอนิสตันพร้อมกับกล่าวว่า “ และแน่นอนว่าคุณคือเจนนิเฟอร์ อนิสตันคนสวย ผมเคยเห็นคุณแสดงอยู่ในซีรี่ย์เรื่อง Friends ยอดเยี่ยมมากจริงๆ”

อนิสตันที่ถูกชมต่อหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองเป็นครั้งแรกก็เผลอแสดงท่าทางเขินอายออกมาเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกไปทักทายกับอีกฝ่ายพร้อมกับกล่าวว่า “ ขอบคุณค่ะคุณเมอร์ด็อก”

ในตอนที่เอริคและอนิสตันกําลังกล่าวทักทายแบร์รี่ ดิลเลอร์อยู่นั้นเมอร์ดอกก็หันไปมองลูกสาวของตนเอง

ในเวลานั้นเอลิซาเบธจ้องมองไปที่หนุ่มสาวที่ดูสนิทสนมกันตรงหน้า จนทําให้หล่อนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆขึ้นมา จนทําให้หล่อนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากกับภาพที่เห็น

เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็สามารถหาเหตุผลที่ตัวเองรู้สึกในตอนนี้ได้ในเวลานี้หล่อนรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ยุติธรรมสําหรับจูเลียเพราะไม่กี่วันก่อนบนเครื่องบิน หล่อนเห็นกับตาตัวเองว่าเอริคนอนอยู่บนตักของจูเลียอย่างสบายใจ หลังจากที่ชายหนุ่มลุกขึ้นจากการนอนหลับ ขาทั้งคู่ของจูเลียก็เกิดอาการเหน็บชาขึ้นมาจนหล่อนต้องนั่งทนหลายนาทีกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมจูเลียดีกับเขา ขนาดนั้นทว่าเมื่อเขากลับมาลอสแองเจลิสเพียงไม่กี่วันหล่อนก็ไม่เห็นเอริคติดต่อไปหาจูเลียอีก เลย ยิ่งในตอนนี้หล่อนกลับต้องมาเจอเขาอยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวอีกคนจึงทําให้หล่อนอดไม่ได้ที่ จะนึกว่าเขาออกมา

ลอสแองเจลิสเพียงนาทีกว่าจะกลับรนอนหลับ ขาทั้งเอริคนอนอยู่

“ เฮ้ ลิซ วันนี้เธอสวยมากเลยนะ ” หลังจากที่เอริคและแบร์รี่ ดิลเลอร์ทักทายกันจบแล้ว พวกเขาก็หันกลับมาหาเอลิซาเบธ

” สวัสดีค่ะคุณวิลเลี่ยม “ เอลิซาเบธยื่นมือออกไปเพื่อทักทายเอริคด้วยท่าทีที่รักษาระยะห่างก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับทักทายหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเอริคว่า “ สวัสดีค่ะคุณอนิสตันฉันชื่อเอลิซาเบธ .. ว้าว ! ชุดของคุณสวยมากเลยนะคะ มาค่ะ ฉันจะพาคุณเข้าไปในงานนะคะ”

เอลิซาเบธพูดก่อนที่จะดึงอนิสตันเข้าไปด้านใน ก่อนที่จะส่งสายตาจ้องมองไปที่เอริค แม้ว่าเอริคจะรู้สึกว่าเอลิซาเบธพูดจาเสียมารยาทไปหน่อยเพราะหล่อนเลือกที่จะชื่นชมเสื้อผ้าของอนิสตันแทนที่จะชมหล่อน แต่ภายในงานเช่นนี้เขาก็ยังรู้สึกมั่นใจได้ว่าเอลิซาเบธคงจะสามารถรักษามารยาทและเก็บสิ่งที่ไม่ดีของหล่อนไว้ได้ ดังนั้นเขาจึงหันไปมองที่อนิสตันก่อนจะพยักหน้าให้กับหล่อนเพื่อให้หล่อนสบายใจ ก่อนที่หญิงสาวจะถูกเอลิซาเบธดึงเข้าไปอย่างเลี่ยงไม่

ท่าทางของลูกสาวที่แสดงให้เขาเห็นก่อนหน้านี้กับตอนนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง จนทําให้เมอร์ด็อกอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหขึ้นมาภายในใจ ทว่าเขาก็ทําได้เพียงข่มอารมณ์ของตนเองไว้

แม้ว่าเมอร์ดอกจะยุ่งกับหลายๆเรื่องแต่เขาก็ให้ความสําหรับกับลูกๆของเขาอยู่ไม่น้อย เพราะในตอนนี้เขาอายุใกล้จะ 60 ปีแล้ว แม้ว่าลูกๆของเขาจะไม่ได้เต็มใจที่จะสานต่องานของเขาเท่าไหร่นัก แต่พวกเขาก็ยังต้องเป็นผู้สืบทอดอาณาจักรสื่อของเขาต่อไปอยู่ดี เมื่อนําลูกสาวคนโตมาเทียบกับลูกชายคนเล็กอีกสองคนที่เหลือแล้วดูเหมือนว่าลูกสาวของเขาจะสามารถพึ่งพาได้มากกว่า เพราะความสามารถของเอลิซาเบธจัดได้ว่าโดดเด่นที่สุดในตอนที่หล่อนเรียนอยู่ในโรงเรียนอีกทั้งยังประสบความสําเร็จในการก่อตั้งสถานีเคเบิลทีวีท้องถิ่นขนาดเล็กอีกด้วยแต่นิสัยของเอลิซาเบธนั้นค่อนข้างที่จะดื้อรั้นและหยิ่งยโสไปหน่อยแต่ถึงหล่อนจะมีนิสัยเช่นนั้นแต่ก็มีหลายครั้งที่หล่อนช่วยเขาจัดการอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวของหล่อนเอง

เมื่อเห็นลูกสาวทักทายเอริคอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงแฟนสาวของเขาไปต่อหน้าต่อตา เมอร์ดอกจึงทําได้เพียงกล่าวกับเอริคว่า ” ต้องขอโทษด้วยนะเอริค ลิซยังเด็กหน่ะยังไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวสักเท่าไหร่พวกเราตามเข้าไปข้างในกันเถอะ ”

“ไม่เป็นไรหรอก คุณเมอร์ด็อก จริงๆแล้วผมค่อนข้างจะชอบนิสัยเปิดเผยของเอลิซาเบธที่เป็นแบบนี้ด้วยซ้ํา ” เอริคกล่าวออกมาด้วยความเกรงใจก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินเข้าไปในงานปาร์ตี้

ภายในวิลล่าแห่งนี้มีผู้คนมาเข้าร่วมกว่า 20 คนในตอนนี้ และดูเหมือนว่าจะมีคนทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนักแสดงและทีมงานของซีรี่ย์เรื่อง Friends แล้ว Fox ก็ได้เชิญดาราฮอลลีวูดมาเป็นจํานวนมากเช่นกัน

แม้ว่าช่วงไม่กี่วันนี้มานี้เมอร์ด็อกจะถูกเอริคเลื่อนจนทําให้เขารู้สึกร้อนรน แต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าเรื่องกับเอริคได้ในเวลานี้ ดังนั้นภายในวิลล่าเขาจึงไม่ได้พูดคุยกับเอริคมากเท่าไหร่นัก หลังจากที่ช่วงเวลาปาร์ตี้ได้เริ่มต้นขึ้น เมอร์ด็อกและแบร์รี่ ดิลเลอร์ก็แยกตัวออกไปทักทายกับ แขกคนอื่นๆต่อ

เอริคใช้ช่วงเวลานี้กวาดตามองไปที่กลุ่มคนรอบๆเขา เพียงครู่เดียวเขาก็มองเห็นเงาของอนิสตันในกลุ่มของหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง ทันทีที่เขาเห็นสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงขึ้นมา ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเพราะเหตุใดเอลิซาเบธจึงดึงอนิสตันไปกันหล่อน ที่แท้เป็นเพราะความตั้งใจของหล่อนนั่นเอง ภายในกลุ่มของหญิงสาวเหล่านั้นเอริคเห็นว่านอกจากหล่อนแล้วยังมีจูเลียโรเบิร์ตบรุ๊คกาเบรียล รวมถึงนิโคล คิดแมนก็อยู่ในนั้นด้วย

เมื่อมองให้ละเอียดอีกครั้งเขาก็เห็นว่าดรูว์เองก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ! เอ๊ะ… ไม่ใช่ว่าหล่อนอยู่โรงเรียนประจําตอนนี้หรอกเหรอ ?

เมื่อเห็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก เอริคก็รีบหันตัวกลับเพื่อที่จะเดินออกไปให้ไกลจากกลุ่มเหล่านั้นในทันที แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าเงาของเขาจะไม่พ้นสายตาของนิโคลที่ยืนอยู่ในกลุ่มนั้น

เพียงครู่เดียว หญิงสาวที่สวมใส่กระโปรงสีดําทรงดินสอพร้อมกับรองเท้าส้นสูงก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านข้างของเอริคในทันที

” ว่าไงเอริค ” หญิงสาวก้าวเข้ามาแนบชิดเอริคจนเหลือช่องว่างไม่ถึง 30 เซนติเมตร พร้อมกับไวน์แดงในมือของหล่อน ตามปกติแล้วคนที่มีความสนิทสนมกันจะอยู่ใกล้ชิดกันภายในระยะ 45 เซนติเมตร หากเป็นเพื่อนกันจะต้องทิ้งระยะห่างมากกว่า 45 เซนติเมตรดูเหมือนว่าหญิงสาว คนนี้คงจะไม่รู้ถึงทฤษฎีนี้ดังนั้นหล่อนจึงได้เข้ามาใกล้ตัวเขามากขนาดนี้ซึ่งจากท่าทางของหล่อน ในตอนนี้ทําให้คนจํานวนมากต่างพากันจับจ้องมองมาที่พวกเขาด้วยความสนใจในทันที

และแน่นอนว่าเอริคเองก็ไม่รู้ถึงทฤษฎี 45 เซนติเมตรเหล่านั้นเช่นกัน ทว่าเขาก็รับรู้ได้ว่าระยะประชิดของเขาและหล่อนในตอนนี้สร้างความอึดอัดอยู่ไม่น้อย เขาจึงก้าวถอยออกไปก่อนจะถามขึ้นว่า “ นิโคล ทําไมถึงมาอยู่ในงานนี้ได้หล่ะ ?”

เมื่อเห็นท่าทางของเอริคที่ถอยห่างออกไป นิโคลก็แสดงอาการขุ่นเคืองขึ้นมาเล็กน้อยแต่หล่อนก็ยังคงยืนอยู่ในจุดเดิม ก่อนจะกล่าวว่า “ ฉันก็เป็นชาวออสเตรเลียนะ ”

ทันใดนั้นเอริคก็นึกถึงความทรงจําของฮอลลีวูดและออสเตรเลียขึ้นมาได้ กล่าวกันว่ากลุ่มออสเตรเลียนั้นก็เป็นกลุ่มเล็กๆที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับฮอลลีวูด ทว่าในตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ซึ่งกลุ่มออสเตรเลียคงยังไม่มีเงาใดๆปรากฏขึ้นมาฮิวแจ็คแมนรัซเซลโคลว , เคท แบลนเฉด และนิโคลในตอนนี้เป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มของออสเตรเลียนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก ดังนั้นการปรากฏตัวของนิโคลจึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเมอร์ด็อกหรือชาวออสเตรเลียแม้แต่น้อย

แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้พูดความจริงออกมาแต่เอริคก็สามารถเดาทุกอย่างได้ เมื่อนึกถึงกาเบรียลที่ใช้ข่าวลือเล็กๆของเขาจนทําให้หล่อนสามารถเข้ามารวมอยู่ในกลุ่มของเหล่าฮอลลีวูดในฐานะของนักแสดงหน้าใหม่ในบทนางรองในภาพยนตร์ได้ จากนั้นก็ทําให้นิโคลได้กลายเป็นนางเอกในภาพยนตร์เรื่องของเขา ยิ่งไปกว่านั้นพวกหล่อนยังมีวิธีของกาเบรียลที่หาช่องทางสร้างโอกาสให้กับพวกหล่อนได้มีบทบาทมากขึ้นในสังคม ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้มีผลงานในฮอลลีวูดแต่ก็ยังถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสําหรับพวกเขา

ถึงแม้ว่าเอริคอยากจะเข้าใจถึงข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ให้มากกว่านี้แต่เขาก็ยังไม่คิดว่ามันสําคัญ มากพอที่จะได้รับความสนใจจากเขาในความเป็นจริงเอริคไม่ได้สนใจว่านิโคลจะใช้วิธีการที่สะอา ดหรือสกปรกเพื่อปีนป่ายขึ้นมาถึงจุดนี้ขอเพียงแค่หล่อนปฏิบัติตัวดีๆไม่สร้างปัญหาให้กับเขาก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

“นิโคล เมื่อกี้พวกเธอกําลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ ? ” เอริคหันไปพร้อมกับชี้ไปที่กลุ่มของหญิงสาวคนอื่นๆที่ยืนพูดคุยกันอยู่ในตอนนี้

หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดด้วยน้ําเสียงปนขบขันว่า “ สบายใจเถอะเอริคไม่มีใครสนใจเสื้อผ้าของอนิสตันหรอกพวกเราก็แค่พูดคุยกันเกี่ยวกับเอิ่ม…ซีรี่ย์เรื่อง Friends หน่ะ ซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นประเด็นหลักที่ต้องพูดถึงในค่ําคืนนี้เลยนะ นอกจากเรื่องนั้นแล้วก็คงจะเป็นเรื่องของคุณดูเหมือนว่าหญิงสาวครอบครัวเมอร์ด็อกคนนั้นจะสนใจคุณอยู่ไม่น้อยเลยหล่ะ “

หลังจากที่ได้ยินประโยคสุดท้าย นิโคลก็หรี่ตาลงพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆ

สิ่งที่ได้ยินทําให้เขาเกิดอาการประหม่าจนต้องรีบดื่มไวน์แดงในมือของเขาเพื่อปกปิดความอึดอัดที่เกิดขึ้นบนใบหน้าก่อนจะถามต่อว่า “ นอกจากเรื่องนั้นแล้วยังมีเรื่องอื่นอีกไหม ? “

“ไม่มีแล้ว “ นิโคลส่ายหน้า หลังจากนั้นหล่อนก็กระซิบขึ้นด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ว่า “ จะว่าไปดูเหมือนว่าคืนนี้คุณจะไม่สามารถขึ้นเตียงกับคนอื่นได้แล้วสิ หรือว่าคุณจะไปตรงนั้นกับฉันดีหล่ะ ? ”

“ เธอนี่ร้ายไม่เบาเลยนะ ” เอริคกวาดตามองหญิงสาว สําหรับอนิสตันแล้วหล่อนมักจะหลีกเลี้ยงและหลบหลีกที่จะรับรู้ข่าวลือเรื่องความเจ้าชู้ของเอริค แต่สําหรับค่ําคืนนี้ที่หล่อนจะต้องมาเจอกับหญิงสาวที่เคยมีข่าวสัมพันธ์กับเอริคทําให้หล่อนรู้สึกลําบากใจอย่างมากหากเขายังกล้าที่จะทิ้งหล่อนไว้เพื่อไปนอนค้างกับหญิงคนอื่นดูเหมือนว่าพายุที่โหมกระหน่ําคงจะซัดมาหาเขาในไม่

” นี่ฉันดูเป็นผู้หญิงไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ? ” นิโคลจ้องเอริคด้วยความไม่พอใจ หากไม่ใช่เพราะสายตาของหล่อนที่จับจ้องมาที่เขาพร้อมกับกระพริบตาเล็กน้อย เอริคก็คงจะคิดว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ตั้งใจจะพูดเช่นนั้นอย่างแน่นอน

” ช่วยอะไรฉันสักอย่างสินิโคล “ เอริคคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกมา

เมื่อเห็นสายตาที่ตื่นเต้นและสนใจของหญิงสาว เอริคก็พูดต่อว่า ” ช่วยไปดูเจนนี่หน่อยสิฉันคิดว่าเธอคงจะสามารถทําให้เธออารมณ์ดีได้ง่ายๆเลยหล่ะ “

* ห้ะ! ” นิโคลเบิกตากว้างก่อนที่จะค้านออกมาว่า “ไม่เอาอ่ะ”

เอริคมองไปที่หญิงสาวก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึมว่า ” เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอ่อ…มีอีกอย่าง ช่วยไปดูดรูว์ด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้หล่อนทั้งสองต้องสร้างปัญหาขึ้นมา ”

ทันทีที่เอริคนึกถึงฉากของหญิงสาวทั้งสองที่ต้องทะเลาะกันเพราะเขา ภายในใจของเอริคก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเพราะทุกครั้งที่พวกหล่อนทะเลาะกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ อาวุธที่พวกหล่อนเลือกที่จะโจมตีฝ่ายตรงข้ามคือเล็บที่แหลมคมบนปลายนิ้วของพวกหล่อน ภาพในหัวทําให้เอริครู้สึกกลัวเหลือเกินว่าถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งพวกหล่อนเกิดเสียโฉมเพราะรอยเล็บจากการต่อสู้ขึ้นมาคงจะแย่ไม่น้อย

นิโคลเคยอยู่ในวิลล่าของเอริคมานาน หล่อนเองก็ค่อนข้างที่จะชัดเจนกับนิสัยของครูว์เป็นอย่างดีว่าหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ดีไปกว่าหล่อนสักเท่าไหร่นัก หากดรูว์ต้องทะเลาะกับอนิสตันขึ้นมาจริงๆ หล่อนก็คงจะห้ามไว้ไม่อยู่เช่นกัน เมื่อนึกถึงหน้าของหญิงสาวเหล่านั้นนิโคลก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าออกมาพร้อมกับทําหน้าระทมทุกข์ก่อนที่จะพูดอ้อนวอนกับเอริคว่า “ มันยากเกินไปสําหรับฉันนะเอริค”

เอริคหยิบไวน์แดงขึ้นมาก่อนจะยกขึ้นดื่มพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงเบื่อหน่ายแต่เด็ดขาดว่า ” รีบไปเถอะถ้าเธอปล่อยให้สองคนนั้นสร้างปัญหาขึ้นมาในคืนนี้ หนังเรื่อง Sleepless in Seattleเธอก็ไม่ต้องเล่นแล้ว! “

เมื่อนิโคลเห็นว่าเอริคพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะคร่ําครวญขึ้นมาภายในใจถึงแม้ว่าตอนนี้หล่อนจะรับไม่ได้กับสิ่งที่เอริคมอบหมายให้ไปทํา แต่หล่อนก็ฉลาดพอที่จะไม่พูดออกมาซ้ําเป็นครั้งที่สองเพราะหากทําเช่นนั้นหล่อนอาจจะถูกตัดโอกาสในการแสดงไปจริงๆอย่างที่เอริคข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ เมื่อคิดเช่นนั้นในเวลานี้หล่อนจึงทําได้เพียงหันหลังเดินออกไปพร้อมกับรองเท้าหนังขนาดเล็กของหล่อนอย่างรวดเร็ว

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี

Status: Ongoing

ผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท