ตอนที่ 219 อาจจะมีลูกที่เกิดออกมาปัญญาอ่อนก็ได้นะ
หลังจากที่พูดคุยอยู่ครู่หนึ่งแบร์รี่ก็ถามถึงเรื่องการเจรจาของเอริคและเมอร์ด็อกก่อนหน้านี้ เอริคก็ตอบกลับไปโดยไม่ได้ปกปิดว่า Firefly กําลังจะมีส่วนร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Fox หลังจาก
เมื่อแบร์รี่ได้ยินเช่นนั้นท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกันกับโรเบิร์ตและเจฟฟรี่ย์ที่ได้ยินก่อนหน้านี้ หลังจากที่ได้ยินคํายืนยันจากเอริคถึง 3 ครั้ง ใบหน้าของแบร์รี่ก็ถอดสีทันทีก่อนที่เขาจะยื่นมือมาตบบ่าของเอริคพร้อมกับเดินออกไปด้วยสีหน้าหดหู
แน่นอนว่าเอริคเข้าใจความรู้สึกในตอนนี้ของแบร์รี่หลังจากที่เขาได้รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี สําหรับ Fox ที่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1986 จนถึงตอนนี้สถานีโทรทัศน์ช่องนี้ก็ได้มาอยู่อันดับที่ 4 ของอเมริกาเหนือในที่สุด สําหรับแบร์รี่แล้วถือเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างมากสําหรับเขา
ทว่าเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่ออกมาจากปากของเอริค แบร์รี่ที่มีหุ้นของFox อยู่ในมือ 5% ก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นคนที่มีหุ้นในมือน้อยกว่าเอริค ที่ได้รับหุ้น 10% ในทันทีหลังจากการเจรจาต่อรองด้วยละครเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่แบร์รี่ไม่สามารถทําใจยอมรับได้ แต่สําหรับเอริคแล้วเขาไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมสําหรับแบร์รี่ เพราะสําหรับเขาแล้วบนโลกใบนี้ก็ไม่เคยมีความยุติธรรมอยู่แล้ว มีหลายสถานการณ์ที่ถึงแม้ว่าจะยอมเสียเงินจํานวนมากเพื่อลงทุนอะไรบางอย่างทว่ามันก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ค่าตอบแทนที่ยุติธรรมเสมอไป
หลังจากที่เอริคเดินแทรกผ่านกลุ่มผู้คนพร้อมกับกล่าวทักทายคนเหล่านั้นแล้ว ในที่สุดเขาก็เจออนิสตัน ซึ่งในเวลานี้หล่อนกําลังพูดคุยอยู่กับนิโคลอย่างสนุกสนาน
” เจนนี่ คุยอะไรกันอยู่หน่ะ ? ดูน่าสนุกเชียว ” เอริคถามแทรกขึ้นมา ก่อนที่จะเอามือของเขาโอบเอวของอนิสตันไว้พร้อมกับหอมแก้มของหล่อนเบาๆ
การกระทําที่เปิดเผยของเอริคในตอนนี้ทําให้อนิสตันเกิดความรู้สึกอายขึ้นมา ก่อนที่จะเอ็ดเอริคขึ้นมาว่า “ พวกเรากําลังพูดเรื่องของผู้หญิงกันอยู่ คุณเข้ามาแอบฟังทําไมเนี่ย!”
“ ห้ะ จริงสิ ดีเลย ผมสนใจเรื่องของผู้หญิงมากเลยหล่ะ ไหนรีบพูดต่อสิผมอยากฟัง “ เอริคกล่าวพร้อมกับทําหน้าตาหยอกล้อ ในขณะที่เขาใช้นิ้วดึงเนื้อตรงเอวของหล่อนเบาๆอย่างซุกซน
นิโคลมองไปที่เอริคและอนิสตัสที่ใกล้ชิดกันด้วยรอยยิ้ม แต่ภายในใจของหล่อนในตอนนี้กลับรู้สึกถึงความอิจฉาขึ้นมา เอริคเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะเห็นว่านิโคลแสดงสีหน้าแปลกๆ เขาจึงพูดขึ้นว่า “ นิโคล ฉันหิวแล้ว เธอช่วยไปเอาอะไรมาให้ฉันกินหน่อยได้ไหม ? ”
อาจเป็นเพราะความเคยชินของนิโคลที่ต้องเป็นคนใช้ให้กับเอริคในตอนที่หล่อนอยู่ในบ้านของเขา จึงทําให้หล่อนพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็วโดยไม่คัดค้านใดๆ ก่อนที่จะเดินออกไปเพื่อหยิบอาหารให้กับเอริคอย่างรวดเร็ว
อนิสตันมองเห็นเอริคที่ปฏิบัติกับนิโคลเหมือนกับคนใช้ หล่อนจึงเอามือที่โอบรัดเอวของหล่อนออกก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “ เอริค ทําไมทําอย่างนี้หล่ะ นิโคลรอฉันด้วย! ไม่ต้องไปฟังเขา ปล่อยให้เขาหิวให้ตายไปเลย “
หญิงสาวเอ่ยปากตะโกนออกไปที่นิโคลก่อนที่จะรีบเดินตามหล่อนออกไปในทันที
เอริคก็อดไม่ได้ที่จะคิดในใจขึ้นมาไม่ได้ว่าเพียงแค่ 1 ชั่วโมงที่เขาไม่ได้อยู่กับหล่อน ทําไมแฟนสาวของเขาถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปซะได้หล่ะ ? ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ได้เกรงกลัวกับบทนักแสดงหญิงของเขาเสียแล้วสิ
” เหอะ! ยัยผู้หญิงหน้าโง่ พูดนิดๆหน่อยๆก็เชื่อซะและ นี่เอริค ฉันว่านายหยุดความสัมพันธ์กับหล่อนซะเถอะ ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันว่าไอคิวของนายที่มีอยู่อาจจะโดนยืนของหล่อนมาแทนที่จนทําให้ลูกที่เกิดออกมาปัญญาอ่อนได้เลยนะ”
เอริคหันไปมองตามเสียง ก่อนที่จะยื่นมือของเขาไปแตะเข้าที่กระเป๋าที่ถูกตัดให้สั้นลงพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นว่า ” อยู่ที่โรงเรียนทํางานหนักมากเลยงั้นสิ คําพูดสูงๆถึงได้หลุดออกมาจากปากเธอหนะ ?”
หญิงสาวทําเสียงอึดฮัดออกมาในทันทีหลังจากที่ได้ยินเอริคพูดจาประชดประชันหล่อน ก่อนที่หล่อนจะค้านออกมาด้วยความไม่พอใจว่า “นี่มันเวลากลางคืนนะ แล้วฉันก็ไม่ได้โดดเรียนด้วย”
เอริคคว้าหูเล็กๆของหล่อนก่อนจะถามขึ้นว่า “ จากโรงเรียนหญิงล้วนพาซาดีน่าในลอสแองเจอลิสมาถึงแมร์รี่แลนด์ ต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 50 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถมาจากที่นั่น 2 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถมาถึงที่นี่ได้ทันเวลา ไหนเธอลองบอกฉันสิว่าที่เธอบอกว่าไม่ได้โดดเรียนหน่ะ เธอเดินทางออกมาจากโรงเรียนกี่โมงถึงเดินทางมาที่นี่ได้ทันเวลา ? “
ดรูว์ทําได้เพียงเอียงศีรษะเล็กน้อยเพราะแรงดึงจากมือของเอริค ปากของหล่อนก็อธิบายออกมาว่า “ ใครจะโง่เดินทางผ่านตัวเมืองเล่า หรือว่านายไม่รู้จักทางด่วนหรือไงห้ะ? จากถนนความเร็วสูง 101 พาซาดีน่าแล้วขับเข้าถนนมัลโฮแลนด์ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงด้วยซ้ำ … โอ้ยยยย…เจ็บนะ! “
เมื่อเอริคออกแรงมากขึ้นหญิงสาวก็รีบปิดปากสนิททันทีพร้อมกับดวงตาของหล่อนที่บัดนี้มีรอยน้ำตาปริ่มออกมาเพื่อเรียกร้องความเมตตาจากเอริค
คนที่อยู่รอบๆต่างพากันมองดูภาพตรงหน้าเงียบๆ มีหลายคนที่ไม่เข้าใจว่าที่ทั้งสองคนพูดถึงอยู่นั้นคืออะไร ในเวลานั้นเองนิโคลที่หยิบอาหารใส่จานสําหรับเอริคเสร็จแล้วก็เดินมาที่อนิสตันที่กําลังมองเอริคที่กําลังดึงหูของครูว์ ก็ส่งเสียงออกมาในลําคอ ก่อนจะลากแขนนิโคลพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ นิโคล ไปกันเถอะ ปล่อยให้เขาหิวตายนั่นแหละดีแล้ว ”
นิโคลมึนงงกับสิ่งที่ได้ยิน ทว่าทันทีที่หล่อนหันไปเห็นเอริคที่อยู่กับดรูว์ หล่อนก็เข้าใจความหมายของอนิสตันทันที นิโคลจึงรีบเดินตามอนิสตันออกไปทันที
เอริคยังคงสั่งสอนหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าก็มีคนที่รับไม่ได้ที่ต้องเห็น พฤติกรรมทารุณกรรมเด็ก” ของเอริคจึงเปล่งเสียงท้วงออกมาว่า
“ นี่เอริค ทําไมนายถึงทํากับดรูว์อย่างนี้หล่ะหล่อนเป็นเด็กผู้หญิงนะ! ” ทันใดนั้นจูเลียและเอลิซาเบธก็เดินเข้ามาพร้อมกับดึงมือของเอริคออก ก่อนที่จะดึงดรูว์มาไว้ข้างตัว
หลังจากที่ดรูว์หลบอยู่ที่ด้านหลังเอลิซาเบธแล้ว หล่อนก็แลบลิ้นออกมาเพื่อเยาะเย้ยเขาในทันที
เอริคมองดูเอลิซาเบธที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องรู้ราวหรือบางที่หล่อนอาจจะแกล้งโง่ด้วยความขัดใจ ทว่าเมื่อมีคนดึงมือเขาออกแล้ว เขาเองก็รู้สึกไม่เหมาะสมที่จะกลับไปสั่งสอนเด็กคนนั้นอีก
“ ลิซ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ? ”
เอลิซาเบธคิดว่าเอริคจะเถียงหล่อนกลับมาทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับถามหล่อนมาเช่นนี้ หล่อนจึงทําได้เพียงตอบกลับไปว่า ” จูเลียจะกลับแล้ว นายไม่คิดจะไปส่งหล่อนหน่อยหรอ ? ”
จูเลียที่ยืนอยู่ด้านหลังเอลิซาเบธทําสีหน้าเลิกลักขึ้นเพราะไม่คิดว่าหล่อนจะพูดกับเอริคเช่นนั้น หล่อนจึงรีบใช้มือกระตุกเดรสของเอลิซาเบธเพื่อให้หล่อนหยุดพูด
เอริคมองไปที่จูเลียเมื่อเห็นสายตาของหล่อน เขาก็รู้ทันทีว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เอลิซาเบธเป็นคนคิดขึ้น ทว่าเขาก็พยักหน้ากลับไปพร้อมกับตอบว่า “ได้” พูดจบเมื่อเห็นว่าดรูว์กําลังจะดินหนีไป เอริคก็จ้องไปที่หล่อนก่อนจะกล่าวว่า “หยุด เธอตามฉันมา”
” จูเลียตอนนี้ยังไม่ถึง 4 ทุ่มเลยนะ ทําไมถึงรีบกลับหล่ะ ? ” ระหว่างทางที่เอริคเดินมาส่งจูเลียที่ลานจอดรถด้านนอกวิลล่า เอริคก็ถามขึ้นเพื่อทําลายบรรยากาศที่อึดอัด
จูเลียก็ลังเลขึ้นมาก่อนที่จะอ้าปากพูดว่า ” ฉัน…”
” วันนี้จูเลียไม่ค่อยสบายหน่ะ นายจะอยากรู้ไปทําไมกัน ? “ เมื่อเห็นจูเลียทําสีหน้าเลิกลัก เอลิซาเบธก็รีบพูดแทรกขึ้นมาแทนหล่อนในทันที
เอริคพยักหน้า ทว่าการกระทําของเขากลับทําให้จูเลียหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อมาถึงลานจอดรถแล้ว เอริคก็ถามขึ้นว่า “จูเลีย ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
“ หืม ? “ จูเลียมองไปที่เอริคด้วยสีหน้าประหลาดใจ
พูดจบเอริคก็ดึงดรูว์ที่กําลังยืนเล่นเล็บของหล่อนอยู่ด้านหลังพวกเขาพร้อมกับกล่าวว่า “เธอช่วยพาดรูว์ไปค้างกับเธอสักคืนสิ พรุ่งนี้ช่วยส่งหล่อนไปโรงเรียนด้วย ได้หรือเปล่า ?”
” ไม่ ฉันไม่ไป “ ดรูว์ค้านออกมาพร้อมกับมองไปที่เอริคด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจอย่างมาก ทว่าเมื่อเห็นสายตาของเอริคที่จ้องกลับมาหล่อนจึงเงียบลงพร้อมกับยอมพยักหน้าแต่โดยดี ดรูว์รู้ดีว่าคืนนี้เอริคจะต้องพาอนิสตันกลับบ้านอย่างแน่นอน และเขาเองก็คงจะยุ่งไม่น้อย
เมื่อเห็นดรูว์ขึ้นไปนั่งข้างคนขับแล้ว เอริคก็พูดกับจูเลียอีกครั้งก่อนที่จะให้พวกหล่อนทั้งสองออกไป
หลังจากที่จูเลียขับรถออกไปแล้ว เอริคก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ยาวที่สวนเล็กๆเงียบๆคนเดียว
เอลิซาเบธลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่หล่อนจะเดินตามเอริคไปพร้อมกับนั่งลงข้างๆเขาพร้อมกับมองเอริคที่หยิบซองบุหรี่ออกมาสูบ
หลังจากที่เอริคสูบบุหรี่พร้อมกับปล่อยควันออกมาจากปากของเขา เขาก็หันไปหาคนข้างๆ พร้อมกับถามขึ้นว่า “ ลิซ เธอมีอะไรหรือเปล่า ?”
” นายอารมณ์ไม่ดีเหรอ ? ” เอลิซาเบธเลี่ยงที่จะไม่ตอบคําถามทว่าหล่อนกลับถามเอริคกลับไป เมื่อเห็นสีหน้าของเอริคแล้วเอลิซาเบธก็ถามแทรกเพิ่มขึ้นมาว่า ” ต้องรับมือกับผู้หญิงมากมายขนาดนั้น นางคงจะรู้สึกยุ่งจนต้องแอบมานั่งสูบบุหรี่ที่นี่คนเดียวสินะ ? “
เอริคยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับไปว่า “ จะเป็นอย่างที่เธอพูดได้ยังไง ฉันไม่ได้มีผู้หญิงมากมายขนาดนั้นซะหน่อย อีกอย่างภาพยนตร์กับผู้หญิงก็เป็นเรื่องที่ฉันต้องไล่ตามตลอดชีวิตของฉันอยู่แล้ว ทุกอย่างยังสร้างความสนุกสนานให้กับฉันอยู่ ฉันจะอารมณ์เสียกับเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน ”
นี่เป็นครั้งแรกที่เอลิซาเบธได้ยินสิ่งที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้จนทําให้หล่อนต้องเหลือบตามองบนก่อนจะกล่าวว่า “ การไล่ตามของคุณมันช่าง…. น่าขยะแขยงจริงๆ ”
เอริคเพิกเฉยต่อคําพูดของเอลิซาเบธก่อนที่เขาจะดื่มต่ำกับบรรยากาศในค่ำคืนพร้อมกับพ่นบุหรี่ออกมาจากปากของเขาอย่างเงียบๆ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเอลิซาเบธจะสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้วจะเดินออกไปจากที่แห่งนี้ ทว่าหลังจากที่เขาสูบบุหรี่เสร็จแล้ว หล่อนก็ยังคงนั่งอยู่ข้างเขาโดยไม่ได้ขยับไปไหน ซึ่งนั่นทําให้เอริครู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย ในเวลานี้เขาไม่รู้เลยว่าหญิงสาวคนนี้กําลังคิดจะทําอะไรอยู่ หลังจากที่เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเอริคก็ถามขึ้นมาว่า “ลิซ พ่อของเธอบัง คับเธอให้มาเป็นผู้ช่วยผู้กํากับให้กับฉันสินะ หรือจะให้ฉันพูดกับพ่อเธอให้ใหม่ไหมหล่ะ ? ”
” นายรังเกียจฉันเหรอ ? ” เอลิซาเบธถามขึ้น
เอริคส่ายหน้าก่อนจะตอบว่า ” ฉันไม่เคยรังเกียจสาวสวยนะ”
ได้ยินดังนั้นภายในใจของเอลิซาเบธก็เต้นแรงขึ้นมาในทันทีแต่ปากของหล่อนก็ยังคงไม่หยุดที่จะตําหนิออกมาว่า “ นายนี่เจ้าชู้ได้ตลอดเวลาเลยจริงๆนะ ”
เมื่อเอริคได้ยินคําตําหนิของหญิงสาว เขาก็พิงหลังเข้ากับพนักพิงของเก้าอี้ยาวก่อนที่จะหันหน้ามองร่างของหล่อนผ่านชุดเดรสพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ว่า “ รู้อย่างงี้แล้ว แล้วทําไมเธอยังไม่หนีไปให้ไกลๆฉันอีกหล่ะ”
สายตาที่ล่อแหลมของเอริคทําให้หญิงสาวเกือบจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตนเองโดยไม่รู้ตัว ทว่าหล่อนก็ยังเก็บอารมณ์ของตนเองไว้ก่อนจะตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “ คนหลงตัวเองทําไมฉันต้องหนีนายด้วย”
เอริคมองดูหญิงสาวที่ก่อนหน้านี้นั่งไขว้ห้างด้วยท่าทางที่สบาย ทว่าหลังจากที่เขาพูดจบ หล่อนก็รีบวางขาทั้งสองข้างไว้ที่พื้นอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองหล่อนอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ได้กล่าวอะไรก่อนที่เขาจะหยิบบุหรี่ออกมาอีกมวนหนึ่งพร้อมกับจุดไฟ ก่อนที่จะกวาดตามองไปรอบๆด้วยความเบื่อหน่าย